ชายคนหนึ่งที่ ดูไบ เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
มีผู้หลัก-ผู้ใหญ่เล่าถึง "ชายคนหนึ่ง" ที่หลบไปซุกทรายอยู่แถบประเทศตะวันออกกลางให้ผมฟัง เมื่อฟังแล้วผมก็นำมาเข้าสมการจากหลักฐานต่างๆ ที่ปรากฏ ก็ให้รู้สึกเป็นห่วง เพราะสิ่งที่ผู้ใหญ่ท่านเล่ามันสอดคล้องกับพฤติกรรมที่ประจักษ์ของ "ชายคนหนึ่ง" ในขณะนี้มาก
คือเมื่อเดือน-สองเดือนนี้ มีนายแพทย์คนหนึ่งได้รับการขอร้องให้เดินทางไปทำคีโมให้กับผู้ป่วยด้วยโรค "มะเร็งต่อมลูกหมาก" คนหนึ่งที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ผมก็สงสัยว่าประเทศร่ำรวยขนาดถมทะเลสร้างเมือง จะหาโรงพยาบาลด้วยเครื่องมือทันสมัยและหมอผู้มีความชำนาญการไมได้เชียวหรือ จำเป็นอะไรต้องอิมพอร์ตหมอไปจากเมืองไทย?
เขาก็อธิบายว่า ที่นั่นเติบโตด้วยการก่อสร้างสารพัด ยกเว้นการแพทย์-การพยาบาล ก็ไม่เห็นหรอกหรือที่ทุกวันนี้ โรงพยาบาลในเมืองไทยอย่าง บำรุงราษฎร์ กรุงเทพ ปิยะเวท ฯลฯ ขวักไขว่ไปด้วยคนเจ็บป่วยจากตะวันออกกลางที่บินมารักษาในเมืองไทย ซึ่งทันสมัยทั้งแพทย์ ทั้งเครื่องมือ และทั้งวิทยาการ
"คีโม-ก็ไม่มีอะไรนอกจาก 'กินกับฉีด' ปะทะ-ปะทังไปเป็นระยะ" ท่านว่า พร้อมอธิบายว่า ในตัวผู้ชายทุกคนมีสาร "มะเร็งต่อมลูกหมาก" อยู่ทุกคน โดยเฉลี่ย-ธรรมชาติจะไม่ยอมให้ผู้ชายมีอายุเกิน ๑๐๐ ปี
สมมุติว่าใครอยู่ถึงร้อยปีแล้วยังไม่มีท่าทีว่าจะเป็นโรคอะไร ธรรมชาติจะจัดสรรให้ โดยอภินันทนาการโรค "มะเร็งต่อมลูกหมาก" ตายโดยอายุไม่เกิน ๑๐๐ ปี ก็อาจจะมีผู้ชายที่ "มะเร็งขยาด" อายุเกินร้อยอยู่บ้าง แต่น้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นหญิง!
ฉะนั้น จะพบว่า พออายุ ๕๐-๕๕ ขึ้นไป ผู้ชายส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการเกี่ยวกับ "ต่อมลูกหมาก" โชคดีก็ระดับ "ต่อมลูกหมากโต" แต่ถ้าแจ็กพอต หมอล้วงทวารควานแล้วพบตะปุ่มตะป่ำเหมือนมะระก็แสดงว่า "มะเร็งต่อมลูกหมาก" มาแล้วจ้ะ
มะเร็งต่อมลูกหมากถือว่าเป็นเครื่อง "เสี่ยงบุญ-เสี่ยงบาป" อย่างหนึ่ง คือเป็นแล้วไม่มีใครบอกได้ว่าอาการนั้น ๓ วัน ๗ วัน หรือ ๓ ปี ๗ ปี หรือ ๗๗ ปีตาย ไม่เหมือนมะเร็งทั่วๆ ไปที่หมอพอจะกำหนดวันได้ตามอาการ
ฉะนั้น ก็ขึ้นอยู่กับบุญกับกรรมและการรักษาของคนนั้นเองว่าจะสามารถอยู่ได้ถึงร้อยปี หรือว่า โฟนอินอยู่แหงบๆ อ้าว..ปุบปับ ๑๐๐ วันก็....ซี้ซะแหล่ว!?
ทีนี้ถ้าเป็นแล้วอยากอยู่ถึงร้อยปี ทางการแพทย์ก็มีวิธีบำบัดรักษาอยู่คือ การฉายรังสี หรือการฝังแร่ ประเด็นมันก็คือ ณ ปัจจุบันนี้ เครื่องมือฉายรังสีที่ทันสมัยที่สุดในโลกมีอยู่ในไม่กี่ประเทศ ราคาเครื่องก็ตกเครื่องละประมาณ ๑,๐๐๐ ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ
อย่างในบ้านเราที่ว่าทันสมัย และมีอยู่ไม่กี่โรงพยาบาลก็แค่ ๓๐๐-๔๐๐ ล้านเท่านั้นเอง!
แล้วประเทศไหนล่ะที่มีเครื่องฉายรังสีเครื่องละเป็นพันล้าน?
ที่แน่ๆ ก็ สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี ครับ เจ๋งที่สุดก็ต้องที่เยอรมนี แต่อย่างว่า ชายคนนั้น "บุญมี-เงินมี" แต่กรรมมันบัง มีเป็นแสนล้าน แต่เงินแสนล้านนั้นไม่สามารถนำมาช่วยซื้อชีวิตในยามคับขันได้ เพราะทั้งสหรัฐและเยอรมนี ไม่ต้อนรับคนที่พยายามแยกชาติ-โกงแผ่นดิน และเป็นนักโทษหนีคุก!
ผมจึงถึง "บางอ้อ" ที่สงสัยมานานว่าเหตุใดจึงมีคนซมซานจะเข้าไปประเทศเยอรมนีในครั้งนั้น ก็คงเพราะมันเหตุนี้แหละ!?
ครับ...ผมฟังมาอย่างนี้ ก็เลยเก็บมาเล่าให้ท่านฟังต่อ ส่วนชายคนนั้นจะเป็นใคร อย่าให้ผมต้องเอ่ยชื่อเลย เดี๋ยวจะมากเรื่อง-มากราว ก็อยากเตือนสติกันทั่วๆ ไปซักเรื่องหนึ่งว่า "เวรกรรม-ออนไลน์" มันรวดเร็วและร้ายกว่า "กรรมติดจรวด" ไม่เชื่อ สูก็คอยดูเต๊อะ!