Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 1 of 2 1 2 LastLast
Results 1 to 10 of 11

Thread: @@@ ห มา ขี้ เ รื้ อ น@@@

  1. #1
    noii's Avatar
    noii is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    53

    Talking @@@ ห มา ขี้ เ รื้ อ น@@@

    ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่งเพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก
    ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสียก่อน
    เพื่อเห็นแก่แม่..บัณฑิตใหม่หมาดๆจากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้
    เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯแห่งหนึ่งเสร็จแล้ว
    ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับพระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งที่วัดป่าแถวภาคอีสาน
    พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดีมีแต่ความสุขสบาย
    เมื่อมาอยู่วัดป่ากว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน

    แต่ก็นั่นแหละกว่าจะนิ่งก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูปพลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆกัน
    ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะพระใหม่ มีนิสัยชอบจับผิด
    และชอบอวดรู้ยกหู ชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ
    วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่าไม่ได้รับการศึกษาสูงเหมือนอย่างตน
    ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง
    เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้าก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่หาว่าล้าสมัย
    ไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี่ ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็นก็บ่นว่า
    ท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือเกินกว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่งจนขาเป็นเหน็บชา

    ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้างก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไปทีล้างไปบ่นไป
    ประเภทตูจบปริญญาโทมาจากเมืองนอกต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่รู้
    โอ้ชีวิต! ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้ถือ ดี
    ว่าตัวเองมีชาติตระกูลสูง มีการศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น
    ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด
    มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าทุกประตู
    นึกแล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจกลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทิน
    นับถอยหลังรอวันสึกด้วยใจจดจ่อ

    อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่าท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา
    ซ้ำนานๆครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง
    วันๆไม่เห็นท่านทอะไรเอาแต่กวาดใบไม้ เก็บขยะ
    ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน
    การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคน
    จัดการไปเสียทุกอย่าง เห็นแล้วเลยนึกร้อนวิชา
    เสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่าล้าสมัย
    รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วยอีกข้อหนึ่งเพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้ว
    ไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก
    อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้นพระใหม่เสนอให้
    หลวงพ่อเจ้าอาวาส
    มีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้ สอนให้มากขึ้นเทศน์ให้มากขึ้น
    และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงานอย่างการซักจีวรเองเป็นต้นด้วยตนเอง
    ควรจะกระจายอำนาจมอบงาน ให้คนอื่นทำดีกว่า

    เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำ
    หลวงพ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทรายด้วย
    ท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่านให้พระหนุ่มสามเณรน้อย
    ทั้งหลายฟังแต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน
    อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา
    แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหล ายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง
    ที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งจากใต้ต้นอโศกที่อยู่ ใกล้ๆ

    เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่ เจ้าหมาตัวนั้น น่ะมันเป็นขี้เรื้อน
    คันไปทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่น ไป มาทั้งวัน
    เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้นเดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้
    อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน แต่พวกเธอรู้ไหม
    เจ้าหมาตัวนั้น น่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจ
    หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน
    สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี

    คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน
    แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที
    เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า
    เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้นหาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่
    แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก
    พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่า ได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตร
    สวดมนต์เย็นแล้ว

    ขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น
    ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกติ นอกสงบ แต่ในวุ่นวาย
    นึกอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู
    ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอในหัวใจ ทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง

    นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
    จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
    จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง
    เมื่อออกพรรษาแล้วโยม แม่มาขอให้ลาสิกขาเพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบครัวท่านก็ยังไม่ยอมสึก

    'อาตมาเป็นหมาขี้เรื้อน
    ขออยู่รักษาโรคจนกว่าจะหายคันกับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสักหนึ่งพรรษา'โยมแม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุการกราบลาพระลูกชาย
    แล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถพลางนึกถามตัวเองอยู่ในใจว่าคำว่า
    หมาขี้เรื้อน ของพระลูกชายหมายความว่าอย่างไรกันแน่หนอ

    ถ้าเรายังเป็น โรค อยู่ในใจ ไม่พอใจอะไรซักอย่าง เงินเดือนน้อย หน้าที่การงานไม่พัฒนา ตำแหน่งไม่ไปไหน ไม่ว่าเราย้ายงาน ไปที่ไหน เราก็ไม่พอใจ สถานที่เหล่านั้นไม่ดี คนไม่ได้เรื่อง ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยได้ดูตัวเองเลยว่า เราพัฒนาการทำงานของเรามั้ย ขวนขวายหาความรู้หรือเปล่า ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับหมาขี้เรื้อนตัวนั้นเลย

    ***********************************************************
    ขอบุญจากธรรมทานนี้จงถึงแก่นายเวรและผู้ปกปักรักษาดูแลช่วยเหลือข้าพเจ้าและครอบครัว
    ที่มาถึงตัวทุกภพภูมิ
    ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบัน
    หากไม่ถึงเพียงใดให้ขอให้คำว่าไม่ มี ไม่รู้ในสิ่งที่ดี
    จงอย่าได้ปรากฏแก่ข้าพเจ้า
    ขอให้เกิดในภพภูมิ เขต ประเทศที่มีพระพุทธศาสนาประดิษฐานอย่างมั่นคง
    และได้ศึกษาพระธรรม
    ได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ ลึกซึ้ง ตลอดจนกว่าจะเข้าพระนิพพานด้วยเทอญ.
    เมื่อรัก........เราจะให้อภัย
    เมื่อให้อภัย.......เราจะรัก

  2. #2
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    อนุโมทนา สาธุค่ะ ขอบคุณสำหรับบทความข้อคิดดีค่ะ

    คนเรามักจะไม่ค่อยดูตัวเองเท่าไหร่ มีอะไรก็คอยแต่จะโทษ

    คนอื่นก่อนเสมอ จริงๆค่ะ
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  3. #3
    ratkatu's Avatar
    ratkatu is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    173

    Post

    อนุโมทนา สาธุค่ะ ด้วยคนค่ะ เป็นคำสอนที่ดีมากๆค่ะ
    AcHTuNg BiSSiGeR HuNd!!!!!

  4. #4
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3,485
    "จงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ค่ะ" ชอบจังเลยบทความนี่ ขอบคุณค่ะ
    [SIGPIC][/SIGPIC]


    Good friends are like stars..... You don't always see them, but you know they are always there.

  5. #5
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    35

    Smile

    ขอบคุณสำหรับบทความดีดีค่ะ

  6. #6
    pungpondom's Avatar
    pungpondom is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    8
    อ่านแล้วทำให้ได้อะไรดีๆๆๆขึ้นมาเยอะเลยค่ะ

    ขอบคุนมากๆๆค่ะ

  7. #7
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2
    ชอบมากๆเลยคร่า...อ่านแล้วเห็นสัจจะธรรมในชีวิตเลยค่ะ
    [SIGPIC]___________[/SIGPIC]

  8. #8
    barumbum is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1
    ใช่เลยค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ

  9. #9
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    อนุโมทนา สาธุด้วยคนค่ะ

    บทความนี้ดีมากๆค่ะ ช่วยเตือนสติได้อย่างดีทีเดียว

  10. #10
    noo_pizza's Avatar
    noo_pizza is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,683
    ขอบคุณสำหรับบทความดีดีค่ะ
    __________________________

    "ทำเสียงอย่างนี้ ซื้อมาอีกใบแล้วสิ"

    #### รู้ทันอีกแล้ว เซ็ง ####

Page 1 of 2 1 2 LastLast

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •