Citizen Member / 
Trusted Member
เพื่ออ่านคู่มือ ของเครื่องมือใดๆ ที่มีเครื่องหมายนี้ 
Previous
Downtown
itasian
ต้มกระดูกหมู ฟักเขียว & ผักกาดดอง ครั้งแรกของผม
เนื่องจาก เวลาผมและเพื่อนร่วมงานไปทานบะหมี่ที่ไหน มักจะถามเจ้าของร้านว่า "มีน้ำซุปพร้อมกระดูกไหมพี่"
หลายๆ เจ้าเขาก็ให้เรามากินชามโตๆ แต่ก็ยังไม่สะใจเรา
เราจึงตัดสินใจ ไปซื้อกระดูกมาต้มกินกัน ครับ
ดังนั้น เมนูของผมวันนี้ ก็คือ ต้มกระดูกหมูฟักเขียว และ ต้มกระดูกหมูผักกาดดอง ครับ
ทั้ง 2 หม้อ มีลำดับขั้นตอนที่ผมใช้ค่อนข้างเหมือนกัน คือ
1.ต้มน้ำ
2.ต้มกระดูกหมู
3.ใส่เครื่องเทศ ทำแบบตุ๋นยาจีน
4.ใส่ผัก
5.ปรุงรส
เริ่มที่หม้อแรก ต้มกระดูำกหมูฟักเขียว ครับ
พอได้หมูมา ก็เอามาล้างด้วยเกลือ ผมล้าง 3 รอบ ครับ กลัวคาว
จากนั้นต้มน้ำให้เดือดพลั่กๆ เลย แล้วค่อยใส่ กระดูกหมู ลงไป
พอกระดูกหมูสุก ผมก็ใส่เครื่องเทศ ตุ๋นยาจีน ลงไป
แล้วก็ต้มอีกซักพัก พอให้เครื่องเทศละลายเข้ากัน
และตามด้วยฟักเขียว จากนั้นก็ปรุงรส ครับ
ผมใส่เกลือ กับ น้ำปลา เนื่องด้วยความกลัวเค็ม เพราะไม่รู้ว่า ขนาดไหนที่พอดีอร่อย
จึงใส่ไปไม่มากนัก ให้มีรสเค็มหน่อยๆ แต่ กลัวไม่อร่อย จึงใส่ผงมาม่าไป 1 ซอง
ทำให้รสดีขึ้นมาบ้าง แล้วก็ต้มอีกพักจึงปิดไฟ
แต่ยังไม่ทานนะครับ มาทานวันรุ่งขึ้นครับ
ตอนเช้าลองชิม รสชาติดีขึ้นมานิดนึง เพราะได้ความหวานของฟัก
ทำให้ เกลือและน้ำปลา ไม่เค็มเกินไป แต่ก็รู้สึกว่า ยังขาดบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่า คืออะไร
เพื่อนเข้ามาเห็น ก็เลยบอกว่า ลองใส่น้ำมันหอย ซัก 1 ทัพพี
ผมลองทำตาม แล้วก็ต้มจนเดือด อืมม.... รสชาติดีครับ นุ่มลิ้น
(น่าเสียดาย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ครับ)
หมดเกลี้ยงภายในวันเดียวครับ ทานกัน 2 มื้อครับ
ส่วนกระดูกที่กินกัน เต็ม 2-3 ถ้วย ก็เอาไปทำปุ๋ยให้ต้นไม้ครับ
คืนสู่ดิน และเป็นประโยชน์กับธรรมชาิติ ต่อไปครับ
หม้อที่ 2 ครับ
ต้มกระดูกผักกาดดอง
เริ่มด้วย ล้างผัก ล้างหมู ด้วยน้ำผสมเกลือ 3 รอบ เช่นเดิมครับ
แต่ ใส่เครื่องเทศพร้อมกับต้มน้ำ เลยครับ พอเดือดแล้วก็เอา
กระดูกหมูไปลงต้ม คราวนี้ ต้มไว้นานนนน ประมาณ 2 ชม.ได้ครับ
จึงเริ่มปรุงรส เช่นเดิมครับ เกลือกับน้ำปลา แต่ ยังไม่ได้รสชาติพอ
จึงใส่น้ำมันหอย 1 ทัพพี เช่นเดิม รสชาติดีขึ้นหน่อย
ไม่คิดเลยว่า น้ำมันหอย ซึ่งเป็นเครื่องปรุงสำหรับผัด จะทำให้ต้มอร่อยได้
แต่ หม้อนี้ รสชาติเด่นจะเป็นของผักกาดดองครับ ซึ่งดองเปรี้ยว
ถ้าปรุงรสไม่เก่ง คงไม่สามารถลดความเปรี้ยวและกลมกล่อมได้
และผม ปรุงรส ไม่เก่งครับ จากหม้อแรก ทำให้รู้ว่า ส่วนที่ยากคือปรุงรส
จะปรุงรส อย่างไรให้พอดีอร่อย อันนี้ ยากมาก หม้อแรก ผมยังไม่ผ่าน
หม้อสอง จึงปรุงไปส่วนนึง แล้วใส่ผักกาดดอง เพราะอยากเห็นผลว่า
ถ้าปรุงก่อนแล้วใส่ัผักกาดดอง ผลจะออกมาเป็นยังไง
จึงได้รู้ว่า รสเปรี้ยวของผักกาดดองกลบหมด
จึงต้องปรุงเพิ่ม ครับ คราวนี้ถึงมือเพื่อน พ่อครัวเอก อีกแล้วครับ
เข้ามาแบ่งปันวิชาครับ เอาเกลือมาใส่เพิ่ม น้ำปลาเพิ่ม และเติมซอสแม็กกี้ลงไปหน่อย
ต้มอีกหน่อย ก็ใช้ได้ครับ ได้ครบรสหน่อยครับ คราวนี้
สรุป หม้อนี้ ผมก็ยังไม่ผ่านครับ
สำหรับผม รู้สึกว่า ส่วนที่ยากที่สุด ก็คือ การปรุง แหละครับ
เพราะปัญหาคือ จะปรุงอย่างไร ใ้ห้พอดีอร่อย อันนี้ยากครับ
ปกติ ผมเป็นคนกินแล้ว แยกไม่ค่อยออกว่า รสชาติแต่ละอย่างเป็นยังไง
ผมยังต้องฝึกอีกเยอะครับ คงต้องทำอีกหลายหม้อล่ะครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับ ท่านอาจารย์ทั้งหลาย เอาการบ้านมาส่งครับ
ผมทำอย่างนี้ มีคำแนะนำ ติชม เพิ่มเติม ตรงไหนบ้างครับ
ขอบคุณมากครับ
ปล.เรื่องราวยังมีต่อครับ มีตอนจบอยู่ที่ โพสต์ #7 ครับ
Reply With Quote
Originally Posted by Wantana Chayhun
BIG THANKS FOR SBN
