Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 6 of 6

Thread: fw.สิ่งที่เรามองข้าม ลองอ่านดู อาจจะเชื่อหรือไม่เืชื่อ

  1. #1
    Join Date
    May 2010
    Posts
    8

    fw.สิ่งที่เรามองข้าม ลองอ่านดู อาจจะเชื่อหรือไม่เืชื่อ

    ลองอ่านกันดูนะค่ะ ได้ fw.มา เลยอยากเอามาแบ่งปันค่ะ

    พอดีเมื่อวานไปถวายเทียนพรรษาที่วัดหลวงพ่อโอภาษีครับ
    คิดว่าเพื่อนๆที่อยู่แถวพระราม 2 คงรู้จักกัน
    ทุกคน

    เข้าเรื่องเรยนะครับ ผมก็ไปกับที่บ้านรวม 5 คน เข้าไปถึงกุฎิที่
    พ่อผมบอกว่าเป็นพี่ชายของเจ้าอาวาส


    เป็นหลวงพ่อ อายุราวๆ 70 ตาซ้ายเสียอ่ะครับ เห็นบอกว่าองค์นี้เก่งมาก
    ก็เข้าไปถวายเทียนพรรษา
    พร้อมๆ กับอีกหลายๆ คนที่มาหาหลวงพ่อเช่นกัน

    พอถวายเทียนเสร็จหลวงพ่อท่านก็เล่าว่าท่านนิมิต(ฝัน)ว่า ท่านได้ไปนรกครับ
    ไปเจอเท้าเทพสุวรรณ(ยมฑูต) ท่านก็เล่าว่า ท่านถามสุวรรณว่าท่านตายแล้วหรอ

    สุวรรณบอกว่าท่านยังไม่ตายแต่จะพาไปเที่ยว แล้วเค้าก็พาหลวงพ่อเดินไป
    เดินไปเรื่อย จนถึงระยะ
    หนึ่ง หลวงพ่อหยุดเดิน สุวรรณที่เดินนำก็เดินกลับมาครับ แล้วถามว่า หยุดทำไม

    ท่านก็ตอบว่า เดินตั้งนานแล้วในนรกไม่เห็นมีอะไรเรย
    ระหว่างนั้นท่านก็บรรยายบรรยกาศของนรก
    ว่านรกมีไฟเพลิงสีส้มแดง แต่ไม่มีควัน แล้วก็ไม่ร้อน
    ที่ท่านไม่ร้อนเพราะท่านมีบุญดีอยู่
    แล้วสุวรรณก็ถามต่อครับว่าอยากเห็นอะไรละ ท่านตอบว่า อยากเห็นต้นงิ้ว
    และกะทะทองแดง

    สุวรรณบอกว่าไม่มีหรอก มนุษย์อุปโหลก ขึ้นมาเองทั้งนั้น ในนี้มีแต่ไฟโลกัณฑ์
    เดินไปอีกหน่อยแล้วจะรู้
    เอง ท่านก็ได้เดินต่อไป สิ่งที่ท่านเห็นก็คือ

    เหวที่มีไฟแดงฉานอยู่ข้างล่าง สุวรรณบอกว่า
    ใครทำกรรมชั่วมากก็จะอยู่ข้างล่างสุด ทำกรรมชั่วน้อยก็
    จะอยู่ข้างบน ซึ่งข้างล่างจะร้อนกว่าข้างบน

    คราวนี้เดินต่อไปเรื่อยๆ ท่านก็เห็นทาง สามแพร่ง มีน้ำกันอยู่
    จึงได้ถามสุวรรณว่านี้คืออะไร

    สุวรรณตอบว่านี่คือทางไป นรก สวรรค์ โลกมนุษย์
    ซึ่งมีคนยืนในช่องทางไปโลกเยอะมากๆ มีบางคน
    แอบซุกเพื่อหลบน้ำที่จะต้องผ่าน

    ท่านจึงถามว่าน้ำนี่คืออะไร สุวรรณตอบว่าน้ำนี่ใช้ชะล้างจิตใจ ให้ลืมอดีต
    แล้วไปเกิดใหม่ คนที่หลบหลีก
    น้ำนี้ไปได้จะต้องเป็นทุกข์(ที่เข้าใจคือระลึกชาติได้)

    แล้วท่านก็เล่าว่า พวก สส.ที่มันได้ดีเพราะมันกินบุญเก่า
    เหมือนปลูกต้นแอปเปิ้ลไว้ ตัวเองปลูกตัวเองก็
    ได้กิน เมื่อต้นแอปเปิ้ลหมด ก็อดกิน ก็เหมือนกับพวก สส.ที่กินบุญเก่าอยู่
    เราไม่สามารถไปทำอะไรเค้า
    ได้ ต้องรอให้เค้าหมดบุญไปเอง

    หลวงพ่อท่านก็ถามสุวรรณต่อว่าวิญญาณมนุษย์ไปเกิดก็เยอะ
    แล้ววิญญาณที่ยังอยู่ที่โลกก็เยอะ ทำไมไม่จับ
    มาให้หมด สุวรรณก็ตอบว่า จับมาไม่ได้เพราะเค้ายังไม่หมดอายุขัย

    ร่างกายคนเรามี สังขาร (ร่างกาย) และจิตวิญญาณ เมื่อละสังขารแล้ว
    แต่ยังไม่ละจิตวิญญาณ คือยัง
    ไม่ถึงที่ตาย เช่นพวกฆ่าตัวตาย หรือถูกรถชนตาย
    วิญญานก็จะต้องวนเวียนอยู่ในโลกไปจนกว่าจะถึง
    เวลาที่ละวิญญาณแล้ว ถึงจะไปรับมาได้

    ท่านจึงถามต่อว่า พ่อหลวงจะมีอายุยืนยาวไหม สุวรรณตอบว่า
    ท่านสิ้นอายุขัยแล้ว แต่มีคนต่ออายุขัยให้
    ท่าน ซึ่งก็คือพี่สาวของท่านเอง

    แล้วประเทศไทยละ จะเป็นอย่างไรต่อไป สุวรรณตอบว่า บอกไม่ได้
    แล้วหลวงพ่อก็เดินต่อไปอีก คราวนี้ไปเจอแอ่งน้ำลักษณะเหมือนเขื่อน
    ซึ่งมองไปที่กำแพงกั้นน้ำ สิ่งที่ท่าน
    เห็นคือ ม้าตัวผอมเซียว ซึ่งมี พระเจ้าตาก และพระปิยะมหาราช
    ยื่นขว้างลำน้ำอยู่

    ท่านบอกว่า ที่เห็นอยู่คือกษัตริย์เก่าๆช่วยไม่ให้กรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วม
    จริงๆกรุงเทพฯต้องถูกน้ำท่วมไป
    นานแล้ว แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ม้าจะหมดแรง จากความหนาวของน้ำ
    แล้วการอดอาหารมานาน

    หลวงพ่อท่านพูดจบท่านน้ำตาท่านก็ไหลออกมา
    แล้วบอกให้ทุกคนที่ได้รับฟังเรื่องราวของท่าน ว่าเป็นนิมิต
    ของท่าน จะเชื่อหรือไม่ก็ได้ เพราะท่านก็ยังคิดว่าเป็นความฝันของท่าน

    แต่ท่านก็กำชับกับทุกๆคนเอาไว้ว่า เวลาไปที่วงเวียนใหญ่ หรือพระบรมรูปทรงม้า
    หรือที่ไหนก็แล้วแต่ที่มี
    พระบรมรูป ให้กราบไหว้โดยนำ หญ้าที่ม้ากินล้างให้สะอาดไปถวายด้วย
    เพื่อให้ม้ามีกำลังยืนต่อไปได้
    ผมก็คิดว่านี่เป็นสิ่งที่ทุกคนมองข้ามไปจริงๆ
    เพราะคนส่วนมากเวลาไปไหว้ก็จะนำแต่ดอกไม้ไปไหว้เท่านั้น

    สิ่งหนึ่งที่ผมคิดคือมันแปลกมากที่อยู่ๆ
    เข้าไปถวายเทียนแล้วท่านก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ในเมื่อมีโอกาสได้รับ
    รู้ ก็ควรเผยแพร่แก่ทุกๆคนครับ ก็อยากจะฝากเพื่อนๆ
    แต่อันนี้สุดแล้วแต่ความเชื่อครับ

    ปล.ข้อความใดไม่เหมาะสมช่วยแจ้งด้วยครับจะได้ลบทิ้ง ขอบคุณ

  2. #2
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    มาซึ้งเอาตรงข้อมความสุดท้าย ของพระเจ้าตากสิน กับ ร.5 นี่แหละครับ
    ดวงพระวิญญาณท่านน่าจะสถิตย์ สวรรค์ชั้นฟ้าแล้วนะ

    เคยมีคนเฒ่าคนแก่เล่าว่า ดวงเมืองไทยนี่ประหลาด พอเข้าตาจน ผู้หญิงมาช่วยไว้ทุกที
    ตอนงานออกพระเมรุสมเด็จย่า ท่านถ่ายความทุกข์ให้แผ่นดินตรงนั้น บ้านเมืองจึงสงบ
    ตอนนี้ก็ต้องรอดูละกันเนอะ ว่าหลังงานออกพระเมรุพระพี่นาง จะมีอะไรดีขึ้นบ้างมั้ย

    ขอบคุณครับที่เอามาแบ่งปันกันให้อ่าน
    ^^
    ใจร่มๆกันไว้ เพื่อความสงบสุขของเมืองไทย ^^

  3. #3
    ting_ja's Avatar
    ting_ja is offline Senior Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,347

    Wink

    ฟังดูเหมือนจะงมงาย แต่เราก็เชื่อน่ะ

  4. #4
    barumbum is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1
    อืม

    ขอบคุณมากค่ะที่เอา่งดีๆมาให้อ่าน

  5. #5
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    193
    อ่านแล้ว ทำให้นึกถึงบุญคุณของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์นะ ที่ดูแลรักษาบ้านเมืองมาให้พวกเราได้อยู่อาศัยอย่างร่มเย็น หวังว่าบุญบารมีของท่านจะคุ้มครองลูกหลานอย่างพวกเราต่อไปนะ ให้ผ่านพ้นวิกฤติต่าง ๆ ไปได้ด้วยดีเถิด

  6. #6
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    10

    Talking

    ก็ริงนะเนี่ย
    ไม่เคยเห็นมีใครเอาหญ้าไปให้ม้าเลยอ่ะ
    อย่างงี้ต้องทำบุญแล้วอุทิศส่วนกุศลให้ ช้างศึก ม้าศึกเยอะๆ
    [SIGPIC][/SIGPIC]

    จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด
    จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง
    จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง
    จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา

Similar Threads

  1. ลองอ่านดู...สำหรับคนที่ชอบเข้าป่า
    By SODA_ZAA in forum MARS; Study, Work, Sport, Travel ความก้าวหน้า กีฬา ท่องเที่ยว
    Replies: 10
    Last Post: 11-21-2009, 03:26 PM
  2. มื่อวานฟังวิทยุมา คิดว่าเป็น logic ที่ดี ลองอ่านดู ...
    By Oldie_Pang in forum MARS; Study, Work, Sport, Travel ความก้าวหน้า กีฬา ท่องเที่ยว
    Replies: 21
    Last Post: 09-18-2009, 02:36 AM

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •