เหอๆๆๆเพื่อนๆอย่า ต๊ก กา จัย นะครับ

ก็ไม่รู้จะตั้งหัวข้ออย่างไร กลัวว่าเพื่อนๆจะหาว่า
"ลุง เว่อ เกินไป"

ก็เล่าเลยละกัน เนอะ
ในสมัยโน้นๆๆๆๆที่จบ ม.ศ.5 (หรือ ม.8) ก็โดนจับยัดขึ้นเครื่อง KLM
ไป ฉึกฉา ที่ amsterdam ที่ไปที่โน่นก็เพราะ เราเป็นตัวแทนจําหน่ายสินค้า
เคมีภัณฑ์ของเค้า เหอๆๆๆ ก็งานเข้าสิครับ
ทางคุณพ่อคงเห็นว่า ถ้าอยู่เมือง siam ก็คงไม่หนีน้องๆ ตี๋ใหญ่ แน่ๆ
ผมอาจจะเป็น ตี๋แป๊บ ก็ได้ เพราะชอบ แกว่งร่างกาย
ให้มีรอยแผลอยู่บ่อยๆ ฮ่าๆๆๆๆ

หลังสุดโดนไม้คมแฝก(สมัยโน้น อย่างดีที่น่ากลัวที่สุดก็ แค่ มีดดาบ)
เข้าที่กลางหัว เหอๆๆๆ ก็หลายเข็มอยู่ หามส่งโรงเย็บ ศิริราช แบบว่า เย็บกันสดๆ..
ชนิดหมอไม่ต้องวางยา...23 เข็ม เหอๆๆๆสบายศรีษะเลย.ดีนะที่ไม่โดนที่ขมับ ไม่อย่างนั้นผมได้ไปเกิดใหม่แล้ว...
ตอนที่หมอเย็บ คงคิดว่า
ไอ้นี่กบาลแข็วโว้ย..แค่หัวฉีก แต่กะโหลกไม่แตก.ฮ่าๆๆๆๆๆ


งานนี้พอหายก็โดนจับส่ง เมืองนอก เมืองนา.....
ฉายเดี่ยวครับ..พอไปถึงโน่น ก็ ไก่ตาแตกไงครับ...
ทางโรงงานที่โน่นส่งคนมารับเรา. ที่เห็นได้ก็จากป้ายตัวโตๆ

MR. PEP
เหอๆๆเราเอง...คนขับก็มุ่งหน้าเข้าที่พักทันที
แฟล็ต...คนแก่
ฟังจากคนขับรถ เค้าว่า เป็นห้องของ พ่อ แม่ เจ้าของโรงงาน...
เพราะเมื่อคนแก่ตัว รัฐบาลเค้าดูแล และลูกหลานจะให้มาอยู่แฟล็ตสําหรับคนมีอายุ.

ก็ดีครับ เงียบดี ไม่วุ่นวาย
พอสายๆ รองผู้จัดการก็มาหาแล้วพาไปที่โรงงานผลิต..อยู่บนถนน huizen ก็ใหญ่โตดี

ก็หน้าแตกอยู่หลายหน ไอ้เรื่องการกินนี่แหล่ะ
กลางวันเค้าพาเราไปกินข้างนอก..
เค้าถามจะกินอะไรดี....ฮ่าๆๆๆๆ

ภาษา ดัช ครายยยจะไปอ่านออก...
และอีกอย่าง อิอิ ไปเมืองนอก ก็ต้องกิน

ไข่ดาวหมูแฮม


คนรับ order มองหน้าเลย
แล้วก็หันไปพูดกับคนที่พาเราไปกินกลางวัน เหอๆๆๆส่งภาษาที่เราฟังไม่รู้เรื่อง
แล้วก็หัวเราะกัน ไอ้เราก็สงสัย...แต่ก็ไม่รู้จะถามไง ฮ่าๆๆๆ

เลยได้ ไข่ดาวหมูแฮมสมใจ...
แต่พอตกเย็น งานนี้ก็โดดเดี่ยวสิครับ หิวก็หิว เงียบก็เงียบ เหงาก็เหงา...ไม่มีผู้คนออกมาเดินเลย...ต่างคนต่างเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านจริงๆ

ไอ้เราก็เดินหาร้านอาหาร...แต่ละร้านก็ไม่กล้าเข้า เพราะพูดกับใครไม่รู้เรื่อง
เดินๆไปก็ไปพบ พนักงานและคนในร้านหัวดําเหมือนเรา เหอๆๆๆๆ
ก็รีบแวะสิครับ.

ที่ไหนได้ เป็นร้านของคนอินโดนีเซีย ก็ช่างเถอะเพราะหัวดําเหมือนกัน
พนักงานก็เอาเมนูมาส่งให้
เราก็ได้แต่ดู...
ก็ไปชอบเอาเมนู คล้ายๆบ้านเรา
มีทั้งหมูสะเต็ ไข่ดาวยางมะตูม และข้าวแบบข้าวผัด ตามด้วยของเผ็ดคือน้ำพริกเผา.

นั่งคือ
" นาซิโกแรงค์"

ก็ OK ครับ ได้กินข้าว ออกเผ็ดน้อยๆ
พอกินเสร็จ เจ้าของร้านก็เข้ามาคุยกับเรา เค้าคงเห็นแล้วว่า ไม่ใช่คนอินโด แน่...
เค้าถามเรามาจากไหน..
เราก็บอกมาจาก thailand เค้าบอก ไม่รู้จัก เหอๆๆๆๆ
แต่บอกว่ามาจาก siam เหอๆๆๆเค้ารู้

และเค้ายังแนะนําเราว่า...พวกฝรั่ง เค้าออกจะเหยียดผิวนะ...ยิ่งเป็นคนหัวดํา
เค้าจะคิดว่า เป็นคนอินโดนีเซียหมด และอินโด เป็นเมืองขึ้นของเค้า...
ถ้าไปร้านฝรั่ง เค้าจะไม่ค่อยต้อนรับ


และหลังวันต่อๆมา ผมก็โดนส่งไปเรียนที่ในตัวเมือง ตั้งแต่ 8 โมงเช้า พอสายๆ
บ่ายโมง..ก็เข้าโรงงาน ฝึกงานต่อ...งานนี้ก็ ดมๆๆๆๆๆอย่างเดียว
เพราะเคมีอาหาร จะเป็นพวกหัวกลิ่นน้ำหอมต่างๆ

เช่นกลิ่น มะลิ ส่วนผสมมีทั้งหมดเป็นร้อยตัว ต้องเอาตัวไหนผสมตัวไหน แล้วออกมาเป็นกลิ่นมะลิ...เหอๆๆๆนี่แค่กลิ่นเดียวนะครับ.

ตอนไปเรียนที่ตัวเมือง เหอๆๆผมมีเรื่องตลกมาเล่าให้ฟัง กร๊ากๆๆๆๆๆ
ก็รู้ๆอยู่ สมัยหนุ่มๆ ก็หนีไม่พ้นเรื่อง sex sex อิอิ ไอ้เราก็แวะเข้าไปร้าน sex shop
และขอบอกตรงๆว่า มากมาย หลายร้านมากๆ..

แบบว่าโชว์กันเรียกลูกค้าเลยเชียว.
ไอ้ผมก็กระมิดกระเมี้ยนเข้าไป ศึกษา อิอิ แบบว่าไม่เคยเห็น เดินเข้าไปดูแต่ไม่กล้าหยิบ
ยิ่งเรา กลัวๆ ก็กลายเป็นจุดเด่นเลยครับ พี่น้อง...
ทุกสายตามองมาทางผม...
แบบว่าไอ้นี่มาแปลก..
เพราะที่โน่นเค้าแบบเสรี...แบบหยิบก็หยิบเลย กางกันดู จะจะกันไปเลย
ไอ้ผมมันเปิดแบบแอบๆ...ฮ่าๆๆๆๆก็เลยเป็นจุดเด่นไง.


เหอๆๆๆไปทีเดียวเข็ด ไม่เข้าอีกแล้ว...บอกตรงๆว่า อาย ตอนเค้ามอง ยิ่งพวกผู้หญิง มองเราแบบว่า อมยิ้มกันใหญ่



และพวกวัยรุ่นที่โน่น เหอๆๆจะตัวใหญ่มากๆ อีกทั้งสูง..ชุดที่เจ๋งที่สุดคือ ชุดรองเท้าไม้ และอีกมือจุงหมา...woooww นิยมมากๆ

จาก ไม่มีเพื่อน....จนเพื่อนเริ่มมา.

ไปแรกๆผมไม่มีเพื่อนเลย...พอตกตอยเย็น 4 โมงเย็นก็เงียบแล้ว
หนาวก็หนาว ไม่มีอะไรทํา ไปเดินห้าง แวะซื้อปลอกหมอนข้างขนาดใหญ่ที่ทําด้วยหนัง
ซื้อมา 4-5 ใบ แล้วก็เชือกเส้นใหญ่ๆ...จัดการครับ เอาปลอกหมอนซ้อนหลายๆใบ แล้วใส่ทรายลงไปให้เต็ม...แล้วก็แขวนมันที่ใต้ถุนแฟล็ต ออกกําลังไงครับ

มวยไทย ซ้อมเตะ ซ้อมต่อย เสียง ปังๆๆๆจากแรงเต๊ะ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเด็กไทยที่เป็นเรื่องมวยไทยมาแต่ไหนแต่ไร...ได้ผลครับ บ้านเด็กรอบข้าง ก็ออกมาดู ตามเสียงป่วนประสาท..เหอๆๆๆๆ
แบบว่ามองผมซ้อมชนิด แบบว่า ตกใจ ไม่เคยเห็น.

หลังจากนั้น ก็เป็นแหล่งรวมวัยรุ่น ทั้งผู้หญิง ชาย..อีกทั้งคนแก่ ฮ่าๆๆๆๆ
แบบว่ามาขอเป็นศิษย์ ไอ้เราก็ใจดีครับ...อิอิ สอนให้..
แบบว่าชอบใจกันใหญ่...พวกเค้าจะเตะกันไม่เป็น..
ส่วนพวกพ่อ แม่เด็กก็ดีใจ ที่เราสอนศิลปะป้องกันตัวให้ลูกๆเค้า..
ส่วนคนแก่ๆก็ออกมารวมสนุกโดยการเชียร์..ก็ดีไปอย่างเพราะทําให้ชีวิตคนมีอายุได้ออกมาสัมผัสกับพวกเด็กๆ แทนที่จะคิดว่า ลูกเต้าทอดทิ้ง..

หลังจากนั้นก็ไม่เคยว่างเลย ต้องนัดกันเป็นวันๆไป..เพราะแต่ละบ้านของพวกเด็กๆที่มาฝีก ได้เชิญกินข้าวที่บ้าน. แบบว่าจองกันเป็นอาทิตย์เลย ....ส่วนพอค่ำๆก็ต้องไปนั่งเล่นนั่งคุยกับพวกคนแก่ๆ เพราะเค้าอยากรู้ประวัติของเมื่อง siam ฮ่าๆๆๆๆๆ

วันนี้ขอจบ ภาคแรกก่อนนะครับ...
ไว้ผมจะมาเล่าต่อภาค 2

ภาค 2....ตอนมีเรื่องกับพวกไอ้มืด ที่amsterdam


pepsi5510