ยกรีวิวบางส่วน จากที่เคยเขียนใน Hi 5 มาไว้ใน SBNTown ครับ
หลังจากจบปริญญาตรีสายวิศวกรรม ตอนนั้นผมเป็นเด็กคนหนึ่ง ที่มีความฝัน อยากทำธุรกิจ อยากเป็นเจ้าของบริษัท อยากมีอิสระ มีรายได้สูง อยากเกษียณจากการทำงานเพื่อเงิน
ความอยากเหล่านั้นเอง เป็นตัวผลักดันให้ผมต้องนำความรู้ความสามารถที่ผมมีจากทางสายวิศวกรรม มาสร้างให้เป็นธุรกิจเพื่อที่จะตอบความต้องการที่จะเกษียณ จากการทำงานเพื่อเงิน
การรับจ้างพัฒนาโปรแกรม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในสมัยนั้น กลายเป็นสิ่งแรก ที่ผมและเพื่อนรุ่นเดียวกันคิดออกว่าจะเริ่มหาเงินและพัฒนาเป็นธุรกิจได้
เราวางแผนกันไว้อย่างดี ว่าจะรับจ้างเพื่อหาเงินเข้าบริษัท และพยายามตั้งตารางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเราเองและนำออกมาขาย เพื่อที่จะไม่ต้องทำงานรับจ้างเพื่อหาเลี้ยงชีพไปตลอด
แผนนี้ ดูเหมือนจะง่ายในความคิดและดูเหมือนว่าจะเป็นแผนที่ดี ในความเป็นจริงแล้วผมและเพื่อนๆต้องทนทุกข์อยู่หลายปี กับความไม่รู้ในการเริ่มทำธุรกิจในช่วงนั้น การได้รายได้จากการรับจ้างทำงานทางวิศวกรรมนั้น ไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด ในการทำงานแต่ละครั้ง เราสูญเสียเวลาชีวิตไปมากในเรื่องการสร้างสายสัมพันธ์กับลูกค้า มากกว่าการทำงานเสียอีก โดยรวมแล้ว เราตื่นเช้า นอนดึก หรือบางทีก็ไม่ได้นอน ทำงานหนักตลอด แต่ผลสุดท้าย หลังจากทำงานแต่ละงานสำเร็จ เราไม่เหลือทั้งเงินและเวลาที่จะนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ ดังที่เราวางแผนไว้ หลังจากผ่านวันเวลาในช่วงนั้น ผมเริ่มมองเห็นถึงอนาคตที่มืดมน ที่รออยู่เบื้องหน้า คำถามที่ว่า "ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เมื่อไรจะได้เกษียณ" เริ่มดังขึ้นในใจผมเรื่อยๆ
อยู่มาวันหนึ่ง ผมมีโอกาสได้ไปฟัง คุณเอกราช จันทร์ดอน บรรยายเกี่ยวกับการสร้างธุรกิจจากความคิดใหม่ ที่คุณเอกราชค้นพบและเขียนลงในหนังสือเรื่อง "ความลับของคน" คุณเอกราชเป็นรุ่นพี่ที่จบมหาวิทยาลัยและคณะเดียวกับผม (วิศวกรรมศาสตร์) คุณเอกราชจึงเข้าใจโลกทัศน์และปัญหาของพวกผมอย่างแจ่มแจ้ง ซึ่ง สิ่งที่คุณเอกราช พยายามเน้นย้ำตลอดการบรรยายในครั้งนั้น ก็คือ
การมองภาพสุดท้ายของธุรกิจที่เราจะทำให้ชัดเจน และสิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องตรวจสอบภาพนั้น ว่ามันเป็นไปได้ ถ้ามันเป็นไปได้ การที่จะได้มันมา จะต้องสร้างองค์ประกอบอะไรบ้าง และตัวเรามีข้อจำกัดอะไรบ้างในการสร้างสิ่งเหล่านั้น เป็นการบ้านที่ต้องทำข้อแรกก่อนที่จะเริ่มทำธุรกิจ
ในตอนนั้น ผมฟังก็ถึงบางอ้อ พร้อมๆกับเศร้าใจในความไม่รู้ของตนเองที่ผ่านมา หลังจากการบรรยาย ผมเดินไปเล่าทุกข์ที่ผมเจออยู่ให้คุณเอกราชฟัง คุณเอกราชฟังจบแล้วก็ยิ้ม แล้วตอบว่า
"ทำธุรกิจ มันมีวิธีหาลูกค้าอยู่ 2 แบบ แบบแรก หาจากสายสัมพันธ์เป็นหลัก อย่างที่นายทำมานั่นแหละ ส่วน อีกแบบ หาจากความต้องการที่แท้ัจริงของลูกค้า นายคิดว่าบริษัที่เป็นระดับโลก อย่าง Microsoft หรือ Google ตอนเริ่มประสบความสำเร็จ เขาคิดแบบไหนกันหล่ะ"
คำตอบ นี้ของคุณเอกราช ทำให้ผมถึงกับอึ้ง และรำพึงในใจว่า "ที่ผ่านมา มัวไปคิดอะไรอยู่วะเนี่ย" หลังจากนั้น คุณเอกราชก็ให้หนังสือมาเล่มหนึ่งมา แล้วบอกผมว่าหนังสือเล่มนี้ เป็นเล่มที่รวมรวมความรู้ของเขา ที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจทั้งหมด ให้ผมลองไปศึกษาดู
หนังสือเล่มนั้นชื่อว่า "ความจริง ที่ทำให้รวย"