Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 10 of 18

Thread: ไปอ่านเจอมาค่ะ สะท้อนอะไรหลายๆอย่าง.. ชีวิตของ "เสริม สาครราษฏร์ จากมุมมองอีกด้านหนึ่ง ซึ่งหลายคนยังไม่รู้

Hybrid View

  1. #1
    Join Date
    May 2010
    Posts
    8

    ไปอ่านเจอมาค่ะ สะท้อนอะไรหลายๆอย่าง.. ชีวิตของ "เสริม สาครราษฏร์ จากมุมมองอีกด้านหนึ่ง ซึ่งหลายคนยังไม่รู้

    จากที่รู้ๆจากหน้าหนังสือพิมพ์นะค่ะ ว่าเค้าคนนี้คือใคร พอดีพีเคได้ไปเจอที่เว๊บ sanook เลยอ่านๆดูมีข้อคิดอะไรหลายๆอย่าง หรืออีกมุมมองหนึ่ง ของผู้ชายคนนี้..... ลองอ่านดูนะค่ะ

    เครดิต จาก sanook.com ค่ะ

    เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำตัวนายเสริม สาครราษฎร์ กลับออกศาลอาญารัชดา
    หลังจากฟังคำพิพากษาศาลฎีกา สั่งลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
    ผมต้องการเล่าเรื่องบางเรื่องให้ฟัง...
    (มิใช่เพื่อแก้ตัว หรือขอความเห็นใจใด ๆ แค่อยากให้คุณมี
    "มุมมองอีกมุมหนึ่ง"
    เกี่ยวกับผู้ชายคนที่ชื่อ เสริม สาครราษฎร์ เท่านั้น) เรื่องมีอยู่ว่า

    ผมเป็นอีกคนที่รู้จักกับคุณแม่ของ "เสริม สาครราษฎร์"
    ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่ถือว่ามีฐานะดี เงินอาจจะไม่มีมากมายอะไร
    แต่รวยที่ดิน...

    ผมเห็นเขามาตั้งแต่เด็ก ชีวิตของเขาน่าสงสาร
    เขาเป็นเด็กที่เก็บกดมาก ๆ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา
    และบางครั้งเขาเงียบจนดูน่ากลัว
    (เป็นความเห็นส่วนตัวนะ เพราะเขาเงียบ แต่ดูท่าทางคิดอะไรอยู่ตลอด)
    เหตุก็เนื่องมาจาก... พ่อของเขาเป็นคนที่เข้มงวด และเผด็จการมาก
    บังคับลูกทุกอย่าง แม้แต่แม่ของเขาก็ไม่สามารถมีปากมีเสียงได้
    ไม่ว่ามีเรื่องอะไร เขาจะเล่าให้แม่เขาฟัง ทำให้เขาสนิทกับแม่
    และแม่ของเขาก็โอ๋เขามากเช่นกัน (เป็นเพราะสงสารลูกที่ถูกพ่อบังคับและตีมาตลอด)

    เขาเป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก
    เพราะพอเรียนจากโรงเรียนเสร็จมาก็จะต้องไปเรียนกวดวิชาต่อ
    จนค่ำมืดดึกดื่น (เป็นแบบนี้ทุกวัน)
    ตั้งแต่เรียนหนังสือมา เขาเรียนได้ที่ 1 มาตลอด
    รางวัลเรียนดีอะไรต่ออะไรเต็มบ้านไปหมด แต่ดูเป็นคนไม่มีสังคม ไม่มีเพื่อน
    เพราะแม่ของเขาบ่นให้ผมฟังว่า... เขาไม่เคยพูดถึงเพื่อนเขาให้ฟังเลย

    ครั้นพอเขาเรียนจบมัธยม (เขาเรียนจบเร็วมาก เพราะเขาสอบเทียบหลายปี)
    เขาอยากเรียนวิศวะ แต่พ่อต้องการให้เรียนหมอ
    เขาก็ไม่เคยเถียงหรือพูดอะไร
    แต่พอถึงตอนเอ็นท์ฯ เขาก็ "ขัดใจ" พ่อ โดยการใส่ชื่อคณะวิศวะ
    ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง "อันดับเดียว" (ในสมัยนั้นเขาให้เลือกได้ 4 อันดับ)

    ผลออกมาก็คือ เขาติดคณะวิศวะสมใจเขา แต่พ่อเขาโกธรมาก และก็ไม่ยอมให้ไปเรียน
    บอกว่าให้รอปีหน้าแล้วเอ็นท์ฯใหม่ ระหว่างนั้นก็ทั้งด่า ตี ต่าง ๆ นานา
    พอแม่เข้ามาช่วย แม่ก็พลอยโดนลูกหลงเข้าไปด้วย
    (คุณเชื่อไหมว่า... พ่อของเขาทั้งด่า และตีเขา "ทุกวัน" ...ทุกวันนะคุณ
    ตอนแม่เขาเล่าให้ผมฟัง ผมยังตกใจเลย)
    สุดท้าย... แม่เขาสงสารลูก ทนไม่ไหว
    จึงแอบส่งลูกไปเรียนมหาวิทยาลัยที่สอบติด
    และแอบส่งเงินให้ทุกเดือน ส่วนพอเข้าใจว่า ลูกหนีออกจากบ้าน
    ทำให้ประกาศลั่นตัดพ่อตัดลูก

    เสริมเรียนเก่งมาก เพราะเขาสามารถจบวิศวะโดยใช้เวลาแค่ 2 ปีครึ่งเท่านั้น !!! (เรื่องจริงนะ)
    พอเขาเรียนจบเขาก็กลับบ้านมาด้วยความภูมิใจ หวังจะให้แม่ภูมิใจ
    และจะกลับมาดูพ่อด้วยว่า พ่อใกล้ตายหรือยัง? (คำนี้..ผมได้ยินจากปากเขาเลยนะ)
    เพราะระหว่างที่เรียนอยู่
    แม่เขาจะส่งข่าวมาตลอดว่าพ่อป่วยหนักเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย (เพิ่งตรวจพบ)
    ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่ เพราะเขา "เกลียด" พ่อ
    (คงต้องใช้คำนี้นะ เพราะแม่เขาเล่าให้ฟังแบบนี้)

    พอกลับมาที่บ้าน นอกจากพ่อจะไม่ภูมิใจแล้ว พ่อยังด่าทอต่อว่าต่าง ๆ นานา
    (แต่ไม่มีปัญญาจะลุกขึ้นมาตีลูกอีกเพราะป่วยหนัก)

    แม่ของเขาเล่าให้เขาฟังว่า... พ่อบ่นและเพ้อออกมาตอนป่วยว่า
    อยากให้เขาเรียนหมอ อยากให้เขาเป็นหมอ
    แม่เขาจึง "ขอร้อง" ให้เขาเรียนหมอ โดยให้ถือซะว่าทำเพื่อแม่
    (ไม่ต้องคิดว่าทำเพื่อพ่อ เพราะเขาเกลียดพ่อ คงไม่ทำเพื่อพ่ออยู่แล้ว)

    แม่ของเขาขอร้องให้เขาเรียนหมออีกครั้งอยู่นาน
    (เพราะต้องการจะทำความหวังของสามีให้เป็นจริงก่อนที่สามีจะตาย)
    แม่ของเขาถึงขนาด ร้องหม่ร้องไห้ทุกวัน ไม่กินข้าวกินปลา จนเขาทนไม่ไหว
    ด้วยความที่รักแม่ จึงรับปากว่า เขาจะเอ็นท์ฯ และเรียนหมออีกครั้ง"เพื่อแม่"...
    (ขณะที่เขาเรียนจบวิศวะมา เขาอายุไม่มากเลย เพราะทั้งสอบเทียบและเรียนจบมาเร็ว)
    > โดยเลือก คณะแพทย์ศาสตร์อันดับเดียวเหมือนเดิม ผลออกมาก็คือ
    เอ็นท์ฯติดตามระเบียบ
    แต่พ่อของเขาไม่สามารถที่จะอยู่เพื่อเห็น "ความสำเร็จ และสิ่งที่บังคับ"
    อยากให้ลูกเป็นมาตลอดได้
    เพราะหลังจากที่เขาเข้าเรียนได้ไม่กี่เดือน "พ่อเขาก็เสียชีวิต"...
    เหตุการณ์หลังจากนั้น คงไม่ต้องให้ผมเล่า
    เพราะมันก็เป็นเหมือนอย่างที่ทุกคนเห็น ๆ กันอยู่...

    ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ จะโทษใครดี โทษตัวเขา
    ที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ
    โทษพ่อเขา ที่กดดัน เข้มงวด ดุด่า และตีเขามาตลอด จนกลายเป็นคนเก็บกด
    โทษแม่เขา ที่สงสารลูก ตามใจลูก เนื่องมาจากสงสารลูกที่ถูกพ่อตี
    และบังคับทุกอย่าง

    *** ที่ผมตัดสินเล่าเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ก็เนื่องมาจาก...
    อยากให้ทุกคนที่ได้อ่านข้อความนี้ ได้มีมุมมองอีกมุมนึง สำหรับผู้ชายที่ชื่อ
    เสริม สาครราษฎร์
    *** ไม่ได้หวังที่จะเล่าเพื่อขอความเห็นใจ หรือแก้ตัวให้เขาแต่อย่างใด
    เพราะเมื่อเขาทำผิด เขาก็ต้องได้รับโทษ
    เพียงแต่ต้องการเสนอมุมมองต่างมุมที่บางคน (ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่นะ)
    ไม่ทราบได้รับรู้ว่า "เด็กคนนี้ เป็นเด็กที่น่าสงสารมาตั้งแต่เด็กแล้ว"
    เท่านั้นเอง...

    (ลืมบอกไปว่า เรื่องทั้งหมดนี้ บางอย่างผมก็เห็นเอง
    บางอย่างแม่ของเขาเล่าให้ผมฟังเอง เพราะผมค่อนข้างจะสนิทกับครอบครัวนี้มาก)



    หมายเหตุ: ขอขอบคุณข้อมูลจาก Mythland.com

  2. #2
    ting_ja's Avatar
    ting_ja is offline Senior Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,347

    Wink

    เราก็มีลูก แค่ลูกเราเป็นเด็กดีก็พอ เราคงไม่อยากไปบังคับ หรือคาดหวังเค้ามาก

    สมัยนี้ สังคมมันแข่งขันกันมาก คนเก่งมีเยอะ แต่คนดี หาแทบไม่มีแล้ว

  3. #3
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    เข้าใจและเห็นใจพี่เสริม แต่ก็ต้องรับกรรม
    เคยคุยกับพี่แค่ครั้งเดียวเพราะเพื่อนซี้อยู่วชิระเป็นเพื่อนกับพี่เสริม
    ก็รู้สึกว่าเขาแปลกทางความคิด และเป็นคนเงียบๆ
    เพื่อนซี้บอกว่าพี่เสริมเป็นคนดีช่วยเหลือทุกอย่าง แต่มีโลกส่วนตัวมาก
    ตอนที่มีข่าวใหม่ๆ เพื่อนๆที่วชิระยังไม่ค่อยเชื่อว่าเขาจะเป็นคนทำ
    แต่มารู้อย่างนี้ ก็คิดว่าการมีลูกเก่งแค่ IQ มันไม่พอค่ะ
    ต้องมี EQ ที่ดีด้วยถึงจะอยู่อย่างมีความสุข
    ไม่ชอบของปลอม
    ไม่อยากโดนหลอก
    ของปลอมออกไป
    ไกลๆ SBN

  4. #4
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    104
    อย่าว่ากันน๊า อยากรุ้ว่าเค้าทำไรผิดคะ ชื้อคุ้นๆมากเลย แต่นึกไม่ออกอะ บอกด้วยจิ
    [SIGPIC][/SIGPIC]

  5. #5
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    10

    Talking

    ^
    ^
    ^
    ฆ่าหั่นศพ นส.เจนจิราค่ะ

    น่าสงสารคุณเสริมมากๆ
    [SIGPIC][/SIGPIC]

    จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด
    จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง
    จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง
    จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา

  6. #6
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    สอนลูกให้เป็นคนดี ก่อนที่จะสอนให้เค๊าเป็นคนเก่งค่ะ

    อ่านแล้วเศร้า แต่ให้คติเตือนใจดีมากกกๆค่ะ

    ขอบคุณคุณpkมากๆเลยค่ะ
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

Similar Threads

  1. Replies: 1
    Last Post: 05-19-2021, 02:42 PM
  2. Replies: 1
    Last Post: 05-05-2021, 01:58 PM
  3. Replies: 1
    Last Post: 05-03-2021, 01:32 PM
  4. Replies: 1
    Last Post: 03-29-2021, 04:38 PM
  5. Replies: 1
    Last Post: 03-28-2021, 10:35 PM

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •