คุณมุก เป็นอย่างไรบ้างคะ?
แวะมาถามข่าวคราวค่ะ
คุณมุก เป็นอย่างไรบ้างคะ?
แวะมาถามข่าวคราวค่ะ
ไม่เคยมีประสบการณ์คะ แต่เข้ามาเป็นกำลังใจให้นะคะ
ปล.ขอบคุณพี่ดิวนะคะ พี่พิมพ์บทสวดและคำแปลมาซะยาวเลย สวดมาตั้งนานเพิ่งมารู้คำแปลซะงั้น
อยากได้อะไร ไม่เคยทันกับเค้าสักที เฮ้อ!
ยังไม่แต่งงาน แล้วก็ยังหาว่าที่สามีบ่ได้ แต่เห็นใจเจ้าของกระทู้มากมาย ... เป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอบคุณคุณดิวสำหรับบทสวด ที่ผ่านมาก็สวดอยู่บ่อยๆ แต่ไม่เคยรู้บทอโหสิกรรม (ที่ต่อท้ายอิติปิโส) เลยค่ะ --- เดี๋ยวจะเริ่มอโหสิกรรมคืนนี้เลย (อิอิ)
ยังไม่ได้แต่งงาน ไม่มีแม่สามีค่ะ (เพิ่งโสดอีกต่างหาก T-T)
แต่แวะมาให้กำลังใจค่ะ สู้ๆ นะคะ คุณแม่สามีเค้าคงอยู่ได้อีกไม่นาน คิดซะงี้แล้วกันค่ะ
หลงรักน้องแนล
ไม่มีแม่สามีค่ะ เพราะเสียไปแล้ว แต่เรากลับอยากให้เค้าอยู่นะคะ คิดถึงเค้าค่ะ
ทุกอย่างอยู่ที่ใจค่ะ ถ้าใจเราไม่ยอมรับ คิดเจ็บแค้นต่างๆนานา ชีวิตเราและครอบครัวจะไม่มีความสุขหรอกค่ะ เพราะมันจะไม่จบแค่ที่เค้ามาด่าว่าเรา แต่มันจะอยู่ในใจเราตลอดเวลา คนที่ทุกข์ก็คือเรา และอาจมีผลไปถึงลูกของเราก็ได้นะคะ
ถ้าคิดว่าทำใจไม่ได้ อยู่ห่างๆค่ะ เจอกันให้น้อยที่สุด ไม่ต่อล้อต่อเถียง เพราะจะยิ่งไม่จบง่ายๆ เค้าด่ามา ในใจนึกแผ่เมตตาไว้ค่ะ
หวังว่าคงจะช่วยได้บ้างนะคะ
************************
Time is like a river. You can not touch the same water twice,
So enjoy every moment of life...
อ่านเรื่องของคุณมุกแล้วก็เข้าใจมากๆเลยค่ะ
คนเราสมัยนี้ก็แบบนี้แหล่ะ มักจะชื่นชมยินดีกับคนที่สามารถพาให้ตนเองมีหน้ามีตาได้
เพราะอะไรน่ะเหรอค่ะ ก็เพราะว่าตัวเค้าเองไม่มีความมั่นใจ หรือภูมิใจในตัวเค้าเองมากกว่า
ยกตัวอย่างกรณีคุณแม่สามีคุณมุก ให้คิดซะว่าที่ท่านชื่นชมยินดีกันสะใภ้อีกคนมากกว่า
ก็เพราะว่าสะใภ้อีกคนอาจจะรวยมาก สามารถทำอะไรให้เป็นหน้าตาของเค้าได้ เพราะตัวเค้าเอง
เอาเข้าจริงๆแล้วก็ไม่ได้มีอะไร ลองสังเกตสิค่ะ ถ้าแม่สามีคุณเรียนจบสูง จบนอกมาแล้วหรือรวยมาแต่ดังเดิมละก็เวลาเค้าจะร้ายเค้าก้เลือกจะร้ายใส่กับทุกคนค่ะ แต่ไอ้ที่เลือกร้ายใส่เนี่ยะก็เฉพาะคนที่ไม่สามารถชูหน้าตาเค้าได้ โดยไม่มีเหตุผล หุหุหุหุหุหุ
คนพวกนี้น่าสงสารนะค่ะ ชอบดูถูกคนอื่น ทำตัวข่มคนอื่น ทำตัวให้ดูเด่นเสมอๆเมื่อมีโอกาส
เอาเป็นว่ามองเค้าแล้วก็เอามาคิดตาม และให้เค้าเป็นตัวแบบอย่างที่ไม่ดี ที่ไม่ควรจะเอาอย่างค่ะ
ต้องขอบคุณเค้านะค่ะ และคิดว่าเราอาจจะโชคดี เพราะอยุ่ๆก็มีตัวอย่างแย่ๆมาให้ดู
เราสามารถนำสิ่งนี้กลับไปพัฒนาชีวิตเราให้ดีกว่าเดิมค่ะ
วิธีอยู่กับคนที่เราเกลียดค่ะ
รู้ไหมว่า เรามีเวลาอยู่ในโลกนี้คนละกี่ปี
ชีวิตนั้นสั้นยิ่งกว่าหยดน้ำค้างเสียอีก จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า
ถ้าเราใช้เวลาอันแสนสั้นนี้ไปมัวหลับๆตื่นๆอยู่ในความรัก โลภ โกรธ หลง
หมั่นไส้คนนั้น ปลาบปลื้มคนนี้ ริษยาเจ้านายใส่ไคล้ลูกน้อง
ปกป้องภาพลักษณ์ (อัตตา) กด (หัว)
คนรุ่นใหม่หลงใหลเปลือกของชีวิต โดยลืมไปเลยว่าอะไรคือสิ่งที่ตนควรทำอย่างแท้จริง
คิดดูเถิดว่า เราจะขาดทุนขนาดไหน
ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ เขียนบทกวีไว้ว่า
''น้ำไหลอายุขัยก็ไหลล่วง ใบไม้ร่วงชีพก็ร้างอย่างความฝัน
ฆ่าชีวาคือพร่าค่าคืนวัน จะกำนัลโลกนี้มีงานใด''
คนเราไม่ควรพร่าเวลาอันสูงค่าด้วยการปล่อยตัวปล่อยใจให้ตกเป็นทาสของความชอบ ความชัง มากนัก
เพราะถ้าเราวิ่งตามกิเลส กิเลสก็จะพาเราวิ่งทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ต่อไปไม่รู้จบ
กิเลสไม่เคยเหนื่อย แต่ใจคนเราสิจะเหนื่อยหนักหนาสาหัสไม่รู้กี่เท่า
ควรคิดเสียใหม่ว่า เราไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะชอบหรือไม่ชอบใคร
หรือเพื่อที่จะให้ใครมาชอบหรือมาชัง
แต่เราเกิดมาสู่โลกนี้เพื่อทำในสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะทำ
เอาเวลาที่รู้สึกแย่ๆ กับคนอื่นนั้นหันกลับมามองตัวเองดีกว่า
ชีวิตนี้เรามีอะไรบ้างที่เป็นแก่นสาร มีงานอะไรบ้างที่เราควรทำ
นอกจากนั้นก็ควรมองกว้างออกไปอีกว่า
เราได้ทำอะไรไว้ให้แก่โลกบ้างแล้วหรือยัง
คนทุกคนนั้นต่างก็มีดีมีเสียอยู่ในตัวเอง
ถ้าเราเลือกมองแต่ด้านเสียของเขา
จิตใจของเราก็เร่าร้อน หม่นไหม้
เวลาที่เสียไปเพราะมัวแต่สนใจด้านไม่ดีของคนอื่นก็เป็นเวลาที่ถูกใช้ไปอย่างไร้ค่า
บางที่คนที่เราลอบมอง ลอบรู้สึกไม่ดีกับเขานั้น
เขาไม่เคยรู้สึกอะไรไปด้วยกันกับเราเลย
เราเผาตัวเราเองอยู่ฝ่ายเดียวด้วยความหงุดหงิด ขัดเคืองและอารมณ์เสีย
วันแล้ววันเล่า สภาพจิตใจแบบนี้ไม่เคยทำให้ใครมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นมาได้เลย
ลองเปลี่ยนวิธีคิด วิธีมองโลกเสียใหม่ดีกว่า
คิดเสียว่าคนเราไม่มีใครดีพร้อมหรือ เลวไม่มีที่ติไปเสียทั้งหมดหรอก
เราอยู่ในโลกกันคนละไม่กี่ปี ประเดี๋ยวเดียวก็จะล้มหายตายจากกันไปหมดแล้ว
มาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระทำไม
อะไรที่ควรทำก็รีบทำเถิดปล่อยวางเสียบ้าง
ความโกรธ ความเกลียดนั้นไม่มีคุณค่าอะไรต่อชีวิตอันแสนน้อยนิดนี้เลย
มุ่งไปข้างหน้า ไปหาสิ่งที่มีคุณค่าให้ชีวิตดีงามดีกว่า
วิธีที่แนะนำทั้งหมดนั้น นักภาวนาเรียกว่า ''การกลับมาอยู่กับตัวเอง''
กล่าวคือ ถ้าเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องอยู่กับคนที่ไม่ถูกโฉลก
แทนที่จะปล่อยใจให้อยู่กับ ความรู้สึกแย่ๆไปตลอด ก็ควรหันกลับเข้ามา ''มองด้านใน''
แก้ไขที่ตัวเอง อย่ามุ่งแก้ไขที่คนอื่น
เพราะยิ่งพยายามแก้ไขคนอื่น ก็ยิ่งยุ่งเหมือนลิงทอดแห
ยิ่งเราให้ความสำคัญกับคนที่เราเกลียดมากเท่าใด
สภาพจิตใจก็ยิ่งแย่ลงมากเท่านั้น
วิธีที่ดีที่สุดในการอยู่กับคนที่เรารู้สึกไม่ดีหรือเป็นปฏิปักษ์ก็คือ
การดึงความรู้สึกจากเขามาอยู่เราทุกขณะ
ยังไม่มีแฟน และแต่งงานคร่า แต่อ่านแล้วเห็นใจมากๆเลย ครอบครัวคนจีนมักจะเจอปัญหาแบบนี้
แต่ขอให้สู้เพื่อคุณลูกค่ะ อย่างน้อยก้อมีคุณสามี และคุณลูกเป็นกำลังใจ