เราทำถูกกิเลสเขา...เขาก็ว่า...เราดี
เราไม่ทำถูกกิเลสเขา...เขาก็ว่า...เราไม่ดี
ไปหาหมอเลยค่ะ ด่วน!!!
โรคนี้ไม่ทำให้ตาย แต่ทำให้อยากตาย
แต่ถ้าได้รับการรักษาก็หายได้ไม่ยากค่ะ
หมอบอกว่าเกิดจากรสารเคมีในสมองไม่สมดุล
เนื่องจากเกิดจากปัจจัยหลายๆอย่าง
เช่นความเครียด วิตกกังวล ที่สะสมมาเป็นเวลานาน
ทำให้่สารเคมีในสมองเกิดความไม่สมดุล
ต้องได้รับการรักษา เมื่อดีขึ้นแล้ว ก็ต้องปรับอารมณ์
ใหม่ ไม่ให้เครียดหรือกังวลมากๆ โดยเข้าหาธรรมมะค่ะ
แล้วออกกำลังสมำ่เสมอ เพ่ือรักษาสมดุลของร่างกายเอาไว้จ้า
เป็นกำลังใจให้หายไวๆนะคะ
อ้อ!ลืมแนะนำ คุณหมอสเปน อยู่ที่รพ.บำรุงราษฏ์
ตอนนี้ก็กำลังรักษาอยู่ค่ะ ไม่ใช่ดิวนะคะ แต่เราเป็นคนพาเค๊าไป
ต้ังแต่แรก รักษามาได้4เดือนแล้ว อาการดีขึ้นค่ะ
เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา
ขอบคุณทุกความเห็น ทุกคำแนะนำ จากใจจริงค่ะ สังคมที่นี่ช่างน่าอยู่ มีคนดีๆมากมายและเปื่ยมไปด้วยมิตรภาพจริงๆ
เพือนเราเคยเปนคะ เราแนะนำคุณหมอได้นะคะคุณหมอที่รพ.จิตเวชแถวบางนาอะคะ ดีมากๆคุณหมอผุ้ญเปนอาจารย์ที่รพจุฬาด้วยคะ หรือไปคลีนิกนอกเวลารพ จุฬา เราว่าดีนะคะคุณหมอเก่งๆทุกท่านเลย แล้วส่วนมากเค้าจะช่วยปรับทัศนคติตนเองให้มีความมั่นใจมากกขึ้นอะคะ แล้วก้มีช่วยด้วยการนำการนนังสมาธิมาช่วยดว้ยคะ ขอให้หายไวๆนะคะ สำคัญจิตใจต้องเข้มแข็งคะ
เข้ามาเป็นกำลังใจให้ค่ะ ท้อได้ค่ะ ให้เวลาทำใจ แล้วลุกขึ้นมาใหม่ รักตัวเองเพราะคุณพ่อคุณแม่เราทะนุถนอมเรา รักและหวังดีต่อเราเสมอมา อย่างน้อยก็มีครอบครัวค่ะ
พอดีญาติforward มาให้เลยเก็บไว้สอนใจตัวเองค่ะ
โลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ
ของฟรีไม่เคยมี ของดีไม่เคยถูก
อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง
คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย
ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ
ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น
ในโลกกลม ๆ ใบนี้ ไม่มีคำว่า }แน่นอน~
คนเราเมื่อ ตัวตายก็ต้องลงดิน
ท้อแท้ได้ แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้ แต่อย่าริษยา พักได้ แต่อย่าหยุด
เหตุผลของคนๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่ของคนอีกคนหนึ่ง
ถ้าไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร
หนทางอันยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกก่อนเสมอ
ปัญหาทุกอย่าง อยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
จะเห็นค่าของความอบอุ่น เมื่อผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว
อันตรายที่สุดคือ การคาดหวัง
เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย
อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์
เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน
ไม่มีคำว่า บังเอิญในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่า ตั้งใจ
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป
หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว
ไม่เป็นขุนนางนะ ได้ แต่ไม่เป็นคนไม่ได้
มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง
เมื่อวานก็สายเกินแล้วพรุ่งนี้ก็สายเกินไป
อย่าหวังว่าจะได้รับความรัก จากคนที่คุณรัก
เพราะคนที่คุณรักไม่ได้รักคุณหมดทุกคน
เพื่อนทั่วไปไม่เห็นคุณร้องไห้
เพื่อนแท้ มีหัวไหล่ไว้คอยซับน้ำตาให้
เพื่อนทั่วไป ถือขวดไวน์ติดมือมางานปาร์ตี้ของคุณ
เพื่อนแท้ จะมาแต่หัววันเพื่อช่วยเตรียมงาน
เพื่อนทั่วไป คาดหวังให้คุณเคียงข้างเขาเสมอ
เพื่อนแท้ คาดหวังที่จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป
เพื่อนทั่วไป เข้าหาผลประโยชน์ ที่ได้รับจากเรา
ก่อนหน้านี้ไม่นาน พี่ก็เป็นแบบนี้ค่ะ เนื่องมาจากการหย่า เอะอะ อะไรนิดอะไรหน่อย น้ำตาก็มา ทำงานไม่ได้เรื่องเรื่องมันวนเวียนๆอยู่ในหัวตลอด คนรอบข้างมีทั้งช่วยกระพือและช่วยให้ตัดใจ พี่คิดว่าถ้าน้องรู้ตัวว่าตัวเองเป็นโรคไร้ค่า ซึมเศร้า แสดงว่าอาการไม่หนัก
น่าจะใช้วิธีพฤติกรรมบำบัดมากกว่าใช้ยานะคะ ขอแนะนำให้ไปที่สถานธรรมชาติบำบัดบัลวีนะคะ เข้ากูเกิ้ลแล้วคีย์
บัลวีธรรมชาติบำบัดนะคะ แล้วติดต่อขอพบเเพทย์หญิงกอบกาญจน์ ( หมออ้อม ) จะช่วยแนะนำได้ดีมากๆเลยค่ะ
http://www.balavi.com/
หรือที่นี่ก็ได้ค่ะ เพราะพี่ไปทั้ง2แห่ง แต่ที่นี่ครบวงจรทันสมัยทั้งเครื่องมือและวิธีการ แต่ค่อนข้างแพงมาก ต้องเจรจาต่อรองให้เขาลดราคาเยอะๆหน่อย แต่ถ้าอ้างชื่อพี่ก็ได้ลดแน่นอนค่ะ
http://www.revitalite.co.th/new/th/index.htm
พี่ไปหาจิตแพทย์/นักจิตวิทยามาเยอะ บางคนถนัดคอนซัลท์วัยรุ่น บางคนถนัดผู้สูงอายุ ไม่เหมือนกัน ไม่ได้ทุกคนหรอก ไม่ค่อยได้ผล ถ้าทานยาก็แรง บางทีผลข้างเคียงใกล้บ้าก็มี (เห็นเพื่อนๆนะคะ ) การใช้พฤติกรรมบำบัดจะดีมาก โดยเฉพาะน้องยังเด็ก และยังรู้ตัว น่าจะไม่ต้องทานยาจะดีกว่าค่ะ
ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจค่า เราเคยเป็นวูบนึงที่ซึมเศร้า แต่คนรอบข้างช่วยให้ดีขึ้นค่ะ
ลองคุยกับคุณหมอตามที่เพื่อนๆแนะนำ
ออกไปทำกิจกรรม ช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาส ชีวิตเค้าแย่กว่าเราแต่เค้าก็ยังยิ้มสู้
พูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ พบปะเพื่อนสนิท
ทุกชีวิตมีคุณค่านะคะ สู้ๆจ้า
คุณแม่ก็เป็นโรคซึมเศร้า ช่วยแนะนำหมอเก่งๆใน กทม หน่อยครับ
เราเองก็เคยเป็นค่ะ
พบหมอมาหลายโรงพยาบาลมากๆ เลย . . จะบอกว่า "ยา" ไม่สามารถ เยียวยาจิตใจของคนเราได้ นอกจากตัวเองค่ะ(หากสาเหตุที่เกิดขึ้นมาจาก ความเครียด ฯลฯ ที่ไม่เกี่ยวกับทางร่างกาย)เราเคยมึนจากการรับประทานยาจนตกบันได T^T
และ หมอ ไม่สามารถเข้าถึงจิตใจได้ ถ้าเราไม่เปิดใจเราเอง . .
มันเป็นการยากที่จะเยียวยาตัวเอง (มากๆ) แต่มันเป็นสิ่งที่มีผล ได้ระยะยาว และมั่นคงที่สุด มากกว่าพึ่งยาหมอ
คุณยังพอมีสติ กับตัวเองอยู่บ้าง ที่อาจสามารถช่วยตัวเองได้
ลองตั้งสติ นั่งหลับตา สัก 3-5 นาที ปล่อยจิตใจให้ว่าง
หายใจ เข้า-ออก อย่างมีสติ
แล้วลองกลับไปหาสาเหตุของการ ซึมเศร้า เครียด และไม่สบายใจ
ชั่งใจว่า เป็นเรื่องที่เราละ หรือปล่อยวางได้หรือไม่(การค้นหาสาเหตุให้ได้มากที่สุด เป็นการช่วยหาผลสรุป ของความคิดว่าเราควรจะหนักใจต่อไปดีหรือไม่)
คุณ ไม่สบาย อะไรหรือเปล่า
----ทางกายภาพ ป่วย เจ็บ ไข้ ตรงไหนมั้ย การรับประทานอาหาร หรือพักผ่อนไม่เพียงพอต่อร่างกายก็ จะส่งผลกระทบด้วยเช่นกัน
----ทางจิต + กายภาพ (ตอนนี้มีโรคดังๆ น่ากลัวๆ มากมาย ที่เกิดขึ้น และมี คนรู้จักน้อยมาก อย่าง Bulimia/Anorexia Nervosaฯลฯ)
----ทางจิต(ควรพบแพทย์) ==> แนะนำ รพ. วิชัยยุทธ (เด๋วไปตามหาชื่อคุณหมอให้นะคะ)
พยายาม อย่าปล่อยให้ความคิด วนกับที่ หากเริ่มคิดมากๆควรปลีกตัวไปหาอะไรอย่างอื่นทำ
ปล่อย ทุกสิ่งอย่างที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองให้ได้มากที่สุด ( เพื่อนแย่งแฟนเพื่อน , คนที่ทำงานตีกัน ฯลฯ)
อยู่กับ เพื่อน และสังคมให้มากขึ้น หากิจกรรมทำ หรือเรียน
v
v
สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้มาง่ายๆ แต่อาศัยความพยายาม และอดทน *0* เป็นกำลังใจให้นะคะ ตรงนี้ ก็มีคน ที่เคยเป็นเหมือนคุณมากมาย
อาจเครียดมากๆๆ เลยก็มี หรือป่วยหนักจริงๆ ก็มี
ทุกคน มีความคิด และ ชีวิต อันมีค่า อย่าเอา ตัวเองไปเปรียบเทียบกันกับคนอื่น เพราะแต่ละคนก็ มีค่าเหมือนๆๆกัน
สุดท้ายยย
v
v
ไม่ว่าใครจะยังไง ก็ยังมีคนที่รักคุณอยู่เสมอ
ลองกลับไปกอด พ่อ-แม่ พี่-น้อง ผู้ปกครอง หรือคู่ครองอันเป็นที่รัก
อาจทำให้อะไรๆ ดีขึ้นได้นะ ^-^
รักเธอประเทศไทย