และมีการพูดคุยกันต่อมาโดยเพื่อนสมาชิกในกรุ๊ป หนังสือดี มีหัวใจ ความว่า ดังนี้...

Quote Originally Posted by พัฒน์ สัตถาสาธุชนะ
เห็นคุยกันแต่ข้างท้ายเล่มขอไปในเนื้อหาบ้างนะครับ
ที่ชอบมากๆเลยนะครับในช่วงเนื้อหาก่อนเรื่องสั้นก็ตรงที่มีบทเสริมหรือข้อคิดอไรเนี๊ยแหละครับพอดีหนังสือเพือนยื้มไปเลยบอกไม่ได้ว่าอยู่หัวข้ออะไรนะครับ
ที่ชอบมากๆคือเรื่องไฟกับปัญญาอะครับ
ตอนนี้ทำให้รู้ว่าหากเราควบคุมไฟ(โทสะ)ของเราได้มันก็จะเป็นแสงแห่งปัญญาได้และสิ่งที่จะใช้ในการคุมนั้นคือ พรหมวิหาร4 ตอนนี้ช่วยผมได้มากครับ ผมเป็นพวกชอบเก็บปัญหาต่างๆไว้เป็นถังขยะอารมณ์ เมื่อเต็มก็ระเบิดเลยครับ หน้ากลัวมาก แต่พออ่านตอนี้ทำให้ผมรู้ว่าไม่ควรเก็บโทสะไว้ แต่ต้องคุมไว้โดยใช้พรหมวิหาร4 แล้วค่อยใช้มันเพื่อแก้ปัญหา แต่พึ่งได้เอาความรู้นี้มาใช้ครับ ลืมมันไปนานมากไม่เคยใช้แต่เมื่อไม่กี่วันนี้เจอปัญหาแล้วนึกออกครับเลยได้ใช้จึงรู้ได้ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
Quote Originally Posted by เอกราช จันทร์ดอน
ยินดี ด้วยนะครับ ที่เริ่มตามทัน โทสะ และระวังถังขยะอารมณ์ ของตนเอง และเข้าใจ จนนำ พรหมวิหาร 4 ไปใช้จริงในชีวิต ประจำวัน ปัญหาที่เจอ ปัญหาอะไรเหรอครับ เล่าได้ไหมครับ
Quote Originally Posted by Phung
ดีจังที่น้องพัฒน์(ขอเรียกน้องนะคะ จากรูป..น่าจะเด็กกว่า)รู้ตัวทัน
พี่นี่ไม่ทันซักที มารู้อีกทีก็เผาคนที่รักเราไปแล้ว(แม่ค่ะ)
(พอรู้ตัว วูบแรกกลัวบาปกลัวกรรม วูบสองคิดได้ว่า เฮ้ย เราไม่ควรกลัวอย่างนั้น แต่ควรกลัวว่าแม่จะเสียใจมากกว่า ทำให้รู้ว่าความเชื่อทางศาสนามันมาก่อนสำนึก)

สงสัยค่ะ ถามน้องพัฒน์ ใช้ พรหมวิหาร4 ช่วยยังไงเหรอคะ เผื่อเอาไปใช้บ้าง แบบว่าขี้เกียจกลับไปอ่านเองใหม่


สังคมที่ไร้มุทิตา...
คือ สังคม ที่ คนส่วนใหญ่ ไม่รู้ว่า ใครคือคนที่ทำให้

เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนควรต้องมีหัวใจ
สังคมนี้ แผ่นดินนี้ คงอยู่ ให้เรา อาศัย อยู่ร่วมกัน ได้ต่อไป
"ผู้เสียสละทุกคน ที่ตาย ล้วนมีชีวิต และเรา ติดหนี้บุญคุณ"
ขอบคุณใน ความเสียสละ ที่ทำให้เรา ได้อาศัยอยู่ร่วมกัน

เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนควรต้องมีหัวใจ
ด้วยความเคารพในความเสียสละ อย่างสูงยิ่ง
ประเทศใคร.. ในหนึ่งวัน<Click>


ความเห็นแก่ตัว ทำให้ คน โง่ ขึ้น