Autumn in Japan I: Kyoto Day And Night

[Meesook]

เห็นเพื่อนๆ มารีวิวทริปญี่ปุ่นกันหลายคน ได้เห็นรูปใบไม้สีแดงแล้วทำให้อยากไปเห็นของจริงมั่ง ก็อยู่เมืองไทยเห็นแต่ใบหูกวางที่เปลี่ยนสี อยากไปเห็นใบเมเปิ้ลญี่ปุ่น (Momiji) เปลี่ยนเป็นสีแดงทั้งต้น

เมื่อปลายเดือนพ.ย. 52 ไปเที่ยวญี่ปุ่นมา 7 วัน เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี โดยเฉพาะใบเมเปิ้ลญี่ปุ่น (โมมิจิ) ถ่ายรูปมาเยอะเลยค่ะ เลยเอามารีวิวให้เพื่อนๆ ดู เผื่อเป็นทางแนวทางวางแผนเที่ยว ทริปนี้ตั้งใจตัดเป็นทริปใบไม้แดงภูมิภาคคันไซ โปรแกรม Kyoto, Himeji, Nara, Osaka ใช้เวลา 7 วันกว่าๆ (22-29 Nov) ช่วงห้าวันแรกพักที่เกียวโต และเที่ยวรอบๆ เกียวโต สี่วันหลังย้ายไปพักที่โอซาก้า (รูปเยอะมากเลยแบ่งเป็นหลายกระทู้ จะได้ไม่ทำให้กระทู้หนักมากเดี๋ยวโหลดช้า)


กระทู้แรก (กระทู้ที่กำลังอ่านอยู่นี่แหละค่ะ) Ginkaku-ji (วัดเงิน), Philosophy Walk (ทางเดินสายปรัญชา), เมือง Nara เน้นที่ Todaiji Temple (วัดโทไดจิ), ตอนเย็นพอมืดแล้ว ไปดูไฟประดับสวยๆ ที่ Kiyomizu Temple (วัดน้ำใส)

กระทู้ที่สอง http://siambrandname.com/forum/showthread.php?p=1064071148#post1064071148 ไปเมือง Arashiyama นั่ง Romantic Train (รถไฟสายโรแมนติก) และเที่ยวรอบเมืองที่น่ารักมากๆ, ดูใบไม้แดงๆ ที่วัด Tenryu-ji Temple, ดูป่าไผ่, Moon Crossing Bridge

กระทู้ที่สาม http://siambrandname.com/forum/showthread.php?p=1064088009&posted=1#post1064088009ไปดูโทริอิ (เสาแดง) หมื่นต้น! ที่ Fushimi Inari, Kinkakuji (วัดทอง) ประทับใจในความสวยที่สุด, ศาลเจ้าYasaka Jinya Shrine หรือที่คนเกียวโตเรียกว่า Gion-san, ไปดูใบไม้แดงที่วัด Eikando ตัดกับใบแปะก้วยสีเหลืองสด

กระทู้ต่อๆ ไป จะโพสรูปที่ไปตามนี้ค่ะ แต่ต้องรอแป๊บนึง เดี๋ยวว่างแล้วจะมาโพสรูปต่อนะคะ เอาโปรแกรมไปดูเล่นก่อนค่ะ

• ไป Himeji ดูปราสาท Himeji ปราสาทขาวที่สวยมากๆ
• ไปกินปูสด และ ชอปปิ้งที่ Dotomburi โอซาก้า

รูปถ่ายโดย Orihime@hotmail.com เครดิตตามลายน้ำนะคะ คุณตากล้องนอกจากจะถ่ายรูปแล้วยังเป็นคนจัดทริปด้วยค่ะ ต้องให้เครดิตกันหน่อย...

============================

Meesook ไปกับการบินไทย รักคุณเท่าฟ้า... เครื่องออกเกือบเที่ยงคืน ขึ้นเครื่องได้ก็หลับยาว...



ตื่นมาอีกทีก็เห็นรันเวย์อยู่ลิบๆ ใกล้จะถึงแล้ว...



และแล้วก็มาถึงสนามบินคันไซ โอซาก้า ประมาณ 7 โมงเช้าของญี่ปุ่น (ก็ตีห้าเวลาไทยเองง่ะ ง่วง...)



แล้วก็ไปซื้อตั๋วรถไฟ ทริปนี้ซื้อ Kansai thru pass เพื่อเดินทางข้ามเมือง ซื้อเป็นตั๋วเหมา 3 วันคุ้มมากๆ ค่ะ เพราะบางเส้นทางราคาก็แพงกว่าตั๋วเหมา 3 วันแล้ว ตั๋วเหมานี่ต้องแสดง passport ด้วยค่ะ เพราะเค้าขายให้ชาวต่างชาติเท่านั้น เป็นการ promote การท่องเที่ยวของญี่ปุ่นค่ะ


แล้วก็ซื้อตั๋ว JR west:Kansai area pass ไว้เดินทางในเมือง ใบเดียวใช้ได้ทั้งวัน ทั้งรถไฟ รถเมล์ ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกค่ะ

ออกมานอกสนามบินเพื่อไป platform รถไฟ เห็นใบไม้แดงนิดๆ ก็ค่อยใจชื้นหน่อย ทริปนี้ได้เห็นใบไม้แดงแน่ๆ


รถไฟขบวนนี้ที่พาเราไปเกียวโตค่ะ



รถไฟสะอาด กว้างขวาง อุ่นสบาย... ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที และ Meesook ก็หลับไปตลอดทางค่ะ zzz...zzz...



แล้วก็มาถึงสถานีเกียวโต Kyoto Station คนแน่นมากๆ นี่ประมาณ 8 โมงเช้า ชาวญี่ปุ่นออกมาเที่ยวกันวันอาทิตย์




เดินจาก Kyoto Station ประมาณ 20 นาที (รวมหลงทาง)ก็ไปถึงที่พักจองไว้ เป็นโรงแรมแบบญี่ปุ่น "เรียวกัง (Ryokan)" แหมในเวปไซต์ทางเรียวกังบอกว่า เดินจากสถานีเกียวโต แค่ 7 นาทีก็ถึง คนญี่ปุ่นเดินเร็ว แต่พี่ไทยเราล่อไป 15 นาที หลังๆ เลยจำไว้ว่าถ้าคนญี่ปุ่นบอกว่าเดินนิดเดียว ก็คูณสองเข้าไปเลยค่ะ

แถมคุณนายมีสุขยังต้องลากกระเป๋าเองอีกตังหาก มาถึงเรียวกัง กะจะนอนเอาแรง ปรากฏว่ามาถึงเช้าเกินไป ยังเช็คอินไม่ได้...



ก็เลยพัก เดินดูรอบๆ เรียวกังก่อน น่ารักดีค่ะ



ใส่ใจทุกรายละเอียด



ตุ๊กตาตัวนี้วางอยู่บนตู้รองเท้า ที่เรียวกังไม่ให้ใส่รองเท้า (เหมือนบ้านไทยเลยแฮะ) ต้องถอดรองเท้าเก็บไว้ในตู้นี้ หรือไม่ก็ถือเข้าห้องตัวเองไปค่ะ ตุ๊กตานี้เป็นตุ๊กตาโชคดี (จำชื่อไม่ได้อะ) มีป้ายบอกไว้ว่า ให้เอามือถูฝ่าเท้าตุ๊กตา แล้วอธิษฐาน พร้อมทั้งทิ้งเหรียญไว้ แล้วจะสมปรารถนา แล้วทางเรียวกังจะเอาเงินไปทำบุญค่ะ



ครัวของทางเรียวกัง





ฝากของไว้ที่เรียวกังแล้วก็เตรียมตัวเที่ยว



แต่กองทัพเดินได้ด้วยท้อง ก็เลยไปกินข้าวที่ร้านแถวๆ ที่พัก เป็นอาหารหยอดเหรียญ หยอดเหรียญใส่ตู้ เลือกอาหาร แล้วอาหารก็หล่นลงมาเลยค่ะ!

ล้อเล่น... พอกดเลือกอาหารแล้ว ตู้นี้ก็จะส่งสัญญานไปในครัวให้เตรียมอาหาร แล้วพนักงานก็จะเอาอาหารออกมาให้ที่เค้าน์เตอร์ เราก็รับอาหาร แล้วไปกินที่โต๊ะ ทั้งหมดนี้ไม่เกิน 5 นาทีเลยค่ะ



มื้อแรกในเกียวโต คือข้าวหมูทอดแกงกะหรี่... อร่อย... อิ่ม... พร้อมลุย!

[Meesook]

ก่อนออกจากเรียวกัง ก็ถามเจ้าของเรียวกังว่าวันนี้มีใบไม้ที่ไหนเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้วมั่ง เจ้าของเรียวกังบอกว่าให้ลองไปวัดเงิน Ginkaku-ji เธอบอกว่าตอนนี้กำลัง peak เลย แล้ววัดก็เพิ่งซ่อมเสร็จด้วย น่าจะสวย เราก็ตกลงว่าวันนี้จะไปเที่ยววัดเงิน แล้วจะไปเดินถนนสายปรัญชา Philosophy Walk

พอกินข้าวเสร็จ เราก็เดินกลับไปที่ Kyoto Station เพื่อจะไปขึ้นรถเมล์ คนรอรถเมล์เยอะมากๆ วันอาทิตย์อย่างนี้ ชาวญี่ปุ่นออกมาเที่ยวกันแน่นเมืองเลยค่ะ



เจอเด็กแนวญี่ปุ่น มาแร๊พโย่อยู่ตรงนี้



รถเมล์ก็แน่นขนาดนี้



คนแน่น แล้วก็รถติดด้วยค่ะ ใช้เวลา 40 นาที ถึงจะมาถึงค่ะ



มาถึงวัดเงิน ปรากฏว่าวัดยังอยู่ระหว่างการซ่อม อ้าว เลยถ่ายรูปได้แค่มุมหลังคาวัด ใบไม้ก็พอจะแดงบ้าง แต่ไม่มากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ยังเขียวๆ อยู่เลยค่ะ



วัดนี้จัดทราย จัดหินได้สวยเก๋ และมีความหมาย (แต่อ่านไม่ออกง่ะ)



ตามทางที่ให้เดิน ก็กวาดเป็นลายสวยๆ อยู่ตลอด พอคนว่างก็มากวาดค่ะ



มีนกกระสา (หรือนกกะยางนี่แหละ เรียกไม่ถูกอะค่ะ)





ใบไม้เริ่มเปลี่ยนเป็นเหลืองนิดๆ



มีแดงบ้างประปราย



เมื่อกี้เจอเด็กแนว ตอนนี้เจอน้องหนูแก้มใส น่ารักมากๆ ค่ะ



ออกจากวัดก็มาเดินถนนสายปรัชญา แต่... คนแน่นหยั่งงี้ มันจะสงบได้ไงเนี่ย... ฝนก็ตั้งเค้ามาแล้วด้วย ต้องรีบๆ เดิน



เหมียวอยากกินมั่งง่ะ...



ส่วนร้านนี้มีน้องหมีนั่งเคียงกันอยู่หน้าร้าน



ในที่สุด ก็หนีฝนไม่ทัน... ต้องวิ่งไปหลบฝนที่ร้านโยจิยะ เป็นร้านขนมชื่อดัง แต่ไม่ได้กินขนมเลย เพราะคิวยาวมากๆ ก็เลยไปชอปปิ้ง ซื้อเครื่องสำอางของร้านนี้แทน Yojiya นี่ดังในเรื่องกระดาษซับหน้ามัน ที่เค้าว่ากันว่าเทพมากๆ และมีขายในเกียวโตที่เดียวเท่านั้น Meesook ลองซื้อมาใช้ ก็เทพจริงๆ ค่ะ ซับมันออก แต่ไม่ทำให้หน้าแห้ง...





ฝนตก ไปไหนไม่ได้แล้ว ก็เลยกลับไปที่ Kyoto Station กินอาหารเย็น แล้วก็กลับไปที่เรียวกัง ได้พักผ่อนนอนหลับซะที...


ชอบหน้าต่างกระดาษมากเลยค่ะ ดูญี่ปุ้น ญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้วมีหน้าต่างกระจกซ้อนอยู่นะคะ ไม่งั้นหนาวแย่เลย...



เห็นตู้เก็บผ้าห่มอย่างนี้ นึกว่าจะมีโดราเอมอนนอนอยู่ในตู้ด้วย...

[bow33]

ภาพสวยจังค่ะ ดูบรรยากาศดีมากมายเลย เห็นของคุณมีสุขแล้ว ตัวเองฝีมือระดับอนุบาลเลยจ้า

ขอบคุณภาพบรรยากาศดีๆที่มีมาแบ่งปันกันนะคะ

[Meesook]

วันที่สอง ดูพยากรณ์อากาศแล้วเค้าว่าจะอากาศดี ฝนไม่ตก ก็เลยจะไปเมือง Nara กันค่ะ



อาหารเช้า yum yum...



นั่งรถไฟ Nara line จาก Kyoto sta. ไป Nara sta. อย่าลืมขึ้น express train นะ อย่าไปขึ้น local นะคะ ไม่งั้นกว่าจะถึง Nara ก็แสงหมดพอดี...



ในชั่วโมงเร่งด่วน มีรถไฟขบวนพิเศษ สำหรับผู้หญิงเท่านั้น เพื่อลดปัญหาการถูกลวนลามค่ะ เมืองไทยน่าจะมีแบบนี้มั่งนะคะเนี่ย โดยเฉพาะรถเมล์สำหรับผู้หญิง



นั่งรถประมาณ 60 นาทีก็ถึงค่ะ อย่าลืมออกมาเอาแผนที่กับคำแนะนำในการเที่ยวกับ Tourist information มาด้วยนะคะ ที่ญี่ปุ่นเค้าให้คนสูงอายุ ประมาณว่า retire แล้ว มาเป็น volunteerช่วยให้ข้อมูลนักท่องเที่ยว volunteer ทุกคนพูดภาษาอังกฤษได้ดีมากๆ ค่ะ แต่ว่าคุณป้ามักจะบอกให้เดิน จะได้ชมเมืองค่ะ แต่เราไม่เชื่อป้าดีกว่า เพราะว่าเห็นรถเมล์วิ่งกันเต็มเมือง มันต้องมีไปจอดป้ายที่เราต้องการมั่งแหละ แล้วอีกอย่าง แพลนกันว่าจะไปแค่วัดใหญ่ Todaiji อย่างเดียวเท่านั้น เราก็ยืนยันที่จะขึ้นรถเมล์ ป้าก็เลยบอกว่าให้แวะที่ Yoshikien Garden ก่อน จะได้ลงจากรถก่อนจะถึงโซนรถติด (ก่อนเข้า Nara park)

ก็นั่ง Nara Loop bus ลงที่ป้าย Kensho Higashi รถเมล์ที่นี่ดีมากๆ มีหน้าจอให้ดูว่าถึงป้ายไหนแล้ว เพื่อนักท่องเที่ยวจะได้ไม่หลงทางค่ะ





ใน Garden ก็มักจะมีบ่อน้ำ สวนหินสวยๆ



เจอใบไม้แดงนิดหน่อยต้องรีบถ่ายรูปค่ะ





ป้ายเค้าบอกให้ระวังหัวชน



แล้วก็โดนจนได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...



ในเมืองนารา มีกวางออกมาเดินทั่วๆ ไป น่าร๊าก....



ดูสิ มาถ่ายรูปใกล้ๆ หยั่งงี้เค้าก็ไม่หนี



มาถึงเขตวัดใหญ่แล้ว ก็เห็นกวางจุ๊บเด็ก น่ารักจัง (จริงๆ ไม่ได้จุ๊บหรอกค่ะ กวางเค้าจะแย่งขนมจากหนูน้อยคนนี้มากกว่าค่ะ)



นักเรียนก็มาทัศนศึกษาที่วัด Todaiji เหมือนกัน คนญี่ปุ่นเที่ยวในญี่ปุ่นเองก็เยอะค่ะ



แฮ่ม... สาวญี่ปุ่นนุ่งสั้นเข้าวัด



วัดใหญ่ Todaiji ใหญ่จริงๆ นะคะ ผู้คนดูตัวนิ๊ดเดียวเมื่อเทียบกับโบสถ์











ที่ทางเข้าโบสถ์ มีที่ให้จุดธูปอธิษฐานค่ะ



แล้วกวักควันธูปเข้าหาตัว เพื่อเป็นสิริมงคลค่ะ

[Meesook]

วัดใหญ่ ก็ต้องมีพระใหญ่ ใหญ่โตมากๆ.....



ในโบสถ์ มีเสาให้ลอดเพื่อความโชคดีค่ะ เชื่อกันว่าถ้าเด็กๆ มาลอดเสานี้ จะเรียนเก่ง

ตอนขาเข้าก็ดูโอเคกันนะคะ



แต่ขาออกนี่ดูไม่จืดกันทั้งนั้นเลยค่ะ



ออกจากวัดใหญ่ก็ประมาณสี่โมงกว่าแล้ว แต่ฝูงชนก็ยังแน่น... วันนั้นเป็นวันแรงงานของญี่ปุ่นค่ะ ทุกคนหยุดงานก็ออกมาเที่ยวกัน

[greenpark]

แง่ว แง่ว สวยจังค่ะ อยากไปญี่ปุ่นมากไม่รู้จะได้ไปเมื่อไหร่ ขอบคุณมากนะคะที่ทำรีวิวสวยๆมาฝากค่ะ

[Meesook]

จากนารา เราก็กลับไปเกียวโตกัน แต่ว่าจะไปดูไฟที่วัดน้ำใส Kiyomizu วัดเปิดจนถึงสี่ทุ่มเลยค่ะ นั่งรถไฟจากนารา มาเปลี่ยนเป็นสาย Keihan Railway แล้วนั่ง Keihan Shuttle ไปที่วัด ช่วงที่มีแสดงไฟนี่จะมี Shuttle Bus ให้นั่งไปฟรีค่ะ


คนเยอะมากๆ... และก็เริ่มหนาวขึ้นๆ เรื่อยๆ ทั้งๆ ที่คนเยอะ ทางไปวัดต้องเดินขึ้นเขาไปอีก เมื่อยมาก...


ไปเที่ยวมาทั้งวัน แล้วต้องมาเจอคนเยอะๆ อีก เหนื่อยและหิวมากค่ะ เลยแวะร้านข้างทางระหว่างที่เดินขึ้นเขา


ได้ซาลาเปาชาเขียวร้อนๆ มากิน ค่อยยังชั่วหน่อยค่ะ


ว้าก ดูจำนวนคนสิคะ แค่เห็นก็มึนแล้วอะ...


แต่ก็ฝ่าเข้ามาจนได้ แสงสวยจริงๆ ค่ะ




โบสถ์หลังนั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิให้บูชาเยอะ ผู้คนเลยไปมุงกันมากมาย แต่ Meesook ไม่กล้าเข้าไป กลัวโบสถ์จะถล่มลงมา คนเยอะมากจนน่ากลัวค่ะ




หิวมาก กำลังคิดอยู่ว่าจะไปกินที่ไหนดี ก็พอดีเดินผ่านร้านนี้อยู่ในวัด เต้าหู้เกียวโตนี่อ่านมาว่าห้ามพลาดเลยค่ะ เป็นหนึ่งในของดีเกียวโต พอเห็นก็ต้องรีบลองกิน กำลังหิวอยู่พอดีเลยด้วย อร่อยมากๆ... เต้าหู้ร้อนๆ เข้มข้นกำลังดี เต้าหู้ ร้อน นุ่ม หวาน หอม ครบทุกรสเลยค่ะ ทานกับซอสที่เค้าออกแบบถ้วยได้เก๋มาก ตัวถ้วยเวลาวางบนฝาหม้อจะยื่นลงไปในน้ำซุปที่ร้อนๆ ทำให้ซอสร้อนตลอดเวลา ของเค้าดีจริงๆ ค่ะ highly recommend ค่ะ


วัดน้ำใส มีน้ำศักดิ์สิทธิให้ดื่มกัน ประมาณน้ำมนต์น่ะค่ะ น้ำแต่ละสาย ก็ให้ความศักดิ์สิทธิในเรื่องต่างๆ กัน ต้องเอาถ้วยไปรองน้ำแต่ละสายมาดื่ม ถ้วยก็ได้รับการฉายแสง ultra violet ทำความสะอาด แต่ยังไง Meesook ก็ไม่กล้าอะค่ะ ถ้วยเดียวใช้กันทุกคนแบบนี้ อธิษฐานอยู่ด้านนอกก็พอละ...



พอออกจากวัด ก็พบว่า Shuttle Bus หมดแล้ว ต้องเดินลงจากเขาแล้วหาทางกลับไปสถานีรถไฟเอง แง๊ว... เดินลงเขามา 10 นาที เกือบหมดแรงเต้าหู้เลย แล้วยังต้องมารอรถเมล์อีก 20 นาที รถแท๊กซี่ก็ไม่มีว่างเลย ก็ต้องรอรถเมล์ไปเรื่อยๆ เฮ้อ...อยู่เมืองไทยไม่ได้ใช้บริการรถเมล์เลย มาญี่ปุ่นนี่ ขึ้นรถเมล์จนเกินคุ้มค่าตั๋วเลยค่ะ แต่ก็เอาน่ะ เหนื่อย แต่ก็สนุกมากค่ะ

ถ่ายให้ดูว่ารถเมล์คนแน่นมากจริงๆ แต่ยังไงเค้าก็ปิดประตูรถ ไม่มีห้อยโหนออกมานอกรถอย่างที่กรุงเทพค่ะ





กระทู้นี้คงจบแค่วันที่สองก่อนนะคะ รูปเยอะแล้ว กลัวว่าเดี๋ยวกระทู้จะหนักเกินไปค่ะ เดี๋ยววันหลังมาโพสต่อนะคะ ยังมีรูปอีก 7 วันแน่ะ วันที่ใบไม้แดง peak แจ่มๆ เลย จะเป็นวันที่ 3-4 ค่ะ (แต่ในเวปนี้ โพสรูปแล้วสี drop ลงไปเยอะเลยค่ะ)

enjoy ka...

[tulip]

รูปสวยมากเลยค่ะ ดูแล้วมีความสุขจริงๆ

หลิปก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นมาช่วงปีใหม่ แต่เสียดายไม่ได้ลงไปแถวเกียวโตเลย

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เดินทางสะดวก เหมาะสำหรับนักท่ิองเที่ยวมากๆเลยนะคะว่ามั้ย ^^

การเที่ยวเองสนุกกว่าไปกับทัวร์แน่นอน แต่ก็แลกมาด้วยความลำบากเวลาที่ต้องย้ายที่พัก

เรียกว่าลากกระเป๋ากันกล้ามขึ้นเลย

หลิปก็อยากเอารูปมารีวิวบ้าง แต่รูปเยอะมากๆเลย

ตอนแรกแอบสงสัยว่าคุณมีสุขไปกะใครน๊า ที่แท้ก็คุณหมอนี่เอง

อิจฉาๆ คนได้ไปกะช่างกล้องมืออาชีพ รูปหลิปนี่หาสวยๆยากมาก T_T

กำลังพยายามคัดเลือกอยู่ ไว้จะมาลงนะคะ อิอิ


ปล. วัดน้ำใสเป็นสถานที่ๆมีชื่อเสียงมากๆค่ะในการชมใบไม้แดง อิจฉาคนได้ไปเยือนจริ๊งจริง
ถ้ามีทริปหน้าหลิปสมัครไปด้วยคนนะคะ ^^"

[wnonach]

สวยมากๆค่ะ ยิ่งเห็นยิ่งอยากไป อยากเห็นวัดญี่ปุ่นค่ะ ชอบในแบบของเขาดูขลังดี ขอบคุณคุณ Meesook มากนะคะ ที่นำรูปสวยๆมาฝากกันค่ะ

[wawe]

ขอบคุณคุณMeesook มาก ๆ นะคะ ชมภาพเพลินไปเลย พี่จะรอชมรอบต่อไปอีกนะคะ