3 ปิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง


ฆาตกรที่สังหารหญิงสาวชาวยิว ถึงแม้จะดูออกว่าเป็นคนเดียวกัน แต่น่าเหลือเชื่อว่า เขาฆ่าคนไปทั่วประเทศ ทำให้ลิสเบ็ธบีบข้อมูลลงมาได้แคบลงว่า ต้องเป็นคน
ที่เดินทางบ่อย

ลิสเบ็ธได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลของวังเกอร์ คอเปอร์เรชั่น และเธอก็ปะติดปะต่อข้อมูลจนได้เห็นภาพชัดเจน

ทุกครั้งที่ก็อตต์ฟรีต เดินทางไปที่ไหน จะมีหญิงสาวโดนฆ่าเสมอ ทำให้เธอมั่นใจแล้วว่า ก็อตต์ฟรีต พ่อของมาร์ติน และแฮร์เรียต คือฆาตกรต่อเนื่อง

แต่คำถามคือ เมื่อก็อตต์ฟรีตตายไปอย่างกะทันหันจากการเมาแล้วตกน้ำ ทำไมยังมีคดีฆาตกรรมแบบเดียวกันเกิดขึ้นอีก ?

ในที่สุดคำตอบก็ลงตัว Like Father Like Son คนที่สานต่องานฆาตกรรม ของก็อตต์ฟรีต ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ มาร์ติน วังเกอร์ ซีอีโอคนปัจจุบัน และพี่ชายแฮร์เรียตนั่นเอง !

ขณะที่ลิสเบ็ธรู้ตัวคนร้าย 100% มิเกลก็สืบคดีในมุมของตัวเองและมั่นใจว่า มาร์ติน น่าจะเป็นคนร้ายเช่นกัน

เขาเดินทางไปที่บ้านมาร์ตินเพื่อสืบข้อมูลเพิ่ม แต่เคราะห์ร้ายที่โดน มาร์ตินจับตัวไว้ได้ และจับทรมาน เตรียมที่จะเป็นเหยื่อสังหารรายใหม่

ความจริงเปิดเผยแล้ว ว่ามาร์ติน ความจริงคือฆาตกรต่อเนื่อง ซึ่งฆ่าคนได้แนบเนียนยิ่งกว่า ก็อตต์ฟรีตผู้พ่อเสียอีก

มิเกล โดนทรมาน และกำลังจะหมดลมหายใจ มาร์ตินจึงได้ถามคำถามหนึ่งไป ว่า สุดท้ายแล้ว มิเกล เจอแฮร์เรียตหรือไม่ ?

มิเกล เข้าใจว่าแฮร์เรียต ก็เป็นอีกหนึ่งเหยื่อของมาร์ติน แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ มาร์ตินเองไม่ได้ฆ่าน้องสาวของตัวเอง

ก่อนมิเกลจะโดนแขวนคอ ลิสเบ็ธมาช่วยได้ทันแบบจวนเจียน มาร์ตินพยายามตะเกียกตะกายเอาตัวรอด แต่สุดท้ายก็ขับรถเสียหลักพุ่งล้ม รถระเบิดและต้องเสียชีวิตในที่สุด


และแล้ว คดีฆาตกรรมต่อเนื่องก็ปิดฉากลงได้สำเร็จ
แต่ทว่า การค้นหาแฮร์เรียตยังคงไม่มีวี่แวว

ถ้าเธอไม่ได้ถูกฆ่า แล้วเธอไปไหน ? ถ้าเธอไม่ได้ถูกฆ่า แล้วเธอหนีออกไปจากเฮเดสตัด และหมู่บ้านที่ทุกคนรู้จักกันโดยไม่มีคนเห็นได้อย่างไร ?