วงการภาพยนตร์กับการขายและรับซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์

ปัจจุบันร้านรับซื้อนาฬิกา rolex มักเป็นที่พึ่งให้กับผู้ที่สนใจหรือนักลงทุนหน้าใหม่ที่ต้องการเข้ามาเริ่มต้นสร้างกำไรจากนาฬิกาแบรนด์เนมมือสอง ทั้งจากการขาย-รับซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์หรือการรับซื้อ rolex มือสองเพราะนาฬิกา Rolex ได้รับการขนานนามว่าเป็น “นาฬิกาแห่งภาพยนตร์” เนื่องจากมีนักแสดงนำหลายท่านมีการหยิบนาฬิกา Rolex รุ่นต่าง ๆ ไปใส่ถ่ายทำภาพยนตร์มากมาย

อาจจะกล่าวได้ว่าวงการภาพยนตร์เป็นตัวขับเคลื่อนร้านรับซื้อนาฬิกา rolexและนาฬิกาแบรนด์เนมในยุคหนึ่งเลยก็ว่าได้ เนื่องจากการที่ผู้คนในสังคมชื่นชอบในตัวนักแสดงและภาพยนตร์เรื่องนั้นจะทำให้สิ่งของที่เหล่าพระเอกและนางเอกใช้กลายเป็นของยอดฮิตของผู้คนในสังคมเช่นเดียวกันกับนาฬิกา Rolex หากใครได้มาครอบครองก็เป็นการส่งเสริมฐานะทางสังคมอย่างหนึ่งในยุคนั้น

นักแสดงฮอลลีวูดกับนาฬิกา Rolex สุดหรู

หากจะต้องเลือกนาฬิกาแบรนด์เนมสุดหรูสักเรือนทุกคนก็อาจจะนึกถึงนาฬิกา Rolex เนื่องจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่มีความหรูหรา โดยเฉพาะวิธีการผลิตซึ่งทาง Rolex จะผลิตด้วยความประณีตจากช่างฝีมือของ Rolex เท่านั้น และนาฬิกาจะต้องทำด้วยวัสดุที่มีคุณภาพคัดสรรมาเพื่อลูกค้าทุกคนของ Rolex ทำให้นาฬิกา Rolex กลายเป็นนาฬิกาสุดหรูที่ดารา นักแสดง และนักธุรกิจเลือกนำมาสวมใส่ ทำให้นักแสดงหลายท่านที่เลือกใส่นาฬิกาจาก Rolex มาสวมใส่เป็นการสั่นสะเทือนวงการขาย-รับซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์ในยุคต่าง ๆ ได้แก่

  • ในปี 1962 นักแสดง Sean Connery จากเรื่อง James Bond 007 มีการหยิบยกนาฬิกา Rolex Submariner 6538 ไปใส่ในภาคแรก ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก เนื่องจากในทศวรรษที่ 1960 นักแสดงฮอลลีวูดมักจะสวมใส่นาฬิกาแบบ Dress Watch มากกว่า เพราะนาฬิกาแบบ Dress Watch เป็นทางการมากกว่านาฬิกาแบบ Sport Watch และเรียบง่ายสามารถเข้าได้กับทุกการแต่งตัว ส่งผลให้การที่ Sean Connery สวมใส่นาฬิกา Rolex แบบ Sport Watch สั่นสะเทือนวงการร้านรับซื้อนาฬิกา rolexเป็นอย่างมาก
  • ในปี 1997 นักแสดง Bill Paxton จากเรื่อง Titanic ได้หยิบนาฬิกา Gold Rolex Oyster Perpetual Submariner Date ไปสวมใส่ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Titanic ที่ประสบความสำเร็จได้รับการกล่าวว่าเป็นภาพยนตร์แห่งความทรงจำแห่งยุคสมัยก็ว่าได้ อีกทั้งการขายและรับซื้อ rolex มือสองภายในตลาดก็เป็นตัวบ่งบอกความสำเร็จของนาฬิการุ่น Submariner ที่ผลิตมาเพื่อลูกค้าทุกคน
  • ในปี 2000 นักแสดง Christian Bale จากเรื่อง American Psycho ได้หยิบนาฬิกา Rolex Datejust ไปสวมใส่ ซึ่งการหยิบนาฬิกา Rolex Datejust ประกอบภาพยนตร์ American Psycho กลายเป็นสิ่งที่สามารถแสดงฐานะความร่ำรวยของนักแสดงหลักได้เป็นอย่างดี ทำให้นาฬิกา Rolex Datejust เป็น ICON จากหนังดังในยุค 2000 นั้นเอง
  • ในปี 2018 นักแสดง Pierre Png จากเรื่อง Crazy Rich Asians ได้หยิบนาฬิกา Rolex Daytona Paul Newman ภาพยนตร์เรื่อง Crazy Rich Asians ได้รับการกล่าวว่าเป็นภาพสะท้อนของภูมิภาคเอเชีย ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้ชมจำนวนมาก รวมทั้งการหยิบยก Rolex Daytona Paul Newman นาฬิกาที่เป็นระดับตำนานของ Rolex มาประกอบในภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อเสริมฐานะของตัวนักแสดงได้เป็นอย่างดี



กระแสของ Rolex ตำนานที่ยังถูกกล่าวถึงอยู่เสมอ

หากจะกล่าวถึงตลาดรับซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์จะไม่กล่าวถึงนาฬิกา Rolex Daytona Paul Newman ที่เป็นระดับตำนานของ Rolex ก็จะถือว่าพลาดส่วนสำคัญไป นาฬิกา Rolex Daytona เป็นนาฬิกาที่ผลิตมาเพื่อนักแข่งรถที่ต้องการนาฬิกาที่มีความแม่นยำสูง ทำให้มีฟังก์ชันมากมายที่ตอบโจทย์นักแข่งรถ เช่น มาตรวัดความเร็วที่แสดงเวลาถึง 3 ช่องด้วยกัน รวมทั้งสามารถคำนวณเวลาเพื่อใช้อ่านค่าความเร็วของรถแข่งได้เป็นอย่างดี

นาฬิกา Rolex Daytona สามารถแบ่งได้เป็น 3 รุ่นด้วยกันนับจากช่วงปีที่ผลิต

  • ในปี 1963 เริ่มต้นผลิต Rolex Daytona รุ่นที่ 1 ซึ่งนาฬิกาในรุ่นแรกนั้นมีกำลังการผลิตที่น้อยมาก โดยการทำงานของนาฬิกาจะเป็นการทำงานแบบอัตโนมัติ และมีเลขรุ่น 4 หลัก
  • ในปี 1988 เริ่มต้นผลิต Rolex Daytona รุ่นที่ 2 ซึ่งนาฬิการุ่นที่สองนั้นจะผลิตถึงปี 2000 ด้วยกัน โดยเลขรุ่นจะมีตัวเลขถึง 5 หลัก
  • ในปี 2000 เริ่มต้นผลิต Rolex Daytona รุ่นที่ 3 ซึ่งนาฬิกาในรุ่นที่สามนั้นจะเป็นการเริ่มต้นของ Rolex ที่ผลิตนาฬิกาแบบ In House (คิดค้นและพัฒนากลไกภายในนาฬิกาด้วยตนเอง) และในนาฬิการุ่นนี้จะมีฟังก์ชันโครโนกราฟที่สามารถจับเวลาได้ โดยยังบอกเวลาในปัจจุบันอยู่



นักแสดงดาวรุ่งอย่าง Paul Newman ที่โด่งดังมาจากภาพยนตร์เรื่อง The Color of Money ในปี 1987 เขาเป็นนักแสดงที่มีชื่อเข้าชิงในหลายเวทีระดับโลก ทำให้เขามีทรัพย์สินที่ถือครองอยู่มากมาย ซึ่งนาฬิกาก็เป็นสิ่งที่
Paul Newman ชอบและสะสมหลากหลายรุ่น โดย Rolex Daytona ก็เป็นนาฬิกาเรือนโปรดของเขาเรือนหนึ่งรวมถึงการที่นักแสดง Paul Newman ได้สวมใส่ Rolex Daytona ทุกครั้งที่เขาต้องลงสนามแข่งขันทำให้กระแสของตลาดรับซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์เติบโตเป็นอย่างมากในช่วงทศวรรษ 1980 จากการสวมใส่ของนักแสดงและนักแข่งรถ Paul Newman

ความแตกต่างระหว่าง Rolex Daytona รุ่น Exotic Dial (Paul Newman) และ Rolex Daytona รุ่นทั่วไปที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน คือ หน้าปัดนาฬิกา ปัจจุบันทำให้นาฬิกา Rolex ทั้งสองรุ่นมีราคาที่แตกต่างกันถึง 2 เท่าด้วยกันจากร้านค้าหน้าเว็บไซต์ของ Rolex อีกทั้งนาฬิกา Rolex Daytona ในตลาดรับซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์ก็พุ่งสูงด้วยเช่นเดียวกัน

  • นาฬิกา Rolex Daytona ในรุ่นของ Paul Newman จะต้องเป็น Model 6239, 6241, 6262, 6263, 6264 และ 6265 เท่านั้น
  • นาฬิกา Rolex Daytona Paul Newman หน้าปัดของนาฬิกาจะมี Front ที่เป็นแบบ Art Deco รวมทั้งปลายของหน้าปัดนาฬิกาจะมีสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ประกอบอยู่บนหน้าปัดอีกด้วย
  • นาฬิกา Rolex Daytona Paul Newman ตัวเลขที่เป็นมาตรวัดความเร็วที่มี 3 ช่อง จะมีการใช้เลข 15, 30, 45 และ 60 ซึ่งในรุ่นทั่วไปจะใช้เลขเพียงแค่ 20, 40 และ 60 เท่านั้น
  • กระจกนาฬิกา Rolex Daytona Paul Newman จะทำด้วยอะคริลิก Sub Diala เท่านั้น



ด้วยความหรูหราและประเมินค่าไม่ได้ของ Rolex Daytona ที่ Paul Newman เป็นเจ้าของ ทำให้เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2017 หนังสือพิมพ์ของ Wall Street Journal ได้ตีพิมพ์บทความที่เกี่ยวข้องกับการประมูลนาฬิกา Rolex Daytona Paul Newman เริ่มต้นการประมูลไปเพียง 12 นาที ราคาเปิดตัวถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจบราคาประมูลถึง 17.7 ล้านเหรียญสหรัฐ กลายเป็นนาฬิกาที่มีราคาเพิ่มขึ้นถึง 6,500 เท่า หรือ 650,000 % เมื่อเทียบกับราคาเปิดตัวในสมัยของ Paul Newman เมื่อ 40 ปีก่อน

ปัจจุบันนาฬิกา Rolex ก็ยังเป็นนาฬิกาแบรนด์เนมสุดหรูแบรนด์แรกที่ผู้ใช้ทั่วไปทุกคนยังอยากมีไว้ในครอบครองทำให้ตลาดรับซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์เติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี โดยมีร้านรับซื้อนาฬิกา rolex มือสองเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีบริการขายและรับซื้อ rolex มือสอง ทำให้ผู้ที่ต้องการลงทุนหรือผู้ที่ต้องการมีเพื่อสวมใส่ต้องศึกษาหาข้อมูลร้านขายนาฬิกาแบรนด์เนมมือสองในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการไปสำรวจหน้าร้านหรือคำรีวิวต่าง ๆ ของผู้ที่เคยรับบริการจากทางร้านไปเรียบร้อยจะทำให้คุณไม่ต้องไปเสียเวลากับร้านนาฬิกาแบรนด์เนมมือสองที่ไม่คุณภาพ