แบบนี้ ถ้ามีแฟน ก้ห้ามแนะนำให้รู้จักใครเรยยย
ล่ามเอาไว้ในบ้านนนน
ล้อเล่นนนน้า
อิอิอิ
แบบนี้ ถ้ามีแฟน ก้ห้ามแนะนำให้รู้จักใครเรยยย
ล่ามเอาไว้ในบ้านนนน
ล้อเล่นนนน้า
อิอิอิ
I LoVe U [SIGPIC][/SIGPIC]
My Precious
Steel Blue Electrique Marine Emerald Electrique Turquois
Cafe NoiRBouton D' OrAmetyse
TruffleBuff noirEvergreen
GGH SS o7 runway purse Vert Fonce
SaHara MoganoBordeauxAutummeOriganSapphire
น้องเยี่ยมมาก ขอชื่นชมในความคิดดีดี ไม่น่าเชื่อว่าเด็กอายุ 20 จะสามารถคิดอะไรอะไรได้ลึกซึ้งมากขนาดนี้ ความมีสติจะทำให้ปัญหาลุล่วง ยินดีด้วยกับชีวิตใหม่นะคะ
อยากได้อะไร ไม่เคยทันกับเค้าสักที เฮ้อ!
แจ๋วมาก...น้องซัน
เป็นกำลังใจให้ค่า่
ขอแจมกระทู้ ให้ข้อมูลเรื่องการสวดมนต์นิดนึงนะคะ
การสวดมนต์ไม่ใช่การท่องคาถา ไม่ใช่แค่การอ่านตามบทสวดไปอย่างนั้นค่ะ
การสวดมนต์เป็นอุบายที่ทำให้ใจสงบค่ะ ที่การสวดมนต์ทำให้ใจสงบได้ เพราะอย่างน้อยในขณะที่สวด จะต้องจดจ่ออยู่กับบทสวด ทำให้ฟุ้งซ่านไปคิดเรื่องอื่นได้ยาก และในขณะที่จิตใจเริ่มสงบ สติก็จะมา และปัญญาก็จะเกิดตอนช่วงที่ใจสงบมีสตินี่ล่ะค่ะ
หลักการสวดมนต์คร่าวๆ ง่ายๆ นะคะ
ถ้าดูคำแปลของบทสวดมนต์ ถึงจะเป็นภาษาบาลียากๆ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่มนต์คาถาอะไรเลยค่ะ หลักๆ ก็เป็นการ เอ่ยวาจา สัญญากับตัวเองว่าจะทำดีตามที่พระพุทธเจ้าสอนค่ะ
1. สวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ก็คือระลึกถึงพระพุทธคุณ (พระคุณงาม ความดีของพระพุทธเจ้า) และน้อมรับพระธรรมของพระพุทธเจ้า และพระสงฆ์ที่สั่งสอนค่ะ เป็นการบอกกับตัวเองว่าพระธรรมที่พระพุทธเจ้าให้มานั้น ดีแล้ว และเราตั้งใจจะใช้ชีวิตอยู่ในธรรมตามที่พระพุทธเจ้าให้ธรรมะไว้
2. การอาราธนาศีล และสวดศีลห้า ก็เป็นการเอ่ยสัญญากับตัวเองว่าจะรักษาศีลห้า เหมือนสัญญากับตัวเองว่าจะทำความดี จะเป็นคนดีน่ะค่ะ
3. สวดชัยมงคลคาถา ความจริงไม่ใช่คาถาค่ะ เนื้อความเป็นการพูดถึงสิ่งที่เป็นมงคลต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าได้ทำเพื่อชนะกิเลสทั้งหลาย เช่น ทำทาน, ขันติ, เมตตา, จิตที่สงบ เป็นสมาธิ, การเทศนาของพระพุทธเจ้า,
4. มหาการุณิโก เนื้อหา เป็นการให้พรแก่ผู้ที่ทำดีค่ะ ประมาณว่า ทำดีแล้ว ก็จะได้ดี เพื่อให้เรามั่นใจค่ะ ว่าทำความดีไปแล้ว ต้องได้รับผลดีแน่นอน
5. ที่สำคัญ เมื่อสวดมนต์ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรม และพระสงฆ์แล้ว สัญญากับตัวเองว่าจะทำแต่ความดีแล้ว ก็จะต้อง "อโหสิกรรม" ค่ะ อโหสิกรรมให้กับผู้ที่ทำกรรมกับเรา และ"อโหสิกรรมให้กับตัวเอง"ด้วยค่ะ รวมทั้งขอขมา ขอให้ผู้ที่เราทำผิดกับเค้าไว้ ให้เค้าอโหสิกรรมให้เราด้วยค่ะ
6. เมื่ออโหสิกรรมแล้ว จิตใจก็สะอาดบริสุทธิ์แล้ว ถึงจะแผ่เมตตาให้ผู้อื่นค่ะ คือจิตใจที่ดีงาม คิดหวังให้ทุกสรรพสัตว์มีความสุข ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำดีกับเรา หรือทำไม่ดีกับเรา เราก็คิดหวังให้เค้ามีความสุขทั้งนั้นค่ะ (อย่างที่น้อง minnatabo ทำอยู่ค่ะ)
7. เมื่อถึงตอนนี้ เราก็ได้บุญกุศลแล้ว (เพราะจิตใจสะอาด และเมตตาแล้ว) เราก็อุทิศส่วนกุศลนั้นค่ะ อุทิศให้ใครก็ได้ที่อยากจะให้ ส่วนมากก็ให้พ่อแม่ ญาติ ผู้มีพระคุณทั้งหลาย ให้วิญญานที่ล่วงลับไปแล้ว แล้วก็ลองอุทิศให้กับศัตรูด้วยก็ดีค่ะ (เป็นการฝึกการอโหสิกรรม และเมตตาอีกอย่างนึงด้วย)
8. สุดท้าย ให้ระลึกถึงพระคุณของพ่อแม่ค่ะ ระลึกไปถึงตั้งแต่วันที่เราเกิดมา จนกระทั่งถึงวันนี้ ว่าพ่อแม่ทำอะไรให้เรามาบ้าง
สวดมนต์ + แผ่เมตตา + อุทิศส่วนกุศล นี่ก็ประมาณ 15 นาทีเองค่ะ แต่เป็นช่วง 15 นาทีที่มีคุณค่ามากๆ ทำให้จิตสงบ มีสติ ทำให้ได้ปัญญาเยอะค่ะ แถมยังจิตใจบริสุทธิ์เพราะได้อโหสิกรรม ไม่มีอะไรติดค้างกับใครด้วยค่ะ
อย่างที่น้อง minnatabo ทำนี่ก็เห็นผลชัดเจนเลยค่ะ
Meesook อยากสนับสนุนให้สวดมนต์ และเข้าใจการสวดมนต์กันเยอะๆ นะคะ
....
....กรรมอยู่ที่เจตนา... ทำด้วยความตั้งใจดี แม้คิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ไม่หวั่นไหว ไม่ต้องกลัวอะไร... ไม่ต้องดิ้นรนไปเรียกร้องอะไรด้วย...คนที่จิตใจพัฒนาแล้ว ย่อมแยกแยะได้ และในที่สุดคนพาลที่เจตนาไม่ดีก็ย่อมแพ้ภัยตัวเอง...
วิธีตั้งกระทู้ตรวจสอบที่ได้ผล เพื่อคำตอบที่รวดเร็ว และมั่นใจวิธีทำให้อ่านความเห็นได้เยอะๆ ต่อหนึ่งหน้า กระทู้นึงจะได้ไม่ต้องยาวเป็นยี่สิบหน้า อ่านได้ในกระทู้นี้ค่ะ http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=51805
เป็นคนที่เชื่อใน "คนทำดีได้ดี คนทำชั่วได้ชั่ว" ค่ะ
ให้อภัยเค้าดีแล้วค่ะ เดี๋ยวเวลาก็จะพิสูจน์อะไรหลายๆ อย่างเอง
ชีวิตเรายังอีกยาวไกลค่ะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เป็นตัวฝึกให้เราแข็งแรงนะค่ะ
ให้กำลังใจค่ะ ขอให้ได้เป็นสจ๊วตสมใจด้วยนะค่ะ
ฉันเป็นมายังไง ไม่สำคัญใดใด ไม่สำคัญแม้ว่าฉันเกิดจากชาติใด
ขอแค่เพียงวันนึง ฉันตายในเมืองไทย
ฉันภูมิใจ ฉันคือคนไทย
"I am THAI"
ก็ตั่งใจอ่านมจนจบก็อะนะครับความรัก ความรักนั้นทำให้โลกสดใสแต่ก็ซ่อนไปด้วยอันตราย
นิคก็เคยโดนมาเหมือนกันครับผมกับเพื่อสนิทเช่นกัน
แต่เราก็ปล่อยเขาไปอะครับ และทุกวันนี้นิคยังคบกับเพื่อนคนนั้นอยู่เลยอะครับ
คิดตลอดว่าช่างมันเถอะไม่ตายหาใหม่ได้
คำนี้ส่วนตัวมากๆๆๆขอพูดนะครับ มีเงินก็เอาไปฟาดหัวมัน ...อิอิอิ...
คนของเราไม่ดีเองหรือเพือนไม่ดีก็ช่างแต่เขา 2 คนก็มาขโ?ษนิคนะครับ
ตอนแรกก็โกรธมากมายแต่ก็นะมีพ่อแม่ พี่ๆๆที่แสนดีอยู่ข้างๆๆอะครับเลยดีขึ้น
และอีกครั้งเห็นเองกะตาเดินควงกันหน้าเอราวัลเลยครับ ลมแทบจับ
มากะผู้หญิงด้วยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆลมจับ จริงๆๆแทบไม่มีแรงเดิน นิคก็ส่งยิ้มไปให้แบบหวานๆๆ
สวยๆๆไปอะครับ ไม่เล่าจะเดี่ยวยาวอะครับ
ยังไงก็ต้อง 70/30 นะครับเกิดไรขึ้นจะได้ตั่งตัวได้เร็จ
แต่พูดอะง่ายทำอะอยากครับเพราะลองแล้ว
เป็นกำลังใจสู้ๆๆๆ
เรื่องนี้ทำให้นึกถึงหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ เข็มทิศชีวิต ที่สอนเราว่าใจเรานั่นแหละที่ทำให้เราทุกข์ เพราะใจเราไปยึดติดกับสิ่งต่างๆ เพื่อนๆคนไหนไม่เคยอ่านลองไปอ่านดูนะคะ เป็นกำลังใจให้คะ
ทุกข์ หรือ สุข อยู่ที่เราเลือกจะมองจริงๆด้วย นับถือน้องซันจากใจจริงๆค่ะ เจ๋งมากๆๆๆๆๆ
ห่างๆกันบ้าง (ก็น่าจะ) ดี เสียตังค์ตะ-หลอด เร๊ยยยยยยย (^^)'