ได้รับเมลล์มาอ่านแล้วก็ว่าดี เลยเอามาฝากกันจ้า
ไอสไตน์พูดว่า...ในห้องเรียนวันหนึ่ง
ไอสไตน์ถามนักเรียนว่า "มีคนซ่อมปล่องไฟสองคนกําลังซ่อมปล่องไฟเก่า
พอพวกเขาออกมาจากปล่องไฟปรากฏว่า คนหนึ่งตัวสะอาด
อีกคนตัวเลอะเทอะเต็มไปด้วยเขม่าขอถามหน่อยว่าคนไหนจะไปอาบน้ำก่อน"
นักเรียนคนหนึ่งตอบว่า "ก็ต้องคนที่ตัวสกปรกเลอะเขม่าควันสิครับ"
ไอสไตน์พูดว่า "งั้นเหรอ คุณลองคิดดูให้ดีนะคนที่ตัวสะอาดเห็น
อีกคนที่ตัวสกปรกเต็มไปด้วยเขม่าควันเขาก็ต้องคิดว่าตัวเองออกมา
จากปล่องไฟเก่าเหมือนกันตัวเขาเองก็ต้องสกปรกเหมือนกันแน่ๆเลย
ส่วนอีกคนเห็นฝ่ายตรงข้ามตัวสะอาด ก็ต้องคิดว่าตัวเองก็สะอาดเหมือนกัน
ตอนนี้ผมขอถามพวกคุณอีกครั้งว่า ใครที่จะไปอาบน้ำก่อนกันแน่"
นักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นว่า" อ้อ ! ผมรู้แล้ว
พอคนตัวสะอาดเห็นอีกคนสกปรก ก็นึกว่าตัวเองต้องสกปรกแน่
แต่คนที่ตัวสกปรกเห็นอีกคนสะอาด ก็นึกว่าตัวเองไม่สกปรกเลย
ดังนั้นคนที่ตัวสะอาดต้องวิ่งไปอาบน้ำก่อนแน่เลย.....
ถูกไหมครับ...."
ไอสไตน์มองไปที่นักเรียนทุกคน นักเรียนทุกคน ต่างเห็นด้วยกับคําตอบนี้
ไอสไตน์ค่อย ๆ พูดขึ้นอย่างมีหลักการและเหตุผล "คําตอบนี้ก็ผิด
ทั้งสองคนออกมาจากปล่องไฟเก่าเหมือนกัน
จะเป็นไปได้ไงที่คนหนึ่งสะอาดอีกคนหนึ่งจะสกปรก
นี่แหละที่เขาเรียกว่า "ตรรก"
เมื่อความคิดของคนเราถูกชักนําจนสะดุด
ก็จะไม่สามารถแยกแยะและหาเหตุผลแห่งเรื่องราวที่แท้จริงออกมาได้
นั่นคือ'ตรรก'จะหาตรรกได้ก็ต้อง กระโดดออกมาจาก
"พันธนาการของความเคยชิน" หลบเลี่ยงจาก'กับดักทางความคิด
"หลีกหนีจาก" สิ่งที่ทําให้หลงทางจากความรู้จริง
"ขจัด" ทิฐิแห่งกมลสันดาน จะหา ตรรก ได้ก็ต่อเมื่อคุณสลัดหมากทั้งหมด
ที่คนเขาจัดฉาก วางล่อคุณไว้"