พอดีได้ข้อมูลมาจากน้องที่น่ารักในนี้แหล่ะ ให้ข้อมูลมาแต่ไม่กล้าลงกลัวว่าจะเป็นการโฆษณา แต่พี่มาดูๆแล้ว มันเป็นการให้ข้อมูลที่ดีเลยขออนุญาติเอามา ให้เพื่อนๆพี่ๆ น้องๆได้รู้กันนะจ้ะ (แต้งกิ้วน้องตั๋นและน้องแอน มากๆจ้า) ป.ล ก๊อบมาจาก pm นะค่ะ
Filler เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปที่ร่องแก้ม ตอนนั้นลองAquamed เจ็บมากถึงมากที่สุดมันเหมือนฉีดเจลเข้าไปในหน้า(แอบน่ากลัวนิดนึง) คือมันเป็นสารที่เนื้อหนืดอ่ะค่ะ มันจะเข้าไปเติมเต็มร่องบนหน้าให้เต็มก็จะทำให้ร่องหายไป
จริงๆการFiller ใช้ตัวฉีดได้หลายตัวนะคะ ไม่ว่าจะเป็น Aquamed, Pherlene, Rystelene etc. อันนี้เหมาะสำหรับคนที่มีร่องหรือริ้วรอยบนใบหน้าเยอะ และสามารถฉีดเพื่อเสริมจมูกหรือคางได้ด้วยค่ะ
ข้อดีคือ
- มันอยู่ได้นานเป็นปี แบบว่าเจ็บตัวทีเดียว
- สามารถจัดแต่งทรงได้
- ดูเป็นธรรมชาติ
- เห็นผลทันที
ข้อเสียคือ
- มันเจ็บมั่กมั่ก
- เมื่อถึงกำหนด(เค้าเคลมไว้5-8ปี) ก็ต้องมาเติมค่ะเพราะสารเหล่านี้เป็นสารสกัดเลียนแบบธรรมชาติ มันจะย่อยสลายไปเองโดยไม่เป็นอันตราย ก็ต้องมาคอยเติมเรื่อยๆ
สรุปก็คือ..แอนทนเจ็บไม่ได้ฉีดเข้าไปได้จึ๋งเดียวก็ขอหยุดเลยค่ะไม่เอาแล้วเพราะทนไม่ได้ แต่อันนี้ฝรั่งเค้าบินมาฉีดกันเยอะมากเพราะบ้านเราหมอเก่งและที่สำคัญถูกกว่าที่เมืองนอก(แต่ใช้ยาตัวเดียวกัน)
Botox ฉีดมาแล้ว2ครั้ง ที่ฉีดอยู่หลายจุดเลยค่ะพี่ botox ทำได้หลายอย่างคือ ฉีดเพื่อลดแก้ม ลดกราม ทำคิ้วโก่ง ลดริ้วรอยตื้นๆได้
อย่างที่เค้าโฆษณากันคือมันช่วยปรับหน้าเรียว (อาจจะเรียกฉีดbotox หรือ cocktail)
ถ้าฉีดที่แก้ม > มันจะทำการลดFatบนหน้า
ฉีดที่กราม > จะทำให้ขากรรไกรบริเวณกรามคลายตัวไม่เป็นเหลี่ยม หน้าก็จะดูเรียว
ฉีดที่กล้ามเนื้อบริเวณอื่นๆ > ก็จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายความเกร็ง ริ้วรอยตื้นๆางๆก็จะหายไป เช่น รอยใกล้ๆหางตา ใต้ตา
ข้อดีคือ
- ดูเป็นธรรมชาติจะค่อยๆเห็นผล คือ 2วันเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง 2อาทิตย์ชัดเจนและperfect
- ไม่แพงมาก
- ถ้าฉีดแล้วไม่ชอบสามารถฉีดตัวต้านกันเพื่อล้างฤทธิ์ออก
- ไม่เจ็บ
- เป็นสารเลียนแบบธรรมชาติจะค่อยๆสลายไปเอง
ข้อเสียคือ
- มันจะอยู่ได้นาน6เดือน อย่างที่บอกค่ะมันจะค่อยๆสลายไปเอง ต้องคอยมาเติมทุกๆ6เดือน แต่ถ้าถึงกำหนดแล้วมาฉีดต่อ ก็จะทำให้ฤทธิ์มันอยู่ยาวขึ้นจาก6 อาจจะเป็น7-8เดือนไป
- ฉีดได้แต่รอยตื้นๆ ร่องลึกเอาไม่อยู่