ขอเปลี่ยนบรรยากาศ...เรื่องตื่นเต็นสักหน่อย..
http://i680.photobucket.com/albums/v...y-pictures.jpg
เรื่องจริงย้อนอดีต....
เรื่องมีอยู่ว่า สมัยที่ผมยังบวชเรียนอยู่ ณ.ที่วัดสวนดอก จังหวัดลําปาง ในสมัยนั้นยังไม่เจริญเหมือนสมัยนี้ ซึ่งในสมัยนั้น ส่วนมาก
จะเป็น แนวป่า เขา ผิดกับทุกวันนี้ เจริญมากๆ..มาเริ่มต่อกันดีกว่า .... ตอนอยู่ที่วัดก็รู้สึก เงียบเหงา วังเวง เหมาะแก่การ
ปฎิบัติธรรม มากๆๆ เสียงนกร้อง เสียงลม ช่างสดชื่นเสียนี่กระไร...จริงหรือเปล่าครับท่านผู้อ่าน...แต่ แต่ พอตกกลางคืน..โอ้วว
อย่าบอกใครเชียว ทั้งมืด ทั้งวังเวง แทบไม่มีผู้คนออกมาเดิน เพราะอะไร รู้หรือเปล่า .... ก็เพราะว่า วัดสวนดอก ชื่อเสียงโด่งดัง
มากในเรื่อง ผีดุ.....ถ้าไม่เชื่อรองถามคนที่อยู่ลําปางดู ว่าผีดุ หรือเปล่า....มันก็เป็นของธรรมดาของวัดที่อยู่ถิ่นไม่ค่อยเจริญ ในสมัย
นั้น...พอตกกลางคืน ก็ กุฎิ ใคร กุฎิมัน ไม่มีการออกมานั่งคุยกัน เพราะ อิอิ ไฟฟ้าไม่มี มีแต่ตะเกียงเจ้าพายุ ฮ่าๆๆๆ....เลย อยู่ในห้อง
อย่างเดียว. เหตุการณ์ก็ดูๆก็ปรกติดี แต่พอมีงาน อย่างดีคนก็มาทําบุญ มาเที่ยว และมาถวายผ้า สงบ จีวร ของแห้ง และก็ฟัง
ธรรม พอตกเย็นก็ บ้านใครบ้านมัน ปล่อยทั้งหมดให้เป็นหน้าที่ของพระ และเณร .ไอ้ผมมันก็ไม่รู้ ว่าทางวัดจะมีการให้ ศพคนที่ตาย
ถวายผ้า สงบ จีวร ให้พระ...เพื่อที่จะให้เค้าได้มีโอกาสได้ทําบุญบ้าง ฮ่าๆๆๆๆถึงตอนนี้ ผมคนแรกที่หนุ่มหน่อย เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง
ในการจัด โดยมีพระผู้ใหญ่คอยบอกอีกที.....คือการทําไม้กระดก คําว่าไม้กระดก ก็คือ เมื่อพระเข้าไปถึงหน้าศพ ก็ต้องเหยียบคัน
ไม้กระดก ให้ศพที่มือทั้งสอง ถือผ้าไตร ยกตัวขึ้นมา เหมือนกับคนทั่วๆไปที่ถวายของพระ...คงเข้าใจ นะครับ...คือการทําให้ ศพ ลุก
ขึ้นมาถวาย ผ้าไตร ให้พระ.....จะทําจํานวน 4 ศพ ที่ต้องถวาย. แต่ละศพ พระจะต้องเป็นคนรับผ้าไตร แค่องค์เดียว. คือพูดง่ายๆ
คือเดินเข้าไปใน ที่เก็บศพ แค่องค์เดียว.
ครั้นพอทําไม้กระดกเรียบร้อย ก็คือเสร็จหน้าที่ผม เพราะผมเป็นแค่เณร ...
พอตกดึก หลวงพ่อมาตามผม ....เณรๆๆๆ มาช่วยหน่อย . ผมก็ถามหลวงพ่อ ว่ามีอะไรครับหลวงพ่อ ...ท่านก็บอกว่า วันนี้มีคนมา
นิมนต์พระไปงานสวดศพ เลยไม่มีพระที่จะไปรับผ้าไตรของคนตาย...ผมก็เลยถามหลวงพ่อว่า...อ้าวววแล้วองค์อื่นๆ หละครับ..
ท่านก็บอกไปจําพรรษา ข้างนอกวัด...ก็เลยเหลือ ผมกับหลวงพ่อ ลืมบอกไป พระที่อยู่ที่วัดนั้นมีแค่ 6 รูป แล้วก็เณร อีก 3 รูปรวมผม
ด้วย....ไปงานสวดศพ 4 รูป ไปจําพรรษาที่อื่นอีก 1 รูป ก็เหลือแต่หลวงพ่อ ซึ่งทั้งแก่ เดินแทบจะไม่ค่อยไหว แล้วงานนี้จะทํา
อย่างไร....
หลวงพ่อท่านก็บอก...เณรก็ไปรับแทนก็หละกัน...พอพูดจบ ผมนี้เย็นสันหลังวาปๆๆๆ....ลงไปถึงตาตุ่ม. ***ทําไมถึงต้องเป็นผม**
คิดในใจ......พอได้เวลาที่จะต้องไปรับผ้าไตรจากศพ....ผมก็เดินๆๆๆๆ ทั้งเงียบ วังเวง น่ากลัวพิลึก .ไปที่โกดังเก็บศพ...
เห็ยศพนอนเป็นแถว เรียงกัน แต่ละศพก็ถือผ้าไตรอยู่ในมือ...พอเดินเข้าไป ก็ไปเหยียบคันไม้กระดก เพื่อให้ศพลุกขึ้นมาถวายผ้าไตร..
ขาผมสั่นไปหมด แทบจะเดินไม่ไหว ศพที่2 ศพที่3 พอศพที่4 ผมก็เหยียบเหมือนทุกศพที่ทํามา แต่ แต่ เจ้าศพที่ 4 พอเหยียบ
ขึ้นมาแค่ครึ่งเดียว ก็ลงไปนอนแบบเดิม...ผมทําอยู่ 3-4 เที่ยว ก็ไม่ขึ้น ไอ้ผมก็ดูแล้ว มันไม่ได้ติดอะไร ทําไมมันไม่ขึ้น...
ในใจแค้นก็แค้น กลัวก็กลัว สงสัยผีมันอยากจะหลอกผมมั้ง....คิดในใจ. ผมก็เลยพูดออกไปเสียงดังๆๆ คือพูดง่าย เอาเสียงเป็น
เพื่อนไว้ก่อน.....ว่า ถ้าโยมไม่ขึ้น อาตมาก็จะไม่รับผ้าไตรของโยม นะ.....แล้วก็เหยียบใหม่ เพราะการเหยียบ3-4เที่ยว ไม่ขึ้น ก็
เลยออกแรงเหยียบเต็มที่สําหรับงวดนี้....ผับบบ...ศพนี้กระดกขึ้นมากอดเอวผมเลย...ลองนึกภาพนะครับ มือสองข้างมาอยู่ที่ระหว่าง
เอวผม ส่วนผ้าไตร อยู่ที่หน้าอก....ว๊ากๆๆๆๆ....เท่านั้นหละ โกดังเก็บศพ แทบแตก คือผมแทบพุ่งออกมาเลย...ฮ่าๆๆๆๆ...ศพนี้
เฮี้ยนจริงๆๆ...หลอกได้แม้กระทั่งเณร...
นี่เป็นประสบการณ์จริงๆเลย ...... การรับผ้าไตรจากศพ. *****ทําไมต้องเป็นผม*******คนยิ่งกลัวๆ ผีอยู่ จบครับ.