สาวๆครับ มีเรื่อสำคัญงมาชวนคุยเข้ามาหน่อยครับ(ติดเรทนิดนึง)
อืม..ไม่ได้มีอะไรมากเท่าไหร่แค่จะเอาความหวังดีกับคำเตือนมาฝากนะครับ Maybe.......
รู้ไหมว่าสาเหตุการตายของคนทั่วโลก 3 อันดับนี้มีอะไรบ้าง คร่าวๆ ก็ โรคหลอดเลือดหัวใจ, โรคมะเร็ง, โรคติดเชื้่อ
แล้วรู้ไหมว่าโรคมะเร็ง 2 อันดับแรกที่คร่าชีวิตของผู้หญิงคืออะไรบ้าง
1. มะเร็งปากมดลูก
2. มะเร็งเต้านม
วันนี้จะมาพูดถึงมะเร็งปากมดลูกกัน
เป็นมะเร็งที่คู่กับประเทศที่กำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนา(รวมถึงเมืองไทยด้วย)
สาเหตุเพราะ
1.คนไทยยังไม่ชอบที่จะไปตรวจภายใน(จะด้วยอายหมอหรือค่านิยม) Yearly check-up โดย PAP smear ทั้งที่เป็นวิธีการเดียวที่สามารถตรวจพบได้ในระยะแรกและสามารถให้รักษาได้ง่ายมาก ประเทศออสเตรเลียหรืออเมริกาเนี่ยแทบจะการตายอันดับหลังๆ เพราะประชาชนเค้ามีความรู้ดีมาก แต่เมืองไทยไม่ว่าจะฐานะหรือการศึกษามากแค่ไหนเท่าที่ได้สัมผัสมาก็ไม่มีการตรวจเป็นส่วนใหญ่ - -"
2. เป็นมะเร็งที่กว่าจะแสดงอาการออกมาเนี่ย ค่อนข้างจะลุกลามไปเยอะแล้ว ซึ่งมันจะเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือเลยนะครับถ้าเจอระยะแรกสามารถรักษาให้หายขาดได้แบบไม่ต้องนอนรพ.ด้วยซ้ำแต่ถ้ามาเจอ stage ที่ลุกลามแล้ว จะต้องเจอการผ่าตัด, chemo, การฉายแสง และผลการรักษาก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ทีนี้มันเกิดมะเร็งได้ยังไง
มี 2 สาเหตุหลักๆ
1. Mutiple sexual partner หรือการคู่นอนหลายคนแต่ในทางการแพทย์เนี่ยการมี sexual intercourse(เพศสัมพันธ์ ต่อไปจะใช้คำว่า SI นะครับ อายอ่ะ) แค่การมี SI ก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงแล้ว เพราะ Smegma หรือ "ขี้เปียกที่ติดอยู่ที่ปลายอวัยวะเพศชายเนี่ยเป็นสารก่อมะเร็งน่อ (แต่ไม่ทำให้เกิดอะไรในผู้ชายเลย - -")
2. Human papilloma infection หรือ HPV คือหูดหงอนไก่ของภาษาชาวบ้านแหละครับ จะแสดงอาการในผู้ชายแต่ถ้าเกิดเข้าไปในตัวผู้หญิงจะไม่มีอาการแสดงออกมาแต่ทำให้เซลล์บริเวณปากมดลูกแบ่งตัวผิดปกติหรือ Dysplasia มีโอกาสที่จะเกิดการกลายเป็นเซลล์มะเร็ง Malignant transformation
วิธีป้องกัน
เกิดเป็นผู้หญิงต้องดูแลตัวเองเยอะหน่อย ทำให้ตัวเองสวยกันแล้วอย่าลืมดูแลเรื่องพวกนี้ด้วยนะครับ
วิธีการก็จะตรงตัวตามสาเหตุครับ
1. Safe sex ครับใช้ condom ทุกครั้งที่มี SI เพราะจะป้องกันทั้ง Smegma จากผู้ชายและ HPV ไวรัสที่มาสู่ตัวเรา และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น HIV หรือกามโรค (เหมือนเราผู้ชายป็นตัวเชื้อโรคเลยนะนี่)
2. ค่านิยม หยาบนิดนึงนะครับ "ผัวเดียวเมียเดียว" ใช้ได้เสมอครับเพราะเราไม่ต้องไป share โอกาสเสี่ยงมากขี้น
3. Yearly check-up PAP smear ทุกคนที่มี SI แล้วหรือ อายุ 45 ปีขึ้นไปในกรณีสาวจิ้นครับสามารถที่จะตรวจความผิดปกติได้ไวมาก ตั้งแต่การเป็น Dysplasia หรือ Pre-cancerous stage ครับ คือก่อนจะมีเซลล์มะเร็งก็สามารถตรวจเจอแล้วและอย่างที่ไบรท์กล่าวมาตั้งแต่ต้น"การรักษาง่ายกว่าเยอะครับ"
ถ้าทำได้ทั้ง 3 อย่างข้างบนเนี่ยก็ค่อนข้าง safe แล้วครับแต่ช่วงนี้ถ้าใครติดตามตามนิตรสารหรือข่าวสาร ก็จะมีเรื่องที่กำลังบูมๆ นะขณะนี้ครับ
4. เป็นวิธีที่ทำให้ incidence ของมะเร็งปากมดลูกลดลงแทบจะหาไปจากประเทศออสเตรเลีย
HPV Vaccination
คือการฉีดวัคซีนแหละครับเหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือบาดทะยักทั่วไป ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันต่อ HPV vaccine มีทั้งหมด 4 subtypes ที่ก่อมะเร็งตอนนี้มี 2 ยี่ห้อในตลาดของ GSK กับ MSD ครับ ซึ่งมีของ MSD (ชื่อการค้า Gadarsil) เท่านั้นที่ครอบคลุมได้ทั้ง 4 subtypes (ของ GSK ได้แค่ 2 subtypes ครับ)
แนะนำให้ฉีดในสาวบริสุทธิ์ อายุ 10-45 ปี(ช่วง 10-25 จะให้ผลดีที่สุด)
แต่ถ้าสาวๆที่แต่งงานแล้วหรือมี SI แล้วเนี่ยก็สามารถฉีดได้ครับแต่ต้องไป PAP smear ก่อนที่จะฉีดวัคซีนเพื่อตรวจหาเซลล์มะเร็งก่อนครับ
วิธีฉีดก็ฉีดที่ 0,2,6 เดือนครับจะได้ life-long immune ต่อ HPV ป้องกันการติดเชื้อได้เกือบๆ 100% (ย้ำว่าป้องกันการติดเชื้อนะครับไม่ใช่ป้องกันมะเร็งแต่ก็ตัดสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งออกไปได้ 1 อย่าง)
ปัจจุบันราคาตามรพ.เอกชนประมาณ 14000-15000 บาทต่อ 3 เข็มครับ ราคาของรพ.รัฐบาลจะแตกต่างไปตามที่ (ถ้าอ้างอิงจากราคาทุนที่ไบรท์สั่งมาให้คุณแฟนกับพี่ๆ ในรพ.ก็ 10500 บาทต่อ 3 เข็มครับ)
ถามไบรท์ว่าคุ้มไหมกับราคานี้ ไบรท์ไม่คิดเลยครับคุ้มสุดๆ (ถูกกว่ากระเป๋า 1 ใบอีกแล้วก็ป้องกันคนที่เรารักได้ตลอดชีวิต เข้ามาเมืองไทยก็สั่งทันทีเป็นของขวัญให้คุณแฟน แต่โดนบ่นว่าหาเรื่องเจ็บตัวมาให้ 555 รักนะคะเพราะรักหรอก)
พอดีวันนี้ฉีดคนไข้ใหม่ไป 2 คนก็เลยนึกขึ้นได้ว่าเอามาเขียนลงในนี้ดีกว่าครับ อาจจะเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้ามไปแต่ไบรท์ว่าสำคัญ ไม่อยากให้ลืมไปครับ
ใครที่สนใจ ติดต่อได้ที่เกือบทุกรพ.ใกล้บ้านครับ ถ้ามีข้อสงสัยหรือคำถาม PM มาได้ครับจะพยายามตอบเท่าที่จะทำได้
อย่าลืม yearly check-up PAP นะครับสำคัญกับสาวๆมาก ต่อให้ฉีด Vaccine แล้วก็ตาม
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
เจ้าชายสายฟ้า
When you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth
Sherlock Holmes