Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 1 of 2 1 2 LastLast
Results 1 to 10 of 22

Thread: ปริศนาตอบได้ง่าย หากเราเปลี่ยนมุมมอง

Hybrid View

  1. #1
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking การปล่อยวาง (ธรรมะในชีวิตประจำวัน)

    การปล่อยวาง [ ธรรมะในชีวิตประจำวัน ]
    ข้อความ : นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
    + + + + + + + + + +

    ชีวิตํ พฺยาธิ กาโล จ
    เทหนิกฺเขปนํ คติ
    ปญฺเจเต ชีวโลกสฺมึ
    อนิมิตฺตา น นายเร.


    แปลใจความได้ว่า
    "ชีวิต [ความเป็น] (๑)
    พยาธิ [ความเจ็บป่วย] (๑)
    กาละ [เวลาเจ็บหรือจาก] (๑)
    คติ [ที่หมายภายหลังสิ้นชีวิต] (๑)
    ฐานะ ๕ อย่างนี้ ไม่มีนิมิตเครื่องหมายบอกเหตุล่วงหน้า
    เป็นธรรมชาติที่บอกไม่ได้ ทายไม่ถูก"

    + + + + + + + + + +

    การปล่อยวาง

    การแบกอะไรไว้นั้น ล้วนเป็นเรื่อง 'หนัก' เสมอ
    ทั้งในแง่รูปธรรมและนามธรรม

    แบกเรื่องที่เป็นรูปธรรม ก็หนักบ่า เครียดกาย เหนื่อยกาย
    แบกเรื่องที่เป็นนามธรรม ก็หนักใจ เครียดที่ใจ
    หรือการแบกบางอันก็ทำให้เหนื่อย หนัก เครียดทั้งกาย
    เครียดทั้งใจ

    -ทำทุกอย่างที่ดีๆ ให้เต็มกำลังความสามารถเสมอก็พอแล้ว-

    ในทางธรรมจึงแนะนำให้บุคคลเพียง 'ทำไปตามหน้าที่'
    ด้วยความตั้งใจให้ดีที่สุด ลงแรงลงใจให้เต็มร้อย
    กับทุกๆ เรื่อง ทุกๆ หน้าที่ ทุกๆ การกระทำ

    อาทิ เป็นลูกก็เป็นลูกที่ดี กตัญญู เชื่อฟังแม่และพ่อ ดูแลแม่และพ่อ
    เป็นคนทำงาน ก็ตั้งใจรับผิดชอบและปฏิบัติหน้าที่การงานไปเต็ม
    กำลังความสามารถและความรู้ ให้งานออกมาดีที่สุดตามเวลาและ
    โอกาสที่มีให้ เป็นแม่หรือพ่อ ก็ตั้งใจเลี้ยงดูอบรมลูกให้ดีที่สุด
    เต็มกำลังความสามารถที่จะให้เขาได้ เป็นนักเรียนก็ตั้งใจเก็บ
    เกี่ยวความรู้ให้มากๆ เป็นต้น

    จะเป็นอะไรก็ตาม ก็ตั้งใจทำให้ดีที่สุด ระแวดระวังรอบคอบให้หน้าที่
    นั้นๆ ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อพบข้อบกพร่องในการกระทำ
    ของตนก็พยายามแก้ไขปรับปรุงพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งๆ ในทุกหน้าที่

    -ภูมิใจในตัวเองบ้าง ชื่นชมตัวเองบ้าง-

    และเมื่อรู้ตัวว่าทำดีที่สุดในทุกๆ หน้าที่ ทุกๆ บทบาทอยู่ตลอดเวลา
    แล้ว ก็สมควรดีใจ พอใจ ภูมิใจในการกระทำของตนได้

    อย่างไรก็ตาม คนก็คือคน โดยทั่วๆ ไปแล้วไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
    หรือดีพร้อมไปได้ ย่อมต้องมีบกพร่องตกหล่นไม่มากก็น้อย

    -คาดหวังผลได้ แต่ควรยอมรับไปพร้อมๆ กันด้วย
    ว่าผลอาจไม่เป็นตามต้องการเสมอไปหรือเต็มร้อย-

    หลายๆ อย่างในชีวิตเราทำได้แค่ 'ทำให้ดีที่สุด' ในส่วนของเรา
    แต่เราไม่สามารถไปกำหนดว่าผลจะต้องออกมาเป็นอย่างนั้น
    อย่างนี้ แม้เราจะคาดหวังสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้น อยากให้ผลออก
    มาดีหรือดีเลิศ ดีพร้อม เช่น เลี้ยงลูกก็อยากให้เค้าดีพร้อม
    สมบูรณ์แบบไม่อยากให้เค้าเจ็บป่วยทุกข์ทรมาน
    ทำงานก็อยากให้ทั้งทีมทำออกมาได้ดีเลิศเสมอ
    ทำรายงานก็อยากให้ผลงานออกมาดีมากๆ

    ยังมีเหตุปัจจัยอีกหลายประการภายนอก (คือนอกจากตัวเราและ
    ใจเราเอง) ที่มีส่วนทำให้เรื่องราวต่างๆ ผันแปร ไม่เป็นไปหรือไม่
    สมบูรณ์แบบอย่างที่คาดหวังเอาไว้

    -ดังนั้น จึงควรรู้จักวาง-

    บางคน ทำดีที่สุดในทุกๆ เรื่องตามโอกาสและเวลาอำนวยแล้ว
    ก็วางลง ไม่คาดหวังผลจนเกินไปหรือคาดหวังแต่ก็เตรียมใจรับ
    สถานการณ์ที่อาจแปรเปลี่ยนผันไปได้เสมอโดยไม่อาจทราบ
    ล่วงหน้าไว้เสมอ

    คนที่วางได้เช่นนี้ จะทำอะไรก็ทำเต็มร้อย ทำด้วยความสุข เต็มใจ
    ที่จะทำ ตั้งใจเต็มร้อยหรือเกินร้อย แล้ววางลง ให้กาย สมองและใจ
    ได้พักบ้าง เพื่อจะได้มีเรี่ยวแรงเยอะๆ พลังใจมากๆ ไว้ปฏิบัติหน้าที่
    อื่นๆ ที่จะต้องทยอยมีตามต่อเนื่องกันมาเป็นสายอยู่เสมอ
    ตราบชั่วชีวิต โดยไม่ต้องแบกอะไรหนักนัก เมื่อจะลงมือทำอะไรก็
    ตั้งใจ ทำอย่างตั้งใจ แล้วก็วางลงอยู่เสมอ จึงไม่หรือไม่ค่อย
    มีอะไรหนักกายหรือหนักใจ กายก็ไม่ค่อยเครียดไม่ค่อยหนัก
    ใจก็ไม่ค่อยเครียดไม่ค่อยหนัก

    แต่บางคน ในเรื่องเดียวๆ กัน หรือเรื่องคล้ายๆ กัน กลับวางไม่ได้
    หรือไม่ยอมวางหรืออาจไม่ทราบว่าจะวางอย่างไร ก็แบกเอาไว้
    คาดหวังที่จะให้สิ่งต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐานที่ตนวางไว้อยู่เสมอ
    เมื่อไม่ได้ก็หงุดหงิดรำคาญใจ แบกตัวเอง แบกคนอื่น แบกโลก
    เอาไว้จนแทบจะเกินกำลังกายเกินแรงใจจะรับไหว
    กายและใจก็เครียดและหนักอยู่เสมอ เพราะวางอะไรแทบ
    ไม่ได้เลย

    -กายเครียดก็ป่วยได้ ใจเครียดก็ป่วยได้-

    ทั้งกายและใจ เมื่อเครียดก็เจ็บป่วยไม่สบายไปได้ ทั้งไม่สบายหรือ
    ป่วยกายและไม่สบายหรือป่วยใจ

    หน้าที่ในชีวิตเป็นสิ่งดี ควรกระทำและรับผิดชอบให้ดีที่สุด
    แต่หากไม่วางบ้าง แบกไว้หมด ก็เท่ากับทำให้กายเครียดซ้ำแล้ว
    ซ้ำเล่า หาทุกข์เพิ่มให้กายตน เท่ากับทำให้ใจเครียดซ้ำแล้ว
    ซ้ำเล่า หาทุกข์เพิ่มให้ใจตน ทำร้ายกายตน ทำร้ายใจตน
    ยิ่งๆ

    ดั่งคำธรรมะที่ยกมาในตอนเริ่มต้นกระทู้ ว่าชีวิตก็ตาม ความเจ็บป่วย
    ก็ตาม ยังไงก็มาแน่ แต่จะมาในรูปแบบไหน อย่างไร เมื่อใดนั้น
    โดยปกติแล้วไม่มีใครบอกได้ ไม่มีอะไรบอกล่วงหน้าได้ ดังนั้น
    ไม่จำเป็นที่จะต้องไปช่วยซ้ำเติมหรือเร่งเวลาด้วยการทำร้ายกาย
    และ/หรือใจตนให้ซ้ำๆ ยิ่งเข้าไปอีกโดยไม่จำเป็น - และเพียงแค่
    ฝึกลองและพยายามหัดปล่อยและวางลงบ้าง ก็จะช่วยให้กาย
    และ/หรือใจไม่ต้องแบกรับสิ่งหนักๆ และความเครียดเพิ่มเข้าไปอีก
    เพราะเท่าที่แบกมาตั้งแต่เกิดและเติบโตมาจนทุกวันนี้
    ก็หนักและเครียดในตัวเองพออยู่แล้ว

    และยิ่งถ้าได้ฝึกใจ ฝึกกายให้พร้อมเอาไว้ สำหรับทุกสถานการณ์
    ได้ด้วย ก็จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ อาทิ ฝึกสมาธิ ฝึกสติให้มากๆ เพื่อว่า
    เวลาที่ความทุกข์ไม่ว่าทางกายหรือทางใจมาเยือนเข้าจริงๆ
    จะได้รับมือได้ทัน

    + + + + + + + + + +

    ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ ตั้งใจว่าจะนำข้อคิดเบาๆ เรื่อง 'การปล่อยวาง' มาฝาก
    กัน เพราะเห็นตัวอย่างว่าโลกนี้หนักหนานักด้วยตัวของโลกเองอยู่แล้ว
    และสภาพสังคม สภาพชีวิตในปัจจุบันนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วเครียด
    เหลือเกิน ได้เห็นคนที่สามารถปล่อยวางได้แล้วก็ตั้งใจทำให้ดีที่สุด
    เท่าที่โอกาสจะอำนวย คนนั้นก็ค่อยมีชีวิตที่ทุกข์น้อยหน่อย
    และได้เห็นคนที่ปล่อยวางไม่เป็นหรือปล่อยวางไม่ค่อยจะได้
    เป็นทุกข์หนัก เครียดยิ่งกว่าที่เครียดอยู่แล้ว เป็นผลให้เกิดปัญหา
    กับสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจด้วย เห็นว่าแนวคิดเล็กๆ น้อยๆ
    ที่นำมาฝากกันนี้ คงจะพอเป็นอีกแนวคิดที่ช่วยๆ กันเสนอแนะ
    ให้มีชีวิตอยู่อย่างทุกข์น้อยลงไปอีกสักนิดก็ยังดี

    อานิสงส์ใดๆ แม้เพียงน้อยนิดที่เกิดจากกระทู้นี้ ขอน้อมส่งให้
    คุณแม่คุณพ่อของพวกเราทุกคนและของสรรพสัตว์ทั้งหลาย
    คุณแม่คุณพ่อของพวกเราทุกคนและของสรรพสัตว์ทั้งหลาย
    ญาติเพื่อนฝูงพี่น้องของเราทุกๆ คนและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
    รวมทั้งเราทุกๆ คนที่ได้มาอ่านข้อเขียนนี้และสรรพสัตว์
    ทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายไม่มีเว้น
    ไม่มีประมาณไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน มีอัตภาพใดอยู่ก็ตาม
    ได้เข้าถึงการรู้จักทำหน้าที่ทุกหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
    รู้จักภูมิใจและเคารพการกระทำดีๆ ของตัวเอง และที่สุดได้
    รู้จักปล่อยวาง ไม่แบกไม่หามเอาไว้ให้หนักหลังจากที่ได้
    ทำดีที่สุดแล้วหรือเมื่อไม่สามารถทำอะไรในเรื่องนั้นๆ ต่อไปได้แล้ว

    รวมทั้งขออานิสงส์ทั้งปวงส่งให้เราทั้งหมดผู้เป็นเพื่อนร่วมทุกข์
    ทั้งหมดไม่มีเว้นไม่มีประมาณนี้ ทำดี-คิดดี-พูดดีอยู่เสมอเนืองๆ
    ยิ่งๆ เป็นผู้อยู่ในสัมมาทิฏฐิยิ่งๆ เจริญสมบูรณ์ไปด้วยอายุ วรรณะ
    สุขะ พละ ปราศจากโรคภัยอันตรายทั้งปวงในที่ทุกสถานในกาล
    ทุกเมื่อ ได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมอันเป็นทางสายเอกสู่การพ้นทุกข์
    คือสติปัฏฐานสี่และวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐานสี่
    และได้เข้าถึงแก่นพระธรรม ได้ดวงตาเห็นธรรมยิ่งๆ
    ได้บรรลุถึงซึ่งมรรค ผลและนิพพาน โดยเร็วที่สุดตามความ
    ปรารถนาและตามสมควรแก่บารมีของตน ด้วยกันทุกคน
    ทุกท่าน ทุกรูปทุกนาม ด้วยเทอญ

    เจริญในธรรม บทความจาก : คุณ deedi
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  2. #2
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking ธรรมะง่าย ๆ ตอบข้อสงสัยสำหรับคนห่างวัด

    ความรู้ที่ได้จากพระอาจารย์ ..ธรรมะในชีวิตประจำวัน
    ตอบข้อสงสัยหลายอย่าง...ให้คนห่างวัดอย่างตัวเรา
    ความรู้ที่ได้จากพระอาจารย์ (ท่านเจ้าคุณเมธี รองเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม) เป็นหลักการปฏิบัติกรรมฐาน โดยการควบคุมจิตใจให้อยู่กับปัจจุบัน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกกับชีวิตประจำวันของแต่ละคนได้มาก เพราะใช้ความรู้สึกของตัวเราให้รู้ว่าตอนนี้กำลังนั่งอยู่ในรูปไหน เดินในรูปไหน เดินในรูปไหนและนอนในรูปไหนไม่ให้ยึดติดกับตัวตน แต่ใช้ความรู้สึกถึงรูปของแต่ละอริยาบทของเราแทน การปฏิบัติไม่จำเป็นต้องลืมตาและปฏิบัติได้ตลอดเวลา ถ้าปฏิบัติได้จะรู้สึกสบายและมีความสุข ไม่โกรธ ไม่เสียใจหรือดีใจจนมากเกินไปจนควบคุมไม่ได้ แต่จิตใจเป็นสิ่งที่ควบคุมยากเพราะเราปล่อยให้กิเลสครอบงำมานาน แต่ถ้าได้รับการฝึกอย่างต่อเนื่องก็จะปฏิบัติได้ เช่นเดียวกับ วัวควายที่มัดไว้กับหลัก ระยะแรกอาจดื้อดึงแล้วพยายามหลุดออกจากหลัก แต่เมื่อเชื่องดีแล้วก็จะไม่กระชากหลักและว่าง่าย นอกจากเรื่องกรรมฐานแล้วพระอาจารย์ยังได้ให้ความรู้ในเรื่องของศาสนาในชีวิตประจำวันเช่น
    - คนเราเกิดมาเพราะมีบุญ ไม่ใช่เกิดมาใช้กรรม ถ้าเราไม่มีบุญเราคงไม่ได้เกิดมาเป็นคนแต่อาจเป็นสัตว์ หรือภูตผี
    - กรรม คือ ผลของการกระทำ ซึ่งมีทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว ใครทำดีก็จะได้ผลดี แต่ผลของการทำชั่วหรือบาปนั่นไม่สามารถล้างบาปหรือลบล้างได้ นอกจากการทำบุญเพื่อให้ผลบุญมาช่วยลดความรุนแรงของบาปนั่นๆ ให้น้อยลง ดังนั้นเมื่อถึงภาวะที่พบปัญหารุนแรงอย่าลืม”ขอให้บุญมาช่วยเหลือ” จะช่วยบรรเทาปัญหาได้
    - การจะได้บาปหรือบุญขึ้นอยู่กับเจตนาเป็นสำคัญ ดังคำที่ว่า “ทำบุญกับยาจกได้ขึ้นสวรรค์ ทำบุญกับพระอรหันต์ตกนรก” พระอาจารย์ได้เล่าเรื่องว่ามีพระราชาองค์หนึ่งชอบการทำบุญจึงได้นิมนต์พระรูปหนึ่งที่น่าเชื่อถือมาเทศนา และทำบุญด้วยอย่างมาก แล้วพระรูปนี้ก็กลับไป ด้วยความศรัทธาเลื่อมใสของพระราชาจึงให้มหาดเล็กติดตามไปดูว่าพระอยู่วัดไหน มหาดเล็กตามไปจนถึงพงป่าแห่งหนึ่งก็พบว่าพระรูปนี้แอบเข้าไปเปลี่ยนชุดออกมาเป็นยาจก แต่ก็ไม่กล้าบอกความจริงกับพระราชาจึงบอกว่าเมื่อเดินมาถึงพงป่าก็พบว่าพระรูปนี้หายไป (ก็ไม่ได้โกหก) พระราชาก็ยิ่งเพิ่มความศรัทธาเป็นอย่างมาก ต่อมาพระราชาสิ้นพระชนม์ก็ได้ขึ้นไปเกิดบนสวรรค์ ก่อนหน้าได้ยกให้มหาดเล็กเป็นพระราชาแทน(พระราชาไม่มีลูกหลาน) ก็มีพระรูปหนึ่งมาบิณฑบาต มหาดเล็กก็นึกถึงครั้งก่อนจึงให้นิมนต์พระเข้ามาเพื่อแก้แค้นทั้งที่ไม่ใช่พระองค์เดิม ก็ให้อาหารบูดๆ ของไม่ดี สุดท้ายพระองค์กลับเป็นพระอรหันต์จริงทำให้มหาดเล็กผู้มีความหลังฝังใจต้องตกนรก
    - การกรวดน้ำให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ให้ใช้น้ำเป็นตัวแทนของข้าวปลาอาหารที่เราถวายพระ จึงควรกรวดน้ำแต่ไม่จำเป็นต้องสวดบทกรวดน้ำร่วมด้วยก็ได้ ขอให้ตั้งใจกรวดโดยระบุว่าให้ใคร คล้ายกับการส่งจดหมายก็ต้องระบุผู้รับให้ชัดเจน
    - การจุดธูปเทียนบูชาพระนั้น ธูปเป็นตัวแทนของการบูชาพระพุทธเจ้าด้วยกลิ่นหอม เทียนเป็นตัวแทนของการบูชาด้วยแสงสว่าง แต่ถ้าไม่สะดวกที่จะจุดก็ไม่จำเป็นต้องจุด ทุกอย่างขึ้นกับศรัทธาและความตั้งใจ
    - บาปเรื่องการฆ่าสัตว์นั้น ขึ้นกับเจตนา คือ ถ้าซื้อสัตว์ที่ตายแล้วโดยเราไม่ได้ไปชี้กำหนดเป็นตาย เราก็ไม่บาป และสัตว์ยิ่งตัวใหญ่ยิ่งบาปมากขึ้นเรื่อยๆมากกว่าสัตว์เล็ก พระไม่สามารถเลือกได้ที่จะชั้นอาหารอะไร แล้วแต่ญาติโยมจะถวาย
    - การให้ทาน เป็นเหมือนการต่อวีซ่าให้กับตัวเอง ควรทำร่วมกับการทำบุญด้วย
    - ตายแล้วไปไหน ก่อนตายทุกคนจะระลึกถึงผลกรรมที่ทำมา ดังนั้นในวูบสุดท้ายคิดถึงอะไรก็จะไปเกิดเป็นสิ่งนั้น อาจไปเกิดเป็นเทวดานางฟ้า เป็นคน เป็นภูตผี ฯลฯ
    - การอนุโมทนาบุญให้กันนั่นจะส่งผลให้ผู้อนุโมทนาได้บุญเพิ่มขึ้น ส่วนผู้รับก็ได้รับร่วมด้วย โดยพูดคำว่า “สาธุ”
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  3. #3
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    ดีมากๆเลยค่ะ

    ชอบอ่านนิทานธรรมมะมากเลย ให้ข้อคิดดีๆมากมาย
    การที่เราจะยกย่องบูชาใคร อย่ามองที่เค๊าเป็นใครทำอะไร
    แต่ให้ดูที่ว่าเค๊ามีความคิดอย่างๆไร มีธรรมมะควรให้ความเคารพ
    หรือไม่ ถึงแม้เป็นยาจก เราก็ไหว้เค๊าได้ถ้าเค๊ามีธรรมมะมาก

    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ขอให้ผลบุญนี้ส่งให้hut2211 มีแต่ความสุขความเจริญ
    แคล้วคลาดปลอดภัยค่ะ
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  4. #4
    wawe's Avatar
    wawe is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    685
    สาธุ อนุโมทนาในบทความนี้ด้วยนะคะ สำหรับตัวเองเมื่อก่อนคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างเราเป็นผู้กำหนดเองได้ ทุกอย่างที่เป็นของเราต้องเป็นของเราตลอดไป กระทั่งพบกับความพลัดพราก การสูญเสีย กว่าจะทำใจได้ว่าทุกอย่างที่คิดว่าตัวกู ของกู มันไม่ใช่ สิ่งแน่แท้ก็คือตาย ที่เหลือคือ ความรู้สึกที่ดี ที่หลงเหลืออยู่ในใจเท่านั้น ตอนเสียลูกชายด้วยอุบัติเหตุด้วยวัย 25 ปี เมื่อเดือนมีนาคม ปี 50 ช๊อคมากไม่มีน้ำตาเลย ตั้งสติ คิดว่าการที่ลูกจากไปเค้าอาจจะไปอยู่ในที่ ๆ ดีกว่าก็ได้ เค้าอาจจะเป็นคนที่โชคดีที่ตายก่อน เพราะคนที่ตายแล้วก็ไม่ต้องรับรู้อะไร ๆ ได้ สรุปแล้วทุกข์อยู่ที่ใจ สุขก็อยู่ที่ใจนะคะ
    ความง่ายอยู่ที่ปาก ความยากอยู่ที่ทำ
    การรู้จักปล่อยวาง เป็นวิถีทางแห่งความสุขสงบ
    มนุษย์ย่อมได้รับผลของการกระทำของตนเสมอ อาจจะเร็วหรือช้าเท่านั้น

  5. #5
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    Quote Originally Posted by wawe View Post
    สาธุ อนุโมทนาในบทความนี้ด้วยนะคะ สำหรับตัวเองเมื่อก่อนคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างเราเป็นผู้กำหนดเองได้ ทุกอย่างที่เป็นของเราต้องเป็นของเราตลอดไป กระทั่งพบกับความพลัดพราก การสูญเสีย กว่าจะทำใจได้ว่าทุกอย่างที่คิดว่าตัวกู ของกู มันไม่ใช่ สิ่งแน่แท้ก็คือตาย ที่เหลือคือ ความรู้สึกที่ดี ที่หลงเหลืออยู่ในใจเท่านั้น ตอนเสียลูกชายด้วยอุบัติเหตุด้วยวัย 25 ปี เมื่อเดือนมีนาคม ปี 50 ช๊อคมากไม่มีน้ำตาเลย ตั้งสติ คิดว่าการที่ลูกจากไปเค้าอาจจะไปอยู่ในที่ ๆ ดีกว่าก็ได้ เค้าอาจจะเป็นคนที่โชคดีที่ตายก่อน เพราะคนที่ตายแล้วก็ไม่ต้องรับรู้อะไร ๆ ได้ สรุปแล้วทุกข์อยู่ที่ใจ สุขก็อยู่ที่ใจนะคะ
    ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ ต่อไปนี้ขอให้
    พบเจอแต่เรื่องดีๆ สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต
    ขอให้ธรรมมะคุ้มครองนะคะ
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  6. #6
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    10

    Talking

    ขอบคุณมากๆค่ะ ตอบคำถามในใจไปได้หลายข้อ
    แต่บรรทัดล่างๆ ตัวเล็กจังค่ะ
    [SIGPIC][/SIGPIC]

    จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด
    จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง
    จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง
    จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา

  7. #7
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    Quote Originally Posted by hut2211 View Post


    ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ ตั้งใจว่าจะนำข้อคิดเบาๆ เรื่อง 'การปล่อยวาง' มาฝาก
    กัน เพราะเห็นตัวอย่างว่าโลกนี้หนักหนานักด้วยตัวของโลกเองอยู่แล้ว
    และสภาพสังคม สภาพชีวิตในปัจจุบันนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วเครียด
    เหลือเกิน ได้เห็นคนที่สามารถปล่อยวางได้แล้วก็ตั้งใจทำให้ดีที่สุด
    เท่าที่โอกาสจะอำนวย คนนั้นก็ค่อยมีชีวิตที่ทุกข์น้อยหน่อย
    และได้เห็นคนที่ปล่อยวางไม่เป็นหรือปล่อยวางไม่ค่อยจะได้
    เป็นทุกข์หนัก เครียดยิ่งกว่าที่เครียดอยู่แล้ว เป็นผลให้เกิดปัญหา
    กับสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจด้วย เห็นว่าแนวคิดเล็กๆ น้อยๆ
    ที่นำมาฝากกันนี้ คงจะพอเป็นอีกแนวคิดที่ช่วยๆ กันเสนอแนะ
    ให้มีชีวิตอยู่อย่างทุกข์น้อยลงไปอีกสักนิดก็ยังดี
    .
    .
    .
    .
    รวมทั้งขออานิสงส์ทั้งปวงส่งให้เราทั้งหมดผู้เป็นเพื่อนร่วมทุกข์
    ทั้งหมดไม่มีเว้นไม่มีประมาณนี้ ทำดี-คิดดี-พูดดีอยู่เสมอเนืองๆ
    ยิ่งๆ เป็นผู้อยู่ในสัมมาทิฏฐิยิ่งๆ เจริญสมบูรณ์ไปด้วยอายุ วรรณะ
    สุขะ พละ ปราศจากโรคภัยอันตรายทั้งปวงในที่ทุกสถานในกาล
    ทุกเมื่อ ได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมอันเป็นทางสายเอกสู่การพ้นทุกข์
    คือสติปัฏฐานสี่และวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐานสี่
    และได้เข้าถึงแก่นพระธรรม ได้ดวงตาเห็นธรรมยิ่งๆ
    ได้บรรลุถึงซึ่งมรรค ผลและนิพพาน โดยเร็วที่สุดตามความ
    ปรารถนาและตามสมควรแก่บารมีของตน ด้วยกันทุกคน
    ทุกท่าน ทุกรูปทุกนาม ด้วยเทอญ

    เจริญในธรรม บทความจาก : คุณ deedi [/COLOR]

    สาธุค่ะ ขอให้คุณhut2211 เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะคะ
    และก็ขอให้เข้าถึงพระนิพพานไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้าค่ะ
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  8. #8
    wawe's Avatar
    wawe is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    685
    สาธุ ขอบคุณนะคะสำหรับบทธรรมนี้ คิดดี มองดี ทำดี ได้ดี พบแต่สิ่งดี ๆ ทุกอย่างสำคัญที่ใจ
    ความง่ายอยู่ที่ปาก ความยากอยู่ที่ทำ
    การรู้จักปล่อยวาง เป็นวิถีทางแห่งความสุขสงบ
    มนุษย์ย่อมได้รับผลของการกระทำของตนเสมอ อาจจะเร็วหรือช้าเท่านั้น

  9. #9
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986
    สาธุครับ พี่ due
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  10. #10
    barumbum is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1
    สาธุค่ะ

    เป็นบทความที่ดีจริงๆ

    ชอบ
    ทำทุกอย่างที่ดีๆ ให้เต็มกำลังความสามารถเสมอก็พอแล้ว

Page 1 of 2 1 2 LastLast

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •