warmoflove

7 เทคนิคและวิธีการเลือกกระเบื้องปูพื้นในบ้าน ที่คุณก็สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ

Rate this Entry


กระเบื้องปูพื้นมีหลายประเภทรูปแบบขนาดลวดลายและสีให้เลือก นอกจากจะเลือกให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่และตรงตามความต้องการของเราแล้วยังต้องมีความแข็งแรงทนทานและปลอดภัยสำหรับใช้เป็นวัสดุปูพื้นอีกด้วย การเลือกกระเบื้องปูพื้นแบบไหนก็ไม่ยากเลยเพียงเลือกกระเบื้องปูพื้นตามวิธีการ เรานำมาฝากกัน รับรองว่าจะได้กระเบื้องที่สวยถูกใจแน่นอน

1.เลือกกระเบื้องสำหรับพื้นเท่านั้น
เพราะพื้นต้องรับน้ำหนักทั้งผู้อยู่อาศัย เฟอร์นิเจอร์ และสิ่งของต่าง ๆ จึงต้องใช้กระเบื้องปูพื้นที่มีความแข็งแรง ซึ่งได้แก่ กระเบื้องประเภท Floor Tile (ห้ามนำกระเบื้องบุผนังมาปูพื้นโดยเด็ดขาด) กระเบื้องเนื้อพอร์ชเลนที่มีทั้งแบบเคลือบสีหรือลวดลาย กับแบบที่ผิวหน้ากับตัวกระเบื้องเป็นเนื้อเดียวกันซึ่งนิยมเรียกกันว่า กระเบื้องแกรนิตโต

2.เลือกตามประเภทของกระเบื้องให้เหมาะสม
กระเบื้องทั่วไปแบ่งเป็น 4 ประเภท ตามชนิดและรูปแบบ
• เซรามิก (Ceramic) เป็นกระเบื้องที่ผ่านการเผา 1 หรือ 2 ครั้ง ตามลักษณะการใช้งาน และเคลือบผิวทำลวดลายเป็นกระเบื้องที่มีขนาดหลากหลายและมีโทนสีสไตล์ต่าง ๆ ให้เลือกใช้มากที่สุด
• โมเสก (Mosaic) เป็นกระเบื้องชิ้นเล็ก ๆ มาติดบนแผ่นตาข่ายรอง เหมาะกับไปติดบนพื้นที่มีขนาดเล็กและโค้งมน หรือสระว่ายน้ำ
• แก้ว (Glass Mosaic) เป็นกระเบื้องที่ทำจากชิ้นงานแก้วมาขึ้นรูป ภายในตกแต่งด้วย ลวดลายพิมพ์ หรือตกแต่งสีสันลวดลายภายใน ทำให้ลวดลายภายในอยู่ทนทานกว่าลายพิมพ์บนพื้นผิวหน้าอย่างกระเบื้องประเภทอื่น ๆ
• ดินเผา (Earthenware) เป็นงานเผาด้วยเทคนิคแบบดั้งเดิม ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ มีทั้งแบบเคลือบเงาและไม่เคลือบเงาเหมาะกับงานตกแต่งสไตล์ธรรมชาติ รีสอร์ท สปา

3.เลือกกระเบื้องให้เหมาะกับพื้นที่การใช้งาน
• พื้นภายนอก เช่น ทางเดินรอบบ้าน บันไดเข้าออกตัวอาคาร หรือที่จอดรถ ควรเลือกกระเบื้องที่มีความแข็งแกร่ง รับน้ำหนักได้ดี มีพื้นผิวหยาบ (ค่าการกันลื่นไม่น้อยกว่า R11) กระเบื้องไม่เคลือบเงา เพราะเมื่อฝนตก อาจมีอันตรายเกิดขึ้นได้
• พื้นภายใน คอนโดติดรถไฟฟ้า สามารถเลือกกระเบื้องเนื้อแบบใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน แต่ถ้ามีผู้สูงอายุ หรือเด็กเล็ก อาจเลือกเป็นกระเบื้องแบบเนื้อด้าน ไม่มันเงาเพื่อความปลอดภัย
• พื้นห้องน้ำ ควรเลือกกระเบื้องที่มีผิวหน้าที่หยาบ และไม่เคลือบผิวเงา (ค่าการกันลื่นไม่น้อยกว่า R10) โดยหมั่นทำความสะอาดกำจัดคราบไขมันเป็นประจำ เพราะทำให้พื้นผิวที่หยาบลื่นได้

4.เลือกตามเกรดของสินค้า
แบ่งกันตามความผิดพลาดในการผลิตของขนาด ความหนา พื้นผิว น้ำหนัก การดูดซึมน้ำ สีสัน และลวดลาย ซึ่งแบ่งออกได้เป็น เกรด A หรือ Premium, เกรด B หรือ Commercial และเกรด C ตรงนี้มีผลกับความสวยงาม และราคาจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรตัดสินใจเพราะช่วยประหยัดงบได้

5.เลือกใช้ขนาดให้เหมาะสมกับขนาดห้อง
สำหรับห้องที่มีขนาดเล็ก อาจเลือกใช้กระเบื้องแผ่นเล็ก ขนาด 12”x12”, 16”x16” หรือกระเบื้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพื่อให้ห้องดูกว้างขึ้น ส่วนห้องที่มีขนาดใหญ่ สามารถเลือกใช้กระเบื้องแผ่นใหญ่ได้

6.เลือกรูปแบบ ลวดลาย และโทนสีกระเบื้องให้เข้ากับสไตล์บ้าน
รูปแบบและลวดลายของกระเบื้องมักจะสัมพันธ์กัน อย่างเช่น กระเบื้องลายหินมักเป็นกระเบื้องสี่เหลี่ยมแผ่นใหญ่ กระเบื้องลายไม้มักเป็นกระเบื้องสี่เหลี่ยมแผ่นยาว (ลักษณะเหมือนไม้กระดาน) กระเบื้องลายกราฟิกอาจมีรูปทรงอื่นอย่างหกเหลี่ยม การเลือกใช้จึงขึ้นอยู่กับสไตล์การตกแต่งบ้าน เช่น กระเบื้องลายหินจะเหมาะกับสไตล์โมเดิร์น คลาสสิก ร่วมสมัย โดยถ้าเป็นผิวเงาจะทำให้ดูหรูหรามากขึ้น กระเบื้องลายไม้เหมาะกับการตกแต่งแนวธรรมชาติ หรือแนวร่วมสมัย ทั้งยังให้ลุคโมเดิร์นได้ด้วย

7.ดูว่ากระเบื้องนั้นสามารถดูดซึมน้ำได้ดีหรือไม่
เพราะกระเบื้องแต่ละชนิดต่างกันจึงควรเลือกให้เหมาะสม โดยเช็กที่ข้างกล่องหรือสอบถามกับทางร้านค้า รวมไปถึงค่าการดูดซึมน้ำซึ่งมีผลต่อสภาพความชื้นที่จะเป็นปัญหาเรื่องการหลุดล่อนและความคงทนของกระเบื้อง

Updated 07-19-2021 at 03:18 PM by warmoflove

Tags: None Add / Edit Tags
Categories
Uncategorized

Comments