เมื่อพูดถึงการซื้อสินค้าอะไรสักชิ้น แน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากได้ของถูกและดี เพื่อความคุ้มค่ากับเงินที่หามาไม่ได้ง่ายนักกับยุคเศรษฐกิจเช่นนี้ ดังนั้นการมีข้อมูลที่มากพอเกี่ยวกับสินค้า และการเปรียบเทียบราคา รวมถึงคุณภาพ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนต้องทำ ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปส่องราคาเครื่องดูดฝุ่นในยุคปัจจุบันกันว่ามันไปถึงไหนแล้ว รวมทั้งคุณภาพที่คุ้มค่า ที่ควรเลือกมาใช้อย่างเหมาะสม เพราะนอกจากจะช่วยเราประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ระยะยาว ยังช่วยเราประหยัดค่าไฟฟ้า และค่าซ่อมบำรุงได้อีก คงอยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่าจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย


ส่องราคาเครื่องดูดฝุ่นปัจจุบันแต่ละแบบ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

แบบที่ใช้ในบ้านเรือนทั่วไป ปัจจุบันนิยมใช้แบบระบบไซโคลน ที่ใช้ถังเก็บฝุ่นแทนถุงผ้า ที่มีกำลังดูดฝุ่นแรงเหมาะสมกับบ้านเรือนทั่วไป ช่วยในการดูดฝุ่นทำความสะอาดได้รวดเร็ว และถังถอดทำความสะอาดได้ง่าย ที่สำคัญมีระบบกรองอากาศ ก่อนปล่อยออกมาจากตัวเครื่อง ราคามาตรฐานโดยประมาณ = 2,790 บาท

แบบที่ใช้กับเฟอร์นิเจอร์ พรม เบาะ เครื่องนอน เพื่อประหยัดเงิน และประหยัดพลังงาน จึงควรเลือกซื้อมาใช้ทำความสะอาดให้ถูกประเภท ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นแบบนี้เป็นแบบหัวแปรงเทอร์โบ ค่อนข้างเล็ก กะทัดรัด ใช้งานง่าย และสะดวก ราคาเบา ๆ อยู่ที่ประมาณ 1,940 บาท

แบบดูดฝุ่นแห้ง ดูดน้ำ เป่าลมได้ ก็เป็นอีกตัวที่ได้รับความนิยม เหมาะกับบ้านเรือนหรือสถานที่ขนาดใหญ่ ที่ต้องการทำความสะอาดอย่างทั่วถึง ง่ายและสะดวก ราคาจะสูงขึ้นมาหน่อย อยู่ที่ประมาณ 2,990 บาท

แบบแปรงมีด้ามจับ เป็นเครื่องดูดฝุ่น ที่ใช้กับพื้นที่ขนาดเล็ก ที่มีฝุ่นไม่มาก ใช้แปรงในการดูดฝุ่น ง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน เพราะมีขนาดเล็กและเบา ราคาจับต้องได้อยู่ที่ประมาณ 1,590 บาท

แบบที่ใช้ถุงเก็บฝุ่น ก็ยังเป็นที่นิยมใช้กันอยู่ในบ้านเรือนที่ไม่ใหญ่มาก ฝุ่นไม่เยอะ ต้องถอดถุงผ้ามาทำความสะอาด ซึ่งความทันสมัยอาจไม่เท่ารุ่นระบบไซโคลน แต่ราคาชนะกันทีเดียว ไปส่องมาแล้ว ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,990 บาท

ทั้งหมดนี้ก็เป็นราคาเครื่องดูดฝุ่นและคุณสมบัติแต่ละแบบของมัน หากเราเลือกซื้อมาใช้ให้เหมาะสม และถูกประเภทกับการใช้งานแล้ว เราก็จะประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากทีเดียว ที่สำคัญนอกจากคุณภาพ ราคา ความเหมาะสมแล้ว ควรเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ มีการจัดโปรโมชั่นส่วนลด ผ่านการรับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจาก สมอ. รวมถึงมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพียงเท่านี้คุณก็จะใช้งานได้อย่างมั่นใจ และประหยัดค่าใช้จ่ายเช่นค่าไฟฟ้า ค่าซ่อมบำรุง ได้ในระยะยาวนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.camarciothai.com/article/22