ตำรวจยศนายดาบขับรถร้อยเวรมาส่งแม่ เฒ่าที่บ้านบ้าน
ซึ่งประตูเหล็กถูกปิดสนิท แม่เฒ่าลงจากรถเดินฝ่าฝนถึงหน้าบ้าน
แล้วแม่เฒ่าก็ตกใจสุดขีดกับภาพเบื้องหน้าที่พื้นหน้าบ้าน
เสื้อผ้าเก่า ๆ ยัดแน่นอยู่ในถุง ถูกโยนออกมากองเรี่ยราด
เหมือนขยะบนกองเสื้อผ้าของแม่เฒ่า กระถางธูปและรูปถ่าย
ของสามีแตกกระจายเกลื่อนกราด หยาดฝนสาดซัดรูปถ่ายขาวดำ
ของสามีจนเปียกปอนขาดวิ่น แม่เฒ่าก้มลงหยิบรูปของสามี
มากอดแนบอกน้ำตาแห่งความรันทดทะลักล้นปนน้ำฝน
ปวดร้าวเหมือนถูกฟ้าผ่าเข้ากลางใจ
แม่เฒ่ากอดรูปนั้นไว้เหมือนจะปกป้องจากสายฝนสุดชีวิต
สองเท้าออกก้าวช้า ๆ เหมือนร่างไร้วิญญาณเข้าตลาดไปหยุดนิ่ง
อยู่หน้าร้านขาย ทองของลูกชายคนโต เหมือนเป็นการบอกลา
แล้วลัดเลาะฝ่าความมืดและสายฝน ไปยืนอยู่หน้าบ้านลูกสาว
คนเล็ก เก็บภาพแห่งความรักความทรงจำสุดท้ายเป็นครู่ใหญ่
จึงเดินจากไปท่ามกลางเสียงกึกก้องของฟ้าร้องระงม สลับกับเสียงฟ้าผ่า
แน่นหนักเป็นระยะ ดั่งเจ้ากรรมนายเวร กำลังเร่งรีบกรีดนิ้วกัปนาทบรรเลง
เพลงกรรมในอดีตชาติ ติดตามมาทวงคืนให้แม่เฒ่า ต้องชดใช้
อย่างบอบช้ำยับเยิน รถกระบะเก่า ๆ คันนั้นวิ่งฝ่าสายฝนมาจอดสงบนิ่ง
อยู่หน้ากุฏิพระของสมภารเจ้าวัด ตอนตีสามเศษ ๆ
..
คนขับรถพบแม่เฒ่าเดินโซซัดโซเซอยู่ข้างถนนเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย
ด้วยใจเมตตา เมื่อแม่เฒ่าต้องการมาที่นี่ จึงขับรถมาส่งด้วยความสังเวช
แม่เฒ่ามักคุ้นกับสมภารวัดนี้มานานแล้วตั้งแต่เจ้าอาวาสองค์เก่ายังอยู่
แล้วนาทีสุดท้ายของการตัดสินใจครั้งใหญ่ของชีวิต จึงไม่มีที่ไหนอบอุ่น
ให้พึ่งพิง เหมือนร่ม เงาฉัตรแก้วกงธรรมแห่งรัตนทั้งสามฟ้าเริ่มขมุกขมัว
ใกล้ค่ำลงทุกขณะ ผมจำเป็นต้องบอกลาท่านสมภารและแม่เฒ่าเจ้าของ
เรื่องราวน่าสลด นับแต่นาทีแรกที่แม่เฒ่ามาถึงที่นี่จนวันนี้
..
keep your dream in your head and catch it in your hand