พี่ดิวคะบาปแล้วเหรอคะเนี่ย มันมาจากจิตใต้สำนึกลึกกกกกกกกกกกกกกอ่ะค่ะ
แต่จริงๆ มุกก็ไม่ใจร้ายอย่างนั้นหรอกค่ะพี่ แม้แต่เถียงมุกยังไม่เคยเถียงเลย
เงียบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อย่างเดียวค่ะ อิจฉาคุณ ketsy จังเลย อิจฉามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไปทำข้าวให้ลูกก่อนนะคะ ลูกกินเสร็จแล้ว มุกก็จะกินที่เหลืออะ
ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆน่าสงสารตัวเองจังเลย
ท่องแล้วอ่ะ นับหนึ่ง-ร้อยก็แล้ว จนตอนนี้ นับถึงล้านแล้วค่ะ
พี่ดิวว่าน้องมุกต้องฝึกความคิดดีตามที่น้องhut บอกข้างบน
พร้อมกับการไหว้พระสวดมนต์ทุกวันไปด้วย จะทำให้มีความสุขมากกว่านี้
ศาสนาพุทธสอนวิธีการดับทุกข์ ทุกข์ที่ไหน ก็ทุกข์ในใจเรานั่นแหละ
เราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ แต่เราสามารถเปล่ียนตัวเองได้
ความสุข ความทุกข์ ก็อยู่ในใจเรา อยู่ที่เราจะเลือกว่าจะสุขหรือทุกข์
น้องมุกมีสามีที่ดี ลูกที่น่ารัก แม่สามีก็เป็นแค่แม่สามี คนอื่นก็เป็นแค่คนอื่น
แต่คนที่เรารักมากที่สุด เค๊ารักเรา แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
แต่น้องมุกไปยึดเอาความทุกข์มาเป็นหลัก คอยรับแต่ทุกข์
เข้ามาในจิต แล้วแทนที่จะรับมาแล้วรีบปล่อยมันออกไป
แต่กลับเก็บ เก็บ เก็บ มันเอาไว้ มากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น
อีกหน่อยก็แย่ เมื่อเทียบกับความสุข สังเกตุว่า พอรับมาปุ๊ป
ก็ปล่อยออกไปปั๊ป เพราะจิตเต็มไปด้วยความทุกข์ จนไม่มีที่
สำหรับความสุขแล้ว ใช่ไม๊คะ พี่อยากแนะนำให้ต่อไปนี้
อะไรดีๆ รับมาแล้วเก็บไว้ให้นานๆ ส่วนความทุกข์หรืออะไรที่ไม่ดี
รับมาแล้วก็ปล่อยไป อย่าไปจำ ลืมๆมันไปเถอะค่ะ เอาหัวไปจำเรื่องอื่นดีกว่า
เหมือนเสื้อสีขาว แต่มีรอยเปื้อนจุดเล็กๆหนี่งจุด ทำไมคนเราถึงมองแต่
ไอ้ตรงรอยเปื้อนมากกว่าสีขาวของเสื้อ นั่นเป็นเพราะคนเรามักจะเลือกรับ
แต่สิ่งที่เป็นทุกข์มาใส่ใจมากกว่า ส่วนพื้นสีขาวของเสื้อที่ทุกคนชอบมองผ่่านไป
เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา