Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 1 of 2 1 2 LastLast
Results 1 to 10 of 13

Thread: "ถูกนินทาว่าร้าย คิดอย่างไรจึงจะหายทุกข์"

  1. #1
    PREZZO's Avatar
    PREZZO is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2
    Warning Points:
    0/5

    Cool "ถูกนินทาว่าร้าย คิดอย่างไรจึงจะหายทุกข์"

    1. เป็นธรรมดาของโลก ให้คิดว่านี่เป็นธรรมดาของโลก ไม่เคยมีใครสักคนบนโลกนี้ที่รอดพ้นจากคำนินทา เพราะแม้แต่พระพุทธเจ้าของเรา ขนาดท่านเป็นผู้ที่ประเสริฐบริสุทธิ์สูงสุด แต่ท่านก็ยังไม่พ้นถูกคนพาลกล่าวโจมตีว่าร้ายจนได้ แล้วนับประสาอะไรกับเราที่เป็นแค่คนธรรมดาสามัญที่ยังมีทั้งดีและชั่วจะรอดพ้นปากคนนินทาไปได้ คิดอย่างนี้แล้วจะได้สบายใจว่า การถูกนินทานี่เป็นแค่เรื่องธรรมดา เกิดขึ้นมาพร้อมกับโลก (โลกธรรม) และ ยังคงมีอยู่ต่อไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย


    2. ให้มีจิตใจมั่นคงดุจภูผา ถ้าเรามีความบริสุทธิ์ใจ ทำการงานด้วยความตั้งใจปรารถนาดี แต่แล้วก็ยังไม่พ้นถูกคนนินทา กล่าวร้ายว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ขอให้เรามีความมั่นใจในความดีของเรา อุปมาภูผาหินแท่งตันไม่หวั่นไหวในลมพายุฉันใด บัณฑิตผู้มีจิตใจหนักแน่นในความดี ย่อมไม่หวั่นไหวในคำสรรเสริญ และ คำนินทาแม้ฉันนั้น


    3. ให้มีจิตเมตตาสงสารผู้นินทา ให้คิดด้วยความเมตตากรุณาว่า คนที่นินทาเรานั้น ย่อมกระทำไปด้วยความอิจฉาริษยา เขาจะต้องเผาลนจิตใจของเขาให้ร้อนรุ่มเสียก่อน จึงจะสามารถพูดนินทาว่าร้ายคนอื่นออกมาได้ ให้คิดเมตตาสงสาร แทนที่จะไปโกรธเคืองเขา
    อนึ่ง คนที่ชอบกล่าววาจาส่อเสียด หรือ ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น โดยปรกติเขาย่อมเป็นผู้หามิตรสหายที่ใกล้ชิดไม่ค่อยได้ เพราะไม่เคยมีใครไว้วางใจคนที่ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น ให้คิดเห็นใจเขาในฐานะที่เขาต้องเป็นผู้อยู่ในโลกนี้ด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว เพราะเขาย่อมหาเพื่อนแท้ไม่ได้


    4. คิดหาประโยชน์จากคำนินทา คนที่คิดกล่าวร้ายเรา บางทีเขาต้องไปนั่งคิดนอนคิดหาจุดอ่อนในตัวของเรา เพื่อเอามาพูดโจมตี บางทีจุดอ่อนเหล่านี้ตัวเราเองก็มีอยู่จริงแต่ทว่าเราไม่รู้ตัวมาก่อน นี้เป็นประโยชน์มาก เพราะเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาพัฒนาปรับปรุงตนเองได้ ดังนั้นเราจึงควรที่จะขอบคุณคนนินทาเรา เพราะเขาอุตส่าห์ไปนั่งคิดนอนคิดช่วยค้นหาข้อมูลมาช่วยให้เราปรับปรุงตนเอง


    5. คิดวิเคราะห์ให้เห็นปัญหาสังคม สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความสัมพันธ์ในแนวดิ่ง คือเน้นเรื่องการใช้อำนาจครอบงำกันและกัน จึงมีการปลูกฝังสอนให้คิดแข่งดีแข่งเด่น คิดเหนือผู้อื่น สอนให้อยากเป็นใหญ่เป็นโต (มานะ) มาตั้งแต่โบราณ (คาดว่าไม่ต่ำกว่าห้าร้อยปี คือตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น) ทำให้คนไทยเรา เวลาเห็นใครทำดี ก็มักจะเกิดความริษยาโดยไม่รู้ตัว คือทนไม่ได้ที่จะเห็นคนอื่นดีกว่าตน สังคมที่มีความสัมพันธ์ในแนวดิ่งเช่นนี้ ผู้คนจึงมักจะชอบนินทาว่าร้ายกันและกันเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคิดวิเคราะห์ได้เช่นนี้แล้วก็สบายใจ ไม่ต้องไปเดือดเนื้อร้อนใจอะไรมาก ให้ถือว่าการที่เราถูกนินทานี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ทางสังคมก็แล้วกัน มันเป็นเช่นนั้นเอง
    ในอนาคตไม่แน่ หากมีการศึกษาเรื่องพุทธธรรมกับสังคมไทยกันอย่างจริงจัง บางทีเราอาจจะสามารถเปลี่ยงแปลงความสัมพันธ์ทางสังคมจาก "แนวดิ่ง" ให้เป็น "แนวราบ" คือ คนไทยมีความเสมอภาคกัน ไม่ถืออำนาจเป็นใหญ่ แต่ถือความถูกต้องดีงามเป็นใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้นสังคมที่เต็มไปด้วยการนินทาว่าร้ายก็จะลดน้อยลงไปเองตามธรรมชาติ แล้วภาษิตยอดฮิตที่ว่า "สังคมเสื่อมถอยเพราะคนดีท้อแท้" หรือ "ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย" จะได้เลิกใช้กันเสียที



    เนมิราชชาดก
    พระเจ้าเนมิราช เมื่อทรงปฏิบัติธรรมอยู่นั้น ทรงสงสัยว่า การให้ทานกับการประพฤติพรหมจรรย์ คือ การรักษาความบริสุทธิ์ ไม่ข้องเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวโลกนั้น อย่างไหนจะประเสริฐกว่ากัน

    พระอินทร์ได้ทรงทราบถึงความกังขาในพระทัยของพระเจ้า เนมิราช จึงเสด็จจากดาวดึงส์ลงมาปรากฏ เฉพาะพระพักตร์ พระราชา ตรัสกับพระราชาว่า "การประพฤติพรหมจรรย์จึงทำได้ยากยิ่ง กว่าการบริจาคทาน และได้กุศลมากยิ่งกว่าหลายเท่านัก"

  2. #2
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    Warning Points:
    0/5
    ขอบคุณมากๆค่ะ ชอบตามอ่านกระทู้ของคุณpressoมากๆ

  3. #3
    wawe's Avatar
    wawe is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    685
    Warning Points:
    0/5
    ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ สำหรับบทความดี ๆ แบบนี้
    ความง่ายอยู่ที่ปาก ความยากอยู่ที่ทำ
    การรู้จักปล่อยวาง เป็นวิถีทางแห่งความสุขสงบ
    มนุษย์ย่อมได้รับผลของการกระทำของตนเสมอ อาจจะเร็วหรือช้าเท่านั้น

  4. #4
    noo_pizza's Avatar
    noo_pizza is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,683
    Warning Points:
    0/5
    ขอบคุณมาก มากค่ะ....
    อ่านแล้วได้คิด กะลังจะเฉียดไปใกล้ความทุกข์เชียว
    __________________________

    "ทำเสียงอย่างนี้ ซื้อมาอีกใบแล้วสิ"

    #### รู้ทันอีกแล้ว เซ็ง ####

  5. #5
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    Warning Points:
    0/5
    ... บางทีที่โดนว่าร้าย
    แล้วเราไม่ได้ตอบโต้ มันก้เปนอะไรที่อึดอัดสุดๆเลยค่ะ
    แต่จะลองทำตามวิธีของคุน PREZZO ดูมั่งนะคะ ^^

  6. #6
    Meesook's Avatar
    Meesook is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    454
    Warning Points:
    0/5
    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ นะคะ

    Quote Originally Posted by PREZZO View Post
    5. คิดวิเคราะห์ให้เห็นปัญหาสังคม สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความสัมพันธ์ในแนวดิ่ง คือเน้นเรื่องการใช้อำนาจครอบงำกันและกัน จึงมีการปลูกฝังสอนให้คิดแข่งดีแข่งเด่น คิดเหนือผู้อื่น สอนให้อยากเป็นใหญ่เป็นโต (มานะ) มาตั้งแต่โบราณ (คาดว่าไม่ต่ำกว่าห้าร้อยปี คือตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น) ทำให้คนไทยเรา เวลาเห็นใครทำดี ก็มักจะเกิดความริษยาโดยไม่รู้ตัว คือทนไม่ได้ที่จะเห็นคนอื่นดีกว่าตน สังคมที่มีความสัมพันธ์ในแนวดิ่งเช่นนี้ ผู้คนจึงมักจะชอบนินทาว่าร้ายกันและกันเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคิดวิเคราะห์ได้เช่นนี้แล้วก็สบายใจ ไม่ต้องไปเดือดเนื้อร้อนใจอะไรมาก ให้ถือว่าการที่เราถูกนินทานี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ทางสังคมก็แล้วกัน มันเป็นเช่นนั้นเอง
    ในอนาคตไม่แน่ หากมีการศึกษาเรื่องพุทธธรรมกับสังคมไทยกันอย่างจริงจัง บางทีเราอาจจะสามารถเปลี่ยงแปลงความสัมพันธ์ทางสังคมจาก "แนวดิ่ง" ให้เป็น "แนวราบ" คือ คนไทยมีความเสมอภาคกัน ไม่ถืออำนาจเป็นใหญ่ แต่ถือความถูกต้องดีงามเป็นใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้นสังคมที่เต็มไปด้วยการนินทาว่าร้ายก็จะลดน้อยลงไปเองตามธรรมชาติ แล้วภาษิตยอดฮิตที่ว่า "สังคมเสื่อมถอยเพราะคนดีท้อแท้" หรือ "ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย" จะได้เลิกใช้กันเสียที
    เห็นด้วยกับข้อนี้มากค่ะ
    ป.ล. ชาติอื่นๆ ก็เป็นอย่างนี้เหมือนกันนะคะ อิจฉา สกัดดาวรุ่งกัน แต่ไม่ค่อยนินทาจุ๊กจิ๊ก ส่วนมากเท่าที่เคยเจอ เค้าจะไม่ได้แค่นินทาเฉยๆ แต่จะใช้ความอิจฉาที่เห็นคนอื่นดีกว่านั้น เป็นแรงผลักดันให้ตัวเค้าเองดีขึ้นด้วยค่ะ
    .
    ...กรรมอยู่ที่เจตนา... ทำด้วยความตั้งใจดี แม้คิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ไม่หวั่นไหว ไม่ต้องกลัวอะไร... ไม่ต้องดิ้นรนไปเรียกร้องอะไรด้วย...คนที่จิตใจพัฒนาแล้ว ย่อมแยกแยะได้ และในที่สุดคนพาลที่เจตนาไม่ดีก็ย่อมแพ้ภัยตัวเอง...

    วิธีตั้งกระทู้ตรวจสอบที่ได้ผล เพื่อคำตอบที่รวดเร็ว และมั่นใจ
    วิธีทำให้อ่านความเห็นได้เยอะๆ ต่อหนึ่งหน้า กระทู้นึงจะได้ไม่ต้องยาวเป็นยี่สิบหน้า อ่านได้ในกระทู้นี้ค่ะ http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=51805


  7. #7
    N a m F o n's Avatar
    N a m F o n is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    Warning Points:
    0/5
    ชอบทุกข้อเลยค่ะ ให้ข้อคิดที่ดี
    ขอบคุณที่เอามาฝากนะคะ
    ♥ชีวิตคือการเรียนรู้..สู้ต่อไป อย่าท้อที่จะทำดี♥
    My Blog:- http://ceciliamalee.bloggang.com

  8. #8
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986
    Warning Points:
    0/5

    Talking

    ขอบคุณบทความดี ๆ ครับ
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  9. #9
    speedy_lockit is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    14
    Warning Points:
    0/5
    ขอบคุณที่ช่วยเตือนใจ ค่า บางทีหลงผิดไปแต่ดีใจที่มีคนเตือนกัน(คล้องจองซะ) คนที่ทำผิดแต่ไม่รู้ตัว น่าสงสารมากนะค่ะ

  10. #10
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    4
    Warning Points:
    0/5
    ขอบคุณมากค่ะ ที่ให้แง่คิด ทำให้หนูสบายใจเยอะเลยค่ะ

Page 1 of 2 1 2 LastLast

Comments from Facebook

Similar Threads

  1. Replies: 1
    Last Post: 05-05-2021, 02:06 PM
  2. Replies: 1
    Last Post: 05-05-2021, 01:58 PM
  3. Replies: 1
    Last Post: 05-03-2021, 01:32 PM
  4. Replies: 1
    Last Post: 03-29-2021, 04:38 PM
  5. Replies: 1
    Last Post: 03-28-2021, 10:35 PM

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •