Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 2 of 7 FirstFirst 1 2 3 4 ... LastLast
Results 11 to 20 of 67

Thread: ทุกข์สุดๆค่ะ คุณแม่สามี(ใจร้าย)ทำเรา(ใจร้าว)เลยคร่า ทนไม่ไหวแล้ว จะอยู่หรือไปดีคะ ฮือ.......ฮือ

  1. #11
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    13
    ถึงตรงนี้ก็ต้องบอกว่าอดทนค่ะ เข้าใจความรู้สึกคุณมุกเลย แต่ยังไงก็ต้องอดทนเพื่อนลูกเพื่อครอบครัวนะคะ พยายามเลี่ยงที่จะเจอกับคุณแม่สามี การออกไปทำงานข้างนอกอย่างที่เพื่อนๆๆให้ความเห็นก็เห็นด้วยค่ะ ทำให้เวลาเจอกันน้อยลง จะได้สบายใจค่ะ พยายามหาเพื่อนคุยด้วยตลอด อย่าเอามาเก็บไว้คนเดียวนะคะ อย่างน้อยคุณมุกก็ยังโชคดีที่คุณสามีเข้าใจ เพียงแต่คุณสามีอาจจะยังทำไรมากไม่ได้เพราะนั่นก็แม่ นี่ก็ภรรยา คิดอีกแง่คุณสามีอาจลำบากใจมากกว่านะคะ ยังไงก็ขอให้คุณมุกใจเย็นๆๆ ค่อยๆๆคุยกับสามีบ้างถึงความรู้สึกของคุณมุก เพื่อให้เค้าเข้าใจความรู้สึกของเรา ยังไงเป็นกำลังใจให้นะคะ เชื่อว่าคุณมุกต้องทำได้ค่ะ อดทนๆๆๆ เพื่อลูกนะคะ

  2. #12
    ratkatu's Avatar
    ratkatu is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    173
    อดและทนค่ะ เพื่อลูก
    AcHTuNg BiSSiGeR HuNd!!!!!

  3. #13
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    ทำใจเย็นๆไว้นะคะ คนเราทุกคนเกิดมาพบกันในชาตินี้
    ล้วนเคยผูกพันกันมาในชาติก่อนๆ แต่เราจำไม่ได้แล้วว่า
    เราเคยเป็นอะไรกับใครมาก่อน แล้วเคยทำอะไรกันไว้บ้าง
    ผลก็ต้องดูจากชาตินี้แหละค่ะ บางคนเจอกันก็ถูกชะตากันแล้ว
    บางคนแค่เห็นหน้ายังไม่เคยพูดกัน ก็เหม็นหน้าแล้ว
    ถ้ายังไม่อโหสิกรรมกัน ก็ยังต้องจองเวรกรรมต่อกันไปไม่รู้จบ

    พี่ดิวอยากแนะนำให้ อยู่อย่างให้อภัย ไม่ใช่ทนอยู่ หรืออยู่แบบทน ทนไป
    พอซักวันนึง ถ้าความอดทนหมดไป คราวนี้ระเบิดลงแน่ๆเลย บ้านแตก
    ประมาณว่า "เธอจะเลือกชั้นหรือจะเลือกแม่" ถ้าเค๊าเลือกเรา แม่เค๊าก็เสียใจ
    เราก็จะได้เจ้ากรรมนายเวรตามไปอีก หรือถ้าเค๊าเลือกแม่ เราก็จะเป็น
    เจ้ากรรมนายเวร คอยจองเวรทั้งเค๊า+แม่ต่อไป ถ้าชาตินี้ทำอะไรเค๊าไม่ได้
    ชาติหน้าก็ต้องไปตามจองเวรเค๊าอยู่ดี ถ้าอยากตัดเวรกรรมกันในชาตินี้

    พี่ดิวมีวิธีที่อยากแนะนำ คือสวดมนต์ ไหว้พระ ขออโหสิกรรมต่อแม่สามี
    แผ่เมตตาให้เค๊า ทำทุกๆวัน ไปเรื่อย เราจะอโหสิกรรมให้เค๊าได้เอง
    เมื่อเราอโหสิกรรมให้เค๊าได้แล้ว(ทำได้ด้วยใจ ไม่ได้ทำแต่แค่คำพูดนะคะ)
    เมื่อนั้นใจเราจะมีความสุขมากกกก ไม่อาฆาต ไม่เสียใจ ไม่น้อยใจอีกแล้ว
    เวลาที่เค๊าว่าเรา จิตเราจะมีแต่เมตตาและให้อภัย และพร้อมที่จะทำดีกับเค๊าด้วยใจ
    ไม่ใช่ทำแบบทนทำๆไป เมื่อเราทำได้แบบนี้แล้ว จิต(ใต้สำนึก)ของเค๊าก็จะรับรู้ได้
    ถึงความมีเมตตาจิตของเรา ความอาฆาตพยาบาทที่เค๊ามีต่อเราก็จะลดลง
    เบาบางลง จนอาจหมดไปได้เลยค่ะ
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  4. #14
    oum_ja's Avatar
    oum_ja is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    290
    กระทู้นี้ถ้าจะฮ๊อตฮิตแน่ๆเลยค่ะ.....ปัญหาโลกแตก

    ขอตอบจากประสบการณ์โดยตรงนะค่ะ......

    คุณแม่สามีเรามีลูกชายสองคน แต่รักลูกชายคนโต(คุณสามี)มากที่สุดเพราะแม่ทำอะไรผิดถูกไม่เคยว่าหรือตำหนิใดๆทั้งสิ้น.......ตามใจแม่ทุกอย่าง แม่อยากได้อะไรให้หมด

    ก่อนแต่งงานชอบเรามากมาย เพราะเราไม่เคยขัด (ตอนนั้นยังไม่รู้จักกันดี...อีกอย่างผู้ใหญ่แนะนำ) ตอนคบกันจะไปไหนคุณแม่สามีไปด้วยทุกครั้ง ไม่เคยได้อยู่ด้วยกันสองคนเลย พอเรานั่งกันสองคน ก็มานั่งตรงกลางตลอด พอใกล้แต่งก็มาเจ้ากี้เจ้าการ เรื่องชุดแต่งงาน(รับไม่ได้ว่าโป๊...ต่อว่าเราด้วย) พอไปถ่ายรูปเวดดิ้งก็ไปด้วยจะขอถ่ายด้วย พอเราถ่ายมีท่ากอดกันก็โวยวายหาว่าไม่เหมาะสม(กับหน้าที่การงานลูกเค้า)

    ตอนแต่งงานใหม่ๆ....เค้ามาเยี่ยมเรากับสามี พร้อมคุณแม่เรา ประโยคแรกที่พูด ก็บอกกับแม่เราว่าคืนนี้นอนกับเรานะ เขาจะนอนกับลูกชายเค้า

    ชอบพูดจากระทบกระเทียบแดกดัน....นำเรื่องผัวๆเมียๆชาวบ้านมามาเล่า...ตอนท้ายมักสรุปว่าผู้หญิงแย่ ผู้ชายดี โดยเฉพาะผู้หญิงที่เลิกกะสามี ต้องเป็นผู้หญิงไม่ดีมีปัญหา มักพูดเสมอว่ายังไงๆลูกชายต้องเลือกแม่เสมอเพราะภรรยาคือคนนอก ตายไป(ภรรยา)หาใหม่ได้ หาไม่ยาก แต่แม่มีคนเดียว

    เงินเดือนให้คุณแม่สามีไม่ต่ำกว่าสามหมื่นบาท รถที่ขับตัวเองจ่ายแต่เป็นชื่อคุณพ่อสามี......ทุกวันนี้ได้แต่ปลงค่ ะ>___< เกือบเลิกกันแล้ว(มีหนักกว่านี้อีกค่ะ ด่าว่าพ่อแม่เราหาว่าสามีเราเอาเงินมาให้พ่อแม่เราใช้)

    แต่ว่าพ่อแม่ของอุ้มบอกว่า....อย่าไปสนใจเพราะคนที่รักและเข้าใจเราดีที่สุดคือสามีเรา เค้ารักเราและเข้าใจเราทุกอย่าง บ้างคนแม่สามีดีมากมาย...แต่สามีชั่วมากมายอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะคนที่ต้องอยู่กับเราไปตลอดชีวิตคือคุณสามีค่ะ ไม่ใช่แม่สามี

    ไม่มีใครเพอร์เฟ็ตหรอกค่ะบนโลกนี้....แต่เราว่าการมีอุปสรรคมันคือเกราะคุ้มกันเราในอนาคตนะค่ะ อีกอย่างนิสัยคนเราคงแก้ไม่ได้....สิ่งที่เราทำได้คือยอมรับความจริงบนโลกนี้ ในขณะเดียวกันก็ขอให้มองด้านดีๆของเค้าบ้าง คงไม่มีใครเลวร้ายไปซะหมดทุกด้านหรอกค่ะ

    เป็นกำลังใจให้นะค่ะ เครียดๆหลังไมค์ได้เลยค่ะPMมาเลย ยินดีรับฟัง^___^
    Love is life.
    And if you miss love,
    you miss life.


    ความรักคือชีวิต
    ถ้าคุณพลาดโอกาสที่จะรัก ก็เท่ากับ
    คุณพลาดโอกาสที่จะใช้ชีวิต


    Leo Buscaglia


  5. #15
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    สวดพระพุทธคุณแก้กรรม
    อานิสงส์ของการสวดพุทธคุณ
    โดย หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม



    พระพุทธคุณ อาตมาสังเกตมาว่า บางคนเขาไปหาหมอดู เคราะห์ร้ายก็ต้องสะเดาะเคราะห์ อาตมาก็มาดูเหตุการณ์ โชคลางไม่ดีก็เป็นความจริงของหมอดู อาตมาก็ตั้งตำราขึ้นมาด้วยสติ บอกว่าโยมไปสวดพุทธคุณเท่าอายุให้เกินกว่า ๑ ให้ได้ เพื่อให้สติดี แล้วสวดพาหุงมหากาฯ หายเลย สติก็ดีขึ้น เท่าที่ใช้ได้ผล สวดตั้งแต่ นะโม พุทธัง ธรรมมัง สังฆัง พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุงมหากาฯ จบแล้วย้อนกลับมาข้างต้น เอาพุทธคุณห้องเดียว ห้องละ ๑ จบ ต่อ ๑ อายุ อายุ ๔๐ สวด ๔๑ อายุ ๓๕ สวด ๓๖ ก็ได้ผล


    พุทธคุณกับชาวคริสต์

    มีชาวคริสต์คนหนึ่ง มีลูกชายคนเดียว อยู่ที่ลาดพร้าว เป็นเศรษฐีที่ดิน อายุ ๕๑ ปี มีลูกชายคนเดียว สามีตาย ลูกชายเรียนหนังสือไม่เก่ง ก็ไปส่งเรียนปริญญาที่อเมริกา เป็นเศรษฐีที่ กทม. ราชาที่ดิน ที่ดินข้างคลองแสนแสบของเขาทั้งนั้น ไปจรดลาดพร้าวหลายร้อยไร่ เมื่อสมัยก่อนก็ขายได้หลายร้อยล้าน เป็นผู้มีเงิน ก็ส่งลูกไปเรียนเมืองนอก ลูกไม่เอาไหน ไปก็ไปซื้อรถเก๋ง พาจิ๊กโก๋ไปหาจิ๊กกี๋ ๓ ปีมาแล้ว แล้วก็มีหนังสือมาหลอกแม่เรื่อย เรียนจวนใกล้สำเร็จ ขอเงินอีก ๑ แสน ขอเงินอีก ๕ แสน

    แล้วในที่สุดเขาก็ไม่รู้จะไปหาที่พึ่งที่ไหน ก็ไปหาหมอดู หมอดูก็เอาเงินสะเดาะเคราะห์ ลูกถึงจะเรียนได้ แล้วก็ได้เงินสะเดาะเคราะห์ ไปหาหมอทำก็ไม่สามารถจะสำเร็จไ แต่พอดีก็มีคนสิงห์บุรีไปเป็นลูกจ้างบ้านนั้น เขาเป็นนายทุนให้ก็พากันไปนครสวรรค์ กลับมาเขาก็เลยแวะ เขาบอกอย่าแวะ ก็เลยแกล้งเพทุบายว่าปวดท้อง แวะเข้ามาวัดนี้หน่อย จะหาห้องน้ำแวะเข้ามาแล้ว นายทุนคนนี้ก็เข้าห้องน้ำด้วย คนนั้นก็มาบอกกับอาตมาว่า หลวงพ่อช่วยทีเถอะ

    แต่อาตมาก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นคริสต์ บอกช่วยหน่อยเถอะเขามีลูกชายคนเดียว ผมก็ขอยืมเงินเขาใช้เรื่อย เราก็นึกในใจว่า ขอดูหน้าก่อน แล้วเขาก็พามาแล้ว ก็บอกให้ฟังว่า ลูกชายไปเรียนที่อเมริกา ไม่เอาไหนเลย พอรู้เข้าว่าเรียนไม่สำเร็จ ไปเที่ยว พานักศึกษาไทยไปเสียหายกัน ฉันก็จะเป็นโรคประสาทแล้ว ท่านจะมีทางช่วยได้ไหม ดูหน้าแล้วก็รู้ว่า ลูกชายต้องสำเร็จปริญญาโท และจะสำเร็จปริญญาเอกด้วย แต่ทำไมเรียนไม่สำเร็จ เดี๋ยวมีวิธีทางแก้ เพราะลักษณะบอกให้รู้ถึงลูก ด้วยว่าลูกชายต้องเรียนสำเร็จ แต่ทำไม่ถึงเรียนไม่สำเร็จ

    มีวิธีแก้ อาตมาก็บอกว่า โยมไปสวดมนต์ สวดพุทธคุณ ๕๒ จบ เพราะตอนนี้อายุ ๕๑ เขาบอกว่า “ฉันสวดไม่ได้ ฉันเป็นคริสต์” “พระบิดา พระบุตร พระจิต สวดได้ไหม” “ฉันก็เป็นคริสต์แบบชาวพุทธที่สวดมนต์ไม่เป็น ไปวัดเข้าโบสถ์ก็เข้าไปอย่างนั้นเอง” วันนั้นก็เจ๊ากันไป ไม่ยอมรับ ก็อยู่ได้อีก ๔-๕ เดือน อาตมาจำหน้าได้ ทีนี้มี่มีคนพามาละ เขามากันเอง ๓ คน บอกว่า “ฉันยอมจำนน” บอก “เอาอย่างนี้โยม ไปซื้อหนังสือสวดมนต์เข้าเล่มหนึ่ง”

    “ฉันไม่อยากให้หนังสือสวดมนต์มีในบ้านฉัน ท่านช่วยเขียนให้หน่อย”

    อาตมาก็ต้องเขียน พอตอนหลังขี้เกียจเขียนต้องพิมพ์เป็นใบ นี่พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุงมหากาฯ “ฉันไม่นับถือพระ ฉันจะสวดได้หรือ” “ที่นอนนั้นแหละสวดไปก่อน” อาตมาหาอุบาย เลยก็สวดพาหุงมหากาฯ “ฉันท่องไม่ได้ อ่านตามตัวแล้วฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าอายุ ๕๑ สวด ๕๒” “ใช้ก้านไม่ขีด ทิ้งเข้าซิ ทำไปก่อน” เขาเลยมั่นใจว่าคิดว่าจะทำได้ บอกว่า “โยมสวดมนต์เสร็จแล้วแผ่เมตตาให้ลูก อย่าด่าลูกนะ อย่าแช่งลูก ให้ลูกมีความเจริญสุข และให้ลูกมีความตั้งใจเรียนหนังสือให้สำเร็จ”

    พอไปสวดได้ ๓ เดือน ท่องได้หมดเลย หนักเข้าก็ไม่ต้องใช้ก้านไม้ขีดแล้ว จึงเกิดอานิสงส์ ๒ ประการ

    ข้อหนึ่ง โรคประสาทหาย กินได้นอนหลับ ชื่นอกชื่นใจ นอนหลับก็ใจดี เริ่มแผ่ส่วนกุศลให้ถึงลูกแล้ว บุญกุศลของแม่จะถึงลูกถึงตอนไหน รู้กันตอนนี้ เพราะลูกนี่เฟ้อในการเงิน ขอเงินแม่เรื่อยเลย ไม่รู้บุญกุศลของแม่แต่ประการใด วันนั้นบุญกุศลของแม่ถึงประมาณ ๖ เดือนหลังจากสวดมนต์ อาตมาจดไว้ วันนั้นพอดีลูกชายพาพวกนักศึกษาไทยที่ส่งด้วยทุนของตัวเอง ไปเที่ยว ขับรถไปชนเสาไฟฟ้า เพื่อนอยู่ข้างหลังกระเด็นออกจากรถหมด ไม่ตายไม่เป็นอะไรเลย แต่เจ้านี่ต้องไปอัดก๊อปปี้กับเสาไฟฟ้า เสาล้ม ต้องเสียเงินหลายแสน พวงมาลัยอัดหน้าอกไปโคม่าอยู่โรงพยาบาล ไม่รู้สึกตัว แล้วพอดีมีลูกพี่อยู่คนหนึ่ง เป็นแพทย์อยู่ที่อเมริกาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ก็ไปเยี่ยม ถ้าจะไม่รอดแน่ ก็ให้อ๊อกซิเจน นายแพทย์อเมริกาบอกว่าไม่รอดแน่

    วันนั้นผ่านไป รุ่งขึ้นลืมตา พอรอดมาแล้วปวดเมื่อยจะตาย น้ำตาร่วงคิดถึงแม่ มันเฟ้อไปในสังคม มันจะไม่คิดถึงแม่ บางคนอายุ ๘๐ แก่จะตาย เวลาใกล้ตายหลงคิดถึงแม่จ๋ากระทั่งแม่ตายไปตั้งนานแล้วอย่างนี้แน่นอน มันทุกข์หนัก บอกปวดเมื่อยทั่วสรรพางค์กาย คุณแม่จ๋ารำพันคิดถึงแม่

    ข้อสอง ลูกคิดถึงแม่ ถ้าแม่ทราบว่าหนูไม่เรียนหนังสือแล้ว แม่จะเสียใจแค่ไหน ทราบเข้าก็ดีอกดีใจมาวัดเลย เลี้ยงเพลพระ สวดธรรมจักรให้ ๑ จบ

    ในที่สุด พอลูกกลับจากอเมริกาพาลูกมาเลย อาตมาให้พระบูชาไป ๑ องค์ แม่ก็เล่าให้ฟังเพราะเหตุอย่างนี้ ลูกเลยสวดมนต์ภาวนาแล้วไปเข้าวัดไทย ไปนั่งวิปัสสนาที่เมืองนอก เจ้าคุณเทพโสภณรู้จัก แต่ไม่รู้เรื่องวัดอัมพวัน รู้ว่าเจ้านี่มันนักกรรมฐานปริญญาเอก เดี๋ยวนี้ไม่ยอมกลับบ้าน แม่บอกหลวงพ่อให้ฉันสวดมนต์อะไรให้ลูกกลับประเทศไทย ไม่มีกลับเรารู้แล้วไม่กลับแน่

    อันนี้ได้ผลแน่นอน ขอฝากไว้ว่าเด็กหรือใครก็ตาม ก็ต้องประสบทุกข์จะคิดถึงแม่ ถ้าไม่ประสบทุกข์ให้เงินไปเฟ้อ ไม่คิดถึงแน่ ต้องประสบทุกข์จึงจะเห็นตัวธรรมะ เห็นอกเห็นใจเลยเชียว เขามาเล่าให้อาตมาฟัง บอกหลวงพ่อครับ ผมไม่คิดถึงแม่เลย ๓ - ๔ ปีที่อเมริกา แต่ก็คิดถึงแม่ว่าอยู่กับแม่ป้อนข้าวให้ พัดวีให้ได้ คิดอย่างนี้เลยจึงกลับ แม่ก็เลยเล่าให้ฟังว่าหลวงพ่อนี่ช่วยเอาไว้ เขาเลื่อมใสอาตมาบอกว่า ถ้าเชื่อนะ ไปเดี๋ยวนี้ ตัดผม เพราะผมเขายาวประบ่า เลยตัดผมที่นี่สิงห์บุรีเห็นได้ชัดมาก เจ้าคนนี้ บอกแหมหลวงพ่อว่าผมนี่ผลาญเงินแม่ไปหลายล้านบาท ดังที่กล่าวแล้ว อาตมาก็ตั้งตำรา ถ้าคนไหนเคราะห์ร้ายสวดพุทธคุณ


    จ่าสอบเป็นนายร้อย

    จ่าที่ศูนย์ปืนใหญ่นี่บอกว่า หลวงพ่ออีก ๒ - ๓ ปีอายุผมเกินแล้ว สอบนายทหารไม่ได้เสียไป ๒ หมื่นก็ไม่ได้ “อย่าไปพูดเรื่องเสียเงินเสียยี่ห้อทหาร สองคนผัวเมียสวดมนต์ได้มั้ย ต้องได้แน่ สวดสองคนเลย” พวกทหารศูนย์ปืนใหญ่ เขาบอกสงสัยบ้านจ่านี่ท่าจะบ้าแล้ว พอผัวจะไปทำงาน “นี่แม่อีหนูมาสวดมนต์แทน ฉันจะไปทำงาน” เมียก็สวดใหญ่ เพื่อนๆ มาเยี่ยม ไปเถอะขาขาดไปเคยไปเล่นไพ่ด้วยกัน เลิกเล่นมานั่งสวดมนต์

    ในที่สุดสอบได้สอบนายทหารได้เดี๋ยวนี้เป็นพันตรีไปแล้ว แล้วร่ำรวยมีเงินให้นายทหารกู้ จ่าคนนี้พอสวดมนต์ มีเงินและมีไร่ที่อำเภอพัฒนานิคม มีสวนมะพร้าว มะพร้าวเยอะแยะมันเป็นความจริงขึ้นมา ไม่ใช่ขลังด้วยคาถา แต่ขลังด้วยสติ สวดมนต์แล้วก็มีสติขึ้นมา ปัญญาก็เกิด สอบเขียนก็ได้เลย ตอนเสียเงิน ๒ หมื่นไม่ได้ เขาบอกข้อสอบให้ยังไม่ได้ บอกสวดพุทธคุณเข้า ได้ทุกราย อาตมาอบรมนักศึกษามานี่ติดตามโดยต่อเนื่อง ไม่ใช่ไปบอกขอกฐินผ้าป่า ต้องการประเมินผลขอให้เธอทำตาม บางคนบอกว่าฉันเรียนสำเร็จวิชาครูมาทำอะไรไม่ได้ บอกหนูไม่จำเป็นต้องเป็นครู มานั่งกรรมฐานสวดมนต์เช้า ไม่จำเป็นต้องวิชาที่เรียนตรงเลย มันจะเกิดมีคนอุปถัมภ์ ช่วยเหลือผลักดันไปจนได้โดยวิธีนี้

    หนังสือกฎแห่งกรรม - ธรรมปฏิบัติ เล่มที่ 3
    หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  6. #16
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    บทสวดมนต์นี้ พี่ดิวรวบรวมมาให้ เป็นแบบสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ทำได้
    สำหรับให้เจ้ากรรมนายเวรโดยเฉพาะค่ะ สามารถพิมพ์แจกเพื่อนได้เลยจ้า
    ขอให้ธรรมะรักษาทุกคนนะจ๊ะ


    อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชยามิ
    อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชยามิ
    อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชยามิ

    อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
    พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)
    สะหวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
    ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    สังฆัง นะมามิ (กราบ)

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

    ๑. พุทธคุณ

    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมามัมพุทโธ วิชชาจะระณะ
    สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา
    เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ( กราบ 1 ครั้ง )

    ๒. ธรรมคุณ

    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก
    เอหิปัสสิโกโอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติิ ( กราบ 1 ครั้ง )

    ๓. สังฆคุณ

    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน
    ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะ-
    สังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ
    ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง
    ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ( กราบ 1 ครั้ง )

    ๔. พุทธชัยมงคลคาถา (ถวายพรพระ)

    ๑. พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
    ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

    ๒. มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
    ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

    ๓. นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
    เมตตัมพุเสกะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

    ๔. อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโย ชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
    อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

    ๕. กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
    สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

    ๖. สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
    ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

    ๗. นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
    อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

    ๘. ทุคคาหะ ทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
    ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ
    เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถาโย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
    หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ

    * ถ้าสวดให้คนอื่นใช้คำว่า เต สวดให้ตัวเองใช้คำว่า เม (เต แปลว่าท่าน - เม แปลว่าข้าพเจ้า)

    ๕. มหาการุณิโก

    มหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา
    ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
    โหตุ เม ชะยะมังคะลังฯ
    ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง
    นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
    อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะ
    พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง
    สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ
    จารีสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง
    มโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัดเถ ปะทักขิเณฯ
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
    สัพพะพุทธา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เม*
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
    สัพพะธัมมา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เม*
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
    สัพพะสังฆา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เม*
    * ถ้าสวดให้คนอื่นใช้คำว่า เต สวดให้ตัวเองใช้คำว่า เม (เต แปลว่าท่าน - เม แปลว่าข้าพเจ้า)

    กราบ ๓ ครั้ง เสร็จแล้วสวดเฉพาะพุทธคุณ ดังต่อไปนี้

    อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชา จาระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
    อะนุตตะโร ปุริสะทัม มะสาระถิ สัตถาเทวะ มะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ

    ให้สวดพุทธคุณเกินอายุ ๑ จบ เช่น อายุ ๒๘ ปี ให้สวด ๒๙ จบ
    เมื่อสวดพุทธคุณครบตามจำนวนจบที่ต้องการแล้ว จึงตั้งจิตแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลดังนี้

    ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม กรรมใด ที่ทำกับผู้ใด ในชาติใดๆก็ตาม ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
    จงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรจองกรรมกันต่อไปเลย แม้กรรมใดที่ผู้ใดทำกับ
    ข้าพเจ้ก็ตาม ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติในชาติใดๆ ข้าพเจ้าอโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น
    ยกถวายพระพุทธเจ้า เป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมกันต่อไป ด้วยอานิสงฆ์แห่ง
    อภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้า ครอบครัว บุตรหลาน ตลอดจนวงษาคณาญาติ
    และผู้มีอุปการะคุณของข้าพเจ้ามึความสุขความเจริญ ปฏิบัตแต่สิ่งที่ดีที่ชอบด้วยเทอญ


    คาถาแผ่เมตตาตนเอง

    อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
    อะหัง นิททุกโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์
    อะหัง อะเวโร โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร
    อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ
    ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พันจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด

    *ปล.ถ้าจำคำแปลได้แล้ว เวลาท่องไม่ต้องท่องคำแปลก็ได้ค่ะ

    แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์

    สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
    อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
    อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
    อนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
    สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิดฯ

    *ปล.ถ้าจำคำแปลได้แล้ว เวลาท่องไม่ต้องท่องคำแปลก็ได้ค่ะ

    อุทิศส่วนกุศล

    อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข
    อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข
    อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แด่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ จงมีความสุข
    อิทัง สัพพะ เทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลาย ขอให้เทวดาทั้งหลายจงมีความสุข
    อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลาย ขอให้เปรตทั้งหลาย จงมีความสุข
    อิทัง สัพพะ เวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงมีความสุข
    อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพสัตตา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

    *ปล.ถ้าจำคำแปลได้แล้ว เวลาท่องไม่ต้องท่องคำแปลก็ได้ค่ะ

    กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร

    ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจากการเจริญภาวนานี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
    ของข้าพ รวมทั้ง..................(เจาะจงคนที่ต้องการให้)ที่ข้าพเจ้าได้เคย
    ล่วงเกินไว้ ตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ไม่ว่าท่านจะอยู่ภพใด ภูมิใด
    ขอให้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิกรรมและอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้า
    ด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ


    <<จบบทสวด>>
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  7. #17
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    คำแปลของบทสวดพาหุง มหากรุณโก

    ชัยชนะของพระพุทธเจ้าอันเป็นมงคล


    บทที่ ๑ สำหรับเอาชนะศัตรูหมู่มาก เช่น ในการสู้รบ
    บทที่ ๒ สำหรับเอาชนะใจคนที่กระด้างกระเดื่องเป็นปฏิปักษ์
    บทที่ ๓ สำหรับเอาชนะสัตว์ร้ายหรือคู่ต่อสู้
    บทที่ ๔ สำหรับเอาชนะโจร
    บทที่ ๕ สำหรับเอาชนะการแกล้ง ใส่ร้ายกล่าวโทษหรือคดีความ
    บทที่ ๖ สำหรับเอาชนะการโต้ตอบ
    บทที่ ๗ สำหรับเอาชนะเล่ห์เหลี่ยมกุศโลบาย
    บทที่ ๘ สำหรับเอาชนะทิฏฐิมานะของคน

    เราจะเห็นได้ว่า ของดีวิเศษอยู่ในนี้ และถ้าพูดถึงการที่จะเอาชนะหรือการแสวงหาความมีชัย ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร
    นอกเหนือไปจาก ๘ ประการที่กล่าวข้างต้น
    ก่อนที่จะนำเอาตัวคาถาบทสวดมนต์และคำแปลมาไว้ให้จำจะต้องทำความเข้าใจคำอธิบายบทต่างๆ
    ไว้พอสมควรก่อน เพราะความในคาถาเองเข้าใจยาก ถึงจะแปลออกมาก็ยังเข้าใจยากอยู่นั่นเอง เมื่อเราไม่เข้าใจ
    เราอาจจะไม่เกิดความเลื่อมใส จึงควรจะหาทางทำความเข้าใจกันให้แจ่มแจ้งไว้ก่อน

    ในบทที่ ๑. เป็นเรื่องผจญมาร ซึ่งมีเรื่องว่าพระยามารยกพลใหญ่หลวงมา พระพุทธเจ้าก็ทรงสามารถเอาชนะได้
    จึงถือเป็นบทสำหรับเอาชนะศัตรูหมู่มาก เช่น ในการสู้รบ
    คำแปล- พระยามารผู้นิรมิตแขนได้ตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ ขี่ช้างชื่อ ครีเมขละ พร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องมา
    องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะมารได้ ด้วยทานบารมีด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ในบทที่ ๒. เรื่องเล่าว่า มียักษ์ตนหนึ่ง ชื่ออาฬะวกะ เป็นผู้มีจิตกระด้างและมีกำลังยิ่งกว่าพระยามาร
    พยายามมาใช้กำลังทำร้ายพระองค์อยู่จนตลอดรุ่ง ก็ทรงทรมานยักษ์ตนนี้ให้พ่ายแพ้ไปได้
    จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะปฏิปักษ์หรือคู่ต่อสู้
    คำแปล- อาฬะวกะยักษ์ผู้มีจิตกระด้าง ปราศจากความยับยั้ง มีฤทธิ์ใหญ่ยิ่งกว่าพระยามาร
    เข้ามาประทุษร้ายอยู่ตลอดรุ่ง องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยขันติบารมี ด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ในบทที่ ๓. มีเรื่องว่าเมื่อพระเทวทัตทรยศต่อพระพุทธเจ้า ได้จัดการให้คนปล่อยช้างสาร ที่กำลังตกมันชื่อนาฬาคีรี
    เพื่อมาทำร้ายพระพุทธเจ้า แต่เมื่อช้างมาถึงก็ไม่ทำร้าย จึงถือเป็นบทที่เอาชนะสัตว์ร้าย
    คำแปล- ช้างตัวประเสริฐ ชื่อนาฬาคีรี เป็นช้างเมามัน โหดร้ายเหมือนไฟไหม้ป่า มีกำลังเหมือนจักราวุธ และสายฟ้า
    องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยพระเมตตาบารมีด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ในบทที่ ๔. เป็นเรื่องขององคุลีมาล ซึ่งเรารู้กันแพร่หลาย คือ องคุลีมาลนั้นอาจารย์บอกไว้ว่า
    ถ้าฆ่าคนและตัดนิ้วมือมาร้อยเป็นสร้อยคอ ให้ได้ครบพัน ก็จะมีฤทธิ์เดชยิ่งใหญ่
    องคุลีมาลฆ่าคนและตัดนิ้วมือได้ ๙๙๙ เหลืออีกนิ้วเดียวจะครบพัน ก็มาพบพระพุทธเจ้า
    พระพุทธเจ้าทรงสามารถเอาชนะถึงกับองคุลีมาลเลิกเป็นโจรและยอมเข้ามาบวช กลายเป็นสาวกองค์สำคัญองค์หนึ่ง
    จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะโจรผู้ร้าย
    คำแปล- โจร ชื่อ องคุลีมาล มีฝีมือเก่งกล้า ถือดาบเงื้อวิ่งไล่พระองค์ไปตลอดทาง ๓ โยชน์
    องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยการกระทำปาฏิหาริย์ ด้วยเดชะอันนี้ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ในบทที่ ๕. หญิงคนหนึ่งมีนามว่า จิญจมาณวิกา ใส่ร้ายพระพุทธเจ้า โดยเอาไม้กลมๆ
    ใส่เข้าที่ท้องแล้วก็ไปเที่ยวป่าวข่าวให้เล่าลือว่าตั้งครรภ์กับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะ ให้ความจริงปรากฏแก่คนทั้งหลายว่าเป็นเรื่องกล่าวร้ายใส่โทษพระองค์โดยแท้
    จึงถือเป็นบทที่เอาชนะคดีความหรือการกล่าวร้ายใส่โทษ
    คำแปล- นางจิญจมาณวิกาใช้ไม้มีสัณฐานกลมใส่ที่ท้อง ทำอาการประหนึ่งว่ามีครรภ์ เพื่อกล่าวร้ายพระพุทธเจ้า
    องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยวิธีสงบ ระงับพระทัยในท่ามกลางหมู่คน ด้วยเดชะอันนี้ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ในบทที่ ๖. เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะสัจจะกะนิครนถ์ ซึ่งเป็นคนเจ้าโวหาร เข้ามาโต้ตอบกับพระพุทธเจ้า
    จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะในการโต้ตอบ
    คำแปล- สัจจะกะนิครนถ์ ผู้มีนิสัยละทิ้งความสัตย์ใฝ่ใจจะยกย่องถ้อยคำของตนให้สูงประหนึ่งว่ายกธงเป็นผู้มืดมัวเมา
    องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยรู้นิสัยแล้วตรัสเทศนาด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ในบทที่ ๗. เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้า ให้พระโมคคัลลาน์ อัครมหาสาวกไปต่อสู้เอาชนะพระยานาคชื่อ นันโทปนันทะ
    ผู้มีเล่ห์เหลี่ยมในการต่อสู้มากหลาย จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะเล่ห์เหลี่ยมกุศโลบาย
    คำแปล- องค์พระจอมมุนี ได้โปรดให้พระโมคคัลลาน์เถระ นิรมิตกายเป็นนาคราช ไปทรมานพระยานาคชื่อ
    นันโทปนันทะ ผู้มีฤทธิ์มากให้พ่ายแพ้ด้วยวิธีอันเป็นอุปเท่ห์แห่งฤทธิ์ ด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ในบทที่ ๘. เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะ ผกาพรหม ผู้มีทิฏฐิแรงกล้าสำคัญว่าตนเป็นผู้ที่มีความสำคัญที่สุด แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงสามารถทำให้ผกาพรหมยอมละทิ้งทิฏฐิมานะ และยอมว่าพระพุทธเจ้าสูงกว่า
    จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะทิฏฐิมานะของตน
    คำแปล- พรหม ผู้มีนามว่า ท้าวผกา มีฤทธิ์และสำคัญตน ว่าเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์
    มีทิฏฐิที่ถือผิดรัดรึงอยู่อย่างแน่นแฟ้น องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ด้วยวิธีเทศนาญาณ ด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา


    คำแปล มหาการุณิโก

    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระผู้ทรงเป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทรงประกอบด้วยพระมหากรุณา ทรงบำเพ็ญพระบารมีทั้งปวง เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ ทรงบรรลุพระสัมโพธิญาณอันสูงสุด ด้วยการกล่าวสัจจวาจานี้ ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า


    ขอข้าพเจ้าจงมีชัยชนะในชัยมงคลพิธี ดุจพระจอมมุนีผู้ยังความปีติยินดีให้เพิ่มพูนแก่ชาวศากยะ ทรงมีชัยชนะมาร ณ โคนต้นมหาโพธิ์ทรงถึงความเป็นเลิศยอดเยี่ยม ทรงปีติปราโมทย์อยู่เหนืออชิตบัลลังก์อันไม่รู้พ่าย ณ โปกขรปฐพี อันเป็นที่อภิเษกของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ฉะนั้นเถิด เวลาที่กำหนดไว้ดี งานมงคลดี รุ่งแจ้งดี ความพยายามดี ชั่วขณะหนึ่งดี ชั่วครู่หนึ่งดี การบูชาดี แด่พระสงฆ์ผู้บริสุทธิ์ กายกรรมอันเป็นกุศล วจีกรรมอันเป็นกุศล มโนกรรมอันเป็นกุศล ความปรารถนาดีอันเป็นกุศล ผู้ได้ประพฤติกรรมอันเป็นกุศล ย่อมประสบความสุขโชคดี เทอญ


    ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ


    ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ


    ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------




    ที่มาและอานิสงส์ของบทสวดมนต์ ชัยมงคลคาถา หรือพาหุงมหาการุณิโก
    ที่มาของบทสวดมนต์ชัยมงคลคาถา อาตมาได้ตำราเก่าแก่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เป็นใบลานทองคำจารึกของสมเด็จพระพนรัตน์
    วัดป่าแก้ว ปัจจุบันเรียกว่า วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา ได้รจนาถวายพระพรชัยมงคลคาถาแก่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระพนรัตน์เป็นอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    อานิสงส์ของบทสวดมนต์ชัยมงคลคาถา หรือพาหุงมหากา สมเด็จพระนเรศวรมหาราชไม่เคยแพ้ทัพ
    สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ไม่เคยแพ้ทัพ พระชัยหลังช้างของ ร.๑ นั้นมาจากบทพาหุง มหากา
    ผู้ใดสวดมนต์ชัยมงคลคาถา หรือพาหุงมหากา เป็นประจำทุกๆ วันแล้ว มีแต่ชัยชนะทุกประการ
    เรียนหนังสือก็เกิดปัญญา มีแต่ความเก่งกล้าสามารถ ผู้ใดสวดทุกเช้า ค่ำ คิดสิ่งใดที่ดีเป็นมงคล
    จะสมความปรารถนาทุกประการ
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  8. #18
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    7

    โหๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆสุดยอดค่ะเพื่อนๆพี่ทั้งหลาย

    คิดแล้วเชียวว่าต้องมีคนมาให้กำลังใจ คนในsbnน่ารักจริงๆ
    เรื่องจริงมันมีมากกว่านี้เยอะแยะเล่า1เดือนก็ไม่รู้จะหมดรึเปล่า
    เรื่องที่ทนไม่ได้สุดๆคือชอบปั้นน้ำเป็นตัว ชอบใส่ร้ายมุก
    ไม่ใช่แม่สามีคนเดียวนะคะ รุมกันทั้งบ้าน (อยู่กันเยอะค่ะมีพี่น้อง4คน
    แฟนมุกเป็นคนเล็กค่ะ) แฟนทำงานยิ่งกว่าคนงานอีกค่ะ สงสารเค้าจังเลย
    มุกไปช่วยที่โรงงานเค้าก็บอกว่าเจือกอะไรไม่ใช่หน้าที่ของเมิงงงงง
    เค้าบอกว่าหาที่ไหนได้อีกเนี่ยบ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ
    ที่สำคัญค่ะอยู่บ้านนี้ห้ามเถียง มุกพูดอะไรไม่ได้เลยค่ะ สงสัยมุกจะเจ้ากรรมนายเงรเยอะ
    อย่างที่พี่ดิวบอก

  9. #19
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    ยังไม่ได้แต่งงานค่ะ อ่านแล้วก้อชักกลัวๆ ไม่อยากแต่ง ยังๆก้อขอให้อดทนเพื่อลูกนะคะ สู้สู้ค่ะ
    Will work for bags !!!!

  10. #20
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    7

    จะต้องทำยังไง

    ชีวิตมุกนะพี่ยิ่งกว่าในละครอีก อย่างที่บอกว่าเค้าแก่แล้วเดี๋ยวเค้าก็ตาย
    โฮยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆกรรมพันธ์เค้านะ ตายตอน 90 up อ่ะค่ะ แล้วก็กินอาหารเพื่อสุขภาพตลอดเลย
    ตอนนี้เค้าเพิ่งจะ 60 กว่า ต้องรออีกหลายสิบปีถึงจะมีความสุขเหรอเนี่ย โอ้แม่เจ้า
    ความอดทนมุกอ่ะมีค่ะแต่มันทนไม่ได้แล้วจริงๆ สงสัยต้องทำอย่างทุกคนบอกว่าต้องออกไปทำงานหล่ะค่ะ เพราะสงสารลูกมาก และก็ไม่อยากเลิกกันจริงๆนะคะ เพราะสามีไม่ผิดเลย แค่พูดไม่ได้เท่านั้นเอง

Page 2 of 7 FirstFirst 1 2 3 4 ... LastLast

Similar Threads

  1. Replies: 3
    Last Post: 08-19-2021, 02:46 PM
  2. !!!!!!!!!!!!!! ทนไม่ไหวแล้ว ว้อยๆๆๆๆๆ !!!!!!!!!!!!!!!
    By cottonchef in forum HUMAN; All General Interests เรื่องสนใจส่วนตัว ชมรม ทั่วไป
    Replies: 20
    Last Post: 07-08-2009, 10:38 AM
  3. @@ใจร้าว...ลาเอนาตู@@
    By enjoy7477 in forum HUMAN; All General Interests เรื่องสนใจส่วนตัว ชมรม ทั่วไป
    Replies: 30
    Last Post: 12-06-2008, 11:46 PM

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •