Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 2 of 2

Thread: ดิวตี้ฟรีไทย ทำไมต้องแบ่งความมั่งคั่งของคนไทย ให้ต่างชาติ

  1. #1
    Join Date
    May 2019
    Posts
    4
    Warning Points:
    0/5

    ดิวตี้ฟรีไทย ทำไมต้องแบ่งความมั่งคั่งของคนไทย ให้ต่างชาติ

    ว่าด้วยเรื่องของสัมปทานดิวตี้ฟรีบ้านเรา
    ตอนนี้สัมปทานดิวตี้ฟรีบ้านเรา เป็นที่สนใจกันอย่างมาก เนื่องจากการสัมปทานครั้งนี้เป็นการสัมปทานที่มีผู้เข้าร่วมยื่นซองประมูลหลายเจ้า และที่สำคัญคือบริษัทต่างชาติเข้าร่วมลงทุนด้วย
    ถ้ามาไล่เรียงผู้ยื่นซองเข้าร่วมประมูลตอนนี้ก็มีกันอยู่ 5 ราย ที่ซื้อซองประมูลดิวตี้ฟรี สุวรรณภูมิ คือ
    1.บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ซึ่งมีข่าวว่าดึงทาง บริษัท DFS สิงคโปร์เข้าร่วมลงทุน
    2.บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด
    3.บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จะผนึกกำลังกับ “เอสเอสพี อินเตอร์เนชั่นแนล” ที่เป็นขาใหญ่ในธุรกิจร้านอาหารในสนามบินหลายประเทศ
    4.บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับ บริษัท ล็อตเต้ จากเกาหลีใต้
    ส่วน บริษัท รอยัลออคิด เชอราตัน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังไม่แน่ชัดว่าจะร่วมมือกับใคร

    ซึ่งตรงนี้แหละที่อาจจะมีหลายคนที่มองว่าเป็นการเอาเงินไทยให้ต่างชาติหรือไม่? เพราะการร่วมทุนกับต่างชาติก็ถือว่าเป็นการทำให้เงินไหลออกจากประเทศ คล้ายๆกับ เงินกระเป๋าคนไทยไปเข้ากระเป๋าต่างชาติแทน
    ขอยกบทความของทางสำนักข่าว “ข่าวสด” มาลงให้อ่านเพื่อทำความเข้าใจอีกที
    คือบทความ สัมปทานดิวตี้ฟรี : ทำไมต้องแบ่งความมั่งคั่งของคนไทย ให้ต่างชาติ

    ศึกชิงสัมปทานดิวตี้ฟรี 2 สัญญา ทั้งสัมปทานสนามบินสุวรรณภูมิ และสัมปทานสนามบินภูมิภาค 3 แห่งคือ จุดชี้อนาคตว่ากิจการดิวตี้ฟรี จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ความมั่งคั่งให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเต็มสูบ หรือเป็นการสร้างผลตอบแทนอย่างงดงามให้กับทุนต่างชาติ
    ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 เมษายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายการเปิดขายซองประมูลพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร หรือ ดิวตี้ฟรี และพื้นที่ร้านค้าปลีกในท่าอากาศยานส่วนภูมิภาค 3 แห่ง คือ ท่าอากาศยานภูเก็ต, ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (สงขลา) พบว่ามีผู้มาซื้อซองจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย บจก. คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี บมจ. การบินกรุงเทพ บมจ. โรงแรมรอยัลออคิด เชอราตัล (ประเทศไทย) และ บจก.ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
    ตาม TOR ของโครงการประมูลร้านค้าปลอดอากรภายในสนามบินทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย สุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ ระบุว่า ผู้เข้าประมูลจะต้องทำธุรกิจดิวตี้ฟรีมาอย่างน้อย 5 ปีและปัจจุบันยังดำเนินธุรกิจดังกล่าวอยู่ จากข้อกำหนดดังกล่าวจะเห็นได้ว่า มีกลุ่มคิง เพาเวอร์ เพียงรายเดียวเท่านั้นที่เข้าตามเกณฑ์ ขณะที่ผู้ร่วมประมูลรายอื่นจำเป็นต้องดึงบริษัทดิวตี้ฟรีต่างประเทศเข้ามาร่วมถือหุ้น กล่าวคือ เซ็นทรัลจับมือดีเอฟเอส สิงคโปร์ การบินกรุงเทพร่วมกับล็อตเต้ เกาหลีใต้ ไมเนอร์ร่วมกับเอสเอสพีอินเตอร์เนชั่นแนล


    การประมูลรอบนี้คนไทยควรตั้งคำถามอย่างน้อย 2 ข้อ
    ข้อหนึ่ง สัมปทานร้านค้าปลอดอากรอขงไทยจำเป็นต้องพึ่งพิงต่างชาติอยู่อีกหรือ
    อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นรายได้ภาคบริการสำคัญในการดึงเงินตราต่างประเทศเข้าประเทศ ภาครัฐบาลและภาคเอกชนแต่ละประเทศจะร่วมกันวางกลยุทธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ อาทิ ไม่เก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า เพิ่มประสิทธิภาพการบริการของสนามบิน จัดแคมเปญลดราคาทั่วแผ่นดิน ฯลฯ และช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ธุรกิจท่องเที่ยวและกิจการร้านค้าปลอดอากรในภูมิภาคเอเชีย เติบโตอย่างมหาศาล ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายพื้นที่หรือสร้างท่าอากาศยานแห่งชาติขึ้นใหม่ เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวพร้อมกับกำลังซื้อต่อหัวที่เพิ่มขึ้น
    กล่าวได้ว่า สนามบินและธุรกิจร้านค้าปลอดอากร เป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติของแต่ละประเทศ นอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวที่สวยสดงดงามน่าตื่นตาตื่นใจ
    ปักหมุด – การเกิดขึ้นของสนามบินสุวรรณภูมิ คือ จุดเปลี่ยนที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ” คิง เพาเวอร์ ธุรกิจของคนไทยสามารถทำธุรกิจดิวตี้ฟรีได้เทียบเท่าระดับโลก”
    เพราะในรอบ 30 ปีที่ผ่านมาธุรกิจร้านค้าปลอดอากรของไทยล้มลุกคลุกคลานมาอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติเข้ามารับสัมปทานแล้วก็จากไป ไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่รายเดียว
    ฉะนั้นการประมูลให้สัมปทานดิวตี้ฟรีรอบใหม่นี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
    ประการแรก ถ้าคนไทยชนะประมูลจะเข้าตำรา “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหนเสีย”
    ประการต่อมา ถ้าปล่อยให้บริษัทร่วมทุนกับต่างประเทศชนะประมูลเข้ามามีเอี่ยว ผลกระทบที่ตามมา เริ่มตั้งแต่ผลตอบแทนจากการลงทุนย่อมต้องถูกแบ่งปันกลับไปสู่บริษัทแม่ของเขาตามครรลองธุรกิจ จะมากน้อยขึ้นอยู่กับสัดส่วนการลงทุนของแต่ละราย ทั้งๆที่การเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาจากการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยร่วมกันของทั้งภาครัฐและเอกชนไทย
    ลำดับถัดมา การได้แทรกตัวเข้ามาทำธุรกิจดิวตี้ฟรีในสนามบินของบริษัทต่างชาติ ย่อมหมายความว่า เขาสามารถทราบข้อมูลโครงสร้างต้นทุน ข้อมูลรสนิยมและพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้านักท่องเที่ยว ข้อมูลเหล่านี้ถือว่า “ทรงอิทธิพล” อย่างยิ่ง ทรงอิทธิพลตามคำกล่าว “ Information is the power” ขณะเดียวกันยังเป็นการเพิ่มอำนาจต่อรองกับซัพพลายเออร์สินค้าลักซัวรี่ที่เป็นแบรนด์ต่างชาติด้วย
    ดิวตี้ฟรีต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในไทย อีกด้านหนึ่ง คือ “คู่แข่ง” ย่อมมีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉะนั้นในอนาคตกิจการดิวตี้ไทยจะยังคงเติบโตอย่างเข้มแข็งต่อไป หรือจะถูกลดศักยภาพเป็นเพียงเบี้ยในกระดานทุนดิวตี้ฟรีต่างชาติ
    ดังนี้แล้ว ทำให้ต้องขบคิดกันว่า ธุรกิจดิวตี้ฟรีควรจะอยู่ภายใต้การบริหารของคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือ ปล่อยให้ต่างชาติเข้ามามีเอี่ยว


    ข้อสอง เรื่อง จริยธรรม ธรรมาภิบาลของธุรกิจ
    ช่วงสองปีที่ผ่านมากลุ่มล็อตเต้ ร่วมกับ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ออกมาเรียกร้องกดดันหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ยกเลิกสัญญาจุดส่งมอบสินค้าปลอดอากร ( Duty Free Pick-up Counter ) หรือเปลี่ยนโมเดลสัมปทานธุรกิจร้านค้าปลอดอากรแบบ Master Concession เป็นแบบ By Category โดยยกเหตุผลสารพัดมาสนับสนุน เล่นกันเป็นกระบวนการราวกับคลื่นที่โถมซัดเข้าสู่ฝั่ง
    มาถึงวันนี้เมื่อเกิดเหตุน่าสะพึงกลัวที่เกาหลีใต้ “ ประธานใหญ่ของล็อตเต้ นายชิน ดองบิน” เพิ่งโดนอัยการเกาหลีใต้จับได้ว่าทำผิดกฎหมาย ยักยอกเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งใช้ตำแหน่งเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจให้คนในครอบครัว
    เรื่องใหญ่ระดับโลก มูลค่าความเสียหายมากกว่า 1,500 ล้านบาท ไฉนสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และบรรดานักเคลื่อนไหวอย่างอดีตผู้บริหารกระทรวงการคลัง หรืออาจารย์นักวิชาการบางคน ต่างสงบปากสงบคำเงียบสนิท ไม่มีใครกล้าตั้งคำถามกับล็อตเต้ถึงเรื่อง ธรรมาภิบาล จริยธรรม ความโปร่งใส ความซื่อสัตย์สุจริต ฯลฯ นี่ยังไม่ต้องกล่าวถึงนักธุรกิจบางคนที่เพิ่งโดนทางการลงโทษเปรียบเทียบปรับจากข้อหา “ปั่นหุ้น”
    บทสรุปจากคำถามที่ตั้งไว้ที่ย่อหน้าแรกนั้น สังคมไทยย่อมสามารถหาคำตอบได้ไม่ยาก

    ความเห็นส่วนตัว ผมเห็นด้วยกับบทความ ที่ไม่ควรให้เงินไทยไหลออกนอกประเทศ เพราะมันจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจมหาภาคในอนาคต และสินค้าไทยเองที่ควรให้ต่างชาติได้รู้จักอาจจะกลับกลายเป็นเอาสินค้าต่างชาติเข้ามาขายในไทยแทน

    เครดิต: https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_2479522

  2. #2
    Join Date
    Mar 2019
    Posts
    29
    Warning Points:
    0/5

    Re: ดิวตี้ฟรีไทย ทำไมต้องแบ่งความมั่งคั่งของคนไทย ให้ต่างชาติ

    (หวยออนไลน์มากมายรูปแบบที่มีให้ท่านเลือกซื้อได้อย่างตามใจชอบ ต้องหวยที่เว็บไซต์เราแห่งเดียว


    หวยออนไลน์

Comments from Facebook

Tags for this Thread

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •