Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 1 of 2 1 2 LastLast
Results 1 to 10 of 12

Thread: ในตัวเรามีคนอยู่ 3 คน..............

  1. #1
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986
    Warning Points:
    0/5

    Talking ในตัวเรามีคนอยู่ 3 คน..............



    ณ วัดบ้านไร่แห่งหนึ่ง

    หลวงตาเพิ่งกลับจากการบิณฑบาตเห็นลูกศิษย์วัดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น

    จึงเข้าไปถามไถ่ว่าเป็นอะไร ลูกศิษย์ตอบกลับมาว่า

    ผมถูกใส่ร้าย ผมไม่ได้ขโมยเงินในหอพระ

    แต่ผมเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูบ่อย ๆ ทุกคนก็หาว่าผมเป็นขโมย

    ไม่มีใครเชื่อผมเลย ฮือ ฮือ '

    หลวงตานั่งลงข้าง ๆ พยักหน้าเข้าใจแล้วสอนลูกศิษย์ว่า

    ' เจ้ารู้ไหม ในตัวเรามีคนอยู่สามคน

    คนแรกคือ คนที่เราอยากจะเป็น

    คนที่สองคือ คนที่คนอื่นคิดว่าเราเป็น

    คนที่สามคือ ตัวเราที่เป็นเราจริง ๆ '

    ลูกศิษย์หยุดร้องไห้ นิ่งฟังหลวงตา

    ' คนเราล้วนมีความฝัน ความทะยานอยาก ตามประสาปุถุชนทั่วไป

    ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย บางครั้งความฝันก็เป็นสิ่งสวยงาม

    เป็นพลังที่ทำให้เราก้าวเดิน เช่น บางคนอยากเป็นนักร้อง

    เป็นนักมวย เป็นดารา ถ้าถึงจุดหมายเราก็จะรู้สึกว่า

    โลกนี้ช่างสว่างไสวสวยงาม ดังนั้นเราควรมีความฝันไว้ประดับตน

    เพื่อเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจ '

    ' มาถึงไอ้ตัวที่สอง จะเป็นเราแบบที่คนอื่นยัดเยียดให้เป็น

    บางครั้งก็ยัดเยียดว่าเราดีเลิศ จนเราอาย

    เพราะจิตสำนึกเรารู้ดีว่ามันไม่จริงหรอก

    แต่เราก็ยิ้มรับ แต่บางครั้งไอ้ตัวที่สองนี้ก็มหาอัปลักษณ์

    จนไม่อยากจะนึกถึง ซ้ำร้ายยังเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

    เพราะมันเป็นโลกในมือคนอื่น มันเป็นสิ่งแปลกปลอมที่คนอื่นยื่นให้ '

    ' อย่างคนขับสิบล้อจอดรถอยู่ข้างทางเฉย ๆ เช้ามาพบศพใต้ท้องรถ

    ก็ต้องขับรถหนี ทั้งที่ศพนั้น ถูกรถชนตายอีกฝั่งแล้วดันถลามาใต้ท้องรถ

    แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนขับสิบล้อ บางคนก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นฆาตกร '

    ' สมัยที่หลวงตายงไม่ได้บวชเคยไปส่งเพื่อนผู้หญิงที่มีผัวแล้ว

    เพราะเห็นว่าบ้านเป็นซอยเปลี่ยว ส่งได้สองครั้งก็เป็นเรื่อง

    ชาวบ้านซุบซิบนินทา หาว่าเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน

    คนที่เห็นนั้นมองคนอื่นด้วยใจที่หยาบช้า ไร้วิจารณญาณ ใจแคบ

    มองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง คนเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม

    เจ้าต้องจำไว้นะ ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี

    ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเองออกมา

    เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่าอย่าทำ อย่าเลียนแบบ

    นั่นแหละวิถีของนักปราชญ์ ถ้าเอาไปว่าร้ายนินทาเรียกว่าวิถีของคนพาล '

    ' แล้วเราต้องทำตัวอย่างไรละครับในเมื่อเราต้องเจอคนเหล่านั้นเรื่อย ๆ '

    ลูกศิษย์หยุดร้องไห้แล้วเริ่มสนทนาโต้ตอบหลวงตา

    ' เจ้าต้องทำความเข้าใจ จิตใจมนุษย์ เรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้

    เราห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น

    แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ

    เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง ใจเราควรสงบนิ่ง

    ยังไม่ต้องชำระ ใจคนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาวสะอาด

    กว่าที่เป็นอยู่ เขาเหล่านั้น เป็นบุคคลที่น่าสงสารมีเวลามองคนอื่น

    แต่ไม่มีเวลามองตัวเอง จงแผ่เมตตาให้เขาไป เข้าใจใช่ไหม '

    ' เข้าใจครับหลวงตา ' เด็กน้อยยิ้มมีความสุขอีกครั้ง

    สว่างตา ด้วยแสงไฟ สว่างใจ ด้วยแสงธรรม


    ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับธรรมะดี จาก http://www.watkhaophrakru.com/webboa...hp?topic=369.0
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  2. #2
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    131
    Warning Points:
    0/5
    คนที่เห็นนั้นมองคนอื่นด้วยใจที่หยาบช้า ไร้วิจารณญาณ ใจแคบ

    มองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง คนเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม

    เจ้าต้องจำไว้นะ ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี

    ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเองออกมา

    เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่าอย่าทำ อย่าเลียนแบบ


    เจ้าต้องทำความเข้าใจ จิตใจมนุษย์ เรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้

    เราห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น

    แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ

    เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง ใจเราควรสงบนิ่ง

    ยังไม่ต้องชำระ ใจคนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาวสะอาด

    กว่าที่เป็นอยู่ เขาเหล่านั้น เป็นบุคคลที่น่าสงสารมีเวลามองคนอื่น

    แต่ไม่มีเวลามองตัวเอง จงแผ่เมตตาให้เขาไป เข้าใจใช่ไหม



    ชอบ 2 ประโยค นี้มาก มนุษย์เรามันเป็นอย่างนี้จริงๆ

    ได้อ่านก็เหมือนได้เตือนสติตนเอง...จงอย่าเป็นอย่างนั้น..

    ขอบคุณคุณhut2211 มากนะคะ
    " ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า คิดให้ดีก็จะรู้ว่า.....คุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว "

  3. #3
    TEDDY07's Avatar
    TEDDY07 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3
    Warning Points:
    0/5
    ขอบคุณจ๊ะ
    ขอบคุณ SBN จ๊ะ

    หนังสือสวดมนต์ แจกฟรี ฟรี ฟรี
    ขอเชิญเพื่อนๆ SBN รับหนังสือสวดมนต์ฟรี
    เพื่อสวดบูชา ก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล
    แก่ตัวท่านเองและครอบครัว
    หรือจะเอาไปช่วยกันบอกบุญต่อก็ดียิ่งๆขึ้นไปเลยนะจ๊ะ

    ตามลิ้งค์นี้เลย
    http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=390560

  4. #4
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    8
    Warning Points:
    0/5
    กระจ่างและถ่องแท้เลยค่ะ...

  5. #5
    Meesook's Avatar
    Meesook is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    454
    Warning Points:
    0/5
    Quote Originally Posted by noinoi5 View Post
    คนที่เห็นนั้นมองคนอื่นด้วยใจที่หยาบช้า ไร้วิจารณญาณ ใจแคบ

    มองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง คนเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม

    เจ้าต้องจำไว้นะ ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี

    ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเองออกมา

    เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่าอย่าทำ อย่าเลียนแบบ

    เจ้าต้องทำความเข้าใจ จิตใจมนุษย์ เรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้

    เราห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น

    แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ

    เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง ใจเราควรสงบนิ่ง

    ยังไม่ต้องชำระ ใจคนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาวสะอาด

    กว่าที่เป็นอยู่ เขาเหล่านั้น เป็นบุคคลที่น่าสงสารมีเวลามองคนอื่น

    แต่ไม่มีเวลามองตัวเอง จงแผ่เมตตาให้เขาไป เข้าใจใช่ไหม


    ชอบ 2 ประโยค นี้มาก มนุษย์เรามันเป็นอย่างนี้จริงๆ

    ได้อ่านก็เหมือนได้เตือนสติตนเอง...จงอย่าเป็นอย่างนั้น..

    ขอบคุณคุณhut2211 มากนะคะ
    ชอบสองประโยคนี้ เพราะได้เตือนสติเหมือนกันค่ะ ขอบคุณคุณฮัทนะคะ
    .
    ...กรรมอยู่ที่เจตนา... ทำด้วยความตั้งใจดี แม้คิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ไม่หวั่นไหว ไม่ต้องกลัวอะไร... ไม่ต้องดิ้นรนไปเรียกร้องอะไรด้วย...คนที่จิตใจพัฒนาแล้ว ย่อมแยกแยะได้ และในที่สุดคนพาลที่เจตนาไม่ดีก็ย่อมแพ้ภัยตัวเอง...

    วิธีตั้งกระทู้ตรวจสอบที่ได้ผล เพื่อคำตอบที่รวดเร็ว และมั่นใจ
    วิธีทำให้อ่านความเห็นได้เยอะๆ ต่อหนึ่งหน้า กระทู้นึงจะได้ไม่ต้องยาวเป็นยี่สิบหน้า อ่านได้ในกระทู้นี้ค่ะ http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=51805


  6. #6
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    29
    Warning Points:
    0/5

    Smile

    ขอบคุณ คุณฮัทมากๆค่ะ ที่เอาบทความดีๆมาฝากกัน ได้อ่านเเล้ได้คติไว้เตือนใจค่ะ
    [SIGPIC][/SIGPIC]@@OrgaN@@♥♥♥.·:*¨¨*:·.A.·:*¨¨*:·.FIVE.·:*¨¨*:·.STAR.·:*¨¨*:·.BUYER.·:*¨¨*:·.♥♥♥






  7. #7
    peeranutt's Avatar
    peeranutt is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    79
    Warning Points:
    0/5
    ว๊าว ดีจังเลย อิอิ

  8. #8
    nam's Avatar
    nam is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,047
    Warning Points:
    0/5
    ไม่ได้เข้าห้องนี้ซะนาน คุณ Hutยังมีข้อคิดดีๆมาฝากเสมอ ขอบคุณคะ
    แหล่งแพร่เชื้อความสุข

  9. #9
    titled's Avatar
    titled is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    54
    Warning Points:
    0/5
    ^^thanks na krub
    ^^Love city glow *deLaCour

  10. #10
    barumbum is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1
    Warning Points:
    0/5
    อ่านแล้วแบบว่าสุดยอดค่ะ

Page 1 of 2 1 2 LastLast

Comments from Facebook

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •