สำหรับคนที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย หรือเป็นภูมิแพ้ ยิ่งต้องดูแลตัวเองให้สุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ รวมถึงการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ และหมั่นทำความสะอาดของใช้รอบ ๆ ตัว โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่สวมใส่ เพราะเสื้อผ้าต้องสัมผัสกับผิวตลอดเวลา หากเสื้อผ้าที่สวมใส่มีสารเคมีตกค้าง นั่นแปลว่า ผิวของเราต้องสัมผัสกับสารเคมีตกค้างทั้งวัน หลายท่านน่าจะเคยมีอาการคัน เป็นผื่น ที่เกิดจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ทั้ง ๆ ที่เพิ่งซักทำความสะอาดมาเป็นอย่างดี ทราบหรือไม่ว่า สารเคมีที่มีอยู่ในน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มคือตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดอาการแพ้เหล่านี้ นอกจากอาการแพ้ที่เกิดจากสารเคมีตกค้างบนเสื้อผ้าแล้ว บางคนอาจเกิดอาการแพ้น้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่สัมผัส โดยเฉพาะคนที่ซักผ้าเองด้วยมือ อาการแพ้ของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันออกไป บางคนแพ้ มีผื่นแดง มีตุ่มใส ๆ และคันขึ้นตามง่ามมือ บางคนอาจรู้สึกแสบร้อนผิวหนัง ฝ่ามือลอก อาการแพ้และภัยแฝงที่เกิดจากสารเคมีอาจฟังดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ น่าหงุดหงิดใจ แต่ในระยะยาว อาการแพ้เหล่านี้อาจเรื้อรัง รักษาให้หายขาดได้ยาก และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม ทางที่ดีลองเปลี่ยนมาใช้ น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีอันตราย แทนการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสารเคมี เพื่อลดความเสี่ยงและอันตรายจากสารเคมีกันค่ะ


น้ำยาซักผ้าสับปะรด จากธรรมชาติ
น้ำยาซักผ้าพิพเพอร์ สแตนดาร์ด ตอบโจทย์ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ไม่เป็นอันตรายแม้ผิวบอบบางของเด็ก ใช้สารทำความสะอาดธรรมชาติจากสับปะรดแทนการใช้สารเคมีอันตราย ปราศจากสารก่อภูมิแพ้และสารเคมีที่ได้จากปิโตรเคมี มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดเสื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟองน้อย ล้างออกง่าย ไม่ก่อให้เกิดกลิ่นอับแม้ตากเวลากลางคืน หรือในที่ร่ม สามารถใช้ได้ทั้งเสื้อผ้าเด็กและผู้ใหญ่ มั่นใจทุกครั้งที่ซักเพราะน้ำยาซักผ้า พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ผ่านการทดสอบการแพ้และการระคายเคืองโดยแพทย์ผิวหนัง และใช้กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ 100% แทนการใช้น้ำหอมสังเคราะห์ นอกจากนี้ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย โดยน้ำยาซักผ้าพิพเพอร์ สแตนดาร์ด สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติภายใน 28 วัน และไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม


วิธีใช้น้ำยาซักผ้าสับปะรด จากธรรมชาติ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด
สำหรับซักเครื่อง

- เครื่องซักผ้าฝาหน้า เทน้ำยาซักผ้าลงในฝาของผลิตภัณฑ์ถึงขีดล่าง หรือ 30 มล. ในช่องน้ำยาซักผ้า เปิดโปรแกรมซักผ้าตามปกติ
- เครื่องซักผ้าฝาบน เทน้ำยาซักผ้าลงในฝาของผลิตภัณฑ์ถึงขีดที่ 2 หรือ 40 มล. ในช่องน้ำยาซักผ้า เปิดโปรแกรมซักผ้าตามปกติ

สำหรับซักมือ
- สำหรับการซักมือ เทน้ำยาซักผ้าลงในฝาของผลิตภัณฑ์ถึงขีดแรก หรือ 30 มล. ต่อ น้ำ 10 ลิตร


น้ำยาปรับผ้านุ่มจากธรรมชาติ
นอกจากแพ้น้ำยาซักผ้าแล้ว อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่อาจเป็นสาเหตุของอาการคันและผื่นตามผิวหนัง อาจเกิดจากการแพ้น้ำยาปรับผ้านุ่ม โดยทั่วไป น้ำยาปรับผ้านุ่มอาจมีส่วนผสมของปิโตรเคมีที่เป็นอันตราย เช่น สารควอท (สารที่ช่วยเพิ่มความนุ่มฟู) น้ำหอมสังเคราะห์ และสารเคมีอื่น ๆ ที่อาจเป็นสารก่อภูมิแพ้ (Allergen) ทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวได้ง่าย แต่จะให้หยุดใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มไปเลย ก็คงทำได้ยาก เพราะหลายท่านชอบให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมและนุ่ม

อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนช่างแพ้สารเคมี น้ำยาปรับผ้านุ่ม พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความนุ่ม กลิ่นหอม และไม่ระคายเคืองผิว ไม่เป็นอันตรายแม้ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย หรือผิวเด็ก ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ สารเลซิตินจากถั่วเหลืองช่วยปรับเส้นใยผ้าให้นุ่มลื่น ปราศจากสารควอทและสารเคมีอันตรายจากปิโตรเคมี พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากน้ำหอมสูตรไฮโปอัลเลอเจนิกส์ ผ่านการทดสอบการแพ้และระคายเคือง สามารถใช้ได้กับเสื้อผ้าเด็ก ผู้ใหญ่ และทุกคนในครอบครัว

วิธีใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มจากธรรมชาติ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด
สำหรับซักเครื่อง

- เทน้ำยาปรับผ้านุ่ม ปริมาณ 30 มล. ลงไปในช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มของเครื่องซักผ้า เปิดโปรแกรมซักผ้า ใช้งานตามปกติ

สำหรับซักมือ
- เทน้ำยาปรับผ้านุ่มปริมาณ 30 มล. ลงไปในน้ำสุดท้ายของการซัก (10 ลิตร)
- แช่ไว้ 15 นาที
- บิดน้ำออกแล้วนำไปตาก


สำหรับใครที่แพ้ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือผู้ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพื่อลดการใช้สารเคมีภายในบ้าน ลองเปลี่ยนมาใช้ น้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่ม พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ที่ตอบโจทย์ด้านการทำความสะอาดเสื้อผ้า ปราศจากสารเคมีอันตราย ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง แม้ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย สามารถใช้ได้กับทุกสมาชิกในครอบครัว และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม และเลือกซื้อสินค้าได้ที่
https://www.pipperstandard.com/produ...ูคา900
https://www.pipperstandard.com/product/fsfl9002
https://www.facebook.com/pipperstandard