ด่วน ! ทหารไทย-เขมร เปิดฉากปะทะเดือด“ภูมะเขือ”- รอบเขาวิหาร

[itasian]

นำข่าวมาเพิ่มเติมครับ

ชาว “กันทรลักษ์” พร้อมจับปืนสู้เขมร - ผู้ว่าฯมอบ 1,000 กระบอกพร้อมกระสุน
(ขอขอบคุณ ทีมข่าว manager)

ชาว “กันทรลักษ์” พร้อมจับปืนสู้เขมร - ผู้ว่าฯมอบ 1,000 กระบอกพร้อมกระสุน



ส่งมอบอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด 1,000 กระบอกพร้อมกระสุน ให้กับชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) แนวชายแดนไทย-กัมพูชา 4 ตำบล 41 หมู่บ้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ (8 ก.พ.)







ศรีสะเกษ - ชาวกันทรลักษ์ พร้อมจับปืนสู้เขมร ผู้ว่าฯศรีสะเกษ มอบปืนลูกซอง 5 นัด 1,000 กระบอก พร้อมกระสุน คืนให้ “ชรบ.” 4 ตำบล 41 หมู่บ้าน ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เขาพระวิหาร เพื่อใช้ป้องกันหมู่บ้าน ขณะยอดจำนวนผู้อพยพศรีสะเกษเพิ่มสูงถึง 21,000 คนแล้ว เปิดศูนย์อพยพรองรับ 41 แห่ง ผู้ว่าฯยันตลอดทั้งวันปกติไม่มีการปะทะ เผย มีเสียงปืน ค.ดังขึ้นที่ภูมะเขือ แต่ไม่รายงานการปะทะ

วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้มอบชุดอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) สำรอง จำนวน 1,000 ชุด และ อาวุธปืนลูกซอง 5 นัด 1,000 กระบอก พร้อมกระสุนปืน ให้กับตัวแทนชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) จาก 4 ตำบล 41 หมู่บ้าน อ.กันทรลักษ์ ที่อยู่ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ เพื่อไว้ใช้ในการป้องกันรักษาความปลอดหมู่บ้าน โดยมี นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 3 และ นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย ร่วมเป็นเกียรติในพิธีรับมอบในครั้งนี้

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ชุด อส.สำรองทั้งหมดนี้ได้รับมอบมาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้มาเยี่ยมปลอบขวัญชาวบ้านแล้ว เห็นว่า ชุดของ ชรบ. เก่ามากแล้ว และบางส่วนยังไม่มีชุดสวมใส่ ดังนั้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจึงได้จัดสรรชุด อส.สำรองส่งมาให้

พร้อมทั้งได้ส่งมอบปืนลูกซอง 5 นัด และกระสุน จำนวน 1,000 กระบอก ที่เรียกกลับคืนระหว่างที่มีการชุมนุมทางการเมือง ได้นำมาส่งคืนให้กับชุด ชรบ.ซึ่งได้มอบให้กับชาวบ้านภูมิซรอล และทุกหมู่บ้านในเขต 4 ตำบล ได้ใช้เพื่อป้องกันหมู่บ้านต่อไป

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยอดจำนวนประชาชนผู้อพยพเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆโดยขณะนี้มีจำนวนผู้อพยพเข้ามาอยู่ในศูนย์อพยพของ จ.ศรีสะเกษ แล้วจำนวน 21,000 คน โดยได้จัดตั้งศูนย์อพยพรองรับเพิ่มขึ้นจากเดิมรวมจำนวนทั้งสิ้น 41 ศูนย์แล้ว

“แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้สถานการณ์ในห้วง 1 วันที่ผ่านมา ยังอยู่ในสภาวะปกติไม่มีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้นแต่อย่างใด” นายสมศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.วันนี้ (8 ก.พ.) ได้มีเสียง ค.ดังขึ้น 1 นัด ที่บริเวณภูมะเขือ ช่องโดนเอาว์ ทางด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ชายแดนด้าน บ.โดนเอาว์ ต.รุง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แต่ไม่มีใครยืนยันได้ว่าเป็นเสียงปืนของฝ่ายใดและมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับ ทหารกัมพูชา เกิดขึ้นหรือไม่

ข่าวนี้ไม่ธรรมดา ชาวบ้านจับปืน พร้อมรบ
ย้ำ ชาวบ้าน จับปืน พร้อมรบกับทหารเขมร
ชาวบ้าน จะต่อสู้กับ ทหาร ได้อย่างไร ???

เหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้น หากคนตัวใหญ่กว่า รับผิดชอบ

หากคิดว่าตนเองไม่ต้องเกี่ยวข้อง ไม่ต้องรับผิดชอบ
ภาพเศร้าของคนเล็กๆ ที่โชคร้าย ก็ต้องรับเคราะห์ จากคนตัวใหญ่กว่า ที่ใจร้ายต่อไป

ขอบคุณ ข้อความของคุณ yourfwd


ขอบคุณ คุณ IAm ที่กล้าแสดงสิ่งที่ รู้สึกผิด ให้ได้เรียนรู้ ใจตน กัน ครับ

ขอบคุณ คุณ WM คุณ yourfwd และ คุณ Euphrates ที่นำข่าวมาให้ได้ติดตามกันครับ

ขอบคุณ ทหารและชาวบ้าน ที่เสียสละ และรับผิดชอบ ที่ทำหน้าที่แทนผม หน้าที่ ที่ผมไม่กล้าพอที่จะทำ
ขอให้ คนที่ยังอยู่ ได้เห็น และสำนึกในคุณแห่งความเสียสละ ที่ท่านได้ทำ
และขอให้ ระลึกให้ได้ว่า ตน ควรต้องรับผิดชอบ ต่อ แผ่นดิน ที่เรา อาศัยอยู่ร่วมกัน

[Euphrates]

ขอไว้อาลัย ...
ส.อ.ธนากร พูลเพิ่ม
ทหารสังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 6 จ.อุบลราชธานี

ซึ่งบาดเจ็บสาหัส จากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่บริเวณผามออีแดง ชายแดนเขาพระวิหาร
และได้เสียชีวิตลงเมื่อวานนี้ (8 ก.พ. 54) ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี
ซึ่งถือเป็นการเสียชีวิตรายที่ 2 ของทหารไทย




..ส่วนหนึ่งจากข่าว

....
ส.อ.ธนากร พูลเพิ่ม ทหารสังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 6 จ.อุบลราชธานี ช่วยราชการ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งบาดเจ็บสาหัส จากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่บริเวณผามออีแดง ชายแดนเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และได้เสียชีวิตในวันนี้ ( 8 ก.พ.) ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งถือเป็นการเสียชีวิตรายที่ 2 ของทหารไทย โดยมีบรรดานายทหารและเพื่อนทหาร พ่อแม่ญาติพี่น้องของ ส.อ.ธนากร มาร่วมพิธีจำนวนมาก

น.ส.ธันยาภัทร์ ชนินทร์วลัย อายุ 31 ปี ภรรยาของ ส.อ.ธนากร กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากต่อการจากไปของ ส.อ.ธนากร ซึ่งถือว่าเป็นวีระบุรุษที่พลีชีพเพื่อชาติ ทราบว่าขณะนี้ทางราชการต้นสังกัดจะได้พิจารณาเลื่อนยศของ ส.อ.ธนากร เป็นยศ “พันตรี” ส่วนกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพนั้น ต้องรอให้ตนหารือกับพ่อแม่ญาติพี่น้องของ ส.อ.ธนากร เสียก่อน จึงจะได้มีการกำหนดวันเวลาที่แน่นอนต่อไป ซึ่งคาดว่าจะกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 12 ก.พ. นี้ เวลา 14.00 น. ที่วัดบ้านโนนไหล่ ต.เสียว อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

นางวิไลลักษณ์ เข็มเพชร อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นน้าสาวของ ส.อ.ธนากร กล่าวว่า ส.อ.ธนากร ซึ่งเป็นหลานชายของตนเป็นเด็กที่เรียนหนังสือเก่งมาก เป็นลูกคนโตของพี่เขย พี่สาวของตนคือ นายบัวลา พูลเพิ่ม และ นางบัวลา พูลเพิ่ม ต่อมาสอบเข้ารับราชการทหารได้ที่กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 6 จ.อุบลราชธานี และปฏิบัติงานร่วมกับสามีของตนซึ่งเป็นน้าเขยของ ส.อ.ธนากร และเป็นทหารปืนใหญ่เช่นกัน ซึ่งต่าง เป็นกำลังหลักในการหาเงินเลี้ยงครอบครัว ต่อมา ส.อ.ธนากร ได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และได้ไปประจำอยู่ที่บริเวณผามออีแดง ใกล้กับเขาพระวิหาร

นางวิไลลักษณ์ กล่าวต่อว่า ได้รับทราบเหตุการณ์จากเพื่อนสนิทของ ส.อ.ธนากร ว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 54 เวลาประมาณ 18.00 น. ทหารกัมพูชาได้ยิงปืนใหญ่ เข้าถล่มเข้าใส่ฐานปฏิบัติการที่ ส.อ.ธนากร ประจำการอยู่ และได้มีการปะทะกัน ซึ่งปรากฏว่า ส.อ.ธนากร โดนสะเก็ดกระสุนปืนใหญ่เข้าที่บริเวณศีรษะด้านหลังเป็นแผลขนาดใหญ่กว้างประมาณ 1 นิ้ว และโดนสะเก็ดปืนใหญ่ที่บริเวณแขนข้างขวาเป็นแผลลึก 3 แห่ง ซึ่งเพื่อนทหารที่อยู่ด้วยกันได้พยายามนำตัว ส.อ.ธนากรลงมาโดยใช้รถยนต์ที่มีอยู่บนฐานผามออีแดง

แต่เนื่องจากหากเปิดไฟหน้ารถยนต์วิ่งลงมาจากผามออีแดง ทหารกัมพูชาจะระดมยิงปืนใหญ่ใส่อีก ดังนั้น จึงใช้วิธีดับไฟหน้ารถยนต์แล้วปล่อยให้รถยนต์ไหลลงมาตามถนนจนกระทั่งถึงบริเวณถนนด้านหน้าฐานภูลออ ซึ่งใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง (ชม.) จึงได้สตาร์ทเครื่องรถยนต์และรีบนำตัว ส.อ.ธนากร ส่งไปยังโรงพยาบาลกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

แต่เนื่องจากว่าอาการหนักมากแพทย์โรงพยาบาลกันทรลักษ์ จึงได้ส่งตัวไปยัง โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี และแพทย์ได้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ แต่ก้านสมองของ ส.อ.ธนากรไม่ทำงานแล้ว ส่วนร่างกายยังคงแข็งแรงและ ส.อ.ธนากร ได้เสียชีวิตในวันนี้ (8 ก.พ. ) เวลา 13.10 น.ที่ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี

ขอบคุณภาพและข่าวจาก http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000017321

[Siambrandname Webmaster]

ได้รับทราบเหตุการณ์จากเพื่อนสนิทของ ส.อ.ธนากร ว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 54 เวลาประมาณ 18.00 น. ทหารกัมพูชาได้ยิงปืนใหญ่ เข้าถล่มเข้าใส่ฐานปฏิบัติการที่ ส.อ.ธนากร ประจำการอยู่ และได้มีการปะทะกัน ซึ่งปรากฏว่า ส.อ.ธนากร โดนสะเก็ดกระสุนปืนใหญ่เข้าที่บริเวณศีรษะด้านหลังเป็นแผลขนาดใหญ่กว้างประมาณ 1 นิ้ว และโดนสะเก็ดปืนใหญ่ที่บริเวณแขนข้างขวาเป็นแผลลึก 3 แห่ง ซึ่งเพื่อนทหารที่อยู่ด้วยกันได้พยายามนำตัว ส.อ.ธนากรลงมาโดยใช้รถยนต์ที่มีอยู่บนฐานผามออีแดง

แต่เนื่องจากหากเปิดไฟหน้ารถยนต์วิ่งลงมาจากผามออีแดง ทหารกัมพูชาจะระดมยิงปืนใหญ่ใส่อีก ดังนั้น จึงใช้วิธีดับไฟหน้ารถยนต์แล้วปล่อยให้รถยนต์ไหลลงมาตามถนนจนกระทั่งถึงบริเวณถนนด้านหน้าฐานภูลออ ซึ่งใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง (ชม.) จึงได้สตาร์ทเครื่องรถยนต์และรีบนำตัว ส.อ.ธนากร ส่งไปยังโรงพยาบาลกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

อ่านเหตุการณ์นี้แล้วจะร้องไห้ครับ

ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียคนรักของครอบครัว ส.อ.ธนากร
ขอบคุณที่ได้เสียสละปกป้องแผ่นดินเพื่อพวกเราครับ

[itasian]

ขอสดุดีความเสียสละ ที่ท่านได้ทำเพื่อรักษาแผ่นดินให้เราได้อาศัยอยู่ได้ต่อไป
ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียคนรักและคนที่รัก ของครอบครัวของ ส.อ.ธนากร ครับ

คนตัวใหญ่ หาก ไม่รับผิดชอบ เหตุการณ์เหล่านี้ จะเกิดขึ้น
จนทำให้ คนตัวเล็ก ทหารผู้ปฏิบัติหน้าที่ ต้องพรากจากคนรัก และคนที่รัก
เมื่อไหร่ คนตัวใหญ่ จะฟังได้ยิน ซะที
เพียงเพราะ ผลประโยชน์ตน จนต้องสละชีพ คนอื่น มันเท่าเทียมแล้วหรืออย่างไร ...

[Euphrates]

อีกหนึ่งชีวิต..

อุบลราชธานี - จ.ส.อ.ใจเด็ดถูกแรงอัดจากลูกจรวดเขมรตั้งแต่ปะทะเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ไม่ขอลาพักมาพบแพทย์ ที่สุดอาการมากำเริบทำให้พลีชีพเป็นรายล่าสุด

ผู้สื่อข่าวรายงาน่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ. เจ้าหน้าที่จากกรมทหารพรานที่ 23 นำศพ จ.ส.อ.สุขุม สุวรรณพรม อายุ 47 ปี ผบ.ชุดปฏิบัติการที่ 2307 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อเวลา 05.10 น.วันเดียวกันนี้ ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 64 หมู่ที่ 8 บ้านสร้างแก้ว ต.โพธิ์ไทร อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี โดยมีกำหนดพระราชทานเพลิงศพที่วัดประจำหมู่บ้านในวันที่ 2 มี.ค.ศกนี้

ร.ต.ชำนาญ สุวรรณพรม ทหารนอกราชการบิดาของ จ.ส.อ.สุขุม เล่าว่า บุตรชายได้รับบาดเจ็บจากแรงอัดของลูกระเบิดที่ยิงจากเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม 21 ตั้งแต่กลางดึกวันที่ 6 ก.พ. มีอาการแน่นหน้าอก แต่ไม่มีบาดแผล เพราะขณะเกิดการปะทะได้สวมเสื้อเกราะกันกระสุนไว้ จึงไม่ได้ไปพบแพทย์เพราะคิดว่าคงไม่เป็นไร

จนกระทั่งกลางดึกคืนวันที่ 24 ก.พ.มีอาการแน่นหน้าอก จึงถูกนำส่งไปให้แพทย์ที่โรงพยาบาลทหารตรวจดูอาการ พบมีซี่โครงหัก ปอดถูกกระแทกอย่างแรงจนทำให้ปอดอักเสบ จึงส่งต่อไปรักษาตัวในห้องไอซียูโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

สำหรับ จ.ส.อ.สุขุม เป็นลูกคนที่ 4 จากลูกทั้งหมด 8 คน และเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัว โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ได้ไปปฏิบัติราชการสนามที่ จ.ปัตตานี และย้ายกลับมาประจำการที่กรมทหารที่ 23 เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน การเสียชีวิตของ จ.ส.อ.สุขุม ทางต้นสังกัดได้ขอปูนบำเหน็จ 9 ขั้น โดยเลื่อนชั้นยศให้เป็น พ.อ.(พิเศษ)

ขอบคุณข่าว จาก http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000025923
.......................................

ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ จ.ส.อ.สุขุม สุวรรณพรม

[Siambrandname Webmaster]

่อ่านข่าวแล้วเศร้า

ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียคนที่รักของครอบครัว จ.ส.อ.สุขุม สุวรรณพรม ครับ

[yourfwd]

ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียคนที่รักของครอบครัว จ.ส.อ.สุขุม สุวรรณพรม

ขอบคุณความเสียสละ ที่ทำให้เราได้ อาศัยอยู่ร่วมกัน
ด้วยความเคารพนับถือในความเสียสละ อย่างสูงยิ่ง

[bookerian]

วันนี้ !!! (22 เม.ย. 2554)

ปะทะเดือด “ตาควาย-ตาเมือนธม” ทหารไทยพลีชีพ 4 นาย - อพยพ ปชช.3 หมื่น

สุรินทร์ - ปะทะเดือด ชายแดน “ปราสาทตาควาย-ตาเมือนธม” อ.พนมดงรัก สุรินทร์ ทหารไทย-เขมร ตาย 4 นาย เจ้าหน้าที่เปิดศูนย์อพยพชั่วคราว 6 แห่ง รองรับประชาชนหมู่บ้านแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หนีภัยการสู้รบรวมกว่า 3 หมื่นคน

วันนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควาย ต.บักกได อ.พนมดงรัก และที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00 น.เป็นต้นมาและเมื่อเวลา 11.00 น.เสียงปืนใหญ่ที่ยิงโต้ตอบจากฝ่ายไทย เข้าไปยังฝ่ายกัมพูชาได้เงียบลง นั้น ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับการยืนยันว่า มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบครั้งนี้ จำนวน 13 นาย และเสียชีวิต 4 นาย

รายชื่อทหารไทยที่เสียชีวิต ประกอบด้วย
1.จ.ส.อ.วิทยะ สวนชูผล สังกัด กองร้อยทหารพรานจู่โจม ที่ 960 ฐานปฏิบัติการปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.เมียง อ.พนมดงรัก เสียชีวิตที่จุดปะทะปราสาทตาเมือนธม
2.จ.ส.อ.บุญรัตน์ สุขจิตร กองร้อยทหารพราน ที่ 2606 ชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 กรมทหารราบที่ 23 พัน 4
3.พลทหาร บุญฤทธิ์ ชางาม กองร้อยทหารพราน 2606
และ4.ส.อ.ประเวช หาราช กองร้อยทหารพราน ที่ 2606 ชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) ซึ่งทหารทั้ง 3 นาย เสียชีวิตที่จุดปะทะปราสาทตาควาย และได้ลำเลียงศพมายังโรงพยาบาลพนมดงรักทั้งหมดแล้ว

สำหรับศูนย์ผู้อพยพชั่วคราวรองรับประชาชนผู้อพยพหนีภัยการสู้รบ บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ดังกล่าว ขณะนี้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้เปิดศูนย์ผู้อพยพชั่วคราวในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จำนวน 3 ศูนย์ ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านโคกกลาง, วั ดบ้านโนนสมบูรณ์, โรงเรียนบ้านโคกโบสถ์ ต.โคกกลาง อ.พนมดงรัก ในการรองประชาชนหมู่บ้านชายแดนเขต ต.ตาเมียง เป็นหลัก

ส่วนประชาชนหมู่บ้านชายแดนในเขต ต.บักได อ.พนมดงรัก และ ต.แนงมุด อ.กาบเชิง ได้อพยพไปยังศูนย์อพยพชั่วคราว ที่นิคมปราสาท อ.ปราสาท พร้อมกันนี้ ได้เปิดโรงเรียนปราสาทวิทยา ต.กังแอน และโรงเรียนโสตศึกษา ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท เป็นศูนย์อพยพชั่วคราวเพิ่มเติม โดยล่าสุด มีประชาชนอพยพเข้าไปอยู่ศูนย์อพยพแห่งละกว่า 5,000 คน รวมกว่า 3 หมื่นคน

ดูภาพ และคลิป เพิ่มได้ที่ http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9540000049555

[bookerian]

ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของทหารที่เสียชีวิต
และขอบคุณในความเสียสละของทุกท่าน

[bookerian]

แจงเหตุปะทะ เขมรล้ำเขต-ผิดข้อตกลง ทหารพลีชีพ4เจ็บ8
วันที่ 22/04/2554 12:15

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ. เผยเหตุปะทะเดือดระหว่างทหารไทย-กัมพูชา เนื่องจากเขมรล้ำเขต-ผิดข้อตกลง ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ สงบไม่ได้ยินเสียงปืนสู้รบแล้ว ขณะที่ทหารไทยพลีชีพ 4 นาย บาดเจ็บอีก 8 นาย ส่วนผู้ว่าฯ สุรินทร์ยืนยันยังไม่มีรายงานประชาชนเสียชีวิต...

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 เม.ย. พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เหตุการณ์ปะทะกันของกำลังทหาร ด้านชายแดน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ใกล้กับพื้นที่ปราสาทตาควายและตาเหมือนธม เกิดเมื่อเวลา 06.30 น. ที่ผ่านมา สาเหตุเนื่องจากทหารกัมพูชาล้ำเนิน ซึ่งเนินดังกล่าวมีข้อตกลงกัน ทางทหารทั้ง 2 ประเทศว่า ห้ามฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดดัดแปลงเนิน หรือภูมิประเทศ หรือนำอาวุธขึ้นไป ซึ่งทางไทยยืนยันว่า ทหารกัมพูชาได้ลำ้ขึ้นไปบนเนินดังกล่าว และพยายามดัดแปลงพื้นที่ ทั้งทางกัมพูชายังมีอาวุธขึ้นไป ซึ่งถือเป็นการผิดข้อตกลง ทางทหารไทยพยายามเจรจาแล้วแต่ไม่เป็นผล ทหารกัมพูชาซึ่งมีอาวุธหนัก ได้เปิดฉากยิงมาที่ทหารไทย จึงเกิดการปะทะกันขึ้น จนมีทหารไทยเสียชีวิต 4 นาย สาหัส 1 ราย บาดเจ็บจำนวน 8 ราย ผู้บาดเจ็บได้นำส่ง รพ.สุรินทร์ และ รพ.พนมดงรัก

ทางทหารไทยยืนยัน ได้ใช้อาวุธตอบโต้ตามสถานการณ์และความจำเป็น ไม่มีการใช้อาวุธเกินความจำเป็น รวมถึงพยายามควบคุมพื้นที่ไว้ไม่ให้มีการขยายออกไป ขณะเดียวกันได้มีการอพยพประชาชน ในพื้นที่ ต.บักได และ ต.ตาเมียง จำนวน 7,500 คน ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ ออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย ไปอยู่ในจุดนิคมสร้างตนเอง จำนวนประมาณ 2,000 คน มีชุดปฏิบัติการกองกำลังสุรนารี เข้าไปดูแลประชาชนและพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน ที่มีการอพยพออกมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลังทหารอื่นใด ทั้งนี้อยู่ระหว่างผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายเจรจากันเพื่อให้เหตุการณ์กลับสู่ปกติโดยเร็ว

ด้านนายเกษมศักดิ์ แสนโภชน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ว่า ขณะนี้มีประชาชนชาวบ้าน ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ด้าน อ. พนมดงรัก ใกล้กับพื้นที่ปราสาทตาควายและตาเหมือนธม ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีเกิดเหตุการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารตาม แนวชายแดน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา อพยพมาในพื้นที่ปลอดภัยที่ทางราชการได้เปิดไว้รองรับจำนวน 4 จุด และสำรองไว้อีก 3 จุดแล้ว มีจำนวนประมาณ 4,000-5,000 คน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานถึงประชาชนที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

ข่าวจาก http://thairecent.com ซึ่งนำมาจาก ไทยรัฐ