การพาเจ้าตัวน้อยไปท่องเที่ยวรอบบริเวณบ้าน ไปเดินห้างสรรพสินค้า หรือไปสวนสนุก หากคุณพ่อคุณแม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่าง ‘รถเข็นเด็ก’ ไว้ใช้งานด้วยแล้วละก็ บอกเลยว่า การเลี้ยงลูกจะง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก แถมยังลดอาการเมื่อยล้าและปวดหลังจากการอุ้มเด็กไปไหนต่อไหนเป็นเวลานาน ๆ อีกด้วย แต่อย่างไรก็ดี ในวันนี้เรามี 5 ทริคในการเลือกซื้อรถเข็นเด็ก ให้เหมาะกับลูกน้อยมาฝาก เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว เราตามไปดูทริคที่ว่ากันได้เลย !


1.มีการออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ

ในขั้นแรกให้คุณพ่อคุณแม่ตรวจสอบความปลอดภัยของคาร์ซีท โดยดูตั้งแต่วัสดุโครงสร้างต้องไม่โคลงเคลง แข็งแรงและมั่นคง อีกทั้งต้องไม่มีวัสดุแหลมคมซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยติดอยู่บนรถเข็นเด็กเป็นอันขาด เพื่อให้ลูกน้อยสามารถนั่งได้อย่างสบายใจไร้รอยขีดข่วน


2.ตรวจสอบสภาพเบรกของรถเข็น

โดยทั่วไปรถเข็นเด็กจะมีระบบเบรกอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่ เบรกมือกับเบรกเท้า ซึ่งรถเข็นที่ใช้ระบบเบรกมือจะหยุดรถได้สะดวกและรวดเร็วมากกว่าเบรกเท้า ทั้งยังสามารถควบคุมระดับความเร็วได้เป็นอย่างดี ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรตรวจสอบระบบเบรกของรถเข็นก่อนตัดสินใจซื้อเสมอ


3.รถเข็นที่ดีต้องมีที่บังแดดและฝน

เนื่องจากร่างกายของลูกน้อยยังไม่แข็งแรงพอต่อสภาพอาการภายนอก ไม่ว่าจะอยู่กลางแดดหรือตากฝนเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้ลูกน้อยไม่สบายได้ง่ายกว่าวัยผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ด้วยเหตุนี้ รถเข็นเด็กที่ดีจึงต้องมีที่บังแดดและกันฝนพร้อมสำหรับการใช้งานในทุกสภาพอากาศ


4.เลือกรถเข็นเด็กที่สามารถพับได้สะดวก

ในขณะที่คุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยออกไปข้างนอก แน่นอนว่าจะต้องมีบางช่วงที่เราจำเป็นต้องอุ้มลูก หรือเปลี่ยนมาใช้สายจูงเด็ก เพื่อให้เขาออกมาเดินเล่นบ้างหลังจากที่ต้องนั่งอุดอู้อยู่ในรถเข็นเป็นเวลานาน ซึ่งหากรถเข็นสามารถพับเก็บได้ง่ายไม่ยุ่งยากแล้วล่ะก็ จะมีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกในการพกพาได้มากเป็นเท่าตัว


5.เบาะที่นั่งต้องสามารถถอดออกมาซักทำความสะอาดได้

ในเมื่อเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงรอยเปื้อนต่าง ๆ จากการใช้งานรถเข็นได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นต้องศึกษาวัสดุโครงสร้างของตัวรถว่า ชิ้นไหนสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้บ้าง ทั้งนี้เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อาจก่อให้เกิดโรคหรืออาการภูมิแพ้ที่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยนั่นเอง


ก็จบไปแล้วกับ 5 ทริคในการเลือกซื้อ ‘รถเข็นเด็ก’ ให้เหมาะสมกับลูกน้อย เนื่องจากรถเข็นที่ทั้งสะดวกสบายในการใช้งานและมีประสิทธิภาพนั้น จะช่วยแบ่งเบาภาระในการดูแลเด็กขณะอยู่นอกบ้านได้มากพอสมควร รู้อย่างนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่ยังไม่มีรถเข็นเด็ก ก็คงต้องนำทริคดี ๆ เหล่านี้ไปใช้ และหามาติดบ้านไว้สักคันกันบ้างแล้วล่ะ !!