สาวๆหนุ่มๆในนี้ ชอบซื้อเพชรกันมั้ยคะ

[Bobby-Brand]

ขายเพชรและกระเป๋ามือสองอยู่แถวทองหล่อครับ
แต่ส่วนตัวแล้วจะชำนาญเรื่องเพชรมากกว่า ออกตัวนิดนึงว่าเรียนจบเรื่องเพชรมาจากGIAครับ
ไม่ถึงกับเป็นexpert พี่ๆน้องๆเพื่อนๆในเวปนี้ยังมีคนเก่งกว่าผมอีกเยอะครับ แต่อยากจะมาเล่าอะไรให้ฟังสักหน่อย

เคยลองไปสอบถามราคาเพชรจากตู้ตามห้าง ที่เป็นงานสำเร็จรูป เพชรเม็ดเล็กๆ พวกนี้จะมีหลักการขายเหมือนๆกัน
ถ้าคุณถามว่าเพชรน้ำเท่าไหร่ พวกนี้จะตอบมาว่า97เหมือนๆกันหมดเลย ถามว่าน้ำ97จริงไหม ตอบเลยว่า จริงแค่ส่วนเดียว
เวลาซื้อเพชรห่อมามันก็มาคละๆกันนั่นแหละ แต่ก้ไม่ได้ห่างกันน่าเกลียด ถ้าคนขายบอกว่าน้ำ97 มองในแง่ดีหน่อยก็อยู่ในช่วง 97-95 **เพชรน้ำ95ขึ้นไปถ้าเม็ดเล็กๆอยู่ในsettingแล้ว มองยังไงก็ขาวครับ ถ้าคุณเห็นเหลืองๆแสดงว่า ไม่ถึง95ละ** ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆด้วยครับ อาทิเช่น แสง และ หน้าtable
แต่ถามว่าเค้าโกหกคุณไหม อันนี้ลุกค้าต้องเข้าใจนิดนึงว่า เวลาผลิตงานjewelry คนคัดเพชรนี่คัดเป็นพันๆเม็ด แน่นอน จะให้น้ำ97หมดเลยมันเป็นไปไม่ได้ครับ แต่ผู้ขายก็ต้องมีจรรยาบรรณ ไม่ใช่เอาน้ำ 93-94มาแล้วบอกว่าเป็น97 อันนี้มันจงใจ

ตำหนิ ข้อนี้เป็นปัญหาตลอดเลย ส่วนใหญ่คนขายชอบบอกว่าไม่มีตำหนิ อันนี้ผมคิดเอาเองนะว่า บางทีคนขายก็ไม่รู้ว่าคนซื้อมีความรู้เรื่องเพชรแค่ไหน เลยเลี่ยงที่จะบอกเป็นเกรด อาจเพราะขี้เกียจอธิบาย และอีกข้อคือ คนขายตามเค้าเตอร์ ก็ไม่ได้มีความรู้มากพอที่จะอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ เลยเลี่ยงไม่พูดดีกว่า

และส่วนใหญ่ที่คนขายพูดว่าไม่มีตำหนิ จากประสพการณ์ เพชรพวกนี้จะอยู่ในช่วงVS **เพชรเม็ดเล็กไม่มีVS1-2ครับ** ความหมายของคำว่าไม่มีตำหนิ จะประมาณว่าไม่มีตำหนิให้เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งจะอยู่ในช่วง VSครับ

ทำไมเพชรเม็ดเล็กถึงนิยมใช้VS-SI
ลองนึกดูครับ ถ้าแหวนเพชรที่ขายในร้านA ราคาตั้งขาย 30,000 บาท แต่ร้านBขายแหวนเหมือนกันเลย ราคาแค่ 25,000บาท คุณจะซื้อร้านไหน ซึ่งตำหนิในระดับของVSมันก็ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าเห็นอยู่แล้ว พอทำออกมาเสร็จแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่า แหวนสองวงที่ใช้เพชรคนละเกรด แต่ออกมาเหมือนกับเป๊ะ และจะใช้VVSไปทำไม ขายก็ยาก ราคาก็แพง

เบื่อกันหรือยังครับ ถ้ายังไม่เบื่อก็ต่อกันด้วยcuttingต่อเลย
เรื่องของcuttingนี่สำคัญมากๆเลยนะครับ จะได้เพชรดีหรือไม่ดีนี่cuttingนี่แหละเป็นหัวใจเลย แต่ถ้าลองสังเกตุกันจริงๆแล้ว ตามพฤติกรรมการซื้อเพชรของลูกค้า ส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญของcuttingเป็นส่วนสุดท้ายเลย บางทีคนขายแค่บอกว่าเป็นเบลเยี่ยมคัท ก็โอเคเพชรสวยแน่นอน แต่ถามหน่อยครับ ทั้งคนขายและคนซื้อเลยว่า อะไรคือเบลเยี่ยมคัท
คนซื้อบางส่วนเข้าใจว่าเป็นเพชรที่เจียรนัยที่เบลเยี่ยม โอเค ถูก20% บางส่วนบอกว่าเป็นเพชรที่เจียรนัยได้ยอดเยี่ยม ก็ถูกอีก แต่ความเป็นจริงแล้ว คำว่าเบลเยี่ยมคัท เป็นแค่trading termให้ลูกค้าเข้าใจว่าเป็นเพชรสวย เพชรดี แต่ไม่ได้หมายความว่า เพชรเม็ดนั้นๆ เจียรนัยที่เบลเยี่ยมจริงๆ ขอบอกอีกด้วยความสัตย์จริง ลองคิดดูว่า เพชรส่วนใหญ่ในตลาดเมืองไทย ใครเป็นคนนำเข้ามา แขก แล้วเป็นแขกอินเดียด้วย แล้วแขกอินเดียจะไปเอาเพชรที่เบลเยี่ยมมาทำไม ค่าตั๋วไปก็แพง กลับไปเอาที่อินเดียดีกว่า ถูกกว่า แถมเป็นประเทศบ้านเกิด ย่อมต่อรองราคาได้ดีกว่าอยู่แล้ว

แล้วเบลเยี่ยมคัทมาจากไหน ทำไมถึงต้องเป็นเบลเยี่ยม เป็นประเทศอื่นไม่ได้หรอ แถมให้เป็นเกร็ดความรู้นิดนึงว่า ถ้าใครเคยดูBlood diamond มันจะมีบริษัทนึงที่คุมตลาดเพชรอยู่ หลายคนคงคุ้นๆกับชื่อนี้ De Beers ซึ่งเพชรในโลกนี้กว่า 80%เป็นเพชรที่มาจากบริษัทนี้ทั้งสิ้น
ซึ่งDe beers จะมีวิธีในการจำหน่ายเพชร โดยจะตั้งกลุ่มผู้ซื้อที่เรียกว่าsight holder ก็คือบริษัทเพชรใหญ่ๆนี่แหละครับ ไปกว้านซื้อแร่เพชรจากde beersมาเจียรนัยแล้วขาย โดยDe beersด้วยความที่คุมตลาดมันอยู่เจ้าเดียว ก็เลยสามารถกำหนดได้ว่า จะขายอะไรให้กับใคร ซึ่งเพชรที่มีขนาดใหญ่จะจำหน่ายให้กับบริษัทจากเบลเยี่ยม เพราะมีฝีมือและความชำนาญในการเจียรเพชรเม็ดใหญ่มากกว่า ส่วนอินเดียที่ค่าแรงในการเจียรถูกกว่าก็เอาพวกเม็ดเล็กๆไป ประมาณนี้แหละครับ

นอกเรื่องไปเยอะแล้ว เอาcuttingต่อให้จบดีกว่า
จากข้างบนที่ผมกล่าวอ้างไปถึงเพชรเบลเยี่ยม ซึ่งคนขายบางคนก็ยังไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วมันคืออะไร อ่ะ แล้วเราจะมีวิธีเลือกเพชรที่เจียรนัยสวยๆได้อย่างไร

วิธีแรก ไม่ยากเลย ถ้าเป็นเม็ดใหญ่ก็ดูเอามันจากใบcertificateนั่นแหละ **เน้น มีบางร้าน เวลาขายชอบบอกว่าเอาใบรับประกันของทางร้าน หรือเอาใบcertificateจากlabไหนให้เราก็ไม่รู้ ขอย้ำอีกครั้งว่า จะซื้อเพชรเม็ดใหญ่ อย่าไปงกกับใบcertificateแค่ไม่เท่าไหร่ โดยใบcertificateต้องมาจากlab GIA, HRD, IGI เท่านั้น โดยราคาก็จะตามที่ผมเรียงเลยครับ GIAจะน่าเชื่อถือที่สุด รองลงมาก็ HRD และ IGIสุดท้าย

ขอเน้นอีกรอบเลย ใบรับประกันของทางร้าน เป็นแค่เศษกระดาษ ถ้าเกิดวันไหนคุณจะเอาเพชรไปขาย แล้วร้านที่เค้าตีราคาให้คุณ ตีน้ำหรือตำหนิให้คุณต่ำกว่าใบรับประกัน คุณไม่สามารถเอาใบรับประกันไปอ้างอิงได้

วิธีที่สอง ไม่ยากเหมือนกัน เอามาส่องดูด้วยตาเปล่านี่แหละครับ โดยสังเกตจาก
1) Brightness หรือความสว่าง เพชรที่เจียรนัยดี เวลาอยู่ในที่สว่างแล้วต้องขาว โดยทั่วๆกัน ถ้าเพชรที่เจียรนัยแย่ อาจจะมีมืดตรงกลางเป็นจุดใหญ่ๆ

2) Fire หรือ ไฟนั่นแหละครับ เพชรที่เจียรนัยดีต้องมีไฟ โดยสังเกตจากสีของไฟที่สะท้อนออกมา ต้องมีครบเจ็ดสี บางสีอาจจะเห็นไม่ครบ หรือสังเกตยากหน่อย และต้องให้ทั่วๆเวลาที่ขยับเพชรไปมา

3) Scintillation หรือ ค่าcontrastระหว่างสีดำกับสีขาว ลองเอามาดูครับ จะเห็นว่าในเพชรเนี่ย จะมีทั้งส่วนที่ดำและขาว ให้ดูว่ามันเห็นตัดกันชัดเจนหรือไม่ ถ้าชัดก็ดีครับ แต่หลักสำคัญๆก็จะอยู่ที่ fire and brightnessมากกว่า

เอาเป็นว่า ขอตัดจบตรงนี้ก่อนแล้วกันครับ ยาวมากไปแล้ว เดี๋ยวอ่านมากๆแล้วจะงงกัน ถ้ามีข้อสงสัยหรืออะไร ลองสอบถามมาทางหลังไมค์ก็ได้ครับ

[authentic_only]

คุณ Bobby-Brand ไม่เบื่อเลยค่ะ เล่าอีก ชอบฟังค่ะ มีความรู้ดี

เคส De Beers เคยลง textbook ด้วยค่ะ แต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ (ไม่สนใจเรียน แหะแหะ)

อันนี้สอบถามเพิ่มอีกค่ะ คนขายเพชรบางคนบอกว่า สีแชมเปญ นี่มันคือเพชรเกรดไม่ดีที่สีออกเหลืองหรือเปล่าคะ

หรือเป็นสีจริงๆ แบบกรณีเพชรสีชมพู หรือ ฟ้าค่ะ (ไม่ชอบเพชร 2 สีนี้เลยค่ะ ดูเหมือนไม่มีราคาจริงเปล่าคะ?)

[Bobby-Brand]

ขอบคุณที่ชอบนะครับ

คุณauthentic_onlyนี่เรียนเกี่ยวกับเพชรมาเหมือนกันหรือครับ

ขอตอบเกี่ยวกับเพชรสีครับ

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เพชรเกิดเป็นสีต่างๆ แล้วเพชรมีสีอะไรบ้าง
ส่วนใหญ่คนทั่วไปจะรู้แค่ว่าเพชรมีสีขาว(จริงๆต้องบอกว่าขาวในที่นี้คือใสไร้สี แต่คนไทยชอบพูดว่าเพชรขาวๆ) กับเหลือง
เชื่อว่าทุกๆคนคงรู้กันแล้วว่า ส่วนประกอบของเพชรก็คือ ก้อนคาร์บอนที่จับตัวกันแน่นมาก ถ้าเป็นก้อนคาร์บอน100%ไม่มีอะไรเจือปนเลย เพชรที่ออกมาก็จะมีสีขาว น้ำ100% ซึ่งหายากมาก เป็นสาเหตุว่า ทำไมน้ำ100ถึงแพ๊งแพงๆๆๆๆ

ถ้ามีไนโตรเจนเข้าไปปน เพชรก็จะออกเหลืองขึ้นๆครับ แต่ถ้าเหลืองมากๆ ก็จะถูกจัดเกรดว่าเป็นสีแฟนซี ราคาก็สูงเช่นกันครับ เพราะหายาก แต่เมืองไทยไม่ค่อยนิยมครับ

แล้วเพชรมีสีอะไรบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับว่ามีอะไรเข้าไปเจือปน ถ้าเป็นโบรอนก็จะเป็นสีฟ้าครับ

แล้วสีน้ำตาลละ การที่เกิดสีน้ำตาลไม่ได้เกิดจากการที่มีสารอะไรเข้าไปเจือปนครับ ถ้าจะบอกอีกอย่างก็คือ เพชรสีน้ำตาลเกิดจากโครงสร้างของคาร์บอนที่เพี้ยนไป และเพชรสีน้ำตาลส่วนใหญ่จะราคาไม่ค่อยดีสู้เพชรขาวไม่ได้ครับ แต่ก็มีพ่อค้าหัวใสตั้งชื่อให้มัน เป็นที่มาของเพชรสีแชมเปญครับ ส่วนใหญ่เพชรสีน้ำตาลจะมาจากเหมืองที่ออสเตรเลียครับ เพชรสีชมพูก็จะเกิดจากสาเหตุเดียวกับสีน้ำตาลครับ แต่จะหายากกว่าเยอะ ทำให้ราคาสูงมากๆ

เพชรสีดำกับสีขาว (สีขาวในที่นี้คือสีขาวขุ่นนะครับ) เกิดจากตำหนิข้างในเพชรครับ หรือที่เรียกว่าไฝดำ ไฝขาว จำนวนเยอะมากๆ ตำหนิIขึ้นไป จนทำให้แสงผ่านทะลุไม่ได้

[oum_ja]

ขอบคุณค่ะ คุณBobby-Brand ได้ความรู้มากเลยค่ะ

ขอถามนิดนะค่ะ สงสัยมานานแล้ว เรื่อง ทองคำและทองคำขาวที่นำมาล้อมเพชรหรือพลอย ปกติใช้ทองกี่เปอร์เซนต์ค่ะ เพราะบางร้านแนะนำว่าควรเอาทองจริงมาล้อม เพราะเวลาขายได้ราคา

แต่บางเจ้าก็บอกว่า ทองที่ล้อมเพชรพลอย ต้องใช้ทองเคถึงจะประกอบได้

แต่บางคนบอกว่าทองเคไม่สามารถเทียบได้กับทองแท้ในเรื่องราคา

แน่นอนว่าทอง 100%ไม่สามารถล้อมได้เพราะอ่อนเกินไป แล้วทองกี่เปอร์เซนต์ถึงเหมาะที่จะล้อมเพชรและยังได้ราคาค่ะ

[Bobby-Brand]

ตอบคุณoum_jaครับ
โดยทั่วไปใช้ทอง18kครับ จริงๆทอง18kก็คือทองแท้แหละครับ เพียงแค่เปอร์เซนต์ทองจะน้อยกว่าทองรูปพรรณครับ

[authentic_only]

เปล่าค่ะ คุณ Bobby-Brand ไม่ได้เรียนด้านนี้มาค่ะ เรียนด้าน business จำไม่ได้แม้กระทั่งชื่ิอวิชา!!
แต่จำได้ว่ามีช่วงนึง De Beers มีปัญหาที่ปล่อยเพชรออกไม่ได้ ก็เลยไม่มีรายได้ทำนองนั้นค่ะ

แสดงว่าคนขายเพชรพูดความจริงค่ะ เค้าบอกว่าบางทีเพชรสีแชมเปญก็มีราคาเหมือนกัน
ตอนนั้นเรายังสงสัยอยู่ กลัวเค้าพูดไม่จริงค่ะ ตอนนี้โอเคมี gemologist มายันแล้วค่ะ

มีพี่คนนึงที่ออฟฟิศแกมาโชว์แหวนเพชรวงละ 3 ล้าน หรือ 5 ล้านไม่ทราบค่ะ (จำไม่ได้ อีกแล้ว)
เจียรกลม (คัตติ้งไม่สันทัด) แต่น้ำ 100 แกซื้อตอนแกไปเที่ยวยุโรปมา เป็นบุญตามากค่ะ
แต่ปกติแกจะเล่นเกรด VVS กับ VS เห็นเล่าว่ามีวิธีทำเพชรให้เกรดดีขึึ้น คือการทำ (เลเซอร์)
แต่ถ้าทำแล้วเพชรนั้นจะไม่สามารถเจียรใหม่ได้ค่ะ

ขอแอบเสริมคุณ Bobby-Brand ค่ะ พอดีพึ่งจะศึกษาเรื่องทองเคมา ก็เลยเอามาให้คุณ oum_ja ทราบค่ะ


gold.
24 karat = 100% gold
Too soft for jewelry

22 karat = 91.7% gold
Very soft — not recommended for jewelry

18 karat = 75.0% gold
Recommended for fine jewelry

14 karat = 58.3% gold
Recommended for jewelry

12 karat = 50.0% gold
Not acceptable for jewelry

10 karat = 41.7% gold
The legal karat limit considered as real gold in the United States

source: www.bluenile.com

[lollipop]

แอบกลับช้ามาอ่านอีกรอบ ปรากฏว่าได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ

คุณBobby-Brand เชี่ยวชาญมากๆ

ป.ล.เคยดูหนังเรื่อง บลัด ไดมอนด์กะเค้าด้วย ได้ข้อคิดสะท้อนถึงธุรกิจนี้ได้ดีทีเดียวค่ะ

[kyo^ ^]

ชอบเพชรมากค่ะ แต่ที่สำคัญรอให้แฟนซื้ออย่างเดียวค่ะ
ซื้อเองรู้สึกมันแพงทุกทีเลย ทำไมไม่รู้ อิ อิ
เวลาซื้อจะไปร้านญาติของแฟนค่ะ ซื้อร้านคนรู้จักรู้สึกสบายใจดี
เห็นแฟนบอกว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ที่ร้านญาติจะขายถูกลงค่ะ
เพื่อให้ของมันหมุนมาเป็นเงินบ้าง เพราะคนซื้อเพชรพลอยน้อยลง
อาจจะเป็นจังหวะดีนะคะ ที่จะซื้อในช่วงนี้