กลับไปอ่านใหม่ แล้วหนักใจจริงๆค่ะ

อยากให้แฟนคุณเค้าได้ซื้ออะไรให้พ่อแม่เค้านะคะ

แต่อ่านประโยคที่คุณเขียนแล้วเราก็เข้าใจ ว่าสถานการ์ณมันน่าเป็นห่วงจริงๆ

quote:
"เราจะไม่ว่าอะไรเลย ถ้าแฟนเราไม่มีหนี้ธนาคารหลายล้านบาท และหนี้บัตรเครดิตหลายแสน

ตอนนี้แฟนเรากลายเป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัวตั้งแต่อายุยังไม่ถึง30

ซึ่งแม่เค้าก็รู้ดี แต่แม่เค้าเป้นคนชอบใช้ของแพงๆ เช่น ใช้กระเป๋าlv,chanel แต่หารู้ไม่ ใบนี้
ลูกชายเป็นหนี้บัตรเครดิตนะ แต่แม่ก็ยังจะเอา ยังกะในนิยายเลย กลุ้มๆๆๆ"




ลองพิจารณาด้วยใจที่เป็นกลางดูนะคะ และอยากให้คุณใช้วิธีที่ประณีประนอม ไม่ต้องแตกหักก็ได้ แต่อธิบายให้เห็นตามจริง โดยรวมไปถึงการสอนคนรักของคุณให้ลองไปพยายามสอน หรือ อธิบายคุณแม่ของเค้า ให้รู้จักความสุขจากสิ่งอื่นบ้าง ไม่ใช่ความสุขต้องซื้อได้ด้วยเงินเสมอไปค่ะ

สิ่งนี้ไม่ใช่เพื่อตัวใคร แต่เพื่อครอบครัวของคุณเอง แฟนคุณ และลูกที่จะเกิดในอนาคต ตลอดจน คุณแม่ของสามีด้วย


เพราะหากแฟนคุณปล่อยหนี้สินท่วมตัวตั้งแต่อายุเท่านี้ ยิ่งช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ มีหวังว่า อีกหน่อยอย่าหวังแต่กระเป๋าแบรนด์เนมเลยค่ะ แต่ว่าบ้านที่คุณบอกว่าแฟนยังผ่อนไม่หมด ก็จะพาลโดนยึดไปด้วย

แล้วถ้าแฟนคุณรักแม่จริง เค้าก็จะรู้ว่าวันที่แฟนคุณหมดเนื้อหมดตัว บ้านโดนยึด.. คนที่ทุกข์ก็จะเป็น แม่ของเค้านั่นเอง

เตือนสติเค้าบ้างนะคะ เศรษฐกิจบ้านการเมืองตอนนี้ หากยังปล่อยให้หนี้สินท่วมตัวไม่หยุดหย่อนโดยการใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้ อันตรายจริงๆค่ะ