อาการปวดหัว เวียนหัวบ่อย ๆ เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากเป็น แต่ปัญหาสุขภาพก็นับว่าเป็นเรื่องยากที่คนเราจะหลีกเลียงได้ ดังนั้นการดูแลสุขภาพและหมั่นสังเกตตนเองอยู่เสมอ จึงเป็นการช่วยป้องกันที่ดีที่สุด หากมีอาการปวดหัวเล็กน้อยก็คงเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับคนที่มีมักอาการปวดหัวเรื้อรังบ่อย ๆ เห็นภาพซ้อน อาจมีเสี่ยงเป็นเนื้องอกในสมองได้ วันนี้เรานำความรู้จากทางศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลนครธนมาฝาก เพื่อให้คุณได้รู้ว่าโรคเนื้องอกในสมองเป็นอย่างไร?และสำหรับคนที่เป็นแล้วมีแนวทางการรักษาอย่างไร? ไปรับข้อมูลความรู้เพิ่มเติมได้เลยค่ะ


ปวดหัว อาการที่หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาเพียงรับประทานยาแก้ปวดก็หาย แต่หากอาการปวดหัวนั้นกลับเป็นบ่อย จนกลายเป็นอาการปวดหัวเรื้อรัง แม้ในช่วงที่ร่างกายได้รับการพักผ่อนเต็มที่ ไม่มีความเครียดหรือมีความกังวลใด ๆ ก็ยังปวด รวมทั้งมีความผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การพูด การได้ยิน การมองเห็น นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับสมอง อย่างโรคเนื้องอกในสมองได้เช่นกัน ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นอัมพาตครึ่งซีก หรือเป็นมะเร็งสมองได้

เนื้องอกในสมองเป็นอย่างไร?
เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor) เป็นโรคที่เกิดจากเนื้อเยื่อในสมอง หรือเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียงสมองมีการเจริญเติบโตผิดปกติจนมีผลต่อระบบสมอง และระบบประสาททำให้ร่างกายมีอาการต่าง ๆ ตามมา ซึ่งเนื้องอกที่เจริญผิดปกตินั้นจะไปเบียดเนื้อสมอง และกระทบต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายที่มีสมองเป็นตัวควบคุม โดยเนื้องอกที่เกิดขึ้นในสมองอาจไม่ใช่มะเร็งเสมอไป โรคเนื้องอกสมองได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

1.เนื้องอกในสมองชนิดไม่ร้ายแรง หรือ เป็นเนื้องอกแบบเนื้อธรรมดา เกิดจากความผิดปกติของสารพันธุกรรมในเซลล์สมอง หรือการกลายพันธุ์ของเซลล์ ทำให้เซลล์มีการแบ่งตัวและเจริญเติบโตในอัตราที่ผิดปกติ ก้อนเนื้องอกมีการเจริญเติบโตช้า ไม่ใช่เซลล์มะเร็ง สามารถรักษาให้หายได้

2.เนื้องอกในสมองชนิดร้ายแรงหรือมะเร็ง เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ คือ เซลล์มะเร็ง อาจเกิดขึ้นบริเวณสมอง หรือเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นที่อวัยวะอื่นแล้วลามเข้าสู่สมอง จะมีอัตราการเติบโตเร็วและอาจลุกลามหรือกดทับเนื้อเยื่อรอบข้าง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองและเป็นอันตรายต่อชีวิต

ปัจจัยเสี่ยงของเนื้องอกในสมอง
สาเหตุที่ทำให้เกิดเนื้องอกในสมองยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตามมีปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดเนื้องอกในสมอง ดังนี้
- อายุ เนื้องอกในสมองเกิดได้กับคนทุกวัย แต่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดกับคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป
- เพศ เนื้องอกในสมองเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
- การสัมผัสกับกัมมันตรังสีหรือสารเคมีบางชนิดในที่ทำงาน

อาการแบบไหนเสี่ยง เนื้องอกในสมอง
อาการของเนื้องอกในสมองขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ชนิด และขนาดของเนื้องอก บางคนอาจไม่แสดงอาการใด ๆ และพบว่าเป็นเนื้องอกหลังเข้ารับการตรวจร่างกาย หรือหากมีอาการต่อไปนี้ควรพบแพทย์ทันที
- ปวดหัวเรื้อรัง มีอาการปวดหัวมากกว่า 15 วันต่อเดือน อย่างน้อย 3 เดือนติดต่อกัน
- คลื่นไส้หรืออาเจียน โดยเฉพาะการอาเจียนในตอนเช้า
- ค่อยๆ สูญเสียความรู้สึกหรือการเคลื่อนไหวแขนหรือขา ชา อัมพาตบางส่วน
- ปัญหาในการทรงตัวหรือเดิน
- สับสน สูญเสียความทรงจำ หรือบุคลิกภาพเปลี่ยนไป
- หูอื้อ วิงเวียน
- กล้ามเนื้อใบหน้าชาหรือเป็นเหน็บ
- กลืนลำบาก
- ตามัวหรือเห็นภาพซ้อน
- ความบกพร่องทางการพูด ความลำบากในการเข้าใจและแสดงออกทางภาษา
- ปัญหาด้านกระเพาะปัสสาวะและลำไส้

ทราบอย่างไรว่าเป็น เนื้องอกในสมอง?
เบื้องต้นแพทย์จะทำการตรวจร่างกาย และทำการทดสอบทางประสาทวิทยาก่อน เช่น ตรวจการมองเห็น การได้ยิน การทรงตัว ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและปฏิกิริยาตอบสนองทางร่างกาย

หากพบอาการป่วยที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคหรือสาเหตุอย่างอื่น แพทย์อาจส่งตรวจหาเนื้องอกในสมองด้วยการสแกนสมอง ซึ่งเป็นการฉายภาพรังสีให้เห็นสมองและพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ภายใน เช่น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) เครื่องตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) หรือเครื่องถ่ายภาพรังสี PET scan หากตรวจพบว่ามีเนื้องอกในสมอง แพทย์อาจส่งตรวจอวัยวะอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อหาตำแหน่งของเซลล์มะเร็งที่อาจแพร่ลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ ต่อไปได้

นอกจากนี้ อาจทำการตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจวินิจฉัย (Biopsy) หาความผิดปกติของเนื้อเยื่อว่าเป็นเนื้องอกที่อยู่ในขั้นและระดับความรุนแรงใด เป็นเนื้อร้ายหรือไม่ เพื่อวางแผนการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป

ภาวะแทรกซ้อนของเนื้องอกในสมอง
สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญ อาการแทรกซ้อนของเนื้องอกในสมอง อาจส่งผลร้ายแรงหรือความเสียหายถาวรที่นำไปสู่ความพิการทางร่างกาย โคม่า หรือเสียชีวิต โดยมีอาการแทรกซ้อน ได้แก่
- ความสามารถทางสมอง และความคิดที่อ่อนแอ, สูญเสียความทรงจำ
- ปัญหาในการมองเห็น การได้ยิน การดมกลิ่น หรือการพูด เนื่องจากประสาทได้รับความเสียหาย
- มีอาการชัก, แขนและขาอ่อนแรง, อัมพาตครึ่งล่าง
- ความผิดปกติทางฮอร์โมน, การรั่วของน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง
- อาการชัก เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เกิดการติดเชื้อ
- ปัญหาด้านกระเพาะปัสสาวะและลำไส้
- โรคปอดอักเสบ

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมักมีอาการปวดหัวบ่อย ๆ มีอาการปวดหัวเรื้อรัง เป็นมานานรักษาเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้นสักที มีความกังวลต้องการรักษา หรือคำปรึกษา ทางศูนย์สมองและระบบประสาทของโรงพยาบาลนครธน พร้อมให้คำปรึกษา โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสมองและระบบประสาท และนวัตกรรมการวินิจฉัยและรักษาด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ทันสมัย สามารถติดต่อสอบถามตามลิงค์ด้านล่างได้เลยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.nakornthon.com/article/d...อรัง