เพราะความเสี่ยงด้านสุขภาพเป็นอันตรายต่อทั้งชีวิตและความมั่นคงทางการเงินในอนาคต ด้วยเหตุนี้ การทำประกันสุขภาพติดตัวเอาไว้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยให้เข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพและทันสมัยแล้ว ประกันสุขภาพยังสามารถช่วยบริหารค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ด้วยปัจจัยทั้งด้านการเงินและความคุ้มค่า ใครหลายคนมักสงสัยว่า การทำประกัน OPD อย่างเดียวเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์การทำประกันแบบมี OPD และ IPD หรือไม่ หากใครกำลังสงสัยเช่นเดียวกันนี้อยู่ มาดู 3 ประโยชน์ของการทำประกัน OPD อย่างเดียวกัน


ตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุด
 หลายคนอาจไม่ทราบว่า จริง ๆ แล้ว เราสามารถเลือกทำประกัน OPD อย่างเดียวโดยไม่ต้องพ่วง IPD ได้เช่นกัน โดยประกัน OPD จะเป็นประกันที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาแบบที่ไม่ต้องแอดมิทนานกว่า 6 ชั่วโมง หรือ รักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ส่วนใหญ่มักครอบคลุมการรักษาโรคการเจ็บป่วยทั่วไป ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่กำลังมองหาประกันสุขภาพสักใบที่ช่วยบริหารค่าใช้จ่ายในยามเจ็บป่วยทั่วไป

วางแผนค่าเบี้ยประกันสะดวก
 ส่วนใหญ่แล้ว การทำประกัน OPD อย่างเดียวมาพร้อมกับเบี้ยประกันที่น้อยกว่าการทำประกันสุขภาพที่รวมค่ารักษาแบบ IPD ด้วย นอกจากนี้ ประกัน OPD จากบริษัทประกันบางแห่งยังมาพร้อมกับเงื่อนไขที่ครอบคลุมการรักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย ทำให้สามารถรับผลประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า ไม่กำหนดค่าใช้จ่ายและจำนวนครั้งในการรักษา ส่งผลให้ลดความกังวลในด้านข้อจำกัดในการรักษาลงไปได้แม้จะทำประกัน OPD อย่างเดียวก็ตาม ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดแบบหนึ่งเลยทีเดียว

ตัวช่วยเสริมความคุ้มครองในอนาคต
 อย่างไรก็ดี สำหรับใครที่มีความกังวลว่า การทำประกัน OPD อย่างเดียวจะไม่ครอบคลุมการรักษาพยาบาลอื่น ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกคนยังสามารถเลือกซื้อประกันเสริมความคุ้มครองร่วมกับประกัน OPD ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันโรคร้ายแรง ประกันสุขภาพกลุ่มกับครอบครัว รวมไปถึงทำประกัน IPD เสริมได้ หากรู้สึกว่ามีความเสี่ยงด้านสุขภาพเพิ่มเติม นอกจากนี้ การทำประกัน OPD ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองด้านค่าใช้จ่ายในการรักษาควบคู่กับบัตรประกันสุขภาพอื่น ๆ ทำให้รับการรักษาที่ครอบคลุมโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้นอีกด้วย

จะเห็นได้ว่า การทำประกัน OPD อย่างเดียวก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการ ทั้งยังช่วยวางแผนค่าใช้จ่ายด้านประกันสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ หวังว่ารายละเอียดที่นำมาในวันนี้จะช่วยให้ทุกคนพิจารณาเลือกทำประกันสุขภาพที่เหมาะสมและลงตัวกับความต้องการได้มากขึ้นนะ