Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 4 of 5 FirstFirst ... 2 3 4 5 LastLast
Results 31 to 40 of 42

Thread: [Chelsea Football Fan Club]รวบรวม Contentจากกลุ่ม Chelsea Football Club ปี 2010-2011

  1. #31
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    คมกว่าตอร์เรส!ลูอิซ-รามิเรสนำเชลซีคว่ำเรือขึ้นที่ 3

    ที่มา www.soccersuck.com/ss

    Quote Originally Posted by Zaine_R
    คมกว่าตอร์เรส!ลูอิซ-รามิเรสนำเชลซีคว่ำเรือขึ้นที่ 3

    ดาวิด ลูอิซกองหลังมาพร้อมกันแต่ยิงไปแล้ว 2 ลูกล่าสุดโขกเบิกร่องก่อนที่รามิเรสโชว์สเต็ปบราซิเลี่ยนลากไปยิงปิดกล่องช่วยให้เชลซีกดนิ่มแมนฯซิตี้ 2-0 ขยับแซงหน้าขึ้นมาอยู่อันดับ 3 มี 54 แต้มตาม"จ่าฝูง"แมนฯยูฯ 9 แต้มแต่เตะน้อยกว่าหนึ่งนัด

    พรีเมียร์ ลีก

    วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2554


    เชลซี 2 : 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

    ประตู :
    1-0 ดาวิด ลูอิซ น.79,2-0 รามิเรส น.90+2

    ก่อนเกมมีการยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตในประเทศญี่ปุ่นจากเหตุการณ์ซึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงที่ผ่านมา

    วันนี้เชลซีใช้กองหน้าตัวเดียวโดยมีเฟร์นานโด ตอร์เรสยืนเป็นหน้าเป้าลุ้นประตูแรกให้กับต้นสังกัดใหม่ของเขาฉลองวัยเกิด 27 ปีในวันอาทิตย์นี้ โดยมีซาโลมอง กาลูและฟลอร็องต์ มาลูด้าขนาบทั้งสองข้าง

    แมนเชสเตอร์ ซิตี้วันนี้ไม่มีตัวเก่งอย่างคาร์ลอส เตเบซที่ไม่ผ่านความฟิต ส่วนมาริโอ บาโลเตลลี่หัวหอกจอมเกรียนถูกดร็อปเป็นตัวสำรองและส่งเอดิน เซโก้ลงล่าตาข่ายตุงแรกในพรีเมียร์ ลีก

    ครึ่งแรก

    เรือมาโคตรดุ
    เริ่เกมมาได้ 6 นาทีแรก เป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่มาแปลกเปิดเกมบุกใส่เจ้าบ้านเชลซีจากจังหวะที่ต่อบอลกันขึ้นไปตรงกลางสนามแล้วยาย่า ตูเร่ได้โอกาสส่องนอกกรอบเขตโทษ แต่ก็ถูกทางเช็กล้มตัวปัดบอลเอาไว้ได้ทัน

    เกมอย่างมันส์
    แม้ว่าจะผ่านแค่ช่วง 10 นาทีแรก แต่กลิ่นความสนุกของเกมโชยมาแต่ไกล เพราะทั้งสองทีมวันนี้เปิดเกมรุกใส่กันแบบไม่มีกลัวเกรงอะไรใดๆ แต่ก็เป็นแมนฯซิตี้ที่ดูจะได้น้ำได้เนื้อกว่าหน่อย

    ซะงั้น!สิงห์ไม่มีโชคชนกันเอง
    อีก 2 นาทีต่อมา กลายเป็นว่าผู้เล่นเชลซีมาทำพลาดโอกาสกันไปเอง จากจังหวะที่รามิเรสทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษได้แล้ว แต่ดันเสียหลัก กาลูจะวิ่งตามเข้าไปเก็บจังหวะสองซึ่งหากเก็บได้ก็ยิงเหน่งๆชัวร์ แต่ดันไปสะดุดตัวรามิเรสล้มหน้าทิ่ม ทำให้พลาดโอกาสไปแบบน่าเสียดาย

    จังหวะนี้กาลูถึงกับยิ้มแหยะๆเพราะไม่รู้จะพูดยังไง มันเป็นจังหวะไม่คาดคิดจริงๆ

    สิงห์โวยใหญ่ขอจุดโทษ
    นาทีที่ 20 หลังจากเริ่มปรับเกมได้เชลซีก็พยายามบุกใส่แมนฯซิตี้แบบไม่หยุด จนมาขอโวยในจังหวะที่กาลูเปิดบอลอัดเข้ากลางแล้วไปโดนแขนของเลสค็อตต์ที่กางออกไปพอสมควรเข้าให้ เพียงแต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร ปล่อยผ่านไปในจังหวะนี้

    เกมเรือชักป่วน
    ไปๆมาๆหลังจากที่บุกกดดันใส่เชลซีได้ในช่วงแรก แมนฯซิตี้เหมือนจะชะงักไปดื้อๆแม้ว่าจะพยายามทำเกมขึ้นไปลุ้นหน้าประตูเชลซีแต่ก็ไม่ผ่านและยังโดนบุกอัดกลับมาทุกครั้งไป

    เรือเริ่มดีขึ้นบ้าง
    เกมกำลังจะเข้าสู่งช่วงครึ่งชั่วโมง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็ทำได้ดีขึ้นตามระดับทำให้ตอนนี้เกมของทั้งสองทีมเน้นหนักไปตรงกลางสนามและมักจะเสียบอลกันในจังหวะสุดท้ายที่ยังไม่แม่นพอทั้งคู่

    ตอร์เรสยังไวไม่พอ
    นาทีที่ 34 ตอร์เรสพลาดที่จะได้ง้างเท้าลุ้นประตูแรกของเขาให้กับเชลซี จากจังหวะที่กาลูไหลบอลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ตอร์เรสช้าไปนิดอาจจะเพราะบอลเข้าเท้าซ้าย ทำให้เด ยองพุ่งเข้ามาเสียบสกัดบอลทิ้งไปได้ทัน

    เกมทันกัน
    ผ่านเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของเกม ตอนนี้ดูเหมือนว่าจังหวะเกมของทั้งสองทีมนั้นค่อนข้างจะทันกัน ทำให้โอกาสที่จะเข้าไปลุ้นซัดประตูเหน่งๆนั้นน้อยเสียเหลือเกิน

    กาลูกลับตัวยิง
    นาทีที่ 42 มาลูด้าทำเกมขึ้นไปทางซ้ายก่อนจะโยนเข้ากลางไปให้กับกาลูที่พักบอลด้วยอกแล้วกลับตัวซัดทันทีจังหวะแรก แต่บอลไม่หนีมือของฮาร์ททำให้เทคตัวไปรับเอาไว้ได้สบาย

    ช่วงหลังๆมานั้นดูเหมือนเกมของทั้งสองทีมจะรัดกุมกันมากขึ้น ไม่ได้เปิดแลกเหมือนในช่วงต้น ทำให้ยังคงเสมอกันอยู่ 0-0

    ครึ่งหลัง

    มาลูด้าซัดไม่เต็ม
    นาทีที่ 51 เชลซีได้ลุ้นจากจังหวะที่ต่อบอลกันสวยเริ่มจากตอร์เรสให้มาลูด้าก่อนที่จะต่อให้กับกาลูทางริมเส้นฝั่งซ้าย แล้วก็กาลูก็จัดต่อย้อนบอลคืนให้กับมาลูด้าที่สอดขึ้นไปแปแต่เหมือนบอลจะไม่เข้าล็อกเท่าไร ทำให้ฮาร์ทเซฟเอาไว้ได้

    สิงห์ปรับกันมาเต็ม
    ครึ่งหลังมานี้ดูเหมือนว่าเชลซีจะทำได้ดีกว่าทางแมนฯซิตี้ค่อนข้างมากในจังหวะเซ็ตเกมบุก แต่ก็ยังขาดจังหวะสุดท้ายที่ดูเหมือนว่าไม่ค่อยเข้าล็อกกันสักเท่าไร แต่เกมของแมนฯซิตี้เองก็ไม่สามารถฝ่าแนวรับของเชลซีไปได้ โดยเฉพาะลูอิซที่วันนี้เล่นเด่นเสียเหลือเกิน

    ซี๊ด!อิวาโขกเต็มเหน่งติดบล็อก
    นาทีที่ 62 เชลซีน่าได้ประตูโคตรๆจากจังหวะที่เซ็ตเกมขึ้นไปทางริมเส้นขวาตักบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ เป็นอิวาโนวิชที่เทคตัวขึ้นโขกคนเดียวแบบเหน่งๆ แต่บอลกลับไปติดบล็อกของกอมปานี ไม่งั้นแล้วลูกนี้มีหาย

    สิงห์ต้องทำอะไรบ้างแล้ว
    แม้ว่าเกมของเชลซีจะดูดีกว่าแมนฯซิตี้อยู่นั้น แต่ปัญหาของพวกเขาก็คือเกมรุกที่แม้จะครองบอลได้แต่ว่าทื่อเสียเหลือเกินในจังหวะเข้าทำ จนตอนนี้แฟนบอลคงจะนึกถึงหน้าของดร็อกบาไม่ก็อเนลก้าขึ้นมาแล้ว

    ลูอิซเด่นได้ใจ
    วันนี้ทั้งรุกทั้งรับไม่ว่าจังหวะไหนลูอิซปราการหลังหัวฟูของเชลซีก็ทำได้ดีเสียเหลือเกิน ดูแล้วคุ้มค่าทุกเม็ดเงินจริงๆ

    จนได้!สิงห์เปลี่ยนต์เรสออก
    นาทีที่ 70 เชลซีต้องปรับเกมอย่างเลี่ยงไม่ได้ด้วยการส่งดร็อกบาลงไปแทนตอร์เรสที่วันนี้ก็ยังคงไม่สามารถโชว์ฟอร์มประทับใจหรือทำประตูแรกให้กับทีมได้และเอาอเนลก้าแทนมาลูด้า ซึ่งกล้องก็ไวสุดๆจับภาพไปยังอับราโมวิชเจ้าของสโมสรซึ่งดูจะเซ็งๆเหมือนกัน

    เพอร์เฟ็ค!ลูอิซโขกพังประตู
    นาทีที่ 79 สุดยอดจนไม่รู้จะว่าอย่างไรจริงๆสำหรับลูอิซปราการหลังหัวฟูของเชลซีที่วันนี้รุกรับเต็ม 10 แถมยังมาทำประตูสำคัญให้กับทีมได้จากจังหวะที่เขาโขกสะบัดลูกเปิดฟรีคิกของดร็อกบาเข้าไปเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม เชลซีได้ประตูโคตรสำคัญ 1-0

    เรือต้องส่งเกรียนโอ้,AJ ลง
    อีก 2 นาทีต่อมา งานนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ไม่มีทางเลือกต้องจัดสองตัวรุกสุดซี๊ดอย่างจอห์นสันและบาโลเตลลี่ลงไปเล่นแทนยาย่า ตูเร่ที่มีอาการบาดเจ็บและมิลเนอร์ที่โชว์ฟอร์มไม่ค่อยออกนักไปพัก

    เกมเป็นของสิงห์
    หลังจากทำประตูขึ้นนำไปได้ เหมือนว่ากำลังใจของเชลซีจะเพิ่มพูนและกดทางแมนฯซิตี้ที่แม้จะพยายามแก้เกมแต่ก็ไม่เป็นผลเอาไว้ได้อยู่หมัด งานนี้ลำบากเสียแล้วสำหรับลูกทีมของมันชินี่

    โคตรหล่อ!รามิเรสลากไปซัดหาย
    ช่วงทดเวลานาทีที่ 2 รามิเรสโชว์ความหล่อแบบขโมยซีนทุกคนเห็นๆจากจังหวะที่เขาได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะโชว์สเต็ปบราซิเลี่ยนลากหนีสองกองหลังของแมนฯซิตี้เข้าไปอัดเต็มตีนผ่านตัวของฮาร์ทเข้าไปตุงตาข่าย เชลซีได้ 2-0 สุดยอดขิงๆ

    จบ 90 นาทีเชลซีเปิดรังเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปได้ 1-0 ทำให้พวกเขาแซงหน้าขึ้นมาอันดับ 3 แทนที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้มี 54 คะแนนตามหลังจ่าฝูงแมนฯยูไนเต็ด 9 แต้มพร้อมเกมในมืออีกหนึ่งนัด

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    เชลซี :
    ปีเตอร์ เช็ก 6.5,จอห์น เทอร์รี่ 7,ดาวิด ลูอิซ , ***8,แอชลี่ย์ โคล 7,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 6,มิคาเอล เอสเซียง 6,แฟรงค์ แลมพาร์ด 5.5,รามิเรส , 7.5,ฟลอร็องค์ มาลูด้า 5 (อเนลก้า น.70, 6),เฟร์นานโด ตอร์เรส 5.5 (ดร็อกบา น.70, 7),ซาโลมอง กาลู 6 (เชอร์คอฟ น.77, 6.5)

    แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท 6,โจเลี่ยน เลสค็อตต์ 6.5,แวนซองต์ กอมปานี 8,อเล็คซานดาร์ โคลารอฟ , 6,ไมกาห์ ริชาร์ดส์ 7,แกเร็ธ แบร์รี่ , 5.5,ไนเจล เด ยอง , 7,ดาวิด ซิลบา 6,เจมส์ มิลเนอร์ 5.5 (จอห์นสัน น.81,N/A),เอดิน เซโก้ 5,ยาย่า ตูเร่ 6 (บาโลเตลลี่ น.81, N/A)































    [img][/img]

  2. #32
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    แมลงสาบกู้ชีพ!สิงห์สะดุดเจ๊าหม้อ 1-1

    ขอบคุณข่าวจาก www.soccersuck.com/ss
    Quote Originally Posted by Zaine_R
    แมลงสาบกู้ชีพ!สิงห์สะดุดเจ๊าหม้อ 1-1

    แม้ว่าดิดิเย่ร์ ดร็อกบาจะกลับมาทำประตูให้กับเชลซีด้วยการเป็นคนยิงตีเสมอสโต๊ค 1-1 แต่นั่นก็ไม่เพียงพอให้ทีมคว้าชัยชนะสำคัญที่ต้องการได้ จบลงแบ่งกันไปทีมละแต้ม ทำให้โอกาสที่จะกลับไปลุ้นแชมป์ดูเลือนลางมากขึ้นไปอีก

    พรีเมียร์ ลีก

    วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2554


    สโต๊ค ซิตี้ 1 : 1 เชลซี

    ประตู :
    1-0 จอน วอลเตอร์ส น.8,1-1 ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา น.33

    เชลซ๊เจอบททดสอบสำคัญอีกหนึงเกมเมื่อต้องเดินทางมาเยือนรังของสโต๊ค ซิตี้ที่เล่นได้อย่างดุดัน แข็งแกร่งและหนักหน่วง ซึ่งแน่นอนว่าลูกทีมของอันเชล็อตติต้องการ 3 แต้มเน้นๆ

    เกมนี้อันเชล็อตติวางดร็อกบาและอเนลก้าลงล่าตาข่าย ดร็อปตอร์เรสที่ยังคงทำประตูให้ทีมไม่ได้เสียทีเป็นตัวสำรองไปก่อน

    ครึ่งแรก

    สุดตีน!วอลเตอร์สลากไปยิง
    เริ่มเกมมาได้แค่ 8 นาทีเท่านั้นสโต๊คก็มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากความยอดเยี่ยมของวอลเตอร์สที่แตะบอลได้ก่อนลูอิซ ก่อนที่จะกระชากขึ้นทางซ้าย จี้เข้าหากรอบเขตโทษล็อคหลอกเอสเซียงแล้วอัดเต็มเหนี่ยวผ่านเช็กเข้าไปตุงตาข่ายสะบัด สโต๊คนำแล้ว 1-0

    เกือบได้คืนเร็วแล้ว
    อีกเพียงแค่ 1 นาทีต่อมา เชลซีก็เกือบจะได้ประตูตีเสมอแบบทันควัน จากจังหวะที่ยกบอลข้ามกองหลังแล้วโคลทะลุกับดักล้ำหน้าไปพุ่งตัวโหม่งเล่นทาง แต่เบโกวิชยังเหนียวดีดตัวปัดเอาไว้ได้

    สิงห์ติดๆขัดๆ
    เข้าสู่ช่วง 15 นาทีแรก เกมของเชลซีดูเหมือนว่าจะติดขัดทำอะไรไม่ค่อยสะดวกอยู่มากพอสมควร ทั้งการเซ็ตเกมกันตรงกลางและพื้นที่สุดท้าย กลายเป็นสโต๊คที่สวนแต่ละทีได้เสียวตลอด

    ซี๊ด!อเนลก้าไม่พร้อมซ้ำ
    นาทีที่ 21 แฟนเชลซีเป่าปากซี๊ดกันหมดเพราะเสียดาย จากจังหวะที่แลมพาร์ดยิงยัดจากนอกกรอบเขตโทษบอลพุ่งแหวกกองหลังแถมยังส่ายนิดๆ ทำให้เบโกวิชที่ตั้งใจจะรับให้จังมือก็ทำบอลทะลัก แต่อเนลก้าที่อยู่ตรงนั้นไม่พร้อ มทำให้ถูกสกัดออกมาได้ก่อน

    ตอนนี้เกมของเชลซีดีขึ้นกว่าในช่วงต้นเกมมากแล้ว แต่ความเหนียวแน่นในแนวรับของสโต๊คก็ยังคงยันเอาไว้ได้อยู่

    โจนส์ดวลลูอิซมันส์
    เชื่อว่าทั้งเกมเราๆท่านๆคงจะได้เห็นภาพที่โจนส์กับลูอิซเบียดแย่งชิงจังหวะใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายและจังหวะที่พอเหมาะเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้ามให้ได้ ซึ่งดูไปแล้วคู่นี้ก็สมน้ำสมเนื้อกันดี

    มันมาแล้ว!แมลงสาบบินโขกตุง
    นาทีที่ 33 การประสานงานของอเนลก้าและดร็อกบาส่งผลให้ทีมได้ประตูจนได้ จากจังหวะที่อเนลก้ายึกยักก่อนเหลือบเห็นดร็อกบาที่เสาไกลรีบตักบอลเข้าไปให้ดร็อกบาวิ่งเบียดกองหลังไปพุ่งตัวโหม่งสะบัดบอลเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม เชลซีตีเสมอเป็น 1-1

    งานนี้ตากล้องไม่พลาดรีบจับภาพไปยังตอร์เรสที่นั่งอยู่บนม้านั่งสำรองทันที อันนี้ก็แล้วแต่ใครจะคิดอย่างไร ก็ว่ากันไป ฮา

    โจนส์ทำได้ดี
    เกมนี้รู้สึกว่าโจนส์จะค่อนข้างสร้างปัญหาให้กับทางแนวรับของเชลซีได้มากพอสมควร เพราะพี่แกทั้งแข็งแกร่งแล้วยังเสียบอลยากด้วย ตะลุยเข้าไปแต่ละทีต้องมีซ้อนตลอด ไม่งั้นอาจจะเสียวได้

    รามิเรสทำอะไรเนี่ย
    นาทีที่ 41 รามิเรสพลาดโอกาสที่จะลุ้นยิงเองหรือจ่ายถวายพานให้เพื่อนไปอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะที่ดร็อกบาตักบอลเข้ากรอบเขตโทษให้กับเขาซึ่งไม่ล้ำหน้า มีเวลาเอาบอลลงค่อนข้างเยอะ แต่ดันจับบอลไม่ดีเด้งออกหลังไปซะอย่างนั้น

    จบครึ่งแรกที่ถือว่าเล่นกันได้สนุกไปด้วยสกอร์สมานฉันท์ 1-1

    ครึ่งหลัง

    เกมชักจะดุเดือด
    ลงมาในช่วงครึ่งหลังดูเหมือนว่าชักจะเดือดขึ้นมาหน่อยๆแล้ว เพราะว่ามีการปะทะใส่กันหลายครั้ง แถมโบซิงวายังไปเสียบหนักใส่เอ็ทเธอริงตันอีกด้วย จึงโดนใบเหลืองไปตามระเบียบ

    สิงห์จัดหนักส่งตอร์เรส,กาลูลง
    นาทีที่ 61 เชลซีไม่รีรออะไรให้เสียเวลาจัดการส่งตอร์เรสและกาลูลงไปเสริมเกมรุกให้กับทีม โดยเปลี่ยนเอาอเนลก้าและรามิเรสออกไป ก็ต้องมาลุ้นกันว่าตอร์เรสจะสามารถเปิดซิงให้กับตัวเขาเองได้หรือไม่

    หม้อเกือบได้อีกเม็ด
    นาทีที่ 66 สโต๊คเกือบไปแล้วที่จะได้ประตูขึ้นนำไปอีกครั้งหนึง จากจังหวะฟรีคิกที่วิลสันให้เพื่อนแตะเปลี่ยนจุดแล้ววิ่งมาอัดเต็มข้อ บอลพุ่งแหวกกองหลังเป้นช่องผ่านมือของเช็กที่รับยังไงก็ไม่ทันแล้ว แต่อัดคานเข้าอย่างจัง น่าเสียดายแท้

    เช็กเซฟโคตร!
    จังหวะต่อเนื่องกันเลยที่สโต๊คได้ลูกเตะมุมก่อนที่จะโยนปั่นเข้ากลางเป็นฮูธที่เทคตัวได้สูงกว่าใครเพื่อนโหม่งบอลเต็มๆหัว แต่เจอเช็กดีดตัวปัดเอาไว้ได้นิดหนึงก่อนที่บอลจะชนคานแล้วถูกเคลียร์ออกไป

    เช็กไม่หลอนเซฟได้ดี
    นาทีที่ 73 เช็กยังคงมีสมาธิและสติแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย จากจังหวะที่สโต๊คโยนบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษเป็นเอ็ทเธอริงตันโหม่งสวนกลับเข้าไปหน้าประตูแล้วมีวอลเตอร์สยืนล้ำหน้าอยู่ยึกหลอกว่าจะเล่นแต่ไม่เล่นแล้วปล่อยก่ะให้เข้า แต่เช็กยังล้มตัวเซฟเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

    สิงห์ชักจะยังไง
    ไปๆมาๆกลายเป็นว่าเชลซีตื๊อไปเสียสนิทไม่สามารถทำเกมขึ้นไปลุยได้ แถมยังโดนสโต๊คเล่นจังหวะสวนกลับได้ออกรสออกชาติอีกต่างหาก อีแบบนี้ถ้าไม่รีบเร่งเครื่องตัวเองขึ้นมาคงจะยากแน่

    แมลงสาบยิงสนั่นคาน
    นาทีที่ 80 ดร็อกบาโชว์เทคนิคการทำประตูได้อย่างยอดเยี่ยม จากจังหวะที่เขากลับตัวยิงในกรอบเขตโทษแบบเต็มข้อ แม้บอลจะผ่านมือของเบโกวิชไปแล้ว แต่ก็ชนคานเข้าอย่างจัง ถ้าลูกนี้เข้าจะเป็นอะไรที่สวยสุดๆ

    สิงห์ไล่บี้บ้าง
    ตอนนี้เชลซีเริ่มทำได้ดีมากขึ้นกว่าเดิมตอนนี้กลายเป็นฝ่ายบุกบี้ใส่ทางสโต๊คอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถยิงผ่านบล็อกหรือมือของเบโกวิชไปได้เลย

    ฟูลเลอร์โขกเสียวมาก
    ช่วงทดเวลานาทีแรก สโต๊คเกือบได้เฮลั่นกันทั้งสนามจากจังหวะที่โยนบอลเข้าไปในเขตโทษให้กับฟูลเลอร์ที่เสาสองโขกมุมแคบผ่านมือเช็กไปแล้ว แต่ก็ผ่านหน้าประตูไปเช่นเดียวกัน ทำให้ได้แค่ลุ้นเท่านั้น

    จบ 90 นาทีสโต๊คสามารถยันเสมอกับเชลซีไปได้ 1-1 ทำให้ลูกทีมของอันเชล็อตติเก็บได้เพียงแต้มเดียวมีเพิ่มเป็น 55 คะแนนตามหลังแมนฯยูไนเต็ดจ่าฝูงอยู่ถึง 11 คะแนน

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    สโต๊ค ซิตี้ :
    แอสเมียร์ เบโกวิช 5.5,ไรอัน ชวอครอสส์ 6,โรเบิร์ต ฮูธ 6.5,แดนนี่ ฮิกกิ้นบอธอม 5(คอลลินส์ - น.90),มาร์ค วิลสัน 6.5,รอรี่ ดีแล็ป 6,เกล็น วีแลน 6.5(ไวท์เฮด - น.85),แมทธิว เอ็ทเทอริงตัน 7,เจอร์เมน เพนแนนท์ 6(ฟูลเลอร์ - น.90),โจนาธาน วอลเตอร์ส 7.5,เคนวิน โจนส์ 6.5

    เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก 8,จอห์น เทอร์รี่ 6,ดาวิด ลูอิซ 5.5,แอชลี่ย์ โคล 6,โจเซ่ โบซิงวา (อีวาโนวิช - น.80),แฟรงค์ แลมพาร์ด 6.5,มิคาเอล เอสเซียง 6,ฟลอร็องต์ มาลูด้า 5,รามิเรส 6(กาลู 5 น.61),นิโกลาส์ อเนลก้า 6(ตอร์เรส 5 น.61),ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา 7















  3. #33
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    ตอร์เรสเกือบเฮ!เชลซีเนิบๆเฉือนวีแกนเสียว 1-0

    ขอบคุณข่าวจาก www.soccersuck.com
    Quote Originally Posted by ข.เบิ้ล
    ตอร์เรสเกือบเฮ!เชลซีเนิบๆเฉือนวีแกนเสียว 1-0

    เฟร์นานโด ตอร์เรสเกือบเป็นซูเปอร์ซับเบิกประตูแรกในรอบ 10 นัดแต่โชคร้ายติดเซฟสุดท้ายเชลซีเบียดเอาชนะวีแกนหืดปูดคอ 1-0 จากประตูของฟลอร็องต์ มาลูด้าแซงแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาอยู่อันดับ 3 ชั่วคราวแล้ว

    พรีเมียร์ ลีก

    วันเสาร์ที่ 9 เมษายน 2554


    เชลซี 1 - 0 วีแกน

    ประตู : 1-0 ฟลอร็องต์ มาลูด้า น.67


    ครึ่งแรก

    สิงห์บลูส์เครื่องร้อนไว
    เปิดฉากไม่ถึงนาทีมาเชลซีทักทายด้วยการบุกจังหวะแรกทันทีจากการลุยขึ้นมาเองของดร๊อกบาแล้วป้ายมาให้แลมพาร์ดตะบันไม่เต็มข้อบอลมาเข้าทางรามิเรสแบบไม่รู้ตัวทำให้แข้งบราซิลเลี่ยนแปวืดไปอีกราย

    แมลงสาบจ่ายอีกแล้วแต่อัล ฮับซี่ยังหนึบ
    ผ่านมานาทีที่ 9 ดร๊อกบาเจ้าเก่าไหลให้มาลูด้าทีสปีดไปรับบอลแล้วพาบอลหลุดไปดวลเดี่ยวแต่พี่โจ้ยิงไม่คมพอบอลเข้าซองอัล ฮับซี่รับสบาย

    แฟนเริ่มโห่สิงห์ปล่อยบ๊วยครองเกม
    แต่บอลนานไปกลับกลายเป็นวีแกนเริ่มครองเกมกันได้มากกว่าเจ้าถิ่นและนาที 25 โรดาเยก้าได้สับไกในเขตโทษแต่บอลไปแฉลบออกหลังไปหวุดหวิด

    เทพด้ายังไม่คม
    หลังจากปล่อยให้วีแกนได้ครองเกมอยู่พักเดียวเชลซีก็กลับมาโหมบุกอีกครั้งและนาที 38 เชลซีได้โอกาสดีที่สุดเมื่อเช็คเปิดยาวมาจากแดนตัวเองให้ดร๊อกบาโขกเช็ดแล้วมาลูด้าได้หลุดไปซัดจ่อ ๆ แล้วแต่ก็ยังไม่ผ่านมือของอัล ฮับซี่อีก

    สิงห์โหมหนักแต่ไร้ปัญญาเข้าทำ
    ช่วงท้ายครึ่งแรกเชลซีก็ยังโหมบุกเข้าใส่โดยอาศัยมาลูด้า,ดร๊อกบาและอเนลก้าช่วยกันเต็มที่แต่ก็ยังไม่สามารถฝ่าแนวรับวีแกนได้จบครึ่งแรกยังเจ๊ากัน 0-0

    ครึ่งหลัง

    แลมพ์ก็ไม่คมซะนี่
    อันเช่ส่งเบนายูนลงมาเติมมิติในเกมรุกแทนที่มิเกลและในนาที 55 แลมพาร์ดก็ได้โอกาสอดขึ้นมายิงตามถนัดจากลูกเปิดของแอชลี่ย์ โคลแต่บอลก็หลุดออกนอกกรอบไปซะอีก

    ตอร์เรสมาแว้ววววว
    และแล้วเวลาของตอร์เรสก็มาถึงในนาที 59 เมื่ออันเชล็อตติส่งหอกแก้มแดงลงแทนอเนลก้าที่วันนี้เหมือนทำอะไรก็ติด ๆ ขัด ๆ ไปซะหมด

    สิงห์ชักจะบ่มิไก๊
    นาที 62 เชลซีมาใกล้เคียงการได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเมื่อดร็อกบาจัดฟรีคิกแต่อัล ฮับซี่โชว์เทพอีกหนใช้ปลายนิ้วปัดบอลออกไปได้

    นำแล้ววว!มาลูด้าเปิดซิง
    และแล้วประตูที่รอคอยของเหล่าสิงห์บลูส์ก็มาถึงในนาที 67 โดยเป็นมาลูด้าจากการซัดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษเสียบมุมเข้าไปเชลซีได้ประตูที่รอคอยซักที

    วีแกนได้ลุ้น 2 หนติด
    หลังได้ประตูขึ้นนำเชลซีกลับเน้นตั้งรับปล่อยให้วีแกนได้พาบอลขึ้นมาทำเกมกันมากขึ้นนาที 81 ดิยาเม่ลองส่องไกลดูแต่บอลก็แฉลบเข้าซองเช็ครับสบายและถัดมาอีกนาทีเดียวดิซานโต้ได้โขกเหน่ง ๆ อีกทีแต่เช็คก็เซฟไว้ได้ด้วยปลายมือ

    คนมันกดดัน!ตอร์เรสจ่อ ๆ ไม่ได้อีก
    นาที 88 เบนายูนพาบอลโต้กลับขึ้นมาก่อนถวายพานให้ตอร์เรสเพื่อนเก่าแต่อัล ฮับซี่ก็เซฟลูกยิงจ่อ ๆ ของตอร์เรสเอาไว้ได้อีกเล่นเอาตอร์เรสทำหน้างงว่าเฮ้ย!โชคชะตามันเล่นตลกอะไรกับเขานักหนา

    จบเกมเชลซีเก็บ 3 แต้มจากบ๊วยอย่างวีแกนได้แบบหืดขึ้นคอขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3 ชั่วคราวและแต้มตามหลังแมนฯ ยูไนเต็ดจ่าฝูงอยู่ 11 แต้มเท่าเดิม

    รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

    เชลซี :
    ปีเตอร์ เช็ค, เปาโล แฟร์เรยร่า(อเล็กซ์ น.75), แอชลี่ย์ โคล, ดาวิด ลูอิซ , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น โอบี มิเกล(เบนายูน น.46), แฟร้งค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, ดิดิเยร์ ดร๊อกบา, นิโกล่าส์ อเนลก้า(ตอร์เรส น.59)

    วีแกน : อาลี อัล ฮับซี่, ไมเนอร์ ฟิเกรัว, เอ็มเมอร์สัน บอยซ์ , อันโตลิน อัลคาเรซ, แกรี่ คัลด์เวลล์, เบน วัตสัน, โมฮาเหม็ด ดิยาเม่(โมเสส น.85 ), เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, ฮูโก้ โรดาเยก้า(แซมมอน น.62), ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย(ดิ ซานโต้ น.62)

















  4. #34
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    ตอร์เรสยิง.......เก้อ!เชลซีเก็บส้มทะลวงไส้มวยโลก 3-1

    ขอบคุณข่าวจาก www.soccersuck.com/ss
    Quote Originally Posted by Zaine_R
    ตอร์เรสยิง.......เก้อ!เชลซีเก็บส้มทะลวงไส้มวยโลก 3-1

    คาร์โล่ อันเชล็อตติกุนซือเก้าอี้ร้อนรอดตายไปอีกมื้อหลังทำท่าเน่าถูกเวสต์บรอมวิชยิงนำไก่โห่แต่เชลซีทยอยเก็บส้มพลิกแซงเอาชนะเบาๆ 3-1 รั้งอันดับ 3 ตามแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจ่าฝูงเหลือ 8 แต้มแถมเฟร์นานโด ตอร์เรสตัวสำรองยิงตุงตาข่ายแต่ดันล้ำหน้านิดเดียวทำให้เว็บไซต์เคาท์ดาว์นประตูแรกยังคงเปิดให้บริการต่อไป

    พรีเมียร์ ลีก

    วันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2554


    เวสต์บรอมวิช 1 : 3 เชลซี

    ประตู :
    1-0 ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ น.17,1-1 ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา น.22,1-2 ซาโลมอง กาลู น.26,1-3 แฟรงค์ แลมพาร์ด น.45

    เวสต์บรอมวิชเจ้าบ้านถือว่าฟอร์มแจ่มมากเลยทีเดียวเชียว เมื่อยังไม่แพ้ใครเลยนับตั้งแต่รอย ฮอดจ์สันเข้ามากุมบังเหียน แถมยังได้เล่นในบ้านแบบนี้เชลซีประมาทไม่ได้เลย

    คาร์โล อันเชล็อตติกุนซือคางทูมของเชลซีวันนี้ตัดใจดร็อปเฟร์นานโด ตอร์เรสและส่งดิดิเย่ร์ ดร็อกบาลงเป็นหน้าเป้าขนาบด้วยฟลอร็องต์ มาลูด้าและซาโลมอง กาลู โดยมีแฟรงค์ แลมพาร์ดคอยบัญชาเกมในแดนกลาง

    ครึ่งแรก

    มวยโลกไม่มีกลัว
    ช่วง 5 นาทีแรก เวสต์บรอมวิชไม่มีกลัวชื่อชั้นของเชลซีแต่อย่างใด เปิดเกมแลกเดินหน้าใส่ได้อย่างถึงใจ แถมยังได้ลุ้นเสียวอีกด้วยจากจังหวะส้มหล่นของบรันท์ แต่ลูกยิงไปติดขาของลูอิซซะก่อน

    สิงห์อึดอัด
    เกมของเชลซีในช่วงต้นนี้ดูเหมือนว่าจะอึดอัดกันพอสมควร เพราะต่อบอลกันไม่ค่อยถนัดเท่าไรในพื้นที่สุดท้ายเพราะวันนี้เวสต์บรอมวิชยืนกันค่อนข้างดีในแนวรับ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเวลาเติมเกมบุกกันจนเผลอลอยสูงจนโดนเชลซีเล่นงานหรือไม่

    กาลูน่าผิดหวัง
    นาทีที่ 13 กาลูยังคงหาฟอร์มเก่งของตัวเองไม่ได้ ทั้งๆที่เพื่อนจ่ายบอลถวายพานให้สุดๆทะลุช่องหลุดเข้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา แต่เจ้าตัวกลับซัดเบิร์ดหลุดข้ามคานไปไกล เสียของเลยทีเดียว

    สิงห์ช็อกแล้วไง!โดนก่อนแล้ว
    นาทีที่ 17 จากการต่อบอลบวกได้โชคของเวสต์บรอมวิชรวมทั้งความผิดพลาดของคู่เซ็นเตอร์ของเชลซี ทำให้เวสต์บรอมวิชได้ประตูขึ้นนำไปก่อนแล้ว จากจังหวะที่สกัดบอลกันไม่ขาดจนโธมัสป้ายให้โอเด็มวิงกี้วิ่งหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับทางเช็ก ก่อนที่จะโชว์ความเหยือกเย็นชิพบอลข้ามหัวเช็กที่หมายพุ่งออกมาบล็อกเข้าประตูไปอย่างสวยงาม เจ้าบ้านชิงนำไปแล้ว 1-0

    มวยโลกพลาดบ้าง!แมลงสาบยิงโชว์ฮ่ะ
    นาทีที่ 22 ความผิดพลาดของคาร์สัน+ความอะไรก็ไม่รู้ของชอรี่ย์ที่เสียดายบอลแบบผิดๆเป็นเหตุให้เชลซีตามตีเสมอได้เร็วจัด จากจังหวะทำเกมกันขึ้นไปทางซ้าย เปิดเลียดผ่านเข้ากลาง คาร์สันอ่านระยะบอลออกไปตัดพลาด ชอรี่ย์ที่วิ่งตามไปเสาสองแทนที่จะเตะออกหลัง ดันสกัดกลับเข้ามาข้างใน บอลเลยไปเข้าทางดร็อกบาที่ยิงอัดสวนเข้าไปตุงตาข่ายไม่มีเหลือ เชลซีตีเสมอเป็น 1-1 แล้ว

    คาร์สัน....ทำอะไร
    อีก 4 นาทีต่อมา ความผิดพลาดของคาร์สันเป็นเหตุให้ทีมโดนประตูยิงแซงขึ้นนำไปจนได้ จากจังหวะที่ดร็อกบาง้วนหาจังหวะยิงนอกกรอบ ก่อนที่จะซัดมาแบบฝืนๆ บอลพุ่งเลียดไม่แรงเท่าไรและหากเช็คดีๆบอลน่าจะหลุดวิถีออกนอกกรอบไปแล้ว แต่คาร์สันดันพุ่งสุดเหยียดปัด แถมยังปัดไม่ดีบอลไปเข้าทางของกาลูที่วิ่งมาจับบอลก่อนแปเน้นๆใสๆเข้าเสาสองไปไม่มีเหลือ เชลซีได้เฮแล้ว 2-1

    ตอนนี้ดูเหมือนว่าเวสต์บรอมวิชจะเสียกระบวนกันไปเลยและดูว่าจะปรับทัพให้มีสมาธิกันได้เมื่อไร ไม่งั้นงานนี้มีไหลเหมือนช่วงต้นฤดูกาลแน่

    เกมสวนทางกันชัดเจน
    เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม ตอนนี้ทุกอย่างกลับไปกันหมดจากเมื่อช่วงต้นเกม เพราะเชลซีเล่นอย่างมั่นใจและดีขึ้นมาทันตาเมื่อได้ประตูขึ้นนำ ส่วนเวสต์บรอมก็ดูจะช๊อตไปพอสมควร ทำอะไรแทบไม่ได้เลยในตอนนี้

    เด็ดขาด!แลมพ์ยิงไม่เหลือ
    นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกพอดิบพอดี ความเด็ดขาดอย่างสุดยอดในเกมสวนกลับของเชลซีส่งให้พวกเขาได้ประตูนำห่างจนได้ จากจังหวะที่ดร็อกบาลงต่ำไปเอาบอล ก่อนที่จะแทงให้มาลูด้าวิ่งหลุดขึ้นทางทางริมเส้นฝั่งซ้าย จี้ถึงสุดสเน้แล้วจ่ายตัดบอลให้กับแลมพาร์ดได้อัดเข้าไปเต็มตีนบอลพุ่งเสียบเสาแรกสวยงามสุดๆ เชลซีทิ้ง 3-1

    จบครึ่งแรกเป็นเชลซีที่พลิกขึ้นมานำเป็น 3-1 ได้สำเร็จ

    ครึ่งหลัง

    มวยโลกยังไม่ดีขึ้น
    ลงมาเล่นกันในครึ่งหลังนั้นเกมของทั้งสองทีมทรงบอลยังคล้ายๆในช่วงท้ายครึ่งแรกที่เป็นเชลซีได้โอกาสครองบอลค่อนข้างมากกว่าอยู่ ส่วนเวส์บรอมจะหนักไปทางหาจังหวะพยายามฉาบฉวยเอาเท่านั้น

    กาลูปลายเส้นผม
    นาทีที่ 58 เชลซีเกือบที่จะได้ประตูทิ้งห่างไปไกล จากจังหวะที่เอสเซียงจ่ายบอลให้ดร็อกบาที่ดีดจังหหวะแรกสวยงามเข้าไปในกรอบเขตโทษ แลมพาร์ดพุ่งตัวขึ้นโหม่งไม่โดน เป็นกาลูที่พยายามจะบินสุดตัวเหมือนตอร์ปิโดเต็มหัว แต่โดนแค่ปลายเส้นผมทรงโมฮอกเท่านั้น พลาดโอกาสทองกันไป

    โคตรเสียว!กาลูยิงแฉลบติดคาน
    อีก 3 นาทีต่อมา เป็นกาลูคนเดิมที่ได้โอกาสลุ้นอีกยิงยัดใส่กองหลังของเวสต์บรอมบอลแฉลบปลิ้นข้ามหัวของคาร์สันเหมือนจะหายแล้วแน่ๆ แต่กลับไปขนคาน แม้แลมพาร์ดจะพยายามตามซ้ำก็ถูกเบียดสกัดออกไปก่อน เชลซีบี้หนักแล้วจริงๆ

    มวยโลกพยายามเร่งเครื่อง
    ตอนนี้ทางเจ้าบ้านเวสต์บรอมไม่มีทางเลือกมากนอกจากการที่ต้องขยับระดับการเล่นของพวกเขาให้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่งั้นก็เล่นรอแพ้กันอย่างเดียวเท่านั้นในตอนนี้ แต่เกมสวนกลับของเชลซีเองก็ประมาทไม่ได้ เพราะในแนวรุกมีแต่ตัวเด็ดๆกันทั้งนั้น

    ทาถูเปลี่ยนตัวด่วน
    นาทีที่ 73 เวสต์บรอมเปลี่ยนเอามอร์ริสันและชาร์เนอร์ออกไปก่อนที่จะส่งฆาร่าและเวล่าดาวเตะจากอาร์เซนอลลงไปในสนามเพื่อลุ้นทวงประตูคืนให้ได้ในช่วงเวลาที่เหลือ

    สิงห์เอามั่งถอดแลมพ์ส่งยูน
    อีก 4 นาทีต่อมา เชลซีปรับทัพกันบ้างโดยการถอดเอาแลมพาร์ดที่ทำประตูในเกมนี้ได้ด้วยออกไปพักที่ข้างสนามและส่งเบนายูนลงไปเล่นแทน ต้องดูว่าเกมนี้ตอร์เรสจะมีโอกาสได้ลงมาลุ้นทำประตูกับเพื่อนๆหรือไม่

    คาร์สันโชว์เซฟแก้มือ
    นาทีที่ 79 เชลซียังคงไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้แต่อย่างใด แม้จะได้ลุ้นจากจังหวะที่บอลเลยไปเข้าทางของมาลูด้าทางกรอบเขตโทษฝั่งขวา แม้มุมแต่น้อยแต่พี่แกก็ยิงยัดดื้อๆ คาร์สันปัดเอาไว้ได้ในจังหวะแรกก่อนจะตามไปตะครุบสำเร็จไม่มีพลาด

    ตอร์เรสลงมาลุ้นแล้ว
    อีก 3 นาทีต่อมา ในที่สุดตอร์เรสก็ได้โอกาสลงมาลุ้นทำประตูบ้างแล้ว แม้ว่าจะเหลือเวลาอยู่ไม่ถึง 10 นาทีก็ตาม โดยเชลซีเปลี่ยนเขาแทนดร็อกบา

    กรรมบัง!?ตอร์เรสยิงเข้าแต่ไม่ได้
    นาทีที่ 84 นึกว่าจะได้ปลดล็อคกันเสียแล้วสำหรับตอร์เรสที่อุตส่าห์วิ่งไปรับบอลจากเพื่อนแล้วกระชากไปแปบอลเข้าประตูไปได้สบายแฮ แต่ผู้ตัดสินเป่าว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปเสียก่อน ซึ่งดูจากภาพช้าแล้วก็เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น

    เช็กหนึบหนับ!
    นาทีที่ 88 เวสต์บรอมน่าจะได้ประตูตีตื้นขึ้นมาอย่างแรง จากจังหวะที่อุตส่าห์วิ่งหลุดกันขึ้นไปทางซ้ายแล้วได้ตักบอลเข้าในกรอบเขตโทษให้บรันท์วิ่งมาพุ่งโหม่งเต็มๆ แต่โหม่งไม่ดีเข้ากลางประตูไปนิด เช็กล้มตัวเซฟเอาไว้ได้หนึบคามือ ถือเป็นการโชว์ไปเลย

    โคตรปั้นแต่ตอร์เรสวืด
    ช่วงทดเวลาเพื่อนอุตส่าห์พร้อมใจกันปั้นตอร์เรสแบบเต็มที่ ด้วยการเล่นฟรีคิกลูกสูตรไหลใส่พานมาให้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่หัวหอกค่าตัว 50 ล้านปอนด์กลับยิงวืดหน้าตาเฉย

    จบเกมเชลซีพลิกกลับมาเอาชนะเวสต์บรอมวิชพร้อมยัดเหยียดความปราชัยนัดแรกภายใต้การคุมทีมของรอย ฮอดจ์สันไปได้ 3-1

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    เวสต์บรอมวิช :
    สก็อตต์ คาร์สัน 5.5,โจนาส โอลส์สัน 6,อับดุลลาย เมเต้ 4.5,นิคกี้ ชอรี่ย์ 5,สตีเว่น รีด 5,ยุสซุฟ มูลุมบู 6.5,พอล ชาร์เนอร์ 5(ชาร์เนอร์ 6 น.73),คริส บรันท์ 7,เจอโรม โธมัส 6.5(โชยี่ 6 น.82),เจมส์ มอร์ริสัน 5.5(เวล่า 6 น.73),ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ 7

    เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก 6,จอห์น เทอร์รี่ 6.5,ดาวิด ลูอิซ 6.5,แอชลี่ย์ โคล 7,บรานิลาฟ อิวาโนวิช 6(โบซิงวา 6 น.63),จอห์น โอบี มิเกล 7.5,แฟรงค์ แลมพาร์ด 7.5(เบนายูน 6 น.77),มิคาเอล เอสเซียง 7.5,ฟลอร็องต์ มาลูด้า 8,ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา 9*(ตอร์เรส 6 น.82),ซาโลมอง กาลู 8





















  5. #35
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    ม้ามืด!มาลูด้าเหมาสองสิงห์ตบลูกโลก 3-1 ขึ้นรองฝูง

    ขอบคุณที่มาจาก www.soccersuck.com/ss
    Quote Originally Posted by Zaine_R
    ม้ามืด!มาลูด้าเหมาสองสิงห์ตบลูกโลก 3-1 ขึ้นรองฝูง

    งานนี้ไม่ได้เจองานยากเย็นแต่อย่างใดสำหรับเชลซีเมื่อเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ไล่ยิงเบอร์มิงแฮมไป 3-1 โดยเป็นฟลอร็องต์ มาลูด้าเหมาคนเดียวสองประตูช่วยให้ทีมเก็บสามคะแนนได้แบบไม่มีปัญหา แซงขึ้นที่สองไล่จี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจ่าฝูงเหลือ 6 แต้มเข้าให้แล้ว

    พรีเมียร์ ลีก

    วันอังพุธที่ 20 เมษายน 2554


    เชลซี 3 : 1 เบอร์มิงแฮม

    ประตู :
    1-0 ฟลอร็องต์ มาลูด้า น.3,2-0 ซาโลมอง กาลู น.26,3-0 ฟลอร็องต์ มาลูด้า น.62,3-1 เซบาสเตียน ลาร์สัน(จุดโทษ) น.77

    ครึ่งแรก

    อ่ะโหคุณ...จะเร็วไปไหน
    เพียงแค่ 3 นาทีแรกเท่านั้น เชลซีก็มาได้ประตูขึ้นนำ หลังจากเริ่มต้นได้อย่างคึกคักแล้วก็เป็นจังหวะที่แฟร์เรน่าโยนบอลเข้ากรอบเขตโทษให้ดร็อกบาได้โฉบไปโหม่งเสยที่เสาแรก ก่อนที่มาลูด้าจะพุ่งชาร์จจ่อๆไม่มีเหลือ เชลซีนำเร็วเวอร์ 1-0

    สิงห์บี้ใส่เลย
    หลังจากได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว ทีมอย่างเชลซีรึจะให้โอกาสหลุดลอยไป จัดการบุกใส่เบอร์มิงแฮมแบบไม่หยุดยั้ง ก่อนที่ีจะมาได้เสียวจากจังหวะของแลมพาร์ดที่ซัดนอกกรอบเขตโทษเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนได้ แต่ก็หลุดเสาออกหลังไปในนาทีที่ 12

    ลูกโลกขอมีลุ้นบ้าง
    ใช่ว่าจะยอมให้โดนบี้ฝ่ายเดียวเมื่อเบอร์มิงแฮมได้โอกาสลุ้นไปบ้าง จากจังหวะที่เจอโรมได้โอกาสส่องในกรอบเขตโทษด้วยเท้าซ็าย แต่ก็ติดเซฟของทางเช็กไป ทำให้ต้องลุ้นกันอีกยาวๆ หากหวังประตูตีเสมอในเกมนี้

    จนได้!กาลูบันดาลประตูสอง
    นาทีที่ 26 เพียงแค่ไม่กี่นาที หลังจากที่เบอร์มิงแฮมได้โอกาสลุ้น เชลซีก็มาทำประตูนำห่างไปจนได้ จากจังหวะที่กาลูได้บอลนอกกรอบเขตโทษ เลี้ยงตัดจี้หลบกองหลังไปแล้วจัดการซัดทันทีไม่ให้ทั้งกองหลังและฟอสเตอร์ตั้งตัวบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปงดงาม เชลซีทิ้ง 2-0 งานนี้ไม่น่าจะมีปัญหาแล้ว แม้จะเพิ่งต้นเกมก็ตาม

    เกมเริ่มได้ลุ้นกันหมด
    แม้ว่าจะโดนลูกสองเข้าไป แต่เบอร์มิงแฮมเองก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะถอดใจแต่อย่างใด พยายามที่จะทำเกมรุกบุกใส่เช่นเดียวกัน ทำให้ตอนนี้เกมค่อนข้างจะแลกกันพอสมควร เพราะเชลซีเองก็เรื่อยๆบุกมาก็พร้อมสวนให้ได้เจ็บอยู่เนืองๆ

    สิงห์กดดันหนัก
    ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกนั้น เชลซีได้โอกาสจากทั้งเอสเซ๊ยงและดร็อกบาที่ได้ส่องกันไปคนละที แต่เหมือนยังปรับจูนเรดาห์กันไม่ดี ทำให้บอลไม่ตรงกรอบทั้งสองจังหวะ

    ช่วงท้ายครึ่งแรกก็ยังเป็นทางเชลซีที่ได้โอกาสลุ้นเสียวนิดๆหน่อย แต่ก็ไม่เป็นผลอะไร ทำให้จบครึ่งแรกยังคงนำอยู่ 2-0

    ครึ่งหลัง

    ได้ลุ้นกันหมด
    ผ่านช่วง 10 นาทีของครึ่งหลังไปนั้น ทั้งสองทีมถือว่าได้โอกาสลุ้นแบบไม่แพ้กัน แต่ไอีหรอบนี้นั้นน่าจะไปเข้าทางเชลซีมากกว่าเพราะว่าได้ลุ้นต่อเนื่องจากครึ่งแรก แถมยังมีประตูขึ้นนำตุนถึงสองลูกด้วย

    สิงห์เปลี่ยนโคลคล้ำ
    นาทีที่ 57 เชลซีเปลี่ยนเอาเบอร์ทรานด์ลงเล่นไปแทนโคล ซึ่งต้องดูว่าผู้เล่นรายนี้จะทำได้ดีแค่ไหน แต่ด้วยสกอร์ที่ถือว่านำอยู่ห่างทำให้ความกดดันไม่น่าจะมีมากสักเท่าไร

    จนได้!มาลูด้าโหม่งหาย
    นาทีที่ 62 เหมือนเกมนี้จะขาดไปเสียแล้ว เมื่อเชลซีมาได้ประตูที่ 3 จากจังหวะที่ดร็อกบาพิงบอลแล้วป้ายให้เพื่อนที่เติมขึ้นไปทางริมเส้นวิ่งมาโยนยาวเข้ากลางให้กับมาลูด้าได้โหม่งสะบัดเน้นๆเข้าประตูไปไม่มีเหลือ

    ตอร์เรสลงสนาม
    นาทีที่ 67 เชลซีเปลี่ยนเอาตอร์เรสลงไปเล่นแทนกาลูและอเนลก้าเล่นแทนมาลูด้า เรียกได้เลยว่าเปลี่ยนเอาผู้ทำประตูทั้งสองคนในเกมนี้ออกไป ซึ่งต้องลุ้นว่าตอร์เรสจะทำประตูได้หรือไม่ในเกมนี้

    สิงห์ยังไปได้เรื่อย
    ตอนนี้เกมของเชลซียังคงครองไปได้เรื่อยๆแบบไม่มีอะไร เพราะเกมค่อนข้างจะขาดและเบอร์มิงแฮมเองก็ตอบโต้ได้ยากด้วย งานนี้คงลุ้นเหนื่อยแน่สำหรับทีมเยือน

    อ้าว!สิงห์เสียจุดโทษ+ลูกโลกตีไข่แตก
    นาทีที่ 77 ลูอิซไปทำผิดพลาดเล็กน้อยเมื่อไปเข้าสกัดดาร์บี้เชียร์จนผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษ แต่มีจุดให้สังเกตกันนิดหน่อยเพราะลาร์สันกับการ์ดเนอร์ไปเกี่ยงกันว่าใครจะเป็นคนสังหาร ก่อนที่จะเป็นลาร์สันที่ซัดเข้าไปแบบเฉียบขาด เบอร์มิงแฮมอัดไข่แตกมาเป็น 3-1 แล้ว

    ลูกโลกยังพยายามต่อ
    หลังจากได้ประตูตีไข่แตกขึ้นมาทางเบอร์มิงแฮมก็ยังคงไม่ละความพยายามที่จะลุยเพื่อลุ้นทวงคืนประตูต่อไป แต่ก็ยังไม่มีอะไรมาก โดยเฉพาะจังหวะของดาร์บี้เชียร์ที่อุตส่าห์ฉกบอลจากกลางสนามไปได้แล้ว แต่กลับใจร้อนรีบยิงจนเช็กยืนดูชิลๆไป

    ตอร์เรสเป็นเซ็งๆ
    พอโดนเปลี่ยนตัวลงไปในสนาม ตอร์เรสเองแทบจะยังไม่ได้โอกาสได้ง้างเท้าลุ้นประตูอะไรกับเพื่อนเขาเลย ทำให้เจ้าตัวดูเหมือนจะเซ็งไม่น้อย

    ช่วงท้ายทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ สรุปแล้วเป็นเชลซีที่เอาชนะเบอร์มิงแฮมไปได้ 3-1 ส่งให้พวกเขาแซงอาร์เซนอลขึ้นไปเป็นอันดับที่สองแม้ว่าจะมี 64 คะแนนเท่านั้น แต่ลูกได้เสียนั้นดีกว่า ไล่จี้แมนฯยูไนเต็ดจ่าฝูงเหลือ 6 แต้มแล้ว

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    เชลซี :
    ปีเตอร์ เช็ก 7,จอห์น เทอร์รี่ 7.5,ดาวิด ลูอิซ 7.5,แอชลี่ย์ โคล 7(เบอร์ทรานด์ 7 น.57),เปาโล แฟร์เรร่า 7.5,จอห์น โอบี มิเกล,แฟรงค์ แลมพาร์ด 6.5,ฟลอร็องต์ มาลูด้า 7.5(อเนลก้า 6.5 น.67),มิคาเอล เอสเซียง 6.5,ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา 8,ซาโลมอง กาลู 7.5(ตอร์เรส 5.5 น.67)

    เบอร์มิงแฮม : เบน ฟอสเตอร์ 5.5,เลียม ริดจ์เวลล์ 5,โรเจอร์ จอห์นสัน 5.5,สจ๊วร์ต พาร์นาบี้ 6(เดวิส 5.5 น.80),สตีเฟ่น คาร์ 6,เคร็ก การ์ดเนอร์ 6,แบร์รี่ เฟอร์กูสัน 5,คีธ ฟาฮีย์ 5.5,เซบาสเตียน ลาร์สัน 6,คาเมร่อน เจอโรม 6.5(ดาร์บี้เชียร์ 5.5 น.70),อเล็กซานเดอร์ คเล็บ 5.5(เบนท์ลี่ย์ 5 น.70)



















  6. #36
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    เลิกด่ากู!ตอร์เรสลุยฝนปลดล็อก"สาก"เชลซีกระฉูด 3-0

    ขอบคุณข่าวจาก www.soccersuck.com/ss
    Quote Originally Posted by Zaine_R
    เลิกด่ากู!ตอร์เรสลุยฝนปลดล็อก"สาก"เชลซีกระฉูด 3-0

    เฟร์นานโด ตอร์เรสยุติชีวิต ณ ห้องครัวในฐานะสากกะเบืออย่างเป็นทางการแล้วหลังลงมาท้ายเกมยิงประตูย้ำชัยให้เชลซีเอาชนะเวสต์แฮม 3-0 ลบฝันร้ายไร้สกอร์ไว้ที่ 14 นัด 730 นาทีพร้อมขยับไล่แมนฯยูไนเต็ดเหลือ 6 แต้มเท่าเดิม

    พรีเมียร์ ลีก

    วันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2554


    เชลซี 3 : 0 เวสต์แฮม

    ประตู :
    1-0 แฟรงค์ แลมพาร์ด น.44,2-0 เฟร์นานโด ตอร์เรส น.84,3-0 ฟลอร็องต์ มาลูด้า น.90+3

    เกมนี้เป็นการพบกันระหว่างสองทีมที่มีเป้าหมายแตกต่างกันอย่างชัดเจน เชลซีนั้นต้องการสามแต้มเพื่อไล่จี้ตามแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจ่าฝูงให้เหลือ 6 คะแนนเท่าเดิม ส่วนเวสต์แฮมต้องการแต้มตุนเอาไว้เพื่อหนีตกชั้นในฤดูกาลนี้ให้จงได้

    คาร์โล อันเชล็อตติเลือกใช้ดิดิเย่ร์ ดร็อกบาในแดนหน้าโดยมีซาโลมอง กาลูและฟลอร็องต์ มาลูด้าขนาบข้าง ผิดกับข่าวที่ออกมาตอนแรกว่าอาจจะส่งเฟร์นานโด ตอร์เรสลงเป็นตัวจริง

    สภาพอากาศวันนี้สุดโหดไปเลยเพราะฝนลงเม็ดค่อนข้างแรงและหนักพอดู คงต้องดูว่าจะส่งผลกับเกมของทั้งสองทีมหรือไม่

    และสุดท้ายเป็นที่รู้กันว่าก่อนเกมเวย์น บริดจ์และจอห์น เทอร์รี่ก็ไม่ได้จับมือกันแต่อย่างใด งานนี้คงไม่มีวันญาติดีกันแน่ๆ

    ครึ่งแรก

    มาลูด้าพลาดโอกาสโคตรทองคำ
    เล่นมาแค่ 2 นาที เชลซีเกือบจะได้ประตูนำเร็วแบบนัดก่อนอีกแล้ว จากจังหวะที่มาลูด้าวิ่งทะลุเข้าไปดวลเดี่ยวกับทางกรียนได้แล้ว แต่ปีกโมฮ็อกตัดสินใจไม่ดีแปไปติดบล็อกของกรีนที่พุ่งออกมา ทำให้อันเชล็อตติที่ยืนลุ้นอยู่ถึงกับหงุดหงิดเลยทีเดียวว่าทำไมถึงยิงไม่เข้า

    สิงห์มาวันเวย์
    ผ่านช่วง 15 นาทีแรกไป เห้นแต่เสื้อสีน้ำเงินของเชลซีถ่ายบอลกันไปมา โดยที่เวสต์แฮมต้องเน้นไปที่เกมรับแพ็คให้เน้นแล้วพยายามโต้อย่างเดียว ซึ่งเชลซีเองแม้จะได้ครองบอลเยอะ แต่จังหวะยิงก็ไม่ได้จะแจ้งอะไรมาก เว้นแต่จังหวะหลุดเดี่ยวในตอนแรกของมาลูด้าเท่านั้น

    สวนทีค้อนก็ได้เสียวนะตัวเธอ
    นาทีที่ 23 แม้ว่าจะไม่ค่อยได้มีโอกาสอะไรมากนัก เพราะโดนทางเชลซีบุกกดดันอยู่ซะเยอะ แต่พอเวสต์แฮมได้สวนก็ลุ้นเสียวเหมือนกัน จากจังหวะที่เด็มบา บาจัดการตะบันนอกกรอบเขตโทษ แม้ว่าจะไกลแต่บอลพุ่งแรงแถมตรงกรอบ ทำให้เช็กต้องผวาปัดบอลเหินข้ามคานออกไป

    เกือบโคตร!เช็กอย่างเซฟ
    อีก 3 นาทีต่อมา เวสต์แฮมน่าจะได้ประตูขึ้นนำสุดๆ จากจังหวะที่เซียส์ตะลุยขึ้นไปทางริมเส้น ก่อนที่จะโยนบอลยาวไปเสาสองให้กับสเป็คเตอร์ที่สอดขึ้นมาแบบไม่ให้ใครรู้พุ่งตัวลงโหม่งบอลกำลังจะเสียบเสาแรก แต่เช็กยังไวสุดๆล้มตัวปัดทิ้งไปได้ทัน

    อีกดอก!ค้อนได้ลุ้นอีกเฉย
    นาทีที่ 31 แม้ว่าจะบุกได้น้อยกว่าทางเชลซีมาก แต่เวสต์แฮมกลับมีจังหวะเสียวให้ได้ลุ้นเฉย จากลูกเปิดเตะมุมที่บอลเลยไปเสาสองแล้วเซียร์สหมุนตัวดีดลูกส้นบอลกำลังจะข้ามเส้นแล้ว แต่ก็เป็นเช็กเจ้าเก่าคนเดิมที่ล้มตัวลงปัดได้เฉียดฉิว หรือว่าเกมนี้อาจจะมีการพลิกล็อกเกิดขึ้นซะแล้ว

    สิงห์เหมือนกดดันเอง
    เล่นไปเล่นมาเหมือนกับว่าตอนนี้เชลซีจะติดๆขัดๆกันไปเอง เพราะพวกเขาได้ครองบอลบุกเยอะก็จริง แต่จังหวะจบนั้นไม่ได้น้ำได้เนื้อเท่ากับทางเวสต์แฮมที่หาได้แต่โอกาสสวนกลับเท่านั้น

    ลูอิซน็อกกลางอากาศแต่ยังแกร่ง
    นาทีที่ 41 ลูอิซถึงกับน็อกกลางอากาศไปเลย จากจังหวะที่เข้าปะทะกันเองกับเช็กที่จะพุ่งออกมาชกบอลแต่ท่อนแขนไปฟาดเอาหัวของลูอิซหงายตึงลงพื้น แต่สักพักเจ้าตัวก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อได้ แข็งแกร่งจริงๆ

    เต็มตีนของจริง!แลมพาร์ดทะลวงไส้หาย
    อีก 3 นาทีต่อมา ในที่สุดเชลซีก็พังประตูเวสต์แฮมได้เสียทีหลังจากพยายามอยู่นาน จากจังหวะที่ดร็อกบาจ่ายทะลุช่องให้กับโคลควบไปจ่ายย้อนตัดกลับไปให้แลมพาร์ดที่สอดขึ้นมากลางกรอบเขตโทษ ยิงด้วยขวาแบบเต็มตีนเสียจริงๆ บอลพุ่งผ่านมือของกรีนที่ยื่นให้ตายก็รับไม่ทันเข้าไปตุงตาข่าย ทำให้ตอนนี้เชลซีขึ้นนำได้แล้ว 1-0

    จบ 45 นาทีแรก แม้ว่าจะเกือบโดนเวสต์แฮมส่องไปหลายดอก แต่เชลซีก็เข้าไปพักครึ่งด้วยสกอร์นำ 1-0 ได้สำเร็จ

    ครึ่งหลัง

    อูย!กาลูแปไม่ดี
    นาทีที่ 51 เชลซีน่าจะได้ลุ้นประตูนำห่างจริงๆ จากจังหวะที่ดร็อกบาหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่จะโยนยาวไปอีกฟากให้กับมาลูด้าที่แปบอลย้อนกลับให้กาลูตั้งป้อมยืนแปเน้นๆ แต่กลับยิงหลุดเสาออกไปซะนี่ น่าเสียดายแท้

    สนามเจิงน้ำน่าดู
    สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์วันนี้ถึงกับระบายน้ำจากฝนที่กระหน่ำตกลงมาไม่ไหว ทำให้ในบางจุดมีน้ำขังและอาจจะทำให้จังหวะบอลเพี้ยนไปได้บ้าง นักเตะในสนามเองต้องพยายามระวังให้ดี

    เอสเซียงไม่ไหวต้องส่งยูนลงแทน
    นาทีที่ 57 เชลซีต้องเปลี่ยนเอาเอสเซียงที่มีอาการบาดเจ็บที่เข่าออกไปและส่งเบนายูนลงมาปะทะกับต้นสังกัดเก่าของเขา ซึ่งน่าจะขยับให้โอบี มิเกลไปเล่นในตำแหน่งของเอสเซียงแทน

    ค้อนขอสู้ส่งคีนแทนโนเบิ้ล
    งานนี้เวสต์แฮมไม่ยอมแพ้ง่ายๆ อีก 2 นาทีต่อมา ส่งคีนลงไปเล่นแทนโนเบิ้ลเพื่อเพิ่มความคมในแดนหน้าให้มากขึ้นไปอีก

    หลังค้อนชักจะหลวมๆ
    ตอนนี้กองหลังของเวสต์แฮมดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีสมาธิกันสักเท่าไร ปล่อยให้แลมพาร์ดหลุดเข้าไปทียังดีที่จังหวะไม่ตรงและอีกครั้งที่สกัดกันไม่ขาดทำให้มาลูด้ามีโอกาสได้ซัดเหน่งๆทางเสาแรก ยังดีที่ยิงแป้กๆออกไปเพราะฝืนอัดด้วยเท้าขวาข้างไม่ถนัด

    แลกกันคนละหมัดหนักๆ!
    นาทีที่ 68 จังหวะนี้แลกกันให้ได้ลุ้นหนักๆไปข้างเลย เริ่มจากเชลซีก่อนที่ได้เสียวสุดๆจากลูกยิงนอกกรอบเขตโทษของลูอิซที่ตะบันบอละุ่งโค้งโด่งแล้วฮุคปลายเหมือนจะเสียบใต้คานชนิดที่กรีนได้แต่ทำใจแล้ว แต่บอลก็ไปชนคานเข้าอย่างจัง

    เวสต์แฮมเลยจัดการสวนขึ้นไปเหมือนเดมบา บาจะไม่ยอมขออัดจากนอกกรอบเขตโทษบ้าง บอลแรงได้ใจส่ายนิดๆจนทำให้เช็กต้องผวาทุบออกมา แม้คีนจะตามเก็บตกแล้วได้ยิงแต่ก็ตรงตัวเช็กไปอีก

    คีนพลาดได้ยังไง!
    นาทีที่ 74 คีนพลาดโอกาสทองที่หาได้ไม่มากเลยสำหรับการเจอกับเชลซี เมื่อสเป็คเตอร์จ่ายบอลทะลุช่องให้เขาควบผ่านช่องโหว่ของแนวรับเชลซีเข้าไปตะบันจังหวะแรกในกรอบเขตโทษคนเดียว แต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดายสุดๆ เจ้าตัวถึงกับเซ็งตัวเองเลยทีเดียว

    เขามาแล้ว!ตอร์เรสลงสนาม
    อีก 2 นาทีต่อมา เชลซีเปลี่ยนเอาตอร์เรสที่กำลังลุ้นทำประตูให้ได้อยู่ลงสนามไปแทนดร็อกบา ต้องมาดูกันว่าตอร์เรสจะสามารถทำประตูที่เขาหวังเอาไว้ได้หรือไม่ในเกมนี้

    แก็บบิดอนช่วยชีวิตค้อน
    นาทีที่ 79 อเนลก้าน่าจะทำประตูเรียกความมั่นใจของเขาเองกลับคืนมาได้พร้อมฝังเวสต์แฮมจริงๆ จากจังหวะที่ตอร์เรสล้มตัวจ่ายบอลถวายพานไปให้กับเขาทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายยืนยิงโล่งๆคนเดียว บอลพุ่งผ่านกรีนมุ่งหน้าหาประตูแน่แล้ว แต่เป็นแก็บบิดอนที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนโหม่งสกัดไว้อย่างแม่นยำสุดๆ เซฟโคตร

    ฝันที่เป็นจริง!ตอร์เรสพังประตูแล้วโว้ยยยยยย
    นาทีที่ 84 เป็นช่วงเวลาที่แฟนบอลเชลซีและตอร์เรสเองต้องจดจำไปอีกนาน เพราะเขาปลดล็อกทำพังประตูให้กับเชลซีได้สำเร็จ จากจังหวะที่อเนลก้าจ่ายบอลลอดขาให้เขาวิ่งทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษ แม้ว่าจังหวะแรกจะผิดไปนิด แต่ก็ยังกลับตัวยิงผ่านกองหลังของมือของกรีนเข้าไปเสียบเสาอย่างสวยงาม เจ้าตัววิ่งแหกปากดีใจจนไม่ต้องบรรยายถึงความรู้สึก เชลซีทิ้งห่าง 2-0 แล้ว

    สุดตีนฮ่ะ!มาลูด้ายิงสนั่น
    ช่วงทดเวลานาทีที่ 3 เป็นมาลูด้าที่มาซัดตอกฝาโลง จากจังหวะที่ตอร์เรสจ่ายกั๊กๆแต่บอลไปเข้าทางวิ่งมาตะบันด้วยซ้ายข้างถนัด บอลพุ่งแหวกอากาศแทบจะทะลุผ่านมือของกรีนเข้าไปเสียบตาข่าย เชลซีถล่มแหลก 3-0 ตุนประตูได้เสียไว้เพียบ

    จบเกมเป็นเชลซีที่สามารถเก็บชัยชนะเหนือเวสต์แอมไปได้ 3-0 ขยับคะแนนไล่จี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็น 6 คะแนนเท่าเดิม เพราะรอยยิ้มบนใบหน้าของเฟร์นานโด ตอร์เรสที่ปลดล็อกทำประตูแรกให้กับสโมสรได้เสียที

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    เชลซี :
    ปีเตอร์ เช็ก 7.5,จอห์น เทอร์รี่ 7,ดาวิด ลูอิซ 7.5,แอชลี่ย์ โคล 8*,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 6.5,จอห์น โอบี มิเกล 6.5,แฟรงค์ แลมพาร์ด 8,มิคาเอล เอสเซียง 6.5(เบนายูน 6.5 น.57),ฟลอร็องต์ มาลูด้า 7.5,ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา 7(ตอร์เรส 8 น.77),ซาโลมอง กาลู 5.5(อเนลก้า 7 น.70)

    เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน 7,มานูเอล ดา คอสต้า 7,ดาเนียล แก็บบิดอน 7.5,เวย์น บริดจ์ 6.5,ลาร์ส จาค็อบเซ่น 5.5,มาร์ค โนเบิ้ล 6(คีน 5.5 น.60),โธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ 5.5,โจนาธาน สเป็คเตอร์ 7.5,เด็มบา บา 7.5,คาร์ลตัน โคล 6(ปิกิยอน 5.5 น.79),เฟรด เซียร์ส 6(โอบินน่า 5 น.82)



















  7. #37
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    ตอร์เรสออกกาลูยิง!เชลซีส่องไก่ท้ายเกม 2-1 ตามผี 3 แต้ม

    ขอบคุณข่าวจาก www.soccersuck.com
    Quote Originally Posted by Zaine_R
    ตอร์เรสออกกาลูยิง!เชลซีส่องไก่ท้ายเกม 2-1 ตามผี 3 แต้ม

    เชลซีพกดวงมาเต็มกระสอบหลังพลิกแซงท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ท้ายเกม 2-1 จากลูกที่ไลน์แมนจิตหลอนมองว่าข้ามเส้นรวม"กาลู"ซูเปอร์ซับที่ลงมาแทนเฟร์นานโด ตอร์เรสล้ำหน้าแต่สุดท้ายเป็นลูกนำชัยไล่จี้แมนฯยูฯเข้ามาเหลือ 3 แต้มไปรอจิบชาเขียวแช่งต่อในวันอาทิตย์

    พรีเมียร์ ลีก

    วันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2554


    เชลซี 2 : 1 สเปอร์ส

    ประตู :
    0-1 ซานโดร น.19,1-1 แฟรงค์ แลมพาร์ด น.45,2-1 ซาโลมอง กาลู น.89

    เชลซีเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ต้อนรับการมาเยือนของสเปอร์ส โดยเดิมพันด้วยคะแนนสุดแสนสำคัญที่จะสานต่อความหวังในการไล่ตามแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเพื่อชปม์พรีเมียร์ ลีกที่ใกล้ตัดสินกันเต็มที

    คาร์โล อันเชล็อตติเลือกส่งทั้งเฟร์นานโด ตอร์เรสและดิดิเย่ร์ ดร็อกบาลงเล่นในแดนหน้าทั้งคู่ ซึ่งต้องดูว่ายอดดาวยิงทั้งสองจะประสานงานกันได้มากน้อยเพียงใด

    ส่วนด้านสเปอร์สนั้นจัดผู้เล่นลงเต็มชุดไม่ว่าจะทั้งแกเร็ธ เบล, ฟาน เดอร์ ฟาร์ต, ลูก้า โมดริช, แอร่อน เลนน่อนและศูนย์หน้าอย่างโรมัน พาฟลูเชนโก้เพื่อที่จะลุ้นเก็บ 3 แต้มไล่จี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้อันดับที่ 4 ให้ได้อย่างต่อเนื่อง

    ครึ่งแรก

    เกมคึกคักน่าดู
    ผ่านช่วง 10 นาทีของศึกลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ดูแล้วทั้งสองทีมค่อนข้างจะคึกคักกันพอสมควร ไม่ว่าจะสเปอร์สหรือเชลซีที่ทำเกมบุกรุกรับกันอย่างไหลลื่น ขาดก็แต่จังหวะจบสกอร์เท่านั้นที่ยังไม่มีให้เห็น

    แมลงสาบฟรีคิก-โกเมสบินปัด
    นาทีที่ 14 เชลซีโคตรน่าได้ประตูสุดๆจากจังหวะฟรีคิกของดร็อกบาที่เท้าฉมังไว้ใจได้เลยเกิน จัดการอัดเต็มข้อ บอลพุ่งเหินข้ามกำแพงส่ายนิดๆดูร้ายกาจและน่าจะเสียบใต้คานแล้วแน่ๆ แต่โกเมสพุ่งสุดเหยียดบินปัดเอาไว้ได้ปลายมือ ก่อนที่บอลจะพุ่งไปกระทบคานแล้วช่วยกันเคลียร์ไปได้ จังหวะนี้หวาดเสียวสุดๆ

    สุดตีนนน!ซานโดรยิงลูกอภินิหาร
    นาทีที่ 19 แฟนเชลซีและเช็กตาแตกกันถ้วนหน้า เมื่อเจอลูกยิงโคตรจะสวยของซานโดร ซึ่งเกี่ยวบอลมาจากเพื่อนด้วยซ้ายแล้วจัดการยิงอัดด้วยหลังเท้าขวาจากระยะไกล บอลพุ่งวาดโค้งทั้งน้ำหนักและทิศทางพอเหมาะพอเจาะ แม้เช็กจะบินสุดตัวไปปัดได้แต่ก็ไม่พ้น บอลพุ่งเสียบตาข่ายส่งสเปอร์สขึ้นนำไปก่อน 1-0 แบบพลิกความคาดหมาย

    จังหวะดีใจของซานโดรมีเงิบเล็กน้อยเพราะอุตส่าจะวิ่งเข้าไปดีใจกับเจ้านายอย่างเรดแนปป์ แต่จ่าเฉยแกไม่เล่นด้วย เรียกไปสอนแทคติคต่อหน้าดำค่ำเครียด อารมณ์เปลี่ยนเลยทีเดียว

    โกเมสก้างขวางคอ-ตอร์เรสบิดไม่ได้
    นาทีที่ 23 เชลซีพลาดโอกาสที่จะได้ประตูตีเสมอสองครั้งติดๆกัน จังหวะแรกเลยจากเอสเซียงที่เทคตัวขึ้นโหม่งบอลในเขตโทษได้ก่อนใคร แต่โกเมสยังหนึบสุดๆดีดตัวปัดทิ้งออกหลังไปได้

    อีกจังหวะจากลูกเตะมุมบอลโยนไปที่เสาแรก มีผู้เล่นของเชลซีโฉบไปโหม่งเช็ดผ่านหน้าประตูถึงตอร์เรสที่ยืนโล่งๆ แต่บอลมาต่ำและย้อนหลัง ทำให้ต้องเอี้ยวตัวบิดไปโหม่ง บอลเลยเหินข้ามคานไปแบบน่าเสียดาย

    เกมสเครียดแต่ดูสนุกได้ใจ
    แม้ว่าเกมจะค่อนข้างเครียดก็ตาม แต่แฟนบอลที่ดูย่อมรู้สึกสนุกอย่างแน่นอน เพราะเชลซีเองพยายามเร่งเครื่องอยู่ตลอด ส่วนสเปอร์สก็ไม่ได้เน้นตั้งรับซะทีเดียว คอยหาโอกาสสวนให้ได้เสียวอยู่เนืองๆ ซึ่งนั่นทำให้เกมแทบจะไม่หยุดเลย

    สิงห์ขึงแต่ไม่ขัง
    เกมดำเนินถึงนาทีที่ 35 เชลซียังคงใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะบุกกดดันสเปอร์สให้ได้ตลอด ซึ่งพวกเขาก็ทำได้ดี แต่ติดอยู่ตรงที่จังหวะที่จะต้องจบสกอร์ให้ได้นั้นยังไม่มีให้เห็น

    อิวาต้องยอมเหลือง
    อีก 3 นาทีต่อมา อิวาโนวิชต้องยอมโดนใบเหลืองสังเวยไป จากจังหวะที่สเปอร์สทำเกมสวนกลับ เบลได้บอลตรงกลางสนาม ก่อนที่จะยึกหลอกแล้วแตะขวาเข้ากลาง ผิดวิสัยที่เอะอะไปซ้าย ทำให้อิวาโนวิชหลงจึงต้องสไลด์รวบเพื่อตัดเกม ผู้ตัดสินเลยแจกใบเหลืองให้ตามระเบียบ ทำให้อิวาโนวิชน่าจะเล่นได้ยากขึ้นมากโดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลัง

    ไก่เน้นรับแล้ว
    เข้าช่วงท้าย สเปอร์สตอนนี้ถอยหล่นลงไปตั้งเกมรับหน้าปากประตูของตัวเองกันหมดแล้ว ดูท่าทางเรดแนปป์จะต้องการยันสกอร์นี้เอาไว้จนพักครึ่งแรก เพื่อที่จะได้เล่นง่ายขึ้นในอีก 45 นาทีที่เหลือ

    โกเมสลอดดาก-สิงห์ส้มหล่นลูกโต
    นาทีสุดท้ายพอดี เรดแนปป์เข่าแทบทรุดเพราะโกเมสที่หนึบมาทั้งเกม ดันมาพลาดง่ายๆจากจังหวะที่รับลูกยิงของแลมพาร์ดซองแตกบอลลอดดาก แล้วพยายามพุ่งไปล้วงบอลเอามาจากเส้น แต่ไลน์แมนชี้ให้เป็นจังหวะได้ประตู ทั้งๆที่เมื่อดูจากภาพช้าแล้วบอลยังไม่ข้ามเส้น รวมทั้งผู้ช่วยผู้ตัดสินที่แจ้งว่าเป็นประตูก็ยังวิ่งลงมาไม่ทันที่จะเห็นเหตุการณ์ด้วย แต่จังหวะนี้เมื่อตัดสินไปแล้ว ก็ถือว่ายกประโยชน์ให้กับเชลซี ได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 ไป

    ครึ่งหลัง

    แมลงสาบยิงหนักได้ใจ
    นาทีที่ 53 หลังจากปล่อยให้สเปอร์สได้ครองบอลอยู่นาน เชลซีก็มาได้โอกาสลุ้นจากจังหวะการยิงนอกกรอบเขตโทษของดร็อกบา ที่พี่แกตะบันซะเต็มข้อ บอลพุ่งส่ายเบาๆแถมยังตรงกรอบ ติดอยู่อย่างเดียวที่กลางประตูไปหน่อย ทำให้โอกาสปัดเอาไว้ได้ทัน

    จ่าเฉยต้องคิดแล้วล่ะ
    ตอนนี้เกมของสเปอร์สดูจะติดๆขัดๆโดยเฉพาะริมเส้น ที่น่าจะมาจากการที่ใช้กาบูลยืนแบ็คขวาและชอร์ลูก้ายืนแบ็คซ้าย เพราะไม่ใช่ตำแหน่งถนัด เวลาจะเติมเกมไปช่วยปีกตัวจี๊ดอย่างเลนน่อนและเบลก็ดูจะไม่เต็มประสิทธิภาพและโดนทางเชลซีดักบอลสวนกลับอยู่บ่อยๆด้วย

    ทั้งสองทีมเปลี่ยนแข้ง
    นาทีที่ 58 เชลซีเปลี่ยนเอาเอสเซียงออกไปและส่งรามิเรสลงมาเล่นในแดนกลางแทน ส่วนสเปอร์สก็ถอดพาฟลูเชนโก้ที่เหยาะแหยะพอสมควรออกและให้เดโฟลงไปจี๊ดจ๊าดลุ้นประตูให้กับทีม

    ซี๊ด!โกเมสปัดเข้าทางกาลู
    นาทีที่ 63 เกือบไปแล้วสำหรับโกเมสอีกหนึ่งดอก จากจังหวะฟรีคิกของดร็อกบาที่ตะบันมาเต็มข้ออย่างที่คุ้นตา บอลทิศทางตรงกลางประตูก็จริง แต่หนักหน่วงเสียเหลือเกิน ทำให้โอกาสต้องปัดแบบไม่รู้ทิศ บอลไปเข้าทางของกาลูที่ลงมาเล่นแทนตอร์เรสหมายตามซ้ำ แต่เหมือนแฉลบหน้าแข้งทำให้หลุดออกไป น่าเสียดายอย่างแรง

    อีกประเด็น!สิงห์ร้องขอจุดโทษแต่ไม่ได้
    นาทีที่ 69 มีอีกประเด็นให้ได้พูดถึงกันในเกมนี้อีกแล้ว เมื่อกาลูจ่ายบอลให้กับมาลูด้าที่พลิกกำลังจะเตรียมตัวซัดได้ในกรอบเขตโทษแล้วไปถูกกาบูลเข้าแทคเกิ้ลจนล้มลงไป ท่ามกลางเสียงโห่ร้องขอเอาจุดโทษจากทั้งนักเตะและแฟนบอลของเชลซี แต่ผู้ตัดสินเฉย ไม่ได้ว่าอะไร

    ซึ่งเมื่อดูจากภาพช้าแล้วก็ตอบได้ยากพอดูว่าโดนบอลหรือไม้ แต่ที่แน่ๆกาบูลแทกโดนตัวของมาลูด้าอยู่แล้ว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ตัดสินนั่นเอง

    สิงห์จัดนิโก้ลง
    อีก 4 นาทีต่อมา เชลซีต้องการประตูอย่างแรงเลยจัดศูนย์หน้าลงอีกตัวลงสนาม ให้อเนลก้าเล่นแทนมาลูด้าที่วันนี้แผลงฤทธิ์ไม่ได้มากอย่างใจหวัง

    ไก่เซ็ง!ชอร์ลูก้าเจ็บต้องเปลี่ยน
    นาทีที่ 78 สเปอร์สจำเป็นต้องเปลี่ยนเอาชอร์ลูก้าออก เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ จึงส่งตัวพีนาร์ลงเล่นแทนและขยับเอาเบลลงไปยืนแบ็คซ้าย

    เกมชักจะวันเวย์
    ตอนนี้กลายเป็นว่าเกมของสเปอร์สเร่งยังไงก็ไม่ขึ้น พอทำขึ้นไปได้สักหน่อยก็จ่ายติด ทำเสียกันไปหมด ทำให้เชลซีขึงเกมบุกลุ้นประตูขึ้นนำอยู่อย่างต่อเนื่อง

    ลุ้นระทึก
    ตอนนี้เกมเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ทุกวินาทีเต็มไปด้วยความระทึกของนักเตะทั้งสองทีม เพราะต่างก็ต้องการสามคะแนน แต่ที่เสียวกว่าก็คือเชลซีที่พยายามเหลือเกินในการทำประตูพลิกแซงนำให้ได้

    สิงห์เฮลั่นสนาม!กาลูส้มหล่นจิ้มสบายแฮ
    นาทีที่ 89 เชลซีได้ประตูสุดสำคัญแห่งฤดูกาลเลยก็ว่าได้ เมื่อมาได้ประตูจากจังหวะที่กองหลังของสเปอร์สผิดพลาดยืนประกบกันไม่ดี เป็นดร็อกบาได้บอลทางกรอบเขตโทษฝั่งขวา ล็อกบอลหลอกหนึ่งจังหวะ ก่อนที่จะยิงแป้กๆผ่านหน้าประตูเหมือนจะไม่ได้ลุน้แล้ว แต่บอลไปเข้าเท้ากาลูที่จิ้มปลายสตั๊ดเข้าไปสำเร็จ เชลซีพลิกแซง 2-1 สุดยอดไปเลย

    เพียงแต่จังหวะภาพช้าเมื่อมาดูกันแล้ว ในตอนที่ดร็อกบายิงนั้นกาลูยืนเลื่อมล้ำหน้าอยู่นิดหน่อย แต่ไลน์แมนไม่ได้ยกธงก็ยกประโยชน์ให้กับเชลซีไป

    จบ 90 นาทีเป้นเชลซีที่สามารถพลิกกลับมาแซงเอาชนะสเปอร์สไปได้ 2-1 เก็บ 3 คะแนนสุดแสนจะล้ำค่าไล่จี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเหลือ 3 คะแนนสำเร็จ

    ส่วนสเปอร์สต้องชอกช้ำใจกันไป เพราะพลาดโอกาสที่จะบีบคะแนนให้ใกล้แมนเชสเตอร์ ซิตี้อันดับ 4 ทำให้ยังคงตามอยู่ 4 คะแนนเหมือนเดิม

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    เชลซี :
    ปีเตอร์ เช็ก 7,จอห์น เทอร์รี่ 8,ดาวิด ลูอิซ 7,แอชลี่ย์ โคล 7,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 6,จอห์น โอบี มิเกล 7,แฟรงค์ แลมพาร์ด 7,ฟลอร็องต์ มาลูด้า 6(อเนลก้า 6.5 น.73),มิคาเอล เอสเซียง 5.5(รามิเรส 6.5 น.57),ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา 7.5,เฟร์นานโด ตอร์เรส 5.5(กาลู 7.5 น.63)

    สเปอร์ส : โกเมส 4,ยูเนส กาบูล 7.5,ไมเคิ่ล ดอว์สัน 7,วิลเลี่ยม กัลป์ลาส 7,เวดราน ชอร์ลูก้า 6(พีนาร์ - น.79),ลูก้า โมดริช 8,ซานโดร 7,แกเร็ธ เบล 6,แอร่อน เลนน่อน 5,โรมัน พาฟลูเชนโก้ 5(เดโฟ 5 น.58),ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต 6(จีนาส - น.85)























    แข่ง 35 นัด เท่ากัน
    ที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ห่างกัน 3 แต้ม

    นัดที่เหลือของเซลซี คู่แข่งหินสุดๆ

    นัดหน้าไปเยือนบ้านแมนยู(ที่ 1 ตอนนี้) อาจเป็นันัดตัดสินแชมป์เลยก็ได้

    ยังมีหวัง เซลซีสู้ๆ

    เสาร์ 7 Premierleague
    Manchester Utd vs Chelsea

    เสาร์ 14 Premierleague
    Chelsea vs Newcastle

    อาทิตย์ 22 Premierleague
    Everton vs Chelsea

  8. #38
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    99.99 %!!!!ผีฆ่าเชลซี 2-1 ขอแต้มเดียวฉลอง

    ขอบคุณข่าวจาก www.soccersuck.com/ss
    Quote Originally Posted by Zaine_R
    99.99 %!!!!ผีฆ่าเชลซี 2-1 ขอแต้มเดียวฉลอง

    เร้ดอาร์มี่ใกล้ได้ฉลองกันเต็มแก่เมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะเชลซีผู้ท้าชิงหนึ่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่โดย"ชิชาร์ริโต้"ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซเป็นตัวจุดประกายซัดเร็วตั้งแต่วินาที 36 ก่อนเช็กบิล 2-1 ทิ้ง 6 แต้มขอแต้มเดียวจาก 2 นัดกับแบล็คพูลหรือแบล็คเบิร์นก็จะกลายเป็นแชมป์ลีกสูงสุด 19 สมัยมากที่สุดในอังกฤษทันที

    พรีเมียร์ ลีก

    วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2554


    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 : 1 เชลซี

    ประตู :
    1-0 ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ น.1,2-0 เนมันย่า วิดิช น.23,2-1 แฟรงค์ แลมพาร์ด น.68

    โคตรเกมหยุดโลกกำลังจะบรรเลงเพลงแข้งกันขึ้นมาแล้ว เมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดทำศึกตัดสินชี้ชะตาแชมป์กับเชลซี หากใครเพลี้ยงพล้ำนัดนี้บอกได้คำเดียวว่าน้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่ๆ

    เกมนี้เซอร์ อเล็กซ์จัดสองคู่กองหน้าอย่างเอร์นานเดซและรูนี่ย์ลงเล่น โดยแดนกลางนั้นเลือกใช้กิ๊กส์คู่กับคาร์ริคแทนที่จะเป็นสโคลส์ ในขณะที่ปีกซ้าย-ขวาเป็นปาร์คกับวาเลนเซียซึ่งถือว่าเป็นนักเตะที่ลงไปช่วยเกมรับได้ดีอีกด้วย

    แต่ที่น่ากังวลใจแทนก็คือการที่เอฟร่าไม่สามารถผ่านความฟิตลงเล่นเกมนี้ได้ ทำให้จำเป็นต้องใช้โอเชียไปยืนแบ็คซ้ายและโยกเอาฟาบิโอเล่นทางด้านขวา

    ทางด้านเชลซีที่วันนี้หมายมาเก็บ 3 คะแนนเพื่อเขี่ย "ปีศาจแดง" ลงจากจ่าฝูงให้จงได้ จัดดร็อกบาลงยืนหน้าเป้าและให้ตอร์เรสนั่งสำรองรอโอกาสไปก่อน

    ส่วนปีกตัวจี๊ดก็เป็นมาลูด้าและกาลูที่จะคอยป่วนริมเส้น ในขณะที่ตำแหน่งอื่นๆมาเต็มกันหมด น่ากลัวเสียเหลือเกิน งานนี้ได้ซดกันมัน

    ครึ่งแรก

    โคตรช็อก! 36 วิถั่วน้อยซัดเฮแล้ว
    เริ่มเกมขึ้นมาได้แค่ 36 วินาที ความผิดพลาดในการยืนตำแหน่งของผู้เล่นเชลซี ทำให้แมนฯยูไนเต็ดได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ปาร์คจ่ายแทงทะลุช่องไปให้กับเอร์นานเดซ เหมือนว่าอูลิซจะคุมได้แล้ว แต่ดันสกัดวืดไม่ถึงบอล ทำให้เอร์นานเดซได้บอลแตะเข้าไปดวลเดี่ยวกับทางเช็ก ก่อนที่จะแปสวนตัวเข้าไปเสียบตาข่ายสุดคม "ปีศาจแดง" เริ่มต้นสวยหรูสุดๆ นำแล้ว 1-0

    จังหวะนี้กล้องก็ช่างสังเกตเมื่อจับภาพไปเห็นอันเชล็อตติวิ่งออกไปตะโกนส่งเสียงใส่ลูอิซถึงความไม่พอใจอย่างแรง ส่วนลูอิซฏ็เสียงแข็งกลับบอกว่า "ไม่ใช่ความผิดผม ไม่ใช่ผมเลย" ซะอย่างนั้น

    ผีแดงอย่างคึก-หมูส่องไกล
    นาทีที่่ 8 แมนฯยูไนเต็ดคึกคักกันน่าดู หลังจากได้ประตูขึ้นนำก็เดินหน้าทำเกมใส่เชลซีอย่างต่อเนื่องและก็มาได้จังหวะลุ้นอีก จากรูนี่ย์ที่อัดเต็มเท้าจากระยะค่อนข้างไกล แต่บอลพุ่งแรงแถมเข้ากรอบอีกด้วย แต่เช็กไม่พลาดบินปัดเอาไว้ได้

    ซี๊ดมาก!ถั่วน้อยเข้าไม่โดน
    อีก 3 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดหวิดได้ประตูที่สองเพิ่มอย่างรวดเร็วอีกครั้ง จากจังหวะที่ปาร์คโยนบอลเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะเลยยาวไปเสาสอง เป็นเอร์นานเดซพุ่งเข้าชาร์จ แต่จั่วลมเต็มสตรีม ก่อนที่เจ้าตัวจะโวยว่าบอลโดนปลายสตั๊ดของลูอิซก่อนทำให้เขาก่ะจังหวะพลาด แต่ก็ไม่ได้อะไร

    สิงห์ยังเสียกระบวนไม่หาย
    จังหวะสวนกลับของแมนฯยูไนเต็ดเล่นงานจนทำให้ตอนนี้ผู้เล่นของเชลซีดูเหมือนจะเสียกระบวนไปน่าดู ประกบกันไม่ทันจนทำให้รูนี่ย์มีโอกาสลองส่องจากนอกกรอบเขตโทษอีกครั้ง แต่คราวนี้หลุดเสาไกลออกไป

    สิงห์เกือบได้!น้าซาร์พลาดเกือบพัง
    นาทีที่ 18 เชลซีที่เริ่มตั้งลำกันขึ้นมาได้ ก็เกือบจะได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่โยนบอลเข้ากลางแล้วดร็อกบาโหม่งแป้ก บอลลอยโด่งแต่ฟาน เดอร์ ซาร์ออกมาตัดพลาด ทำให้บอลไปเข้าทางผู้เล่นของเชลซีที่ได้โอกาสตวัดยิง แต่น้าซาร์เซฟไว้ได้แบบทุลักทุเลเพราะบอลหลุดมือ ก่อนที่กองหลังจะเข้ามาช่วยกันเคลียร์บอลไปได้

    แฟนตะลึง!ปาร์คตัดแล้วยิงอย่างแรง
    นาทีที่ 23 แฟนบอลตะลึงกันน่าดูเพราะไม่คิดว่าปาร์คจะโชว์สเต็ปได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนที่จะลากตัดเข้ากลางแล้วตะบันเต็มตีนเตี่ยเฉย บอลพุ่งแหวกอากาศเข้าหาประตู จนทำให้เช็กต้องผวาปัดทิ้งออกไป

    เอาจนได้!วิดิชโหม่งผีเฮ 2-0
    จากจังหวะต่อเนื่องกันเลยแมนฯยูไนเต็ดเล่นลูกแตะมุมสั้นกัน ก่อนที่กิ๊กส์จะแตะบอลหนีผู้เล่นเชลซี แล้วโยนบอลเข้ากลาง เป็นวิดิชวิ่งสอดอ้อมตัวของกองหลังโฉบเข้าโหม่งบอลส่งไปตุงตาข่ายได้ก่อน ทำให้ตอนนี้ "ปีศาจแดง" ขึ้นนำไปแบบแฟนบอลหลายๆคนช็อก 2-0 ทั้งๆที่ยังไม่ผ่านครึ่งชั่วโมงแรก

    น้าซาร์เซฟช่วยผีสุดติ่ง
    อีก 2 นาทีต่อมา เชลซีเกือบที่จะได้ประตูตีไข่แตกกลับมาอย่างรวดเร็ว จากจังหวะเตะมุมที่กาลูเทคตัวได้สูงกว่ากองหลังโขกบอลเต็ม กำลังจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ฟาน เดอร์ ซาร์ก็ดีดตัวปัดไว้ได้ แม้อิวาโนวิชจะตีลังกายิงซ้ำ แต่มุมมันแคบ บอลเลยพุ่งเข้าหน้าต่างไป

    แมลงสาบได้ซัดฟรีคิก
    นาทีที่ 31 ดร็อกบามาได้โอกาสยิงฟรีคิกช่วยทีมลุ้นตีไข่แตกบริเวณเกือบจะกลางประตูและก็ไกลได้ระยะน้ำหนักเท้าของเขาด้วย แม้ว่าจะซัดตรงกรอบ แต่ก็ติดเซฟของฟาน เดอร์ ซาร์ที่ล้มตัวปัดเอาไว้ได้

    สิงห์ตั้งลำได้แล้ว
    เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม ตอนนี้เชลซีเริ่มตั้งหลักตั้งขบวนของตัวเองได้มากขึ้นแล้ว แนวรับก็ยืนกันแน่นหนาไม่ได้มีช่องโหว่เหมือนในช่วงแรกและเกมรุกก็ทำขึ้นไปกดดันแมนฯยูไนเต็ดได้มากพอดู

    หมูเข้าโฉ่งฉางรับเหลืองไปซะ
    นาทีที่ 38 ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่สำหรับรูนี่ย์ในจังหวะที่พุ่งเข้าหาบอล 50-50 กับลูอิซ รู้ว่าตัวเองเบรกไม่อยู่ แต่เหมือนกลับพุ่งเข้าไปบวกลูอิซ แถมทำท่าเหมือนเข่าลอย ผู้ตัดสินเลยวิ่งมาแจกใบเหลืองให้เป็นรางวัลซะ

    อิวาโนวิชรอดแดง
    อีก 3 นาทีต่อมา อิวาโนวิชรอดพ้นจากการถูกไล่ออกจากสนามไป จากจังหวะที่เขาไปเข้าช้าใส่รูนี่ย์แถมยังย่ำเข้าไปที่เท้า ทั้งๆที่ตัวเองมีใบเหลืองติดตัวอยู่แล้ว แต่ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ผู้ตัดสินในเกมนี้ยังนิ่งท่ามกลางเสียงประท้วงของทั้งสองทีม ก่อนที่จะเลิกรากันไป

    ลูอิซชักเซ็งจิตหนัก
    หลังจากเป็นคนผิดพลาดที่ทำให้ทีมเสียประตูแรกไปจนมีการปะทะคารมณ์ระยะไกลกับอันเชล็อตตินั้น ลูอิซก็มาเจอเรื่องเซ็งเพิ่ม เพราะว่าเพื่อนดันเปิดบอลให้ห่างตัวเกินจนเขาจับไม่อยู่ทีมเสียการครองบอลไป จนทำให้เจ้าตัวหันไปค้อนแบบเซ็งสุดๆ เพราะยิ่งโดนเพ่งเล็งอยู่แล้วด้วย

    ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบ 45 นาทีแรก เป็นแมนฯยูไนเต็ดที่เล่นกันได้ดีเกินความคาดหมายชิงนำเชลซีห่างถึง 2-0 ไปก่อน

    และที่ไม่น่าเชื่อก็คือฤดูกาลนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเล่นในบ้านยังไม่เคยเสียประตูในช่วงครึ่งแรกเลย

    ครึ่งหลัง

    ไม่รู้ว่าเพราะไปโต้เถียงกันหรืออเปล่าด้วย แต่ลูอิซก็ถูกถอดออกในช่วงพักครึ่ง ซึ่งเชลซีส่งอเล็กซ์ลงไปเล่นแทนพร้อมกับรามิเรสที่แทนโอบี มิเกล

    ส่วนทางแมนฯยูไนเต็ดก็ถอดโอเชียออกและส่งอีแวนส์ลงไปเล่นแทน

    ผีโวยวายจะเอาจุดโทษ
    นาทีที่ 53 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโวยวายกันทั่วทั้งสนาม จากจังหวะที่วาเลนเซียได้บอลทางริมเส้นขวา ก่อนที่จะจี้เข้าหากองหลังแล้วแตะบอลเข้าไปเปิดในกรอบเขตโทษได้ แต่บอลไปติดแขนของแลมพาร์ดที่ชูออกมาจากตัวค่อนข้างชัดเจน แต่ผู้ตัดสินเฉย ไม่ว่าอะไรทั้งสิ้น

    เกมเริ่มกดดัน
    ตอนนี้ผู้เล่นของเชลซีดูเหมือนว่าจะหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นไปทุกนาทีที่เวลาค่อยๆถอยหลังหมดลง ซึ่งพวกเขาคงต้องพยายามตั้งพยาธิให้มาก เพื่อที่จะทวงประตูกลับคืนมาให้ได้ก่อนอย่างน้อยหนึ่งลูก

    สิงห์ทุ่มหมดหน้าตักส่งตอร์เรสลง
    นาทีที่ 62 เชลซีไม่มีทางเลือกต้องเสริมศูนย์หน้าเข้าไปอีกตัว โดยส่งตอร์เรสลงไปเล่นแทนกาลูที่เงียบๆไปในช่วงหลัง ทำให้ตอนนี้มีสองกองหน้าลงล่าตาข่ายร่วมกันแล้วสำหรับ "สิงห์ไฮโซ"

    สิงห์ต้องเร่งเครื่องแล้ว
    ตอนนี้เชลซีคงต้องพยายามเร่งเกมของพวกเขาเองขึ้นมาโดยเร็วที่สุด เพราะเปลี่ยนตัวครบ 3 คนแล้ว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับฟอร์มในสนามเท่านั้นแล้วตอนนี้

    เอาแล้วเว้ย!แลมพ์แหย่ได้เฮ
    นาทีที่ 69 เชลซีกลับมามีลุ้นอีกครั้งแล้ว จากจังหวะที่รามิเรสโยนบอลไปแฉลบหลังของผู้เล่นแมนฯยูไนเต็ด จนบอลลอยโด่งย้อยก่อนที่อิวาโนวิชจะขึ้นโหม่งเช็ดบอลเข้าทางแลมพาร์ดที่แหย่ขาแปบอลเข้าประตูไป ไล่มาเป็น 2-1 แล้ว

    อเล็กซ์โคตรเซฟ!ผีไม่ได้เม็ดสาม
    อีกนาทีเดียวต่อมา แมนฯยูไนเต็ดเกือบที่จะทำประตูที่สามได้แล้ว จากจังหวะที่เอร์นานเดซหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่จะน้ำใจงาม จ่ายตัดคืนให้รูนี่ย์หวังให้ได้แปโล่งๆ แต่ลูกยิงย้อนหลังของรูนี่ย์ก็ไปติดบล็อกของอเล็กซ์ที่พุ่งตัวเข้าไปช่วยเซฟไว้ได้ทันแบบเฉียดฉิว

    เกมเครียดอย่างหนัก
    เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทั้งนักเตะ สต๊าฟโค้ช ทีมงานและแฟนบอลของทั้งสองทีมในสนามจะเครียดกันแค่ไหน เนื่องจากเกมนี้มีความสำคัญสุดๆและสกอร์ก็สามารถออกได้ทั้งสองหน้าด้วย

    เสียวว๊าบ!เว็บบ์เป่านึกว่าจุดโทษ
    นาทีที่ 79 แฟนทั้งสองทีมเสียวกันทั้งสนาม จากจังหวะทุ่มไกลของเชลซีที่โหม่งแย่งกันก่อนที่บอลจะไปเข้าทางตอร์เรสซึ่งเตะสวนทันทีไปติดบล็อกของวาเลนเซีย พร้อมกับเสียงนกหวีดของผู้ตัดสินที่ทำให้ใครหลายคนนึกขึ้นมาทันทีว่างานนี้มีจุดโทษแน่ แต่ที่ไหนได้เป็นการเป่าฟาวล์ในจังหวะที่อเล็กซ์ขึ้นโหม่งก่อนหน้านั้นแล้ว

    ไอ้หมูพลาดติดๆกันสามครั้ง
    อีก 3 นาทีต่อมา รูนี่ย์พลาดโอกาสที่จะใส่สกอร์ให้กับทีมถึงสามครั้งซ้อน จังหวะแรกเขาได้บอลหน้ากรอบเขตโทษแล้วซัดหักข้อหลุดเสาออกไป ก่อนที่จะได้โอกาสหลุดเข้าไปเดี่ยวกับเช็ก แต่ตัดสินใจไม่ดีเลยโดนดักทางเอาไว้ได้และอีกครั้งที่เขาได้ยิงหน้ากรอบเขตโทษ แต่คราวนี้ติดบล็อกของกองหลังปลิ้นข้ามคานไป

    ซ๊๊ดมาก!ถั่วโขกเดี่ยวๆข้ามคาน
    นาทีที่ 86 เซอร์ อเล็กซ์ออกอาการเสียดายอย่างแรง จากจังหวะเล่นฟรีคิกที่จ่ายทะลุช่องให้กับวาเลนเซียได้เปิดอัดเข้ากลางให้เอร์นานเดซโฉบไปโขกโล่งๆคนเดียว แต่บอลที่เปิดมาแรงเกินไปทำให้กดไม่ลงบอลพุ่งข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

    ตอร์เรสซัดหลุดนิดเดียว
    อีก 2 นาทีต่อมา ตอร์เรสเกือบที่จะทำประตูสุดสำคัญให้กับเชลซีได้ จากจังหวะที่เขาได้บอลในกรอบเขตโทษก่อนที่จะตัดสินใจยิงยัดไปที่เสาแรกทันที แต่ก็ไม่ตรงกรอบ

    ในขณะเดียวกันแมนฯยูไนเต็ดก็ส่งสมอลลิ่งลงไปเล่นแทนฟาบิโอซึ่งมีอาการบาดเจ็บ แปลว่าตอนนี้แผงหลัง 4 ตัวของแมนฯยูไนเต็ดเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทั้งสิ้น

    ช่วงท้ายเกมมีการทดเวลา 4 นาที หัวใจของแฟนบอลทั้งสองทีมแทบจะวายกันทั้งคู่ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดหมดเวลา 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเก็บชัยชนะเหนือเชลซีไปได้ 2-1 มีเพิ่มเป็น 76 คะแนน แซงเชลซีไปเป็น 6 คะแนนในขณะที่เหลือเกมอีกเพียงแค่ 2 นัด ทำให้ตอนนี้โอกาสแชมป์สดใสสุดๆจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด:
    เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 7,เนมันย่า วิดิช 8,ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7.5,ฟาบิโอ 7(สมอลลิ่ง - น.88),จอห์น โอเชีย 6(อีแวนส์ 7 น.45),ไรอัน กิ๊กส์ 8,ไมเคิ่ล คาร์ริค 8,ปาร์ค จี ซอง 8.5*,อันโตนิโอ วาเลนเซีย 8.5,ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ 8,เวย์น รูนี่ย์ 8.5

    เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก 7,จอห์น เทอร์รี่ 5.5,ดาวิด ลูอิซ 4(อเล็กซ์ 6.5 น.45),แอชลี่ย์ โคล 4.5,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 6,จอห์น โอบี มิเกล 4(รามิเรส 6.5 น.45),แฟรงค์ แลมพาร์ด 7,มิคาเอล เอสเซียง 5.5,ฟลอร็องต์ มาลูด้า 6,ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา 6.5,ซาโลมอง กาลู 5.5(ตอร์เรส 6 น.62)



















































  9. #39
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    อากู๋โคตรเซ็ง!สิงห์พลาดโดนตีเจ๊า น.90+2

    ขอบคุณข่าวจาก www.soccersuck.com/ss
    Quote Originally Posted by Zaine_R
    อากู๋โคตรเซ็ง!สิงห์พลาดโดนตีเจ๊า น.90+2

    โรมัน อับราโมวิชแสดงออกทางสีหน้าแบบเซ็งสุดๆจนคาร์โล อันเชล็อตติเสียวสันหลังว๊าบ หลังจากที่ต้องเห็นทีมโดนตีเสมอในช่วงทดเวลาแบ่งแต้มกับนิวคาสเซิ่ลไปด้วยสกอร์ 2-2 ส่งท้ายเกมในสแตมฟอร์ด บริดจ์ไปแบบหมองๆ

    พรีเมียร์ ลีก

    วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม 2554


    เชลซี 2 : 2 นิวคาสเซิ่ล

    ประตู :
    1-0 บรานิสลาฟ อิวาโนวิช น.2,1-1 โจนาส กูเตียร์เรซ น.10,2-1 อเล็กซ์ น.83,2-2 สตีเว่น เทย์เลอร์ น.90+2

    เชลซีเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ทิ้งทวนการเล่นในบ้านของฤดูกาลนี้ ต้อนรับการมาเยือนของนิวคาสเซิ่ลที่ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้วเพราะทีมอยู่กลางตาราง ส่วนเจ้าบ้านก็ต้องเน้น 3 คะแนนไว้ก่อน เพราะไม่งั้นตำแหน่งอันดับที่ 2 ของตารางอาจจะสั่นคลอนได้ หลังจากต้องเสียแชมป์ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปแล้ว

    วันนี้แน่นอนเลยว่าแฟนๆคงจะอยากเห็นเฟร์นานโด ตอร์เรสที่ลงเป็นตัวจริงทำประตูได้ ซึ่งมิดฟิลด์วันนี้ทีมจัดยอสซี่ เบนายูนและจอสห์ แม็คเอแคร่นเจ้าหนูดาวรุ่งลงสนาม

    ส่วนทางนิวคาสเซิ่ลมีโชล่า อเมโอบี้และปีเตอร์ โลเวนครานด์สยืนหน้าและมีโจอี้ บาร์ตันคอยบัญชาเกม ส่วนโจนาส กูเตียร์เรซก็พร้อมจะลากเลื้อยทางริมเส้นอยู่ตลอด

    ครึ่งแรก

    ตอร์เรสแอสซิสต์!อีวาแทงเข่าตุงตาข่าย
    เริ่มเกมมาได้ไม่ถึง 2 นาที เชลซีมาได้ประตูนำเร็วแบบโคตรๆ จากจังหวะเตะมุมที่โยนไปเสาแรก ตอร์เรสพุ่งโฉบเข้าไปโหม่งชงต่อไปหน้าประตู ก่อนที่จะเป็นอิวาโนวิชตั้งเข่าแทงบอลเข้าไปตุงตาข่าย เชลซีนำไวฉลองลงเล่นพร้อมกับเสื้อชุดใหม่ที่จะใช้ในฤดูกาลหน้า 1-0

    ได้คืนเร็วเหมือนกัน!นิวยิงเจ๊าแล้ว
    นาทีที่ 10 พอดิบพอดีนิวคาสเซิ่ลก็มาได้ประตูตีเสมอแบบเฮงนิดๆ จากจังหวะยิงฟรีคิกหน้าประตูที่จริงๆแล้วตั้งใจจะปั่นไปเสาแรก แต่บอลกลับพุ่งไปแฉลบขาของกูเตียร์เรซที่โดดโหยงพยายามหลบอยู่กลายเป็นดีเพราะเปลี่ยนทิศเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย เพราะเช็กพุ่งผิดทางไปแล้ว เกมเสมอกัน 1-1

    เกมเรื่อยๆ
    เข้าสู่นาทีที่ 20 ของเกม ตอนนี้อาจจะเป็นเพราะขาดแรงจูงใจหรือยังไงไม่ทราบ แต่พอโดนตีเสมอปุ๊บ เกมของเชลซีก็ดูจะทื่อๆไป ต่อบอลกันไม่ค่อยติดในจังหวะที่จะเซ็ตเกมรุก ส่วนทางนิวคาสเซิ่ลก็เล่นกันตามจังหวะของตัวเองไม่ได้เร่งอะไร

    แนวรับนิวสกัดอุตลุต
    นาทีที่ 27 เชลซีเกือบจะได้ประตูแบบไม่ต้องออกแรงยิงเอง จากจังหวะเซ็ตเกมทางด้านซ้ายที่โคลได้บอลก่อนจะเปิดปาดเลียดเข้ากลาง กองหลังของนิวคาสเซิ่ลเข้าถึงก่อนทางแลมพาร์ดเตะสกัดผ่านหน้าประตู แต่บอลดันไปแฉลบขาของเทย์เลอร์ ซึ่งถือว่ายังโชคดีที่บอลโดนไม่เต็ม ไม่งั้นแล้วเป็นการทำเข้าประตูตัวเองเต็มๆแน่นอน

    สิงห์ยังดูดีกว่าอยู่
    เหลือเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมที่นอกจากจังหวะได้ประตูแล้วแทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเสียวกันเลย ยังคงเป็นเชลซีที่ครองบอลได้มากกว่าทางนิวคาสเซิ่ลอยู่ แต่ไอ้ตอนที่จะทะลวงเข้าไปลุ้นประตูนี่ยังทำได้ไม่ดีพอ

    โคลคล้ำฉุนไรมา
    ไม่รู้ว่าวันนี้แอชลี่ย์ โคลไปกินดีหมีที่ไหนมา เพราะรู้สึกว่าจะมุ่งมั่นมากจนดูจะเกินไป ทำให้จังหวะเข้าสกัดหรือปะทะกับผู้เล่นของนิวคาสเซิ่ลดูจะฉุนเฉียวตลอดเวลา จนทำให้ผู้ตัดสินต้องเข้ามาปรามบ้างแล้ว

    รามิเรสฉุนจัด
    ช่วงท้ายครึ่งแรก รามิเรสต้องมาโโนใบเหลือง หลังจากที่เขาไปทำฟาวล์กูเตียร์เรซแล้วออกอาการเยอะเกิน แถมยังเตะบอลทิ้ง ทำให้ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้ทันที

    จบ 45 นาทีแรก เกมของทั้งคู่ถือว่าสูสีกันอยู่ แม้ว่าเชลซีจะได้ครองบอลมากกว่าก็ตาม เสมอกันที่ 1-1

    ครึ่งหลัง

    ตอร์เรสยังแผลงฤทธิ์ไม่ออก
    ลงมาในครึ่งหลังนั้นตอร์เรสก็ยังคงไม่สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไร นับตั้งแต่เขาโหม่งชงให้เพื่อนทำประตูได้ เพราะจังหวะที่จะเล่นบอลก็ดูติดขัด อืดอาดไปเสียหมด จนตอนนี้อันเชล็อตติสั่งให้ดร็อกบาออกไปวอร์มรอไว้ก่อนแล้ว ไม่ทราบว่าขู่ทางอ้อมหรือเปล่า

    ตอร์เรสเซ็งบาร์ตันมาไม
    นาทีที่ 54 ตอร์เรสเซ็งสุดๆ เพราะอุตส่าได้โอกาสยืนตั้งป้อมเอาบอลที่เพื่อนโยนมาให้ลงในกรอบเขตโทษแบบเนียนๆแล้ว ก่อนที่จะง้างเท้าสับไกยิงทันที แต่บาร์ตันดันพุ่งเข้ามาบล็อกไว้ได้ก่อน ไม่งั้นแล้วพี่ตอร์ของน้องๆอาจจะได้เฮไปแล้วก็เป็นได้

    เกมชักจะเดือด
    เกมเข้าสู่ช่วงหนึ่งชั่วโมงเต็ม ตอนนี้เหมือนว่านักเตะของเชลซีจะคุมอารมณ์กันไม่อยู่เท่าไรแล้ว เริ่มจากแลมพาร์ดเลยที่ไปเสียบเอาคืนบาร์ตันดื้อๆ จากนั้นก็เป็นอิวาโนวิชที่ไปรวบผู้เล่นของนิวคาสเซิ่ลจนหัวทิ่ม ซึ่งทั้งสองคนก็โดนใบเหลืองไป พร้อมกับการที่ผู้ตัดสินต้องเรียกเทอร์รี่มาคุยกับลูกทีม เพื่อให้ใจเย็นลงบ้าง

    อันเช่มาโหด!เปลี่ยนรวดเดียว 3 คน
    นาทีที่ 64 อันเชล็อตติอยู่เฉยไม่ได้แล้ว ต้องส่งมาลูด้า, ดร็อกบาและเอสเซียงลงไปในสนาม โดยแทนที่รามิเรส, เบนายูนและแม็คเอแคร่นออกไปพัก จัดตัวรุกลงแบบเต็มๆ

    แฟนนั่งเซ็ง-กู๋หน้าบูด
    ยิ่งเวลาลดน้อยลงไปเท่าไร ความเซ็งจิตของแฟนบอลเชลซีก็มีเพิ่มากขึ้นไปเท่านั้น เพราะดูเหมือนว่าฟอร์มของทีมจะไม่ค่อยสู้ดีนัก หาทางเจาะแนวรับของนิวคาสเซิ่ลได้ยาก โดยเฉพาะโรมัน อับราโมวิชนั่งทำหน้าบูดกันเลยทีเดียว

    สิงห์ยังขาดจังหวะสุดท้าย
    เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม ตอนนี้ปัญหาหลักของเชลซีก็คือจังหวะที่จะพาบอลเข้าไปในพื้นที่สุดท้าย เพราะว่าพวกเขาครองบอลได้ แต่ไม่สามารถทะลวงแนวรับเข้าไปลุ้นประตูแบบเหน่งๆได้สักทีเลย

    ครูลพลาด!อเล็กซ์โหม่งไม่เหลือ
    นาทีที่ 83 ความผิดพลาดครั้งเดียวแต่ส่งผลเสียหายมหาศาลสำหรับเกมนี้จริงๆของทางครูลผู้รักษาประตูของนิวคาสเซิ่ลออกไปตัดจังหวะฟรีคิกของเชลซีจั่วลมเต็มๆ ทำให้บอลหลุดไปถึงอเล็กซ์ที่ตั้งหัวโหม่งบอลเข้าประตูไปแบบสบายๆ เชลซีขึ้นนำไปแล้ว 2-1

    สิงห์เงิบ!นิวตามตีเสมอได้เฉย
    คิดว่าจะได้สามแต้มแน่แล้ว แต่เชลซีกลับต้องผิดหวัง เมื่อมาโดนประตูตีเสมอในช่วงทดเวลานาทีที่สอง จากจังหวะเตะมุมที่เรนเจอร์สโขกบอลชงกลับให้กับเทย์เลอร์ได้โขกเผาขนแบบไม่มีตัวกระกบ ส่งให้นิวคาสเซิ่ลตามตีเสมอได้สำเร็จ

    สุดท้ายจบเกมเชลซีทำได้เพียงแค่เสมอกับนิวคาสเซิ่ลไป 2-2 เก็บได้เพียงแต้มเดียวมีเพิ่ม 71 คะแนนห่างกับอาร์เซนอลแค่ 4 แต้ม ถ้าหากพลาดสะดุดในนัดสุดท้ายและอาร์เซนอลเก็บชัยได้สองนัดรวดแล้วเนี่ย กระเด็นจากอันดับที่ 2 ชัวร์ๆ

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    เชลซี :
    ปีเตอร์ เช็ก 6.5,จอห์น เทอร์รี่ 7,อเล็กซ์ 6.5,แอชลี่ย์ โคล 7,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 5.5,รามิเรส 5.5 (ดร็อกบา 6 น.64),จอสห์ แม็คเอแคร่น 7(เอสเซียง 6 น.64),แฟรงค์ แลมพาร์ด 6,ยอสซี่ เบนายูน 5(มาลูด้า 6 น.64),เฟร์นานโด ตอร์เรส 5,นิโกลาส์ อเนลก้า 6

    นิวคาสเซิ่ล : ทิม ครูล 5.5,ฟาบริซิโอ้ โคลอชชินี่ 5,สตีเว่น เทย์เลอร์ 6,ซานเชซ โฆเซ่ เอ็นริเก้ 5,แดนนี่ ซิมป์สัน 5.5,โจอี้ บาร์ตัน 6,เชน เฟอร์กูสัน 6.5(ลัวลัว 6 น.69),โจนาส กูเตียร์เรซ 6(เรนเจอร์ส 6 น.76),ไรอัน เทย์เลอร์ 5.5,ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส 5(แซมมี่ อเมโอบี้ 6 น.83),โชล่า อเมโอบี้ 5.5

























  10. #40
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    ขอบคุณข่าวจาก www.soccersuck.com/ss

    Quote Originally Posted by redenzo
    เน่าส่งท้าย!สิงห์ฟอร์มบู่พ่ายท๊อฟฟี่สิบตัว 1-0

    "ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน"เอฟเวอร์ตันที่เหลือสิบตัวทำเอาอากู๋เซ็งส่งท้ายหลังเปิดบ้านเฉือนเอาชนะเชลซีไป 1-0 ปิดฤดูกาลไปแบบแฟน"สิงห์บูลส์"มีกร่อย

    พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

    วันอาทิตย์ 22 พฤภษาคม 2554


    สนาม : กูดิสัน พาร์ค

    เอฟเวอร์ตัน 1 - 0 เชลซี

    ประตู
    : เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด น.74


    =========คลิปไฮไลท์ เอฟเวอร์ตัน 1-0 เชลซี=========


    เกมนี้ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้วหลังเชลซีคงได้ที่สองแน่นอน คาดว่าเกมนี้อันเชล็อตติจะส่งผู้เล่นเต็มสูบรวมไปถึงตอร์เรสมาล่าตาข่ายเรียกความมั่นใจต่อไป ส่วนเอฟเวอร์ตันก็ไม่ต้องลุ้นอะไรมากมายแต่หากแพ้ก็อาจโดนฟูแล่มเบียดแซงขึ้นไปยึดที่ 7 ได้

    ครึ่งแรก

    เจ๊เกียวได้โขกแต่บอลชนคาน
    นาทีที่ 6 เจ้าบ้านก็เกือบจะขึ้นซะแล้วจากจังหวะเตะมุมเข้ามาแล้วเป็นจากีลก้าได้โขกๆโล่งๆแต่หลักไม่ค่อยดีนึกจึงกดบอลไม่ลงเหินเช็ดคานออกหลังไปอดได้ประตูนำอย่างน่าเสียดาย[imgr]http://d.yimg.com/a/p/sp/ap/0d/fullj.257ef4aafd49b4e64375701234398a1a/ap-201105221056394103569.jpg[/imgr]

    รูปเกมยังเรื่อยๆผลัดกันครองบอล
    15 นาทีผ่านไปเชลซีเริ่มตุกมเกมได้มากขึ้นเรื่อยๆแต่จังหวะต่อบอลหน้ากรอบเขตโทษยังดูไม่แม่นยำเท่าที่ควรอดลุ้นไปหลายจังหวะ

    เบ็คฟอร์ดได้ซัดแต่ติดโคล
    เอฟเวอร์ตันเกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากลูกที่โคลแมนทำชิ่งวุนทูกับเบ็คฟอร์ดได้หลุดเข้าไปยิงแต่แอซลี่ย์ โคลยังไววิ่งมาบล็อกลูกยิงไว้ทันและเคลียร์ออกไปได้

    อเนลก้าได้ยิงแต่ยังติดบล็อก
    เชลซีได้ลุ้นกับเขาซักทีจากจังหวะแลมพาร์ดเบิ้่ลจังหวะออกไปทางขวาให้อเนลก้าที่ยืนอยู่โล่งๆแต่จับบอลจังหวะแรกไม่ดีทำให้ต้องแต่งบอลก่อนจะยิงเลยโดนกองหลังเอฟเวอร์ตันตามมาบล็อกไว้ทัน

    รูปเกมสมกับเป็นคู่ที่ไม่ต้องลุ้นอะไร
    30 นาทีแล้วแต่ทั้งสองทีมยังเล่นแบบไม่มีอะไรให้ลุ้นมากมายนักโดยจะไปกันในจังหวะสุดท้ายซะส่วนใหญ่

    โคลกดเต็มเท้าบอลขึ้นอัฒจันท์
    "สิงห์บูลส์"ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกเปิดทางฝั่งขวาเข้าในแต่โดนเคลียร์ออกไปเข้าทางโคลที่นอกกรอบเขตโทษ กดเต็มข้อแต่บอลเหินออกไปแบบไม่ค่อยใกล้เคียง

    เบ็คฟอร์ดได้ซัดแต่แทบไม่ได้ลุ้น
    "ท๊อฟฟี่"โยนโอกาสทิ้งไปแบบน่าเสียดายหลังเบ็คฟอร์ดทำชิ่งกับอาร์เตต้าหลุดขึ้นมาทางซ้ายลสกบอลเข้ากรอบเขตโทษและกะยิงเข้าเสาสองแต่สงสัยเท้าจะเรดาห์เสียแปบอลไปหลุดออกเกือบแถวมุมเสาธงโน่นเลย

    อเนลก้ากดนอกกรอบแต่เบาไป
    ท้ายเกมเชลซีมีจังหวะลุ้นอีกครั้งจากลูกอเนลก้าทำท่าจะกดด้วยขวาก่อนจะล็อกเข้าซ้ายแล้วซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลเบาไปเข้ามือฮาเวิร์ดสบาย

    จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรไม่ได้เสมอกันไป 0-0

    ครึ่งหลัง

    โหด!โคลแมนยันเต็มแข้งใส่มิเกล
    ครึ่งหลังผ่านมาได้ 7 นาทีโคลแมนไปเข้าหนักยันเต็มแข้งใส่มิเกล ทำเอาแลมพาร์ดไม่พอใจเดินตรงเข้ามาทั้งสองทีมเลยต้องจับแยกกันไปคนละทิศทางก่อนโคลแมนจะรับใบเหลืองที่สองและออกจากสนามไป

    เทอร์รี่ได้ลุ้น!เติมมาได้ซัดแต่บอลชนเสา
    เชลซีใช้ความได้เปรียบตัวผู้เล่นเกือบทำประตูขึ้นนำจนได้จากลูกที่เทอร์รี่เติมเกมสูงขึ้นมารับบอลจากโคลก่อนจะกดด้วยขวาเต็มข้อแต่บอลพุ่งชนเสาอดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย

    สิบตัวเกือบนำ!เบ็คฟอร์ดซัดติดเซฟ
    นาทีที่ 59 เอฟเวอร์ตันที่เหลือสิบคนเกือบขึ้นนำซะแล้วจากลูกที่ฮิบเบิร์ตโยนยาวให้เบ็คฟอร์ดเกี่ยวบอลหลบอเล็กซืก่อนจะหลุดไปได้ซัดแ่ต่เช็คยังเยี่ยมล้มตัวปัดออกไปได้ทัน

    สิงห์เสียว!อาร์เตต้าได้ซัดแต่บอลถากเสา
    ถึงจะสิบคนแต่"ท๊อฟฟี่"ยังได้ลุ้นเยอะกว่าจากลูกที่เคลียร์กันไม่ขาดมาเข้าทางอาร์เตต้าได้ซัดสับด้วยขวา 25 หลาแต่บอลพุ่งผ่านเสาแรกออกไปอย่างหวาดเสียว

    สิงห์ช็อค!เบ็คฟอร์ดซัดพาท๊อฟฟี่พลิกนำ
    เอฟเวอร์ตันสิบคนเอาจนได้จากจังหวะโต้กลับของเบ็คฟอร์ดที่ัตัดบอลได้จากฝั่งตัวเองก่อนจะตะลุยเดี่ยวขึ้นมากลางสนามก่อนจะโดนหลังเชลซีมาปั้มบอลแต่ยังกระเด็งมาเข้าทางให้เขาหลุดเดี่ยวไปกระดกบอลข้ามตัวเช็คเข้าประตูไป นาทีที่ 74 เอฟเวอร์ตันพลิกขึ้นนำแล้ว 1-0

    อเนลก้าซัดอีกแต่ผ่านเสาแรก
    ท้ายเกมอเนลก้าได้ยิงอีกครั้งจากจังหวะที่ได้บอลทางซ้ายก่อนจะค่อยเลี้ยงเข้ากรอบแล้วตัดเข้าในยิงด้วยเท้าขวาบอลพุ่งผ่านเสาแรกไปแบบได้เสียว

    จบเกมเอฟเวอร์ตันที่เหลือสิบคนเบียดเอาชนะเชลซีไปได้ 1-0 ปิดฤดูกาลด้วยการจบอันดับ 7 ไปมี 54 แต้มส่วน"สิงโตน้ำเงินคราม"ก็เข้าป้ายด้วยรองแชมป์ไปให้อับราโมวิซปรับทัพกันใหม่เพื่อกลับมาลุ้นกันต่อในฤดูกาลหน้า

    รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

    เอฟเวอร์ตัน
    : ทิม ฮาเวิร์ด 6.5, ซิลแวงต์ ดิสแต็ง 7, ฟิล จากิลก้า 6.5, เลห์ตั้น เบนส์ 7.5, โทนี่ ฮิบเบิร์ต 7.5, ลีออน ออสแมน 7, แจ๊ค ร็อดเวล 7.5, จอห์น ไฮติงก้า 7, มิเกล อาร์เตต้า 6.5, เซมุส โคลแมน 6, เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด 7.5 (วิคเตอร์ อนิเชบี้ น.80)

    เชลซี : ปีเตอร์ เช็ค 6.5, จอห์น เทอร์รี่ 6, อเล็กซ์ 7 (เปาโล แฟร์เรร่า น.70), แอซลี่น์ โคล 5.5, บรานิสลาฟ อิวาโนวิซ 7, แฟรงค์ แลมพาร์ด 6, จอห์น โอบี มิเกล 4 (โซโลมอน คาลู น.61), มิเชล เอสเซียง 6 (จอร์ซ แม็คแอร็คเค่น น.77), ฟลอร็องต์ มาลูด้า 5.5, เฟอร์นานโด ตอเรส 6, นิโคล่าส์ อเนลก้า 5.5










Page 4 of 5 FirstFirst ... 2 3 4 5 LastLast

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •