อาการปวดข้อเข่า ข้อเข่าเสื่อม เริ่มจากเข่าหลวมเวลาเดิน ขึ้น-ลงบันได หรือนั่งพับเข่า จะมีเสียงดัง เพราะกระดูกและลูกสะบ้าสีกัน ต่อไปจะเริ่มเสียวเดินไม่ปกติจนเกิดกระเผลก ทำให้ขาอีกข้างหนึ่งต้องทำงานหนักแทนและอาจทำเป็นทั้งสองข้าง จนบวมและเจ็บมาก พบได้ในคนทุกเพศทุกวัย แต่มักมีกลุ่มเสี่ยงเป็นผู้สูงอายุ ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน และนักกีฬาที่ต้องใช้กำลังขาและเข่ามาก

ทั้งนี้อาการปวดเข่าเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ วิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการปวด ดังนั้น หากเกิดอาการปวด ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่ตรงจุด วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ จากโรงพยาบาลนนทเวชเกี่ยวกับอาการปวดข้อปวดเข่ามาฝากค่ะ

ปวดเข่า เกิดขึ้นได้ 2 ลักษณะ คือ
1. ปวดรอบเข่า หน้าขา

มักมีสาเหตุมาจากหลัง ปวดร้าวลงมา (ต้องแก้ปัญหาเรื่องหลังอาการจะหายไปเอง)
2. ปวดที่ข้อเข่า
มักจะเป็นด้านในของเข่าก่อน ต่อไปจะมีอาการบวมร่วมด้วยเสมอ ปวดที่ข้อเข่า (ข้อเข่าเสื่อม) เริ่มจากเข่าหลวมเวลาเดิน นั่ง ขึ้น-ลงบันได จะมีเสียงดังเพราะกระดูกและลูกสะบ้าสีกัน ต่อไปจะเริ่มเสียวเดินไม่ปกติจนเกิดกระเผลก (ซึ่งทำให้ขาอีกข้างหนึ่งต้องทำงานหนักแทน และอาจทำให้เป็นทั้งสองข้าง) เกิดบวมเจ็บมาก เข่าจะยิ่งหลวมและโค้งออกข้างๆ (เข่าค้อม)


พบใน
- วัยสูงอายุ
- วัยหนุ่มสาวที่ใส่ส้นสูงนานๆ เดิน-ยืนมากๆ
- น้ำหนักตัวมากยกของหนักเป็นประจำ ขึ้นลงบันไดบ่อยๆ
- เคยได้รับอุบัติเหตุหกล้มเข่ากระแทก มีปัญหาจากหลังนานๆ
- โรคข้อต่างๆ รูมาตอยด์ ข้ออักเสบ โรคเก๊าท์

การป้องกันและดูแลตัวเอง
- คุมน้ำหนักตัวให้เหมาะกับอายุและอาชีพ
- อายุยิ่งมากกระดูกก็ยิ่งบาง ควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- ขึ้นลงบันไดเท่าที่จำเป็น ผู้สูงอายุไม่ควรขึ้น-ลงบันได
- นอนเตียงแทนการนอนพื้นเพื่อไม่ต้องงอเข่ามาก
- นั่งเก้าอี้ที่สูงพอเข่าตั้งฉากเท้าถึงพื้น (ไม่ควรนั่งโซฟานิ่มๆ) ไม่นั่งกับพื้นนานๆ
- หลีกเลี่ยงการนั่งพับเพียบ
- การเดิน ขึ้น-ลงบันได ให้ก้าวขาดีขึ้นแล้วตามด้วยขาที่เจ็บและตอนลงให้ก้าว ขาเจ็บลงแล้วตามด้วยขาดี (บนบันไดขั้นเดียวกัน)


ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น (ยังไม่ยุบบวมหรือยังเจ็บอยู่)
ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของโรคและรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมต่อไป ถ้าทิ้งไว้นานๆ กระดูกจะสึกหรอมากขึ้นกว่าเข่าค้อม (โก่งออกด้านข้าง) จะทำให้ขาสั้นเดินกระเผลกมากขึ้นและปวดหลังได้ ซึ่งจะต้องถึงขั้นผ่าตัด หรือใส่ข้อเข่าเทียมถ้าทุเลาปวด ยุบบวมให้เริ่มบริหารเข่า

ถ้าเดินเจ็บเสียวมาก
- ให้ใส่ปลอกเข่าหรือ ผ้าพันพยุงเข่าไว้
และควรถือไม้เท้าด้านตรงข้ามกับเข่าข้างเจ็บ เพื่อแบ่งน้ำหนักตัวไปลงที่ไม้เท้า ช่วยลดน้ำหนักที่จะลงเข่า
- ใช้ความร้อนประคบ ทายา นอนพัก ใช้หมอนรองใต้เข่าเพื่อให้ช่องว่างในเข่าเผยอออก เยื่อบุเข่าจะไม่ถูกบีบมากการอักเสบก็จะดีขึ้น
- การนอน ควรใช้หมอนรองเข่า ถ้าเวลาพลิกตัวมีอาการปวดมากขึ้น ก็ควรใช้ผ้าพันเข่าเพื่อช่วยผยุงไว้ (ไม่ควรพันให้แน่นเกินไปเพราะอาจทำให้ข้อเท้าบวมได้)

ถ้าทุเลาปวด ยุบบวม ให้เริ่มบริหารเข่า
บริหารไม่ต้านน้ำหนัก (ถ้ามีปลอกเข่าก็สวมด้วย)
1. บริหารอยู่กับที่ (ควรทำในท่านอน)
- นอนหงาย วางเข่า 2 ข้างบนหมอน ส้นเท้าวางลงพื้น เกร็งกล้ามเนื้อหน้าขา (กดขาพับลงบนหมอนส้นเท้าวางกับพื้น)
- นับ 1-10 พัก (นับ 1-10 = 1ครั้ง ) ทำทั้งหมด 10 ครั้ง ถ้าขณะที่บริหารมีอาการปวด ให้หยุดบริหาร


- ท่านั่ง นั่งเก้าอี้ ก้นชิดและพิงผนัง ควรมีม้วนผ้ารองใต้ขาเหนือเข่า (ใกล้ขอบเก้าอี้ที่นั่ง) จะทำให้ตัวไม่แอ่นหรือหลังโก่งเหยียดเข่าตรง เกร็ง นับ 1-10 พัก (เวลาพักควรวางเท้าบนไม้รองเท้าเตี้ยๆ) แล้วนับ 1-10 ต่อทำจนครบ 10 ครั้งแล้วสลับข้าง


2. บริหารแบบเคลื่อนไหวที่เข่า
(ทำในลักษณะต้านทางแรงดึงดูดของโลก) ทำได้ทั้งท่านอนและท่านั่ง ให้เริ่มตั้งแต่น้อยครั้งแล้วค่อยๆ เพิ่มจนครบ 10 ครั้ง
2.1 ท่าเหยียดเข่า
- ท่านอนหงาย นอนหงาย วางเขาลงบนหมอนข้าง (รองใต้ขาพับ) เกร็งกล้ามเนื้อหน้าขา เข่าเหยียดตรง (ส้นเท้าลอยจากพื้น ต้นขาอยู่กับที่ นับ 1-10 ทำจนครบ 10 ครั้ง)


2.2 ท่างอเข่า นอนคว่ำ
หมอนรองที่หน้าท้องบริเวณบั้นเอวก้นและหลัง (ถ้านอนคว่ำไม่ได้ให้นอนตะแคง) ถ้าเข่ามีเสียงดังให้งอแค่ตั้งฉาก ถ้าไม่มีเสียงให้งอเต็มที่ การบริหารท่านี้ หากงอเข่าแม้เพียงเล็กน้อยก็มีอาการปวดให้หยุดทำ ต้องรักษาให้หายอักเสบก่อน


อาการปวดเข่าส่วนใหญ่มักไม่ใช่อาการที่รุนแรง แต่อาการปวดเข่าที่มีสาเหตุมาจากปัจจัยบางอย่าง เช่น โรคข้อเสื่อม หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รีบรักษา อาการอาจรุนแรงขึ้นและทำให้พิการได้ นอกจากนั้น ผู้ป่วยที่เคยมีอาการบาดเจ็บที่เข่า แม้จะเป็นเพียงการบาดเจ็บเล็กน้อย อาจมีแนวโน้มที่จะเกิดการบาดเจ็บคล้ายเดิมขึ้นอีกในอนาคต หากท่านใดเริ่มมีอาการปวดข้อปวดเข่า ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่ตรงจุด หรือมีปัญหาในเรื่องสุขภาพ ไม่ว่าจะด้านใด สามารถขอคำปรึกษากับคุณหมอได้ที่โรงพยาบาลนนทเวช

ขอบคุณข้อมูล : https://www.nonthavej.co.th/Knee-Pain-Symptoms.php