Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 3 of 5 FirstFirst 1 2 3 4 5 LastLast
Results 21 to 30 of 42

Thread: [Chelsea Football Fan Club]รวบรวม Contentจากกลุ่ม Chelsea Football Club ปี 2010-2011

  1. #21
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    สิงห์บลูเงิบ!โดนทดเจ็บเจ๊า 3-3 ตามผี 6 แต้ม

    Quote Originally Posted by Tor The Hitman
    สิงห์บลูเงิบ!โดนทดเจ็บเจ๊า 3-3 ตามผี 6 แต้ม

    เชลซียังฟอร์มบู่อย่างต่อเนื่องเมื่อโดนทีเด็ดช่วงทดเจ็บของแอสตัน วิลล่าเล่นงานจึงทำได้เพียงแค่เสมอ 3-3 ส่งผลให้มีคะแนนตามหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทีมจ่าฝูงถึง 6 คะแนนแถมแข่งมากกว่า 1 นัด

    พรีเมียร์ลีก

    วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม 2554


    เชลซี 3 : 3 แอสตัน วิลล่า

    ประตู : 1-0 แฟร้งค์ แลมพาร์ด (จุดโทษ น.23), 1-1 แอชลี่ย์ ยัง (จุดโทษ น.41), 1-2 เอมิล เฮสกีย์ น.47, 2-2 ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.84, 3-2 จอห์น เทอร์รี่ น.89, 3-3 เคียแรน คล้าร์ก น.90


    เกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซีที่นัดก่อนปลดล็อกชัยชนะได้แล้วหลังไม่ชนะใครในเกมลีีกมา 6 เกมติดทำเซอร์ไพรซ์ด้วยการส่งเจฟฟรี่ บรูม่าเซนเตอร์แบ็กดาวรุ่งลงสนามหลังบรานิสลาฟ อิวาโนวิชติดโทษแบน

    ขณะที่ฝั่งแอสตัน วิลล่าซึ่งต้องการกู้หน้าจากปีที่แล้วที่พ่าย"สิงห์บลู"ไปเละเทะ 7-1 ได้ริชาร์ด ดันน์กลับมาลงสนามเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เกมหลังสุดหลังไปมีปัญหากับเชราร์ อุลลิเย่ร์ในสนามซ้อมมาก่อนหน้านี้

    ครึ่งแรก

    สิงห์ผงาดทักทายก่อน
    เริ่มเกมได้ 3 นาทีโอกาสแรกเป็นของวิลล่าเมื่อเฮสกีย์ขึ้นโหม่งบอลเอาชนะเทอร์รี่และบอลตกลงมาที่อักบอนลาฮอร์ได้พลิกยิงลอดขาเฟอร์ไรร่าตรงบริเวณหน้ากรอบเขตโทษแต่ลูกหลุดเสาไป

    เชลซีครองบอลแต่เจาะยังไม่ได้
    เกมผ่านมาได้ 10 นาทีเป็นเจ้าบ้านที่ครองเกมเหนือกว่าโดยพยายามต่อบอลบนพื้นเพื่อหาช่องทะลวงประตูแต่ทีมเยือนก็เล่นอย่างรัดกุมด้วยการถอยต่ำลงมารับลึกก่อนจะอาศัยความเร็วของยังและอักบอนลาฮอร์ตอบโต้

    ยังลักไก่ลองชิพใส่เช็ค
    นาที 13 แอชลี่ย์ ยังได้จังหวะลักไก่ยิงใส่ปีเตอร์ เช็คเมื่อโยกหลอกแนวรับเจ้าบ้านตรงริมเขตโทษด้านขวาก่อนตัดสินใจชิพบอลไปที่ประตูดีที่ว่ามือกาวร่างโย่งถอยกลับไปปัดบอลออกหลังได้ทัน

    แลมพ์ซัดจุดโทษพาทีมทะยานนำ
    นาที 23 "สิงห์บลู"มาได้จุดโทษจากจังหวะที่คอลลินส์ปราการหลังหัวเหม่งขึ้นไปโหม่งสกัดบอลในเขตโทษแต่ภาพที่ออกมาดูเหมือนว่าเขาไปโถมเข้าใส่มาลูด้าเลยทำให้ลี เมสันผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกเป่าปรี๊ดมอบของขวัญให้เจ้าบ้านทันทีและเป็นแลมพาร์ดเพชรฆาตเบอร์ 1 ที่สังหารไปทางมุมบนซ้ายของตัวเองตุงตาข่ายไป

    วิลล่าอารมณ์ค้างเริ่มเข้าบอลหนัก
    หลังเสียประตูอาคันตุกะพยายามเดินเกมสู้แต่เหมือนนักเตะบางคนยังอารมณ์ค้างจากการเสียจุดโทษเลยไปเข้าบอลหนักๆใส่ผู้เล่นเชลซีเริ่มจากเฮสกีย์ที่วิ่งไปอัดใส่เทอร์รี่จนล้มคว่ำขณะที่แอชลี่ย์ ยังก็ไปยันโดนข้อเท้าของแอชลี่ย์ โคลจนเจ็บแถมเกมผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงฝั่งวิลล่าก็ล่อใบเหลืองจากผู้ตัดสินไป 4 ใบแล้ว

    ดันน์ส้มหล่นได้ยิงแต่ข้ามคาน
    โอกาสเป็นของ"สิงห์ผงาด"อีกครั้งเมื่อดาวนิ่งได้จังหวะกระชากหน้ากรอบเขตโทษจนได้จังหวะเปิดเข้าไปโดนเฟอร์ไรร่าโขกสกัดผิดเหลี่ยมทำให้ลูกหลุดไปเข้าทางของดันน์ที่ยืนกางมุ้งรอยิงทว่าบอลมาตกย้อนหลังไปหน่อยเลยต้องเอี้ยวตัวยิงอย่างลำบากส่งลูกข้ามคานไปแทน

    สิงห์บลูเงิบ!นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวทำเสียจุดโทษ
    และแล้วเชลซีก็ต้องมาเสียจุดโทษคืนให้กับทางวิลล่าในนาที 41 เมื่อเฟอร์ไรร่าไปเตะบอลติดบล็อกดาวนิ่งที่บริเวณเส้นหลังทำให้ลูกปลิ้นมาเข้าทางริโอ-โคเกอร์แต่ก็โดนเอสเซียงทีี่พุ่งเข้ามาพร้อมบ้องข้าวหลามกลางลำตัวเหยียดเท้าสกัดจนล้มลงและเป็นแอชลี่ย์ ยังที่รับหน้าที่สังหารแล้วอัดไปเต็มข้อมุมบนทางซ้ายผ่านมือตุงตาข่ายเช่นกัน

    จบครึ่งแรกวิลล่ารับ 6 เหลือง
    จบครึ่งแรกเชลซีเสมอวิลล่า 1-1 จากลูกโทษทั้งสองลูกแต่ดูเหมือนว่าลี เมสันจะทำเกมเดือดโดยใช่เหตุเมื่อแจกใบเหลืองฝั่งทีมเยือนไปแล้วถึง 6 ใบทั้งที่รูปเกมไม่ได้มีอะไรหนักมากเลยแต่คงเป็นเพราะต้องการปรามผู้เล่นฝั่งวิลล่าที่ค่อนข้างฉุนกับการเสียลูกโทษในตอนแรก

    ครึ่งหลัง

    เชลซีเงิบยกสอง!เฮสกีย์โขกจม
    เริ่มครึ่งหลังมาได้ 2 นาทีเชลซีก็เงิบไปอีกรอบจากจังหวะฟรีคิกที่วิลล่าเปิดบอลออกข้างไปที่ริมเขตโทษฝั่งขวาและเป็นดาวนิ่งที่ขยับหลอกกองหลังเชลซีก่อนจะเปิดด้วยเท้าขวาเข้ามาในเขตโทษให้เฮสกีย์โถมตัวเข้ามาโขกในกรอบ 6 หลากดลงพื้นผ่านตัวเช็คเข้าไปให้แฟนทีมเยือนฮาเฮ

    เชลซีสู้ตาย
    หลังการเสียประตูที่สองเชลซีก็ไม่มีอะไรต้องกลัวเมื่อเดินหน้าบุกแหลกทันทีโดยเอสเซียงที่ในครึ่งแรกลงต่ำไปช่วยเสริมแนวรับก็กลับมาเดินเครื่องแดนกลางอย่างเต็มที่และดันรามิเรสขึ้นไปป้วนเปี้ยนแถวหน้าปากประตูบ่อยครั้งแต่แนวรับทีมเยือนยังตั้งรับและรอสวนได้ดี

    รามิเรสยิงได้ลุ้น
    นาที 55 รามิเรสมาได้จังหวะยิงจากแถมฝั่งขวาของประตูส่งบอลพุ่งเฉียดเสาซ้ายไปนิดเดียวเล่นเอาแฟนทีมเยือนถึงกับเสียววาบ

    เจ้าบ้านเฮ!บ่อน้ำมันถูกถอด
    นาที 57 กองเชียร์สิงโตน้ำเงินครามก็โล่งอกไปนิดเมื่อบ่อน้ำมันเคลื่อนที่อย่างเฟอร์ไรร่าที่วันนี้ทำเสียบ่อยเลือเกินถูกถอดออกแล้วให้โบซิงวาที่ยังไม่ค่อยสมบูรณ์กัดฟันลงมาบู๊แทน

    ฟรีเดลเซฟเหลือเชื่อ
    จากจังหวะสาดยาวของเชลซีมาให้มาลูด้าที่เหมือนจะยืนล้ำหน้าอยู่ในกรอบเขตโทษแต่ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสที่พยายามจะจับบอลแต่บอลแรงไปเลยกลายเป็นดีเพราะเด้งไปเข้าทางแลมพาร์ดที่เติมขึ้นมาได้เอี้ยวตัวยิงแต่ฟรีเดลในวัย 30 กว่ากลับปฏิกิริยาไวสุดยอดปัดบอลออกลังไปได้

    ฟรีเดลเซฟอีกแล้ว
    ถัดจากนั้นเชลซียังได้ลุ้นต่อเมื่อแลมพาร์ดจ่ายบอลทะลุช่องใ้มาลูด้าหลุดไปล่อเป้าฟรีเดลทางฝั่งขวาแต่นายทวารอเมริกันยังไวพุ่งออกมาบล็อกได้ทันก่อนลูกจะลอดหว่างขาเข้าประตู

    กาลูมาดีแต่ดันน์เทพกว่า
    เกือบกลายเป็นตัวสำรองทีเด็ดไปซ่ะแล้วสำหรับกาลูที่กระชากบอลจากเกือบกลางสนามลุดเข้าไปถึงในกรอบเขตโทษทว่าจังวะสุดท้ายดันน์ก็พุ่งเข้ามาสกัดอย่างเด็ดขาดได้ทันวันนี้หากวิลล่าเก็บสามแต้มได้คงต้องยกความดีให้กับอดีตกัปตันแมนเชสเตอร์ ซิตี้เลยที่คุมแผงหลังได้ดีเหลือเกิน

    แมลงสาบกู้ชีพ
    นาที 84 เชลซีมาได้ประตูตีเสมอจากลูกเปิดเข้าไปในเขตโทษจังหวะแรกเป็นกาลูที่เข้าไปยิงติดเซฟพรีเดลมาเข้าทางของดร็อกบาก่อนที่ศูนย์หน้าไอวอร์รี่โคสต์จะโชว์ความเยือกเย็นค่อยๆแตะบอลหาช่องช่องแล้วยิงอัดเต็มข้อเข้าประตูไป

    แทบช็อค!เชลซีพลิกแซง
    นาที 89 อัลไบรท์ตันไปจับบอลพลาดแถวริมเส้นฝั่งซ้ายทำให้เอสเซียงได้ฉกบอลไปเปิดให้ดร็อกบาโขกเต็มหัวแต่ยังไปติดเซฟของฟรีเดลทว่าโชคไม่ดีที่บอลมาเข้าทางเทอร์รี่เลยได้ยิงสวนเข้าประตูไปพาทีมพลิกกลับขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อ

    วิลล่าตามตีเสมอ
    นาทีถัดมาอัลไบรท์ตันได้แก้ตัวเมื่อขยับจึ๊กๆหลอกแนวรับเชลซีีก่อนจะเปิดจากทางด้านริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปให้คล้าร์กวิ่งสวนไลน์เช็คล้ำหน้าเข้ามาโขกสะบัดเข้าประตูไปก่อนจะจบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าว

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    เชลซี :
    ปีเตอร์ เช็ก 6.5, เปาโล แฟร์เรยร่า 6.5 (โจเซ่ โบซิงวา น.57, 6.5), จอห์น เทอร์รี่ 6.5 , เจฟฟรี่ บรูม่า 5, แอชลี่ย์ โคล 6, รามิเรส 6.5 (ซาโลมง กาลู น.72, 7), ไมเคิ่ล เอสเซียง 5.5, แฟร้งค์ แลมพาร์ด 6.5, นิโกล่าส์ อเนลก้า 5 (ดาเนี่ยน สเตอร์ริดจ์ น.79, N/A), ฟลอร็องต์ มาลูด้า 6, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา 6.5

    แอสตัน วิลล่า : แบรด ฟรีเดล 6.5 , การ์ลอส เกย่าร์ 6, เจมส์ คอลลินส์ 6.5 , ริชาร์ด ดันน์ 5.5, เคียแรน คล้าร์ก 6.5 , สติลิยัน เปตรอฟ 6 , ไนเจล รีโอ-โคเกอร์ 6.5 , แอชลี่ย์ ยัง 7, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง 6.5, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ 5.5 (มาร์ก อัลไบรท์ตัน น.87, 6), เอมิล เฮสกี้ ***7



























    ขอบคุณข่าวจาก www.soccersuck.com/ss

  2. #22
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    นิโก้ชอบใจ!ซัดปิดกล่องสิงห์เด็ดกุหลาบ 2-0

    ชอบใจ

    สงสัยสิงห์บลูคงกินยาแก้แพ้ไปแล้ว ฮาๆ

    Quote Originally Posted by Zaine_R
    นิโก้ชอบใจ!ซัดปิดกล่องสิงห์เด็ดกุหลาบ 2-0

    ถือได้ว่าเป็นทีมที่ถูกโฉลกกับนิโกล่าส์ อเนลก้าเสียจริงสำหรับแบล็คเบิร์น หลังจากหัวหอกเลือดเฟร้นช์จัดการซัดประตูปิดกล่องเป็นลูกที่ 12 ในการยิงทีม "กุหลาบไฟ" ของตัวเขาเอง ช่วยให้เชลซีเอาชนะไปได้ 2-0 ขึ้นอันดับที่ 4 แทนสเปอร์ส

    พรีเมียร์ ลีก

    วันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2554


    เชลซี 2 : 0 แบล็คเบิร์น

    ประตู :
    1-0 บรานิสลาฟ อิวาโนวิช น.57,2-0 นิโกลาส์ อเนลก้า น.76

    เจ้าบ้านเชลซีไม่ได้มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บของนักเตะแต่อย่างใด จะมีก็แต่เ่รื่องสภาพจิตใจและความมั่นใจที่คาร์โล อันเชล็อตติต้องกระตุ้นลูกทีมให้กลับมาสู่ทิศทางแห่งชัยชนะให้ได้อีกครั้งในเกมลีก หลังจากถล่มอิปสวิชขี้แตกไส้ไหลไป 7-0 ในเอฟเอ คัพ

    แบล็คเบิร์นที่เพิ่งจะได้ตัวโรเก้ ซานตา ครูซคืนกลับมาสู่ถิ่นเก่าด้วยสัญญายืมตัวยังคงให้เป็นแค่ตัวสำรองไปก่อน เหมือนกับเอล ฮัดจิ ดิยุฟแข้งจอมถุย+ปากเสียที่เกมนี้เป็นแค่เพียงตัวสำรอง

    ครึ่งแรก

    รามิเรสอดหล่อ
    เริ่มเกมมาได้เพียง 2 นาที รามิเรสเกือบที่จะได้โชว์หล่อเอาใจแฟนบอลเจ้าถิ่นแล้ว จากจังหวะเตะมุมที่เขาวิ่งสอดเข้าไปฉกบอลมาจากผู้เล่นของแบล็คเบิร์นก่อนที่จะรีบยิงด้วยขวา แต่บนชานคานพุ่งออกหลังไป

    เชลซีมากันคึกคักเปิดเกมบุกบี้ทีมเยือนอย่างเต็มที่เลย

    สิงห์มาขึงแหลก
    15 นาทีแรกเกมส่วนใหญ่เป็นของทางเจ้าบ้านเชลซีที่วันนี้พยายามขึงเกมรุกและเจาะตามช่องเพื่อถ่างแนวรับของแบล็คเบิร์นเข้าไปทำประตูให้ได้ แต่ก็ยังติดบล็อกอยู่บ่อยๆเนื่องจากวันนี้เกมรับแบล็คเบิร์นมาดีมีวินัยกันเต็มที่ โดยเฉพาะคู่เซ็นเตอร์แซมบ้าและเนลเซ่นที่แข็งแกร่งสุดๆ

    กุหลาบระส่ำดันน์เจ็บ-เด็กลง
    นาทีที่ 24 แบล็คเบิร์นและกองแช่งมีเสียวเล็กน้อย หลังจากดันน์ที่วันนี้วิ่งไล่เบียดบี้ในแดนกลางได้ดีนั้นมีอาการบาดเจ็บและต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป

    ซึ่งคนที่ลงมาแทนก็คือโลวซึ่งเป็นเพียงดาวรุ่งวัย 19 ปีเท่านั้น ต้องลุ้นกันว่านี่จะเป็นจุดเปลี่ยนของเกมนี้หรือไม่

    เอ๊ะยังไงเกมชักตัน
    ผ่านเข้าครึ่งชั่วโมงแรก เกมของเชลซีที่พยายามจะถ่ายบอลกันไปมาเพื่อถ่างแผงรับของแบล็คเบิร์นออกดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล แม้จะครองเกมส่วนใหญ่แต่พอบอลไปถึงหน้ากรอบเขตโทษก็ถูกสกัดออกมาอยู่ร่ำไป ต้องดูแล้วว่าอันเชล็อตติจะแก้เกมอย่างไร

    แมลงสาบเซ็งอดยิง
    นาทีที่ 33 ดร็อกบาอุตส่าห์วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าของทางแบล็คเบิร์นพุ่งตรงเข้าหาประตูของทางฝั่งแบล็คเบิร์นแล้ว แต่พอจะแตะสปีดหนีเข้าไปในกรอบเขตโทษจังหวะง้างเท้าจะยิงก็ถูกทางชิเว่ต์ที่พุ่งเข้ามาล้มตัวสกัดด้วยปลายสตั๊ดเอาไว้ได้ทันแบบเส้นยาแดงผ่าแปด

    ในนาทีเดียวกันจากจังหวะที่แบล็คเบิร์นได้สวนขึ้นไปก็มีโอกาสได้ลุ้นยิงจากฮอยเล็ตต์ที่ฉกบอลมาได้แล้วแตะหลอกเทอร์รี่ได้ส่องเน้นๆนอกกรอบเขตโทษ แต่ยิงไปติดเซฟของทางเช็กเต็มๆ

    นิโก้ชาร์จชนคาน
    นาทีที่ 42 หลังจากพยายามนวดอยู่นานแต่ไม่มีโอกาสลุ้น เชลซีก็เกือบจะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ดร็อกบาครอสบอลจากริมเส้นขวาไปที่เสาแรก อเนลก้าพุ่งเข้าถึงบอลก่อนใครกระดกยกตามน้ำไปเสาสอง แต่บอลชนสามเหลี่ยมเข้าอย่างจัง ก่อนที่จะถูกเคลียร์ทิ้งไปได้

    ผู้ตัดสินเป่าจบครึ่งแรกเชลซียังคงทำได้แค่เสมอกับทางแบล็คเบิร์นอยู่ 0-0 รอลุ้นกันต่อไปในอีก 45 นาทีที่เหลือ

    ครึ่งหลัง

    ขลุกขลิกซัดโป้ง!สิงห์นำแล้ว
    นาทีที่ 57 หลังจากพยายามอยู่นานเชลซีก็มาได้ประตูขึ้นนำไปจนได้ จากจังหวะเตะมุมที่แผงหลังของแบล็คเบิร์นประกบไม่ดี เทอร์รี่ไำด้ขึ้นเช็ดบอลคนเดียวก่อนจังหวะแรก ก่อนที่บอลจะเลยไปตกใส่เท้าอิวาโนวิชที่เสาสอง เอี้ยวตัวยิงยัดเข้าไปผ่านกองหลังของแบล็คเบิร์นรวมทั้งโรบินสันที่โดนบังจนหมดสิทธิ์ เชลซีนำแล้ว 1-0

    [/url]สิงห์ยังขึงต่อ
    แม้ว่าจะได้ประตูขึ้นนำไปแล้ว แต่ทางเชลซีก็ไม่นอนใจพยายามขึงเกมรุกใส่ทางแบล็คเบิร์นเพื่อลุ้นประตูเพิ่มและเมคชัวร์ว่าจะไม่ทำแต้มหลุดลอยไปไหนอีก

    เจทีโขกได้เสียว
    นาทีที่ 67 ตัวรุกหรือกองหน้าทำประตูกันไม่ค่อยจะได้กลายเป็นเซ็นเตอร์อย่างเทอร์รี่ที่ได้ลุ้นโขกเปลี่ยนทางลูกยิงของแลมพาร์ดจากนอกกรอบเหตุโทษ บอลย้อยไปหล่นที่เสาสองหลุดออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น

    แซมบ้าพลาด!เกือบโดนแมลงสาบบวก
    นาทีที่ 75 แซมบ้าเกือบทำให้เพื่อนงานเข้ากันทั้งบางเพราะอยู่ดีๆก็ไปจ่ายคืนหลังพลาดถูกทางดร็อกบาเข้าฉกลากไปส่องโล่งๆ แต่โรบินสันพุ่งออกมาไวเซฟเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่กองหลังจะวิ่งมาเคลียร์ออกหลังไป

    จนได้!นิโก้ซัดเผาขนไม่เหลือ
    อีกหนึ่งนาทีต่อมาหรือคือจังหวะต่อเนื่องเลย แนวรับของแบล็คเบิร์นต้านอิวาโนวิชที่โถมตัวเข้าโขกบอลเตะมุมไม่อยู่ ทำให้ได้โหม่งเต็มๆก่อนที่อเนลก้าจะดีดตามน้ำเข้าไปตุงตาข่ายจ่อๆ เชลซีทิ้งห่าง 2-0 อุ่นใจได้แล้วตอนนี้

    สิงห์ยังได้ลุ้นเรื่อยๆ
    เชลซีแม้ว่าจะนำห่างไปแล้วแต่ก็ยังคงเปิดเกมบุกไปตามจังหวะของตัวเองและมีโอกาสลุ้นบ้างพอให้แฟนที่เข้ามาดูในสนามได้เสียวหัวใจกัน

    จบ 90 นาทีเชลซีเรียกความมั่นใจกลับมาด้วยการเอาชนะแบล็คเบิร์นไปได้ในถิ่นของตัวเอง 2-0 มีเพิ่มเป็น 38 คะแนนเบียดสเปอร์สลงจากอันดับ 4 ไปได้ก่อน

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
    เชลซี :
    ปีเตอร์ เช็ก,จอห์น เทอร์รี่,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,แอชลี่ย์ โคล,โจเซ่ โบซิงวา,รามิเรส,แฟรงค์ แลมพาร์ด,มิชาเอล เอสเซียง(แม็คอีชราน น.80),ฟลอร็องต์ มาลูด้า (สเตอร์ริดจ์ น.87),ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา,นิโกลาส์ อเนลก้า(กาลู น.80)

    แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน,ไรอัน เนลเซ่น,คริสโตเฟอร์ แซมบ้า,กาเอล ชิเว่ต์,มิเชล ซัลกาโด้,มอร์เท่น กัมส์ป พีเดอร์เซ่น,เดวิด ดันน์(โลว น.24),มาร์คิน โอลส์สัน,เดวิด ฮอยเล็ตต์(โรเบิร์ตส์ น.68),มาเม บิราม ดิยุฟ,นิโกล่า คาลินิซ(ซานตา ครูซ น.45)

















    credit: www.soccersuck.com/ss

  3. #23
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    คัมแบ๊ค!สิงห์จัดหนัก4-0ตามผี7แต้ม

    Quote Originally Posted by arshamakh
    คัมแบ๊ค!สิงห์จัดหนัก4-0ตามผี7แต้ม

    เชลซีโชว์ฟอร์มกลับมาขอลุ้นแชมป์อีกครั้งหลังบุกไปสอนเชิงวัวเคยขาม้าเคยขี่อย่างโบลตันไป 4-0 พูนสวัสดิ์ เก็บชัยชนะ 2 นัดติดในเกมลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 13 นัดหลังสุดบีบช่องว่างจากจ่าฝูงแมนฯ ยูไนเต็ดเหลือ 7 คะแนนแต่แข่งมากกว่า 1 นัด

    พรีเมียร์ลีก

    วันจันทร์ที่ 24 มกราคม 2554


    โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส 0 - 4 เชลซี

    ประตู : 0-1 ดิดิเย่ร์ ดร๊อกบา น.11, 0-2 ฟลอร็องต์ มาลูด้า น.41,0-3 นิโกล่าส์ อเนลก้า น.56, 0-4 รามิเรส น.74


    มันเดย์ไนท์เกมนี้ โอเว่น คอยล์ ใส่ชื่อ เดวิด วีเทอร์ ปราการหลังตัวใหม่ไว้บนม้านั่งสำรองไปก่อน และก็ยังไม่มี ลี ชุง ยอง ที่ยังไม่กลับมาจาก เอเชียน คัพ

    ขณะที่ เชลซี ผู้มาเยือน ขาด แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ฟิตไม่ทันเกมนี้ อีกทั้งยังคงไม่สามารถใช้บริการของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด,อเล็กซ์ และ ยูริ เซียร์คอฟ ต่อไปอีกเช่นเดิม

    ครึ่งแรก

    ทร็อตเตอร์โคตรคึก
    เกมผ่านไป 3 นาทีโบลตันคึกคักต้อนรับแชมป์เก่า และได้โอกาสแรกจากเกมบอลโด่งที่ เอลมานเดอร์ โขกชงให้คู่หู เดวิส ได้โขกเน้น ๆ แต่ตรงตัว เช็ค

    1-0!แมลงสาบบิน
    โอกาสแรกของเชลซี กลับถูกเปลี่ยนเป็นประตูอย่างรวดร็ว จากบอลที่มาลูด้าฝากไปที่ดร๊อกบาและโบลตันปล่อยให้ดร๊อกบาครองบอลกลางสนามโดยไม่ยอมเข้าประกบ ทำให้ไอ้แมลงสาบมีพื้นที่ลองส่องไกลประมาณเกือบ 30 หลา บอลส่ายหนีมือยัสเคไลเน่นเสียบคานบนเข้าไปอย่างสุดยอดเชลซีนำแล้วในนาทีที่ 11

    โบลตันเริ่มช็อต
    เกมของโบลตันสะดุดไปทันทีหลังเสียประตูแบบไม่คาดคิด นาที 23 เทย์เลอร์ครอสบอลสวยไปกำลังจะถึงเปตรอฟอยู่แล้วแต่โบซิงวาหัวไว โขกทิ้งไปได้ทัน ถัดมา 2 นาที มาลูด้า ไหลให้ ดร๊อกบา ได้ซัดมุมแคบแต่มุมมีน้อยบอลเลยไม่ผ่านยัสเคไลเน่น

    อเนลก้าเกือบสอยทีมเก่า
    นาที 29 อเนลก้าหวิดได้ใช้กฏยิงประตูทีมเก่าเมื่อได้บอลหลุดไปดวลกับ ยัสเคไลเน่น แต่บอลไหลมาช้าเกินทำให้เคฮิลล์วิ่งมาบังทางให้อเนลก้ายิงไปติดบล็อค อดได้ประตูหนีห่าง

    เช็คซูเปอร์เซฟ!
    ถัดมานาทีเดียวโบลตันได้โอกาสบ้างจากการเปิดของเปตรอฟจากริมเส้นมาให้เทย์เลอร์โขกลงพื้นหนีมือของเช็คแล้วแต่โกล์ชาวเช็คยังตัวยาวพอที่จะใช้ปลายนิ้วปัดบอลออกไปได้

    ฟรีคิกไม่ได้เสียว
    นาที 38 ดร๊อกบาลุกขึ้นมาปั่นฟรีคิกจากจังหวะที่เขาโดนดึง แต่ฟรีคิกของพี่ดร๊อกก็โด่งเกินไปอีก

    มาลูด้าาา!!!
    นาที่ 41 เชลซีหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่มาลูด้ามารอเก็บตกบอลที่ดร๊อกบาเช็ดมาให้แล้วยิงจังหวะแรกไปติดขาเคฮิลล์แต่บอลยังไม่ขาด มาลูด้ากดเรียดซ้ำมุมแคบผ่านเข้าประตูไปแบบยัสเคไลเน่นได้แต่ยืนงง ๆ

    เช็คเกือบพลาด
    3 นาทีถัดมาโบลตันเกือบตีไข่แตกได้จากเอลมานเดอร์ที่พยายามจะตวัดบอลตามน้ำแต่บอลที่ดูไม่มีน้ำหนักกลับทำให้เช็ครับบอลไม่อยู่บอลค่อย ๆ ไหลออกหลังไปแบบเสียววาบ และก็จบครึ่งแรกไปด้วยความพอใจของผู้มาเยือน เชลซี ที่มาดีเกินคาด บุกมานำ โบลตัน ถึงถิ่น 2-0

    ครึ่งหลัง

    คางทูมสั่งแพ็คเกม
    เชลซีเปลี่ยนแผนเป็นเน้นคุมพื้นที่ตั้งรับหาจังหวะดี ๆ สวนขึ้นมา และเจ้าถิ่นมีโอกาสพาบอลมาทดสอบเกมรับของเชลซีเป็นระยะ ๆ นาที 55 เปตรอฟลองซัดไกลแต่ก็ยังเบาเข้ามือเช็คสบาย

    กฏยิงทีมเก่า!อเนลก้าซัดฝังเจ้าถิ่น
    นาที 56 เชลซีก็น่าจะการันตี 3 แต้มในเกมนี้ได้จากการเปิดเรียดเข้ามาของเอสเซียงกะให้ ดร๊อกบาได้เข้าฮอร์ส แต่ แซต ไนท์ เข้ามาสกัด แต่กลายเป็นว่าบอลไปเข้าทาง อเนลก้า ซัดเต็มข้อ ยัสเคไลเน่น พยายามจะปัดแต่บอลก็แรงเกินกว่าจะต้านให้ เชลซีขยับหนีเป็น 3-0

    ด่ากูจัง!รามิเรสกดเม็ด4
    นาที 74 เชลซีก็มาได้ประตูหนีออกไปอีก จากจังหวะที่เอสเซียงขยันเอาบอลจากริมเส้นมาเปิดให้ อเนลก้า ได้ซัดเน้น ๆ บอลไปติดแขน โรบินสัน เด้งออกมา รามิเรส รอซ้ำดาบสอง เข้ามาแปเน้น ๆ ยัสเคไลเน่นปัดไม่อยู่อีกตามเคย ทำให้เชลซีทิ้งเป็น 4-0 แล้ว

    นิโก้ยังเบิ้ลไม่ได้
    นาทีที่ 87 เชลซีเกือบจะได้ลูกที่ 5 จากจังหวะที่ อเนลก้าพยายามจะเลี้ยงตัดเข้าใน แล้วหาจังหวะซัดเน้น ๆ แต่ครั้งนี้ ยัสเคไลเน่น ไม่พลาด ปัดออกไปได้ ถัดมาแค่นาทีเดียว อเนลก้า ได้ลองซัดอีกครั้งด้วยขวา แต่ก็ยังติดยัสเคไลเน่นเช่นเดิม

    ทดเจ็บสิงห์ยังจะเอาลูกที่ 5
    ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เชลซี พยายามเน้นครองบอล แต่ก็ยังมีโอกาสลูกที่ 5 ได้ในช่วงทดเวลานาทีแรกจากความพยายามของอเนลก้าที่พาบอลขึ้นมาก่อนจังหวะสุดท้ายเป็น แอชลี่ย์ โคล พยายามจะโชว์เหนือชิพบอลแต่ บอลโด่งข้ามคานออกไป และในช่วงทดเจ็บนาที่สุดท้าย อเนลก้า เข้าชาร์จจ่อ ๆ ที่เสาแรก แต่ยัสเคไลเน่นก็ไวทายาท ปัดออกไปได้

    เจ้าถิ่นจะขอซักลูก
    โบลตันยังไม่ท้อ ยังพยายามเร่งหาประตูแรก และ 4 นาทีถัดมา เดวิส กระดกบอลให้ เอลมานเดอร์ คู่ขา ได้วอลเล่ย์ แต่บอลข้ามคานออกไปจบเกม เชลซี บุกมาถล่ม โบลตัน 4-0 คว้าชัยชนะ 2 นัดติด ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 13 นัด ทำแต้มไล่ แมนฯยูไนเต็ดเหลือ 7 คะแนน ด้วยเกมเตะมากกว่า 1 นัด

    รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

    โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส :
    ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น 4, เกรตาร์ สไตน์สัน 5, แซต ไนท์ 5.5, แกรี่ เคฮิลล์ 6, พอล โรบินสัน 6, มาร์ติน เปตรอฟ 6(โรดริโก้ น.63 6), สจ๊วร์ต โฮลเด้น 7(เบล็ค น.87), ฟาบริซ มูอัมบ้า 6(ม.เดวิส น.63 6), แม็ทธิว เทย์เลอร์ 6, เควิน เดวิส 5.5, โยฮัน เอลมานเดอร์ 5.5

    เชลซี : ปีเตอร์ เช็ค 7.5, โชเซ่ โบซิงวา 7, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 7.5, จอห์น เทอร์รี่ 7.5, แอชลีย์ โคล 7, มิคาแอล เอสเซียง 8**, จอห์น โอบี มิเกล 6(แม้คแคร็กแค่น น.72 6.5), รามิเรส 7(กาลู น.77 6), นิโกล่าส์ อเนลก้า 7.5, ดิดิเย่ร์ ดร๊อกบา 7.5, ฟลอร็องต์ มาลูด้า 7.5


























    ที่มาจาก www.soccersuck.com/ss

  4. #24
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    ยิงโชว์ตอร์!เด็กผีกดสองเม็ดสิงห์ยังพิชิต 4-2
    ไม่ได้อดนอนดูบอลมานามมาแล้ว แต่วันนี้ต้องดูให้ได้ว่า ผู้เล่นเซลซีมีปฏิกิริยายังไงกับ การมาของ Superstar วงการฟุตบอลที่มีค่าตัวแพงที่สุดในเกาะอังกฤษ และได้รับค่าเหนือยมากว่า Superstar ในทีมอีก

    Quote Originally Posted by Tor The Hitman
    ยิงโชว์ตอร์!เด็กผีกดสองเม็ดสิงห์ยังพิชิต 4-2

    เชลซีเกือบทำขายหน้าเฟร์นานโด ตอร์เรสเมื่อเจอทีเด็ดของมารหัวขนอดีตแข้ง"ปีศาจแดง"จัดไปสองดอกแต่สุดท้ายยังเก๋าพอเอาตัวรอดพิชัตชัยเหนือซันเดอร์แลนด์ไป 4-2 รั้งอันดับ 4 ของตารางพรีเมียร์ลีกต่อไปตามหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทีมจ่าฝูง 10 คะแนน

    ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

    วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554


    ซันเดอร์แลนด์ 2 : 4 เชลซี

    ประตู : 1-0 ฟิล บาร์ดสลี่ย์ น.4, 1-1 แฟร้งค์ แลมพาร์ด น.15, 1-2 ซาโลมง กาลู น.23, 2-2 คีแรน ริชาร์ดสัน น.26, 2-3 จอห์น เทอร์รี่ น.60, 2-4 นิโกล่าส์ อเนลก้า น.90+2


    ซันเดอร์แลนด์ยังไม่แพ้ทีมใดเลยในปีนี้ชนะ 3 เสมอ 1 นอกจากนั้นยังไม่เสียประตูถึง 11 เกมในฤดูกาลนี้

    เชลซีมีสถิติเกมรับทีดีที่สุดในอังกฤษเสียไป 19 ลูกจาก 23 เกมขณะที่นิโกล่าส์ อเนลก้ายิงไป 6 ลูกในการเผชิญหน้ากับ ซันเดอร์แลนด์ 5 เกมหลังสุด

    สเตฟาน แซสเซอยองเพลย์เมคเกอร์เบนินได้รับโอกาสลงเล่นให้กับ"แมวดำ"ทันทีในแมทช์นี้หลังเพิ่งย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์

    ด้านดาวยิงป้ายแดงเหลี่ยมทองเฟร์นานโด ตอร์เรสที่เพิ่งย้ายมาจากลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์และดาวิด ลูอิซเซนเตอร์แบ็กเชิงสูงเจ้าของค่าตัว 21 ล้านปอนด์ยังลงสนามให้"สิงห์บลู"ไม่ได้ในเกมนี้เพราะติดเรื่องเอกสารที่ยังไม่เรียบร้อย

    ครึ่งแรก

    สิงห์เงิบ!เด็กผีทำแสบ
    เกมที่สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ เริ่มมาได้เพียง 4 นาทีเชลซีก็ได้ช็อคตาตั้งเมื่อบาร์ดสลี่ย์วิ่งเติมขึ้นมารับบอลจากมัลบร็องค์ตรงริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนลากบอลตัดเข้าในหนีโอบี มิเกลแล้วยิงไกลเอาดื้อๆบอลพุ่งผ่านตัวเช็คเสียบเสาสองเข้าประตูไปให้ซันเดอร์แลนด์ออกนำ 1-0 นับเป็นลูกที่สองในฤดูกาลนี้ของอดีตแข้ง"ปีศาจแดง"

    แลมพ์ซัดหลุดกรอบ
    "สิงห์บลู"มาได้โอกาสลุ้นทวงประตูคืนในนาที 12 จากจังหวะที่กาลูจ่ายบอลให้ดร็อกบาหน้ากรอบเขตโทษก่อนที่ดาวยิงไอวอรี่โคสต์จะแปะบอลออกขวาให้แลมพาร์ดที่เติมขึ้นมาซุดเต็มข้อบอลพุ่งเลียดผ่านหน้าประตูออกเส้นหลังไป

    สิงห์ตีเสมอ!แลมพ์อัดจุดโทษ
    อย่างไรก็ตามในนาที 15 ทีมเยือนก็มาได้จุดโทษในจังหวะที่เอสเซียงชิพบอลเข้าไปในเขตโทษกะให้แอชลี่ย์ โคลแต่อัล-มูฮัมมาดี้ดันเซ่อซ่ากระโดดโถมตัวเข้าใส่แบ็กเวิร์ลด์คลาสจนล้มคว่ำและเป็นเพชรฆาตมือหนึ่งอย่างแลมพาร์ดที่หยิบบอลมาตั้งแล้วยิงเข้าไปตุงตาข่ายแบบเชื่อขนมกินได้ให้"สิงห์บลู"ตามตีเสมอเป็น 1-1

    สิงห์แซง!กาลูยิง
    หลังจากนั้นในนาที 23 "สิงห์บลู"มาเล่นงาน"แมวดำ"ในจังหวะสวนกลับเมื่อกียานจ่ายบอลพลาดถูกตัดได้และอเนลก้าก็ผ่านบอลเร็วให้กาลูหลุดทะลุเข้าไปจิ้มผ่านตัวกอร์ดอนที่วิ่งออกมาบล็อกเข้าประตูไปให้ทีมจากกรุงลอนดอนขึ้นนำ 2-1

    แมวตีเสมอ!ริชาร์ดสันอัดฟรีคิก
    แต่"แมวดำ"ก็มาได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็วในอีก 3 นาทีต่อมาเมื่อมาได้ฟรีคิกตรงแถวสามเหลี่ยมของเขตโทษฝั่งขวาจากการที่อิวาโนวิชไปทำฟาวล์ใส่อัล-มูฮัมมาดี้ที่กำลังลากบอลตัดเข้าในและเป็นริชาร์ดสันที่ซัดฟรีคิกได้คมกริบกดบอลเลียดเสียบโคนเสาแรกเข้าประตูไปชนิดเช็คถึงกับตะลึง

    ไบซันซัดอย่างหนัก
    เกมผ่านมาถึงนาที 36 เอสเซียงที่ยังคงคอนเซ็ปท์แอบพกบ้องข้าวหลามลงสนามเกือบใส่ชื่อตัวเองเป็นผู้ทำสกอร์หลังรับบอลจากอเนลก้าและซัดเต็มข้อจากนอกเขตโทษเล่นเอากอร์ดอนต้องงัดซูเปอร์เซฟออกมาช่วยชีวิต"แมวดำ"ให้เสียเพียงแค่เตะมุม

    สิงห์ยิงสองครั้งไม่ได้ประตู
    จังหวะต่อเนื่องจากเมื่อกี้เป็นอิวาโนวิชที่ยิงลูกคอนเนอร์ด้วยเท้าซ้ายไปชนคานอย่างจังก่อนที่พี่ดร็อกจะตามเข้าซั่มเอ๊ยซ้ำจนข้ามคานไปชวดได้ประตูนำอีกครั้งอย่างหวุดหวิด

    เรือใบ
    ช่วงก่อนจบครึ่งแรกในนาที 42 "แมวดำ"ทำเกมขึ้นมาเร็วและเป็นริชาร์ดสันที่กดเต็มข้อด้วยอีขวาข้างไม่ถนัดจากนอกกรอบร้อนถึงเช็คต้องออกแรงทุบบอลทิ้งออกมาจนมือสั่นระริก

    ครึ่งหลัง

    สิงห์เนื้อเต้นเกือบขึ้นนำ
    กลับมาโซ้ยกันต่อในครึ่งหลังยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวและเพียงแค่ 4 นาทีเชลซีก็ลุยแหลกเต็มหลักสูตรเป็นแลมพาร์ดที่ได้ยิงในกรอบเขตโทษแต่ไปติดบล็อกกองหลังเจ้าบ้านพอดร็อกบาตามเข้าซ้ำที่เสาไกลกอร์ดอนก็ยังไวทายาทตามไปเซฟๆออกหลังอีก

    กาลูถีบบอลติดบล็อกบนเส้น
    จากลูกเตะมุมเป็นกาลูที่ทะยานกระโดดเข้าถีบบอลที่เสาสองแต่บาร์ดสลี่ย์ที่ยืนคุมเส้นงัดออกมาได้ก่อนจะถูกแนวรับ"แมวดำ"เคลียร์ทิ้งในจังหวะต่อมา

    กอร์ดอนเซฟโคตรๆ
    หลังจากนั้นเชลซียังเดินเกมรุกหนักหวังจัดเม็ดสามและเป็นกาลูที่พาบอลควบขึ้นไปทางขวาก่อนปาดเลียดกลับเข้าในให้แลมพาร์ดเอี้ยวตัวยิงไปติดเซฟของกอร์ดอนที่ล้มตัวเร็วเหลือเกินในจังหวะนี้

    สิงห์นำ 3-2!เทอร์รี่จัดให้
    นาที 60 เชลซีมาได้ประตูนำอีกครั้งจากลูกเตะมุมที่เปิดเข้าไปแล้วโดนเคลียร์ออกมาเข้าทางแลมพาร์ดได้ซัดจากหน้าเขตโทษหน้าแต่กอร์ดอนยังว่องพอล้มตัวเซฟไว้ได้แต่โชคร้ายที่บอลมาเข้าทางปืนของเทอร์รี่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆเลยจัดลูกเสยคานเข้าประตูไปเลยและเป็นประตู 3 ในฤดูกาลนี้ของกัปตันทีมจอมแกร่ง

    กอร์ดอนงัดเซฟ
    4 นาทีต่อมาแลมพาร์ดได้โอกาสส่องจากระยะ 20 หลาแต่กอร์ดอนยังพุ่งเซฟได้อย่างเมามันส์และต้องบอกว่าเกมตกเป็นของทีมเยือนอย่างสิ้นเชิงในตอนนี้

    กาลูซัดชนสองเสา
    นาที 67 เชลซีน่าได้ประตูทิ้งห่างอย่างถึงที่สุดเมื่อเดินเกมรุกฆาตขึ้นมาเป็นแผงแบบ 3 ต่อ 1 เป็นอเนลก้าที่แทงบอลออกขวาให้กาลูยิงโล่งๆผ่านมือกอร์ดอนจอมเหนียวไปชนเสาขวาและกระดอนไปชนเสาซ้ายกระเด้งออกมา

    สิงห์ครองเกมมิด
    เปอร์เซ็นต์การครองบอลในนาที 70 "แมวดำ"น้อยกว่า"สิงห์บลู"ถึง 26%-74%

    เรือใบ
    ช่วงทดเจ็บไปทดสองนาทีเชลซีมาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะเป็น 4-2 ในจังหวะผ่านบอลจากเส้นหลังของมาลูด้าเข้ามาให้อเนลก้าไขว้หลังยิงเสียบโคนเสาสองเข้าประตูไปอย่างงามหยดติ๋งๆ

    จบเกมเชลซีบุกมาทุบซันเดอร์แลด์พังคาบ้าน 4-2 รั้งอันดับ 4 ต่อไปแม้เก็บเพิ่มเป็น 44 คะแนนแต่ยังไล่หลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจ่าฝูงอยู่ 10 คะแนนเช่นเดิมอย่างไรก็ตามก็สามารถบีบช่องว่างกับอันดับสามอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้เหลือเพียง 1 คะแนนเท่านั้น

    ด้านซันเดอร์แลนด์ยังอยู่ที่ 6 ของตารางไม่สามารถแซงสเปอร์สได้จากความพ่ายแพ้ในเกมนี้

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    ซันเดอร์แลนด์ :
    เคร็ก กอร์ดอน, เนดุม โอนูโอฮา (จอร์แดน คุ๊ก น.88), ไตตัส บรัมเบิ้ล, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, ฟิล บาร์ดสลี่ย์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สเตฟาน แซสเซอยอง, อาห์เหม็ด เอล มูฮัมมาดี้, คีแรน ริชาร์ดสัน , สตี๊ด มาลบร็องก์ (แจ็ค โคลแบ็ค น.82), อซาโมอาห์ กียาน

    เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ่ โบซิงวา (เปาโล เฟอร์ไรร่า น.89), บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, ไมเคิ่ล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล (รามิเรส น.77), แฟร้งค์ แลมพาร์ด, นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา , ซาโลมง กาลู (ฟลอร็องต์ มาลูด้า น.81)









  5. #25
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    ตอร์เรสเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับเชลซีแล้วเซ็น5ปี

    ข่าวนี้คงจะต้องเอามาลง สำหรับแฟนเซลซีและลิเวอร์พลูที่ความรู้สึกต่างกันสุดขั้ว
    Quote Originally Posted by อากาอิ ชูอิจิ
    ตอร์เรสเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับเชลซีแล้วเซ็น5ปี



    เฟอร์นันโด้ ตอร์เรสกองหน้าฉายาเอลนินโญ่ออกมาเซ็นสัญญาอย่างเด็ดขาดกับเชลซีด้วยสัญญา5ปีครึ่งแล้ว ด้วยค่าตัว50ล้านปอนด์ โดยได้เจอทีมเก่ากับลิเวอร์พูล ในศึกพรีเมียร์ลีกวันที่6กุมภาพันธ์นี้เลยวันอาทิตย์นี้ จากการเปิดเผยเวบไซต์เชลซีอย่างเป็นทางการแล้ว

    โดยที่หอกวัย 26 ปีจะรับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 180,000 ปอนด์ตลอดสัญญา 5 ปีครึ่งบวกโบนัสซึ่งเกือบ 2 เท่าจากที่เคยรับอยู่กับลิเวอร์พูลเลยทีเดียว

    ทั้งนี้ เฟอร์นันโด้ ตอร์เรสลงเล่นให้ลิเวอร์พูลไปทั้งหมด 102นัด ซัดไป65ประตู ตลอดระยะเวลา4ปีระหว่างปี2007-2011 ส่วนทีมชาติสเปนนั้น ตอร์เรสสามารถพาทีมคว้าแชมป์ยูโร2008 และแชมป์ฟุตบอลโลกปี2010 ติดทีมชาติสเปน82นัดซัดไป 26ประตู

    ตอร์เรสจัดว่าเป็นนักเตะที่มีอาการบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องจากเอ็นหลังหัวเข่าในช่วงปี2008 จนทําให้ฟอร์มส่วนหลังที่ลงเล่นให้ลิเวอร์พูลไม่ร้อนแรงเหมือนช่วงฤดูกาลแรกในปี2007-2008 ที่เขาซัดไป24ประตูจาก33นัดในลีก

    ตอร์เรสให้สัมภาณ์ต่อเวบเชลซีในเชลซีทีวีว่า "ผมมีความสุขมากๆเลยที่ได้ย้ายมาเชลซีสิงห์ไฮโซทีมดังแห่งกรุงลอนดอนและผมตั้งใจจะช่วยเพื่อนร่วมทีมใหม่ในฤดูกาลนี้ให้เร็วที่สุดและอีกหลายต่อหลายปีข้างหน้า"

    "จากการที่ผมได้เล่นให้กับลิเวอร์พูลได้ปะทะกับเชลซีมาหลายครั้งนับตั้งแต่ย้ายมาอังกฤษและในเกมใหญ่ๆบางเกมผมจะไม่มีวันลืมเลย ผมรู้ว่ามีนักเตะฝีเท้าเยี่ยมของเชลซีที่นี่มากมายและผมจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อแย่งตำแหน่งให้ได้"

    "ผมหวังว่าผมจะยิงประตูสำคัญๆเพื่อแฟนบอลเชลซีได้เฮฮากันในฤดูกาลนี้"

    การเซ็นสัญญาของตอร์เรสสู่เชลซีด้วยค่าตัว50ล้านปอนด์ ทําให้เป็นสถิติสูงสุดในการซื้อขายนักเตะที่แพงที่สุดในเกาะอังกฤษ และทําลายแซงสถิติของสโมสรเชลซีของ อังเดร เชฟเชนโก้ที่เคยทําเอาไว้ถึง30ล้านปอนด์ในช่วงปี2006

    ส่วนอันดับโลกตอร์เรส เป็นรองเพียงแค่3คนเท่านั้น ก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ,ซลาตัน อิบราฮิโมวิชและกาก้า
    ขอบคุณ www.chelsea.in.th

  6. #26
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    โอ้ยฮากลิ้ง!ตอร์เรสง่อยกินหงส์บุกคว่ำเชลซี1-0

    ให้ เครติด เคนนี่ดักลิช ที่วางหมากมาดีมาก ลุ้นกันต่อไป
    Quote Originally Posted by arshamakh
    โอ้ยฮากลิ้ง!ตอร์เรสง่อยกินหงส์บุกคว่ำเชลซี1-0

    ลิเวอร์พูลยุคไร้ตัวถ่วงทำผลงานชิ้นโบแดงอีกแล้วหลังบุกคว่ำเชลซีถึงสแตมฟอร์ดบริดจ์จากประตูโทนของราอูล เมเรเลสนำทีมคว้าชัย 4 นัดรวดขยับอันดับขึ้นมาอยู่อันดับ 6 ส่วนเฟร์นานโด ตอร์เรสเล่นไม่ออกถูกเปลี่ยนตัวออกหน้าแตกกันไป

    วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2554

    เชลซี 0 - 1 ลิเวอร์พูล

    ประตู : 0-1 ราอูล เมเรเลส น.69


    ซูเปอร์บิ๊กแม็ตช์เกมนี้แน่นอนว่าไฮไลท์อยู่ที่"จูดาส"อย่างเฟร์นานโด ตอร์เรสที่ประเดิมสนามเกมแรกก็มีชื่อเป็นตัวจริงทันทีเป็น 3 ประสานตอร์เรส-ดร็อกบา-อเนลก้าโดยเบียดฟลอร็องต์ มาลูด้าไปเป็นสำรองเช่นเดียวกับเดวิด ลูอิซแข้งใหม่จากเบนฟิก้า

    ขณะที่ทีมเยือนลิเวอร์พูลยังไม่ส่งหลุยส์ ซัวเรซที่เพิ่งเปิดซิงประตูแรกไปในนัดกลางสัปดาห์โดยวางเดิร์ค เค้าท์เป็นหอกเดี่ยวขณะที่แผงหลังก็ส่งเจมี คาร์ราเกอร์ที่หายไปร่วม 3 เดือนจากอาการบาดเจ็บกลับมาเป็นตัวริงทันที

    ครึ่งแรก

    เดือดแต่หัววัน!มิเกลสอยขิงร่วง
    เกมผ่านไปไม่กี่วินาทีเกมส่อเค้าเดือดเมื่อมิเกลรับใบเหลืองอย่างรวดเร็วจากการไปฟาวล์ใส่เจอร์าร์ด

    มักซี่ขี้ลืมใส่พานตอร์เรสซะงั้น
    2 นาทีแรกมักซี่ที่อาจจะเบลอนึกว่าตอร์เรสยังอยู่ทีมเดียวกันจ่ายพลาดให้ตอร์เรสฉกบอลไปยิงแต่บอลเหินข้ามคานออกไป

    20 นาทีแรกไม่มีใครผลีผลาม
    ผ่าน 20 นาทีแรกเชลซีได้ครองเกมซะเป็นส่วนใหญ่แต่ก็ยังหาจังหวะจบงาม ๆ ไม่ได้ขณะที่ลิเวอร์พูลรอจังหวะพลาดของเจ้าถิ่นซะเป็นส่วนใหญ่ โอกาสทำประตูของทั้ง 2 ทีมแทบไม่มี

    ใครแทงแอ๊กเกอร์รอรับตังค์
    นาที 26 เสียงเฮจากแฟนในสนามดังสนั่นเมื่อทราบผลว่าแอ๊กเกอร์คือผู้ทำฟาวล์ตอร์เรสเป็นคนแรกจากที่มีบ่อนพนันตั้งราคาให้คาร์ราเกอร์นั้นเป็นตัวเต็ง

    เอ๋ออย่างหล่อบล็อคลูกยิงเพื่อนเก่า
    นาที 31 เดอะค็อปได้ถอนหายใจยาว ๆ เป็นครั้งแรกของเกมเมื่อดร็อกบาได้บอลจากความผิดพลาดของลูคัสไหลให้ตอร์เรสกดเน้น ๆ แต่คาร์ราเกอร์ยังเก๋าวิ่งเข้าบล็อคได้ทัน

    โล่ง ๆ 3 หลาแต่มักซี่แปไม่เข้า!!
    ถัดมา 2 นาทีลิเวอร์พูลชวดได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เมื่อเจอร์ราร์ดกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามาที่เสาสองแล้วมีมักซี่ยืนอยู่หน้าประตูโล่ง ๆ คนเดียวระยะแค่ 3 หลาแต่แข้งอาร์เจนไตน์กลับแปบอลโดนหน้าแข้งเฉี่ยวคานบนไปแบบน่าเขกกบาลเป็นที่สุด

    เล่นไปหงส์ชักดีกว่า
    เกมผ่านไปเรื่อยๆ กลายเป็นทีมเยือนเริ่มเซ็ตเกมกันได้ดีกว่าเชลซีที่ยังเล่นได้ไม่สมกับเป็นเจ้าบ้านเท่าไหร่

    ท้ายเกมสิงห์เกือบฟาดกันเอง
    นาทีสุดท้ายเจ้าถิ่นหวิดวางมวยกันเองเมื่อเคลลี่ได้เปิดจากริมเส้นเข้าไปแต่อิวาโนวิชกับเช็คเหมือนไม่เข้าใจกันพยายามจะแย่งกันเล่นจนเช็คโมโหโวยอิวาโนวิชแต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ไม่มีลงไม้ลงมือกันแต่อย่างใด ทำให้จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0

    ครึ่งหลัง

    GJขอลองกะซวก
    ผ่านไป 8 นาทีเกมของเชลซีก็ยังไม่ดีขึ้นและก็เป็นทีมเยือนกลับส่องได้ก่อนจากจังหวะที่เค้าท์ไหลให้จอห์นสันยิงไกลระยะ 20 กว่าหลาบอลโด่งข้ามคานออกไปไม่ไกล

    เคลลี่เข้าพรวดเกือบบรรลัย
    นาทีถัดมาเป็นเชลซีได้โอกาสบ้างจากลูกที่เคลลี่เหมือนจะไปเข้าพรวดใส่โคลแต่ผู้ตัดสินไม่เป่าจุดโทษทำให้ดร๊อกบาเก็บบอลไปยิงเองแต่บอลก็ยังไปติดบล็อกออกหลังไป

    สิงห์หันมาส่องไกล-หมดเวลาตอร์เรส
    นาที 65 อเนลก้าได้โอกาสลองสับไกนอกกรอบเขตโทษดูบ้างแต่บอลก็เฉี่ยวเสาออกหลังไปอีก และนาทีถัดมาอันเช่จัดการส่งกาลูลงมาแทนตอร์เรสที่ทำอะไรไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ อีก 2 นาทีถัดมาเอสเซียงได้ลองยิงระยะเดียวกับอเนลก้าอีกครั้งแต่บอลก็ข้ามคานออกไปอีก

    เมเรเลสGOAL!!!!,อีกเรสนั่งจ๋อย
    และแล้วนาทีที่รอคอยของเดอะค็อปก็มาถึงในนาทีเลขสวย 69 เมื่อเจอร์ราร์ดได้เปิดบอลจากริมเส้นเข้ามาให้เค้าท์แต่เค้าท์เข้าไปถึงบอลทำให้บอลหลุดไปที่เสาสองและก็เป็นเมเรเลสได้กดผ่านเช็กเข้าไปเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 และเป็นประตูที่ 4 ในการเล่น 5 นัดหลังสุดของมิดฟิลด์โปรตุกีสหัวเหม่งรายนี้

    มาลูด้าหวิดทวงคืน
    สามนาทีถัดมาเจ้าถิ่นเกือบทวงคืนได้จากมาลูด้าที่ได้หลุดขึ้นไปซัดมุมแคบแต่เรน่าปิดมุมไว้ดีทำให้พี่โจ้ยิงไปติดออกหลังไป

    สิงห์ชวดจุดโทษ-เช็กเซฟช่วยชีวิต
    นาที 80 เกิดเหตุการณ์สำคัญ 2 เหตุการณ์เริ่มจากบอลไปโดนแขนของลูคัสแต่อังเดร มาริเนอร์ไม่เป่าให้ท่ามกลางเสียงประท้วงของเจ้าถิ่นก่อนที่ลิเวอร์พูลจะโต้กลับโดยเค้าท์จ่ายให้ออเรลลิโอล็อคเข้าขวาก่อนกดเต็มข้อแต่เช็คยังไวปัดทิ้งไปได้

    หงส์ช่วยกันบี้สิงห์ไปไม่เป็น
    ท้ายเกมเชลซีพยายามลุยแหลกแต่วันนี้ผู้เล่นทีมเยือนสวมหัวใจสิงห์ช่วยกันเล่นช่วยกันไล่ตลอด ถึงแม้จะทดเจ็บ 4 นาทีแต่เชลซีก็ไม่สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอันมากนัก จบเกมลิเวอร์พูลยุคไร้ตอร์เรสเก็บ 3 แต้มไปกลับเหนือเชลซีได้สำเร็จพร้อมกับทำสถิติชนะ 4 นัดรวดขณะที่เชลซีตามหลังจ่าฝูงแมนฯยูไนเต็ด 10 แต้มเท่าเดิม

    รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

    เชลซี :
    ปีเตอร์ เช็ก 5, โชเซ่ โบซิงวา 5.5(ลูอิซ น.73, 6.5), บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 5.5, จอห์น เทอร์รี่ 7, แอชลี่ย์ โคล 7.5, มิคคาแอล เอสเซียง 6, แฟร้งค์ แลมพาร์ด 6, จอห์น โอบี มิเกล , 5 (มาลูด้า น.71, 5.5), นิโกล่าส์ อเนลก้า 5.5, เฟร์นานโด ตอร์เรส 5.5 (กาลู น.66, 6), ดิดิเย่ร์ ดร๊อกบา 6

    ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า 6.5, มาร์ติน สเคอร์เทล 7.5, ดาเนี่ยล แอ๊กเกอร์ 7, เจมี่ คาร์ราเกอร์ ***8.5, สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 7.5, มาร์ติน เคลลี่ 7.5, ลูคัส เลว่า , 7, เกล็น จอห์นสัน 6.5, มักซี่ โรดริเกซ 4.5(ออเรลลิโอ น.75, 6.5), ราอูล เมเรเลส 7.5(โพลเซ่น น.84, 6), เดิร์ค เค้าท์ 6





























    ที่มา www.soccersuck.com/ss

  7. #27
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    เชว่าสอง!?ตอร์เรสหมูหกเชลซีหนืดเจ๊า 0-0

    เชียร์ต่อไป

    Quote Originally Posted by Tor The Hitman
    เชว่าสอง!?ตอร์เรสหมูหกเชลซีหนืดเจ๊า 0-0

    แฟนเชลซีทำจมูกฟุดฟิดหลังกลิ่นอังเดร เชฟเชนโก้อดีตกองหน้าจอมอาภัพเริ่มคละคลุ้งเมื่อเฟร์นานโด ตอร์เรสหลุดเดี่ยวเหน่งๆแต่หมูหกสะดุดแบงค์ปอนด์ก่อนโดนเปลี่ยนออกในครึ่งหลังแถมโชคดีโดนจุดโทษช่วงทดเจ็บแต่รอดตัวลงท้ายเสมอฟูแล่ม 0-0 แซงสเปอร์สไม่สำเร็จรั้งที่ 5 เหมือนเดิมและตามหลัง"จ่าฝูง"เป็น 12 แต้มเข้าให้แล้ว

    ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

    วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554


    ฟูแล่ม 0 : 0 เชลซี

    ประตู :


    มาร์ค ฮิวจ์สกุนซือ"เจ้าสัวน้อย"ใส่ชื่อคาร์ลอส ซัลซิโด้ลงสนามแทนจอห์น เพนท์ซิลในตำแหน่งแบ็กซ้ายโดยมีคลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์เป็นตัวความหวังเมื่อซัดไปแล้ว 4 ประตูจาก 6 เกมพรีเมียร์ลีกหลังสุดด้านไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่นนั่งสำรองและอาจมีโอกาสดวลกับทีมเก่าในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง

    คาร์โล อันเชล็อตติบอสใหญ่"สิงห์บลู"ถอดดิดิเยร์ ดร็อกบาไว้ข้างสนามแล้วให้เฟร์นานโด ตอร์เรสโซโล่คนเดียวในตำแหน่งหน้าเป้าขนาบข้างด้วยฟลอล็องต์ มาลูด้าและนิโกล่าส์ อเนลก้าขณะที่เดวิด ลูอิซเซนเตอร์แบ็กป้ายแดงได้โอกาสลงตัวจริงเป็นเกมแรก

    ครึ่งแรก

    ลูอิซประเดิมสวย
    เกมที่คราเว่น ค็อตเทจ เจ้าถิ่นเก็บชัยในบ้านมา 5 เกมรวดยิงกระจุยไป 16 ลูกได้ลุ้นก่อนในนาที 6 เมื่อดัฟฟ์ยึกๆยักๆที่ริมเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดบอลเข้ามาให้จอห์นสันพุ่งเข้าชาร์จที่กรอบ 6 หลาไปติดบล็อกลูอิซออกหลังไปได้เป็นลูกเตะมุม

    เทอร์รี่โขก-แลมพ์ซัดไกล
    นาที 9 เทอร์รี่เติมขึ้นมาโขกลูกครอสทางฝั่งขวาของอิวาโนวิชในเขตโทษแต่บอลพุ่งไม่ตรงกรอบประตูและอีกนาทีเดียวถัดมาแลมพาร์ดก็ได้โอกาสวัดระยะเครื่องหมายการค้าหลังสับไกยิงไกลหลุดเสาซ้าย

    สิงห์ส่องไกล
    "สิงห์บลู"มาได้โอกาสลุ้นประตูอีกครั้งในนาที 17 เมื่อแลมพาร์ดสบโอกาสยิงไกลตามสไตล์แต่ครั้งนี้ไม่แฉลบเข้าประตูแต่ไปติดบล็อกแทนแล้วบอลกระดอนมาเข้าทางปืนของรามิเรสหวดตูมเดียวติดบล็อกแนวรับเจ้าบ้านออกเส้นหลังไปอีก

    ดัฟฟ์ยิงมันส์ตรีน
    นาที 24 ดัฟฟ์เกือบพังประตูทีมเก่าเสียแล้วจากจังหวะยิงไกลระยะ 25 หลาหน้าเขตโทษบอลพุ่งเป็นจรวดเกือบจะเสียบสามเหลี่ยมเสาขวาแต่เช็คยังยืนตำแหน่งได้ดีทุบสองมือป้องกันได้ทัน

    แลมพ์วอลเล่ย์ท่าสวย
    อีก 4 นาทีต่อมาอิวาโนวิชได้บอลทางกราบขวาก่อนบรรจงหยอดเข้าเขตโทษให้แลมพาร์ดเอี้ยวตัววอลเล่ย์จังหวะเดียวไม่ต้องจับข้ามคานไปแบบได้ลุ้น

    อิวาโนวิชซัดลักไก่
    นาที 32 อิวาโนวิชควบบอลบึ่งขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนเหลือบมองเห็นชวาร์เซอร์ออกมาไกลเลยตัดสินใจลักไก่หวดเต็มข้อบอลพุ่งเข้ากรอบแต่มือกาวออสซี่ถอยตัวมาปัดข้ามคานได้ทันหวุดหวิด

    ต้องบอกว่า"สิงห์บลู"อาจต้องเหนื่อยหน่อยหากหวังเจาะประตู"เจ้าสัวน้อย"เพราะฟูแล่มเป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกที่ยังไม่เสียประตูให้ใครเมื่อเล่นเป็นเจ้าบ้านนับแต่เปลี่ยนปฏิทินเป็นปี 2011

    ตอร์เรสยิงเบาหวิว
    ก่อนหมดเวลานาทีครึ่งแรกเดียวตอร์เรสพาบอลกระชากจากหน้าเขตโทษทะลุเข้าด้านในทางฝั่งซ้ายก่อนล็อกบอลหลบฮิวจ์สที่วิ่งกวดตามมาแล้วซัดเบาหวิวไปเข้ามือชวาร์เซอร์ล้มตัวรับสบาย

    ตอร์เรสหมูหก!!
    ช่วงทดเจ็บเชลซีน่าได้ประตูขึ้นนำหลังอาวิด ลูอิสแข้งใหม่ป้ายแดงโชว์ฝีเท้าวางบอลยาวจากกลางสนามข้ามหัวเซนเตอร์ให้ตอร์เรสวิ่งสอดควบเต็มสตีมก่อนกระชากเข้าเขตโทษหลุดเดี่ยวแต่จังหวะจะยิงเน้นๆแค่ระยะ 8-9 หลาบอลไปโดนเท้าหลักเลยทะลักไหลเข้ามือซวาเซอร์อย่างน่าเสียดาย

    จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้เจ๊ากันไปที่ 0-0 ขณะที่ตอร์เรสหากยังเล่นไม่ดีกว่านี้อาจต้องถูกถอดออกแล้วให้ดร็อกบาลงมาลุยแทนด้านรอย ฮ็อดจ์สันอดีตกุนซือฟูแล่มก็มานั่งชมเกมนี้พร้อมถูหน้าไปถูหน้ามาเช่นเดียวกับโจเซ่ มูรินโญ่อดีตกุนซือ"สิงห์บลู"ก็มาด้วยเหมือนกัน

    ครึ่งหลัง

    ตอร์เรสโขกข้ามคาน
    กลับมาโซ้ยกันต่อในครึ่งหลังยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวผู้เล่นจากทั้งสองฝ่ายและเพียงแค่ 2 นาทีอิวาโนวิชผ่านบอลให้รามิเรสวิ่งไปครอสบอลจากริมเส้นฝั่งขวาให้ตอร์เรสดาวยิงค่าตัวแพงกระโดดโขกข้ามคานออกไปด้านอันเชล็อตติส่งดร็อกบาวิ่งออกมาวอร์มกดดันดาวยิงเลือดกระทิงอยู่ข้างสนาม

    ตอร์เรสข้ามคานอีกแล้ว
    นาที 50 แลมพาร์ดผ่านบอลให้ตอร์เรสในเขตโทษก่อนที่อดีตกองหน้าลิเวอร์พูลจะสบโอกาสยิงด้วยเท้าขวาข้างถนัดเหินข้ามคานออกไปอีกแม้ยังจบสกอร์ได้ไม่ดีแต่ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มอยู่ถูกที่ถูกเวลาขึ้นมาบ้างแล้ว

    สิงห์เจาะไม่เข้าหันส่องไกล
    อีก 3 นาทีถัดมามาลูด้าและรามิเรสได้โอกาสทยอยกันยิงไกลแต่ยังไม่เป็นประตูโดยรายแรกซัดหลุดกรอบขณะที่จังหวะการยิงอีกไม่กี่อึดใจต่อจากนั้นของรายหลังหวดไปโดนเซฟ

    ซัลซิโด้ลองยิง
    นาที 63 ซัลซิโด้แบ็กเม็กซิกันอันตรายลากบอลขึ้นหน้าก่อนตัดเข้าในมาแล้วยิงไกลด้วยเท้าขวาบอลพุ่งเข้าหาประตูแต่ไม่ผ่านมือเช็คเช่นเคย

    มาลูด้าอันเฉี่ยวเสา
    แต่"สิงห์บลู"ก็ตอบโต้ทันควันในนาที 69 จากมาลูด้าที่ลากบอลจากทางฝั่งซ้ายตัดเข้าในแล้วส่องไกลด้วยอีขวาบอลเฉี่ยวเสาไปอย่างได้ลุ้นขณะที่ในอีกสองนาทีถัดมาลูอิซก็เติมไปโขกลูกเตะมุมข้ามคาน

    เอสเซียงอยากจัดประตู
    นาที 77 นักสู้พันธ์ข้าวหลามอย่างเอสเซียงได้โอกาสยิงไกลไปติดเซฟของชวาร์เซอร์ขณะที่อีก 1 นาทีถัดมาเขาก็ดอดขึ้นไปโขกลูกเปิดของแลมพาร์ดหลุดเสาซ้ายไปอีก

    พัฒนาการตอร์เรส
    หลังการถูกเปลี่ยนตัวในนาที 71 เพื่อให้ดร็อกมาลงมาเล่นแทนปรากฏว่ามีสถิติการเล่นของเขาเมื่อเทียบกับเกมแรกที่ลงสนามเจอลิเวอร์พูลคือตอร์เรสสัมผัสบอลไป 37 ครั้งมากกว่านัดที่แล้ว 8 ครั้งด้วยกัน

    จบเกม!เชลซีเงิบตามผี 12 แต้ม
    เชลซีมาเสียจุดโทษนาทีสุดท้ายเมื่อลูอิซไปทำฟาวล์เดมพ์ซี่ในเขตโทษแต่ดาวเตะมะกันลุกขึ้นมาสังหารไปติดเซฟเช็ค"สิงห์บลู"เลยรอดตายหวิว

    จบเกมเชลซีไม่อาจทำอะไรฟูแล่มจึงเสมอกันไป 0-0 ทำให้"สิงห์บลู"ไม่อาจแซงท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สกลับไปรั้งอันดับ 4 ได้ยังคงอยู่ที่ 5 ของตารางแข่ง 26 นัดมี 45 คะแนนตามหลัง"ไก่เดือยทอง" 2 คะแนนส่วนความห่างกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่ต้องพูดถึงถูกฉีกเป็น 12 แต้มแล้วตอนนี้

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    ฟูแล่ม :
    มาร์ค ชวาร์เซอร์ 7, คาร์ลอส ซัลซิโด้ 7, อารอน ฮิวจ์ส 7, เบรเด้ ฮันเกลันด์ ***7.5, คริส แบร์ด 7, คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ 7, สตีฟ ซิดเวลล์ 6.5, , แดนนี่ เมอร์ฟี่ 5.5, เดเมี่ยน ดัฟฟ์ 6, แอนดี้ จอห์นสัน 6(ไซม่อน เดวี่ส์ น.74, 5.5), มุสซ่า เดมเบเล่ 7

    เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 6.5, , ดาวิด ลูอิซ 7.5, จอห์น เทอร์รี่ 7.5, แอชลี่ย์ โคล 7, ไมเคิ่ล เอสเซียง 7, รามิเรส 7.5, แฟร้งค์ แลมพาร์ด 7, นิโกล่าส์ อเนลก้า 6 (ซาโลมง กาลู น.66, 6), ฟลอร็องต์ มาลูด้า 6.5, เฟร์นานโด ตอร์เรส 5.5 (ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.71, 6)

























  8. #28
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    ฟุตบอลยูฟ่าแซมเปิ้ยนลีค รอบ 16 ทีมสุดท้าย โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก)เชลซี (อังกฤษ)

    เหลือถ้วยเดียวให้ลุ้นครับ มาลุ้นกันหน่อย
    Quote Originally Posted by wic931




    [size=_3]ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2010/2011[/size]

    รอบ 16 ทีมสุดท้าย ประจำวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554

    FC Copenhagen vs Chelsea FC

    โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก) vs เชลซี (อังกฤษ)

    สนาม : พาร์เค่น สเตเดี้ยม
    ความจุ : 42,358 ที่นั่ง
    ผู้ตัดสิน : บียอร์น คีเปอร์ส (ฮอลแลนด์)
    ผู้ช่วยผู้ตัดสิน : Sander van Roekel (NED), Berry Simons (NED), Danny Desmond Makkelie (NED), Ed Janssen (NED)
    ผู้ตัดสินที่ 4 : Richard Liesveld (NED)
    นักเตะที่น่าจับตามอง : ดาเม่ เอ็นโดเย่ vs เฟอร์นานโด ตอร์เรส
    ผลที่คาด : โคเปนเฮเก้น 1:2 เชลซี
    เวลาเตะ : 02.45 น.
    ถ่ายทอดสด : ช่อง 7
    อัตราต่อรอง : เชลซี ต่อครึ่งควบลูก
    ติดโทษแบน : ไม่มี
    บาดเจ็บ : โคเปนเฮเก้น>มาร์ติน แบร์กโวลด์
    บาดเจ็บ : เชลซี>อเล็กซ์, ยอสซี่ เบนายูน


    สถิติที่น่าสนใจ : โคเปนเฮเก้น - เชลซี

    เชลซี เข้าถึงรอบรองชนะเลิศในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก 5 จาก 7 ฤดูกาลหลังสุด ซึ่งเส้นทางในฤดูกาลนี้ของพวกเขาก็จะต้องมาเจอกับ เอฟซี โคเปนเฮเก้น ทีมแกร่งจากเดนมาร์ก ที่เพิ่งจะได้ผ่านเข้ามาเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก

    - ทีมแชมป์จากเดนมาร์กเพิ่งจะผ่านเข้ามาเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายครั้งนี้เป็นครั้งแรก ส่วนเชลซียอดทีมจากเกาะอังกฤษนี่เป็นฤดูกาลที่ 8 แล้วที่ผ่านเข้าถึงรอบนี้ ซึ่งใน 7 ฤดูกาลก่อนหน้านี้นั้น พวกเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อยถึง 5 ฤดูกาล โดยในฤดูกาล 2009/10 เชลซีตกรอบด้วยการแพ้ อินเตอร์ ด้วยประตูรวม 1-3 โยแพ้ที่ จูเซ็ปเป้ เมียซซ่า 1-2 และกลับมาแพ้ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์อีก 0-1

    Previous meetings

    - ทั้งคู่เคยเจอกันมาแล้วเมื่อฤดูกาล 1998/99 ในศึกยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ รอบที่ 2 นัดที่ 2 โดยได้ประตูโทนจากนักเตะเดนมาร์ก ไบรอัน เลาดรู้ป ซึ่งเป็นประตูเดียวที่ส่งพลพรรค "สิงโตนํ้าเงินคราม" เข้ารอบต่อไป ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน เลาดรู้ป ก็ได้ย้ายกลับไปเล่นให้กับ เอฟซี โคเปนเฮเก้น

    - นัดแรกของศึกยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ ฤดูกาลนั้น ผลจบลงด้วยการเสมอกัน 1-1 โดยเชลซีได้ประตูตีเสมอจากปราการหลัง มาร์กแซล เดอไซญี่ ส่วน เอฟซี โคเปนเฮเก้น ได้จาก บียาเน่ โกลเบ็ค ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน โกลเบ็ค ก็ได้ย้ายมาเล่นให้กับเชลซี เช่นกัน โดยทำได้ 5 ประตู จาก 29 เกมลีก ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับฟูแล่มในปี 2000

    - แม็ตช์ในฤดูกาลนั้นของเชลซีถือเป็นการเจอกับทีมจากเดนมาร์กเป็นครั้งแรก ต่างจาก โคเปนเฮเก้น ที่เจอกับทีมจากเกาะอังกฤษมาแล้วถึง 4 ครั้ง โดยพวกเขาชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ 2 ซึ่งนัดที่ชนะคือการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ในฤดูกาล 2006/07 ของฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2006/07 ผลเสมอคือการเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 ในยูฟ่า คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ส่วนที่แพ้ก็คือ การบุกไปแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-3 และบุกไปแพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2

    Match background

    - ในฤดูกาลนี้ โคเปนเฮเก้น ถือว่าทำผลงานช่วงออกสตาร์ทได้ดีมาก โดยในเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาเปิดบ้านเอาชนะ รูบิน คาซาน 1-0 ก่อนจะบุกไปเอาชนะ พานาธิไนกอส อีก 2-0

    - ผลงานรอบแบ่งกลุ่มในบ้านของ โคเปนเฮเก้น มี ชนะ รูบิน 1-0, เสมอ บาร์เซโลน่า 1-1 และ ชนะ พานาธิไนกอส 3-1 ส่วนในรอบคัดเลือก มี ชนะ บาเต้ 3-1 และ ชนะ โรเซนบอร์ก 1-0

    - 5 เกมหลังสุดบอลยุโรปในบ้านของ โคเปนเฮเก้น พวกเขาชนะถึง 4 ไม่มีแพ้

    - เกมในนัดสุดท้ายที่เชลซี บุกไปแพ้ โอลิมปิก มาร์กเซย 0-1 หมดสิทธิ์การชนะรวดในรอบแบ่งกลุ่มเป็นทีมที่ 5

    - ผลงานรอบแบ่งกลุ่มนอกบ้านของ เชลซี 3 นัด มี ชนะ ซิลิน่า 4-1 ในนัดแรก บุกชนะ สปาร์ตัก มอสโค 2-0 และแพ้ มาร์กเซย 0-1 ในนัดสุดท้าย



    รายชื่อ 11 คนแรกที่คาดว่าจะได้ลงสนามทั้งสองทีม

    โคเปนเฮเก้น ระบบ 4-4-2 : โยฮัน วีลันด์, ซเดเน็ค พอสเพช, มาเธียส ซันก้า ยอร์เกนเซ่น, มิกาเอล อันโทนส์สัน, ออสการ์ เวนท์, คริสเตียน โบลานญอส, วิลเลี่ยม ควิสต์, เคลาเดเมียร์, เยสเปอร์ กรุนชาร์(มาร์ติน วินการ์ด), ดาเม่ เอ็นโดเย่, เซซาร์ ซานติน

    เชลซี ระบบ 4-3-3 : ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, ไมเคิ่ล เอสเซียง, รามิเรส, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เฟอร์นานโด ตอร์เรส, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.rakball.net , http://www.lomtoe.com :57:

    ---------------------------------------------------- :10: -------------------------------------------------------------

    **** เชิญร่วมกันแสดงความคิดเห้นกันก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้นครับผม *****

    ### วิเคราะห์ วิจารณ์กันได้ครับ ###

    ลิ้งค์ สำหรับคนไม่มีดู -- http://www.snamsup.com/video/live-sports-streaming.asp

    --------------- :10: ---------------ขอให้ทุกท่านสนุกกับการดูบอลครับ------------------------ :10: -----------


    [ภาพซ้อม+ก่อนเกม] โคเปเนเก้น - เชลซี + {ดร็อก ตอร์ !}

    Quote Originally Posted by momochelsea


    ลุงผมงอกเยอะ :2:



    พี่จอห์นโดนถามอะไรน้อ :6:



    ตอบอย่างเข้ม ! :3:




    ตาของกัปตันบ้าง ๆ :11:



    ยิ้มหล่อมาเลยนะพี่จอห์น !



    เครียดได้อีก :2:



    เปรียบดั่ง เราเข้ากันไม่ได้ ? TT'



    สุมหัวกัน 3 คน 55 (ไม่คบขานะเนี่ย ฮา)



    หล่อซะ :11:



    ตอร์ถึงกับงง ? :12:



    หญ้ากระจาย ! :10:



    มาดูมุมต่ำกันบ้าง



    ขวัญใจสาวบอร์ดเรา :11:



    ตกลงเค้ายิ้มอะไรกันนน :6:



    ปิดท้ายด้วยแก้มแดง :10:

    ขอบคุณ : zimbio สำหรับภาพสวยๆครับ :15:
    ที่มา www.chelsea.in.th

  9. #29
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    ต่ออายุ!เชลซีโคตรฮึดยิงแซงดับผี 10 ตัวลงหลุม 2-1

    ขออภัยที่มารายงานผลการแข่งขันช้านะครับ ติดภาระกิจสำคัญมาครับ

    Quote Originally Posted by Zaine_R
    ต่ออายุ!เชลซีโคตรฮึดยิงแซงดับผี 10 ตัวลงหลุม 2-1

    เชลซียืดอายุลุ้นแชมป์พรีเมียร์ในช่วงโค้งสุดท้ายชนิดใจหายใจคว่ำหลังเปิดบ้านยิงรวดแซงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดระทึก 2-1 จากเดวิด หลุยส์แข้งใหม่และจุดโทษของแฟร็ง แลมพาร์ดขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ตามเหลือ 12 แต้มและเตะน้อยกว่าหนึ่งเกมแถมเนมันย่า วิดิชถูกไล่ออกช่วงทดเจ็บติดโทษแบนนัดแดงเดือดง่อยกินกันไป

    พรีเมียร์ ลีก

    วันอังคารที่ 1 มีนาคม 2554


    เชลซี 2 : 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

    ประตู :
    0-1 เวย์น รูนี่ย์ น.29,1-1 ดาวิด ลูอิซ น.54,2-1 แฟรงค์ แลมพาร์ด(จุดโทษ) น.79

    เชลซีเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ต้อนรับการมาเยือนของคู่แข่งตัวเอ้อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในเกมนัดตกค้างที่โดนเลื่อนลากยาวมานาน โดยพวกเขาปรับทีมไปหนึ่งตำแหน่งด้วยการที่ดาวิด ลูอิซกลับคืนมาสู่ทีมอีกครั้ง หลังจากไม่สามารถเล่นในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกได้

    ซึ่งตามที่คาดกันเอาไว้ดิดิเย่ร์ ดร็อกบาเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง โดยคาร์โล อันเชล็อตติเลือกใช้นิโกล่าส์ อเนลก้าและเฟร์นานโด ตอร์เรสลงล่าตาข่าย

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีผิดคาดกันเล็กน้อยเพราะฮาเวียร์ เอร์นานเดซยังคงได้ลงสนาม หลังระเบิดฟอร์มในเกมกับวีแกน เพราะตอนแรกคาดกันว่าดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟจะได้จับคู่กับเวย์น รูนี่ย์ในเกมนี้

    ครึ่งแรก

    แฟนแซวโคลคล้ำ
    ในตอนเริ่มเกมกล้องก็ช่างจับภาพไปหาแฟนบอลที่จัดการชูป้ายล้อเลียนโคลที่เพพิ่งจะมีข่าวทำปืนลั่นใส่คนอื่นไปหมาดๆ ด้วยป้ายที่ว่า "แอชลี่ย์อย่ายิงนะ!"

    สิงห์ได้ลุ้นก่อน
    เริ่มเกมมาได้ 5 นาทีเป็นเชลซีก่อนเลยที่ได้โอกาส จากจังหวะที่อเนลก้าได้บอลทางริมเส้นก่อนที่จะเปิดตัดกลับเข้ากลางให้มาลูด้าวิ่งมายิงโล่งๆ แต่จำเป็นต้องยิงเน้นให้เข้ากรอบเอาไว้ก่อน บอลเลยตรงตัวของฟาน เดอร์ ซาร์

    ผีเซซ้ายเซขวา
    ช่วง 10 นาทีแรก เกมของทางเจ้าบ้านเชลซีดูเป็นรูปเป็นร่างมากกว่าเยอะ แถมการเติมเกมรุกก็ดูน่ากลัวกว่าทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่กองกลางดูเหมือนจะช้าเกินไปหน่อย ทำให้ไม่ทันเกมของทาง "สิงห์ไฮโซ" จังหวะทำเกมรุกก็ดูจะติดขัดพอดู

    แลกกันใหญ่
    นาทีที่ 15 แมนฯยูไนเต็ดได้ร้องเสียวกันไปก่อน จากจังหวะที่เอฟร่าเล่นชิ่งกับเอร์นานเดซ ก่อนที่จะทะลุเข้าไปเปิดบอลผ่านหน้าประตู น่าเสียดายที่รูนี่ย์เข้าชาร์จไม่ทันทำให้พลาดโอกาสไป

    ก่อนที่เชลซีจะโต้กลับคืนและมีโอกาสลุ้นยิงจากทางอเนลก้า แต่บอลก็พุ่งหลุดเสาไกลออกไป พร้อมเสียงบ่นเล็กๆของน้าซาร์ที่ข้องใจว่ากองหลังทำอะไรกัน

    ป๋าแอบขำ!หมูโขกผิดจังหวะ
    นาทีที่ 21 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันบรมไม่รู้จะเซ็งหรือจะขำดีในจังหวะที่นานี่ลากบอลไปเปิดทางริมเส้นฝั่งซ้าย ตำแหน่งบอลตกใส่รูนี่ย์ที่เสาแรกพอดิบพอดี แต่หัวหอกร่างอวบกลับโหม่งผิดจังหวะบอลโดนหัวไหล่พุ่งไปคนละทางซะงั้น!

    กลางผีเริ่มดูดีขึ้น
    เล่นกันไปได้สักพักตอนนี้คู่กลางของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดดูจะประสานงานกันได้ดีขึ้นกว่าในช่วงแรกเยอะ(และน่าจะดีกว่าหลายๆนัดที่ผ่านมา) ทำให้เกมของแมนฯยูไนเต็ดดูดีขึ้นตามมาด้วย

    เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย!หมูคมกริบส่องเข้าเฉย
    นาทีที่ 29 แฟนตะลึงกันเป็นแถบเพราะรูนี่ย์ที่ไม่ค่อยมีใครคิดว่าลูกยิงของเขาจะคมกริบสักเท่าไร แต่จากจังหวะที่นานี่จ่ายบอลให้เขาหน้ากรอบเขตโทษ หัวหอกร่างอวบก็หมุนตัวหาจังหวะแล้วจัดการกดจากนอกกรอบเขตโทษทันที บอลพุ่งขนานกับพื้นแหวกอากาศผ่านมือของเช็กเข้าไปเสียบเสาอย่างสวยงามท่ามกลางความอึ้งของแฟนบอล "ปีศาจแดง" ชิงนำไปก่อน 1-0

    สิงห์เร่งเครื่องเต็มที่
    เกมเข้าช่วง 10 นาทีสุดท้าย เชลซีพยายามที่จะเร่งเกมของพวกเขาขึ้นมาเพื่อหวังประตูตีเสมอให้ได้ก่อนที่จะจบครึ่งแรก แต่เกมก็ดูเหมือนกับว่าจะไม่ค่อยมีมิติมากนัก ทำให้ถูกทางทีมเยือนดักบอลเอาไว้ได้

    โคตรเสียว!แลมพ์อัดฟรีคิกลุ้นเกือบตาย
    นาทีที่ 40 แฟนบอลหยุดหายใจกันทั้งสนาม จากจังหวะที่แลมพาร์ดอัดฟรีคิกไม่ห่างจากนอกกรอบเขตโทษหนักผ่านกำแพงเข้าไป จนทำให้ฟาน เดอร์ ซาร์ต้องล้มตัวปัดบอล อิวาโนวิชพุ่งเข้าซ้ำจ่อๆแต่บอลไปโดนลำตัวทำให้ไม่มีน้ำหนัก ฟาน เดอร์ ซาร์ปัดเอาไว้ได้ก่อนที่อิวาโนวิชจะซ้ำ แล้วก็หมุนตัวปัดบอลอีกจังหวะ ก่อนที่กองหลังของแมนฯยูไนเต็ดจะกรูกันเข้าไปรีบเคลียร์ออกมาได้ทัน เสียวไส้กันทั้งสองฝั่งเลย

    ดูจังหวะนี้แล้วไม่ว่าใครก็ต้องคิดว่าแบบนี้แมนฯยูไนเต็ดจะหาตัวแทนที่สมน้ำสมเนื้อกับฟาน เดอร์ ซาร์ที่แขวนถุงมือสิ้นฤดูกาลนี้ได้หรือไม่

    ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบ 45 นาทีแรกเป็นทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่บุกมานำเชลซีไปก่อน 1-0 จากเวย์น รูนี่ย์

    ครึ่งหลัง

    นี่ก็คมกริบ!ลูอิซเปิดซิงสวยโคตร
    นาทีที่ 54 หลังจากกดดันได้ตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง เชลซีก็มาได้ประตูตีเสมอจนได้จากจังหวะที่แมนฯยูไนเต็ดเคลียร์บอลออกไปไม่ขาด เชลซีเก็บตกได้ก่อนที่จะโยนบอมบ์เข้ากรอบเขตโทษ มีผู้เล่นเทคขึ้นแย่งโขกกันแล้วบอลไปเข้าทางลูอิซที่ยืนเอี้ยวตัวชาร์พลังรอเต็มที่ก่อนที่จะซัดวอลเล่ย์บอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปชนิดที่น้าซาร์ได้แต่ยืนทำใจ เชลซีตีเสมอเป็น 1-1 แล้ว

    จังหวะนี้ทำให้เอฟร่าเจ็บเพราะพยายามเข้าไปขวางลูกยิงของลูอิซ

    [imgl]http://upic.me/i/vo/ttbbb.jpg[/imgl]ได้เวลาแมลงสาบ
    นาทีที่ 61 เวลาที่ดิดิเย่ร์ ดร็อกบารอคอยก็มาถึงเมื่อเขาถูกเปลี่ยนตัวลงไปเล่นแทนอเนลก้า มีเวลาให้ล่าตาข่ายอยู่ราวครึ่งชั่วโมง

    สิงห์ดูดีกว่าแล้ว
    ตอนนี้กลายเป็นว่าเกมของเชลซีดูน่ากลัวขึ้นมากกว่าครึ่งแรก แถมยังได้ประตูตีเสมอทำให้กำลังใจเพิ่มพูนอีกเพียบ ถ้าแมนฯยูไนเต็ดพลาดล่ะก็งานนี้ "สิงห์ไฮโซ" พุ่งเข้าฟัดแน่

    หมูทำได้ไม่ดีพอ
    อีก 4 นาทีต่อมา รูนี่ย์ทำให้โอกาสทองของทีมหลุดลอยออกไปจากจังหวะที่นานี่แทงบอลให้เขาทะลุหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนที่จะเลี้ยงจี้เข้าไปที่เสาแรก มีเอร์นานเดซรออยู่ตรงกลางและเฟล็ทเชอร์อยู่เสาไกล แต่รูนี่ย์กลับตัดสินใจยิงแถมยังผิดเหลี่ยมผ่านหน้าประตูออกหลังไปไกล

    ไม่รอช้า!ป๋าส่งเบิร์บ,ขนดก
    นาทีที่ 70 แมนฯยูไนเต็ดจัดการส่งตัวดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟและไรอัน กิ๊กส์ลงสนามแทนเอร์นานเดซและสโคลส์ เพราะดูแล้วรูปเกมของทีมไม่ค่อยจะสู้ดีนัก มิติที่ต่างออกไปของสองแข้งที่เพิ่งส่งลงสนามน่าจะทำให้เกิดความแตกต่างขึ้นได้

    ส่วนทางเชลซีก็ส่งยูริ เชอร์คอฟลงเล่นแทนฟลอร็องต์ มาลูด้า

    ลูอิซรอดตัวเฉย
    นาทีที่ 74 ลูอิซรอดพ้นจากการถูกไล่ออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ จากจังหวะที่เขาไปเจตนาสกัดรูนี่ย์ในจังหวะที่จ่ายบอลไปแล้วจะวิ่งไปทำทาง โดยการเอาขาดักไปที่เข่าจนไอ้หมูล้มลงไปดิ้นพงาบ แต่กรรมการไม่ว่าอะไรเฉย

    จังหวะนี้ทำให้เซอร์ อเล็กซ์ถึงกับควันออกหูบ่นใส่ผู้ตัดสินที่ 4 แทบไม่หยุดปากเลย

    ผีช็อก!น้องเล็กทำเสียจุดโทษ
    อีก 4 นาทีต่อมา เชลซีมาได้จุดโทษจากจังหวะที่สอมลลิ่งไปยืนขาตายแล้วไปขัดเอาขาของเชอร์คอฟ ทำให้ผู้ตัดสินวิ่งมาเป่าให้เป็นจุดโทษทันที แม้จะมีการประท้วงจากผู้เล่นของ "ปีศาจแดง" แต่ก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใด

    แลมพาร์ดรับหน้าที่จัดจุดโทษเข้าไปด้วยความรุนแรงทะลุผ่านตัวของฟาน เดอร์ ซาร์เข้าไปตุงตาข่ายแทบขาด เชลซีพลิกขึ้นนำ 2-1 แล้ว

    อันเช่หัวหมอเปลี่ยนลูอิซออก
    อีก 2 นาทีต่อมา อันเชล็อตติไม่รีรอให้เสียประโยชน์จัดการเปลี่ยนลูอิซที่รอดพ้นใบแดงออกไปแล้วส่งโจเซ่โบซิงวาลงไปเล่นแทน

    ส่วนแมนฯยูไนเต็ดนั้นส่งฟาบิโอลงไปเล่นแทนเอฟร่าที่มีอาการบาดเจ็บติดค้างอยู่แล้ว

    ผีรอดตาย!เชอร์คอฟยิงโคตรน่าได้
    นาทีที่ 82 แมนฯยูไนเต็ดรอดพ้นจากการเสียประตูที่ 3 จากจังหวะโหม่งสกัดเคลียร์ออกมาเข้าทางเชอร์คอฟที่วิ่งมาอัดเต็มๆ บอลพุ่งแหวกฝูงกองหลังของแมนฯยูไนเต็ดกำลังจะเข้าประตูไปอยู่แล้ว แต่ไปติดขาของวิดิชแล้วชนเสาเด้งออกไป

    วิดิชสุ่มเสี่ยง
    ช่วงทดเวลานาทีแรก วิดิชไปเอาตัวเองเสี่ยงเสียวต่อการที่จะโดนใบแดงจากจังหวะไปเจตนากระแทกดร็อกบาจากด้านหลังในจังหวะที่กำลังจะพลิกบอลเข้ากรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร ให้เพียงฟรีคิกนอกกรอบเท่านั้น

    เละเทะ!วิดิชโดนจนได้
    ทำตัวเองแท้ๆสำหรับวิดิชที่ทำฟาวล์พร่ำเพื่อทั้งๆที่ตัวเองมีใบเหลืองอยู่แล้ว ไปดึงรามิเรสล้มลงในจังหวะกำลังจะหลุดเข้ากรอบ ทำให้ผู้ตัดสินวิ่งมาแจกใบเหลืองที่สองเป็นแดงทันที แมนฯยูไนเต็ดเละเทะเสียหายอย่างหนักสำหรับเกมนี้

    จบ 90 นาทีเป็นเชลซีที่ไล่แซงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะไปได้ 2-1 ทำให้มีเพิ่มเป็น 48 คะแนนขยับขึ้นอันดับที่ 4 แทนที่สเปอร์ส ส่วนแมนฯยูไนเต็ดมี 60 คะแนนเท่าเดิม

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    เชลซี :
    ปีเตอร์ เช็ก 7.5,ดาวิด ลูอิซ 8.5*(โบซิงวา น.81),จอห์น เทอร์รี่ 7.5,แอชลี่ย์ โคล 7,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 5.5,มิชาเอล เอสเซียง 6,แฟรงค์ แลมพาร์ด 7,รามิเรส 7.5,ฟลอร็องต์ มาลูด้า 5(เชอร์คอฟ 6 น.71),เฟร์นานโด ตอร์เรส 6,นิโกลาส์ อเนลก้า 5(ดร็อกบา 6 น.61)

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 7,เนมันย่า วิดิช 7,คริส สมอลลิ่ง 7.5,ปาทริซ เอฟร่า 6(ฟาบิโอ - น.81),จอห์น โอเชีย 6.5,ไมเคิ่ล คาร์ริค 6.5,พอล สโคลส์ 7(กิ๊กส์ 6 น.70),นานี่ 6,ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ 7,ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ 6.5(เบอร์บาตอฟ 5.5 น.70),เวย์น รูนี่ย์ 8




























    ขอบคุณ ที่มาจาก www.soccersuck.com/ss

  10. #30
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    ยิงแล้วเพจบอกที!เชลซีกดนิ่ม 3-1 ตอร์เรสยังโบ๋

    Quote Originally Posted by Zaine_R
    ยิงแล้วเพจบอกที!เชลซีกดนิ่ม 3-1 ตอร์เรสยังโบ๋

    นัดผลิตสกอร์สวยๆของเฟร์นานโด ตอร์เรสหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตาหลังไร้สกอร์อย่างต่อเนื่องในขณะที่เชลซีบุกต้อนแบล็คพูลสบายตีน 3-1 โดยแฟร็งค์ แลมพาร์ดรับเหมาสองประตูก่อนฉีกหนีสเปอร์ส 3 แต้มและไล่แมนฯซิตี้เหลือ 2 แถมมีอีกเกมในมือ

    พรีเมียร์ ลีก

    วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2554


    แบล็คพูล 1 : 3 เชลซี

    ประตู :
    0-1 จอห์น เทอร์รี่ น.20,0-2 แฟรงค์ แลมพาร์ด(จุดโทษ) น.63,0-3 แฟรงค์ แลมพาร์ด น.66,1-3 เจสัน ปันเชน น.86

    เกมนี้เชลซีส่งดิดิเย่ร์ ดร็อกบาลงเล่นหน้าคู่กับเฟร์นานโด ตอร์เรสเลย หลังจากที่ไอ้แลงสาบนั้นต้องนั่งเป็นสำรองมาในช่วงเกมหลังๆ ต้องดูว่าจะแผลงฤทธิ์โชว์ฟอร์มออกหรือไม่

    ครึ่งแรก

    เจ้าบ้านได้ทักทาย
    4 นาทีแรกเป็นทางแบล็คพูลที่ขอลองทักทายทีมยักษ์ใหญ่อย่างเชลซีก่อนเลยจากลูกยิงไกลของคาร์นี่ย์ด้วยเท้าขวานอกกรอบเขตโทษ แต่ถูกถูกทางเช็กเซฟเอาไว้ได้เพราะบอลไม่ได้หนีตัวสักเท่าไร

    สิงห์ยอมที่ไหน
    นาทีที่ 12 ระดับเชลซีไม่มียอมให้่ถูกทางแบล็คพูลมาทักเอาฝั่งเดียวอยู่แล้ว ได้โอกาสลุ้นจากเชอร์คอฟที่กดด้วยซ้ายนอกกรอบ แล้วไปติดบล็อก ก่อนที่จะเป็นทางลูอิซที่ได้ยิงจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลก็หลุดออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้นอะไร

    ปฐมพยาบาลสักครู่...
    เกมมาหยุดอยู่พักหนึงจากการที่ทางเชลซีต้องส่งแพทย์ไปปฐมพยาบาลนักเตะโคตรถึกอย่างเอสเซียงที่มีปัญหาบาดเจ็บ

    จนได้!เจทีโขกเน้นไม่เหลือ
    นาทีที่ 20 เชลซีแม้ว่าจะได้โอกาสลุ้นทีหลังจากเป็นผลก่อนเลย จากจังหวะที่แลมพาร์ดโยนบอลเข้าในกรอบเขตโทษ เทอร์รี่เทคตัวสอดขึ้นโหม่งบอลเน้นๆผ่านคิงสันเข้าไปตุงตาข่าย ทำให้เชลซีออกนำไปก่อน 1-0

    สิงห์ยังได้ลุ้นอีก
    นาทีที่ 23 หลังจากเกมไปอยู่ที่กลางสนามซะมาก ตอร์เรสก็ลองส่องไกลด้วยขวาข้างถนัด แต่บอลก้ไปติดบล็อกแนวรับของทางแบล็คพูล ก่อนที่โบซิงวาจะลองในจังหวะต่อมา แม้คราวนี้จะไม่ติดบล็อก แต่คิงสันไม่พลาด เซฟเอาไว้ได้

    แบล็คพูลเอาบ้าง
    นาทีที่ 35 หลังจากถูกทางเชลซีนวดอยู่นานสองนาน แบล็คพูลก็มามีโอกาสบ้างจากจังหวะยิงของปันเชออนจากนอกกรอบ(อีกแล้ว)ซึ่งถูกทางเช็กเซฟเอาไว้ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าทางแบล็คพูลทำเกมบุกกดดันใส่ทีมเยือนได้ดีเลยทีเดียวในช่วงนี้

    เชลซีต่อบอลกันติดขัดพอสมควรโดยเฉพาะดร็อกบาที่เคยเป็นตัวความหวังพักบอลและถ่ายออกให้เพื่อนแต่วันนี้เลอะเทอะจ่ายเน่าไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้งทำให้ถูกแบล็คพูลสวนกลับอย่างต่อเนื่อง

    รามิเรสซัดส่งท้าย
    ช่วงทดเจ็บนาทีแรกเชลซีกลับได้ลุ้นลูกสองหลังรามิเรสได้บอลตรงระยะ 35 หลาก่อนลากเข้ามาถึงหน้าเขตโทษแล้วซัดด้วยอีซ้ายบอลพ่่งเบียดเสาร้อนถึงคิงสันต้องพุ่งปัดก่อนลุกมาโวยเพื่อนว่าปล่อยให้ลากมายิงแบบนี้ได้ไง

    จบ 45 นาทีแรก เป็นเชลซีที่ออกนำไปก่อน 1-0 จากประตูโทรของกัปตันทีมจอห์น เทอร์รี่

    ครึ่งหลัง

    กรรมซัด!แมลงสาบเจ็บ
    นาทีที่ 55 เหมือนเป็นเคราะห์กรรมแต่ปางใดสำหรับดร็อกบาที่เกมนี้อุตส่าห์ได้ลงตัวจริงสมใจหมายแล้ว หลังจากต้องนั่งเป็นสำรองมาหลายนัดติด แต่ดันมีอาการบาดเจ็บจากจังหวะแย่งโหม่งปะทะกับบี๊ทตี้ แม้ว่าจะลองฝืนเล่นแต่ก็ไม่ไหว เชลซีต้องส่งกาลูลงไปแทน

    เหมือนจะจบ!สิงห์ได้จุดโทษ
    นาทีที่ 62 เหมือนเกมนี้จะจบลงไปแล้ว จากการที่อีวัตต์กองหลังของแบล็คพูลไปเสียท่าล้มตัวสกัดกาลูล้มลงในกรอบเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนที่แลมพาร์ดจะรับหน้าที่สังหารเข้าไปแบบชิลๆ เชลซีนำห่าง 2-0

    ขาดเลยท่าน!แลมพาร์ดเม็ดสอง
    นาทีที่ 66 เชลซีมานำห่างจากจังหวะที่กาลูกตัวสำรองซึ่งลงมามีส่วนกับประตูแรกไปแล้วจัดการล็อกบอลก่อนที่จะจ่ายให้กับแลมพาร์ดที่วิ่งสอดขึ้นไปหลุดเดี่ยวก่อนที่จะยิงสวนคิงสันเข้าไปไม่เหลือ "สิงห์ไฮโซ" อัด 3-0

    พอจะเขี่ยทางแบล็คพูลต้องเปลี่ยนเอาคิงสันที่เล่นต่อไม่ไหวออกจากสนามและส่งฮาลสเต็ดนายด่านดาวรุ่งวัย 21 ปีลงไปเฝ้าเสาแทน

    แฟนถูกใจ!?เชอร์คอฟออก
    นาทีที่ 72 ไม่รู้ว่าถูกใจแฟนบอลทีมเยือนมากน้อยแค่ไหน แต่เชลซีเปลี่ยนเอาเชอร์คอฟที่วันนี้ได้โอกาสแต่ก็ทำได้น่าผิดหวังออกไปแล้วส่งมาลูด้าลงไปเล่นแทน

    แฟนกรี๊ด!แม็คเอแคร่นลงสนาม
    อีก 3 นาทีต่อมา คาร์โล อันเชล็อตติเอาใจแฟนบอลนิดๆพร้อมให้ประสบการณ์เด็กด้วยการส่งแม็คเอแคร่นดาวรุ่งพุ่งแรงของทีมลงเล่นแทนรามิเรสในแดนกลาง

    ตอร์เรสยังไม่ได้
    นาทีที่ 76 เพื่อนๆในทีมเห็นสกอร์นำห่างพร้อมใจกันปั้นตอร์เรสที่วันนี้เห็นถอนหายใจไปหลายดอก แต่เจ้าตัวแม้ว่าจะได้โอกาสดีดบอลจากนอกกรอบเขตโทษด้วยขวา แต่ก็ดูจะฝืนไปหน่อยทำให้บอลไม่แรงไอ้หนุ่มฮาลสเต็ดรับสบาย

    แบล็คพูลอดไข่แตก
    นาทีที่ 82 ฟิลลิปส์ที่เพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวลงสนามนั้นได้โอกาสหลุดเข้าไปทางบริเวณเส้นกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายเพื่อลุ้นประตูตีไข่แตกแล้ว แต่ลูกยิงที่กดเน้นๆเต็มของเขานั้นพุ่งหลุดออกเสาไกลไป

    ไข่แตกแล้ว
    อีก 4 นาทีต่อมาในที่สุดแบล็คพูลก็มาได้ประตูตีไข่แตกปลอบใจแฟนบอล จากจังหวะที่บีทตี้ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะจ่ายให้กับปันเชนทางซ้ายได้สวย ซึ่งปันเชนก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยซัดบอลด้วยซ็ายผ่านลูอิซและมือของเช็กที่ล้มตัวปัดบอลไม่ทันเข้าประตูไป แบล็คพูลตีตืนขึ้นมาเบาๆ 3-1

    ช่วงท้ายกลายเป็นแบล็คพูลได้บุกกดดันใส่ทางเชลซีและมีจังหวะหวาดเสียวอยู่ด้วย แต่นั่นก็ไม่ทันการณ์ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบเกมเชลซีเอาชนะแบล็คพูลไปได้ 3-1 ฉีกหนีสเปอร์สเป็น 3 คะแนนพร้อมจี้เข้าหาแมนเชสเตอร์ ซิตี้อันดับ 3 อยู่ 2 แต้มแต่แข่งน้อยกว่าอยู่หนึ่งเกม

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    แบล็คพูล :
    ริชาร์ด คิงสัน 7(ฮาลสเต็ด 6 น.66),เอียน อีวัตต์ 4.5,อเล็กซ์ บัปติสเต้ 6,สตีเฟ่น เครนี่ย์ 6,นีล เอิร์ดลี่ ย์ 6.5,คีธ เซาท์เธิร์น 5.5,เดวิด วอนห์ 7,แอนดี้ รีด 7(โอร์เมร็อด 6 น.73),เดวิด คาร์นี่ย์ 6(ฟิลลิปส์ 7 น.73),เจสัน ปันเชน 7,เจมส์ บีทตี้ 5.5

    เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก 7.5,จอห์น เทอร์รี่ 7.5,ดาวิด ลูอิซ 6.5,แอชลี่ย์ โคล 6.5,โจเซ่ โบซิงวา 6,แฟรงค์ แลมพาร์ด 7.5,มิชาเอล เอสเซียง 7,ยูริ เชอร์คอฟ 5(มาลูด้า 6 น.72),รามิเรส 6(แม็คเอแคร่น 6.5 น.75),เฟร์นานโด ตอร์เรส 5.5,ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา 5(กาลู 7.5 น.55)


























    ที่มา www.soccersuck.com/ss

Page 3 of 5 FirstFirst 1 2 3 4 5 LastLast

Comments from Facebook

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •