สวัสดีค่าาาา สาว ๆ ขอต้อนรับเข้าสู่หน้าหนาวอย่างเต็มรูปแบบแล้วนะคะ หน้าหนาวประเทศไทย แดดแรงพอ ๆ กับหน้าร้อนเลยค่ะ เห็นเช้า ๆ ครึ้ม ๆ อย่าเพิ่งละเลยการทาครีมกันแดดนะจ๊ะ สาย ๆ มาหน่อยก็รู้เรื่องแล้ว มองไปทางไหนมันก็ช่างจ้าซะเหลือเกิน เจ้าแสงแดดตัวการนี่เหมือนมี GPS ติดตามเราไปทุก ๆ ที่ไม่ว่าเราจะพยายามหลบร่มขนาดไหน แต่พอเดินออกไปที่ไม่มีที่กำบังเมื่อไหร่แล้วนั้นไม่เกิน 10 นาที เชื่อได้ว่าต้องมีแสบผิวกันบ้างแหล่ะ คอนเฟิร์ม !และสิ่งที่จะมาช่วยปกป้องผิวของเราจากแสงแดด ความร้อนและรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อผิวสวย ๆ ของเรานั่นก็คือ ครีมกันแดดนั่นเอง สาวๆหลายคนคงจะลงครีมกันแดดที่บริเวณใบหน้าและลำคอเป็นประจำกันอยู่แล้ว แต่อย่าลืมนะคะผิวกายของเรานั้นก็สำคัญ หน้าขาวแต่ตัวคล้ำ โป๊ะนะจ๊ะสาว ๆ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

และครีมกันแดดสำหรับผิวกายที่ทำออกมาในปัจจุบันนี้มีคุณสมบัติที่คล้ายกันอย่างมากนอกจากจะช่วยกันแดดแล้วยังมีคุณสมบัติช่วยทำให้ผิวกลับมาดูขาวกระจ่างใสได้อีกตอบโจทย์กับสมัยนี้ อากาศร้อนก็จริงแต่เนื้อครีมบางเบาสบายผิวสามารถทาได้ทุกวันอีกต่างหาก คุณพระ!ถือว่าคุ้มอย่างมากเวลาที่ซื้อมา ใช้แค่ตัวเดียวก็คุ้มสุด ๆ แต่ถ้าเรานึกถึงครีมกันแดดที่ทาได้ทุกวัน แต่คุณสมบัติใกล้เคียงกันเรานึกถึง 2 ยี่ห้อนี้เลย คือ NIVEA Sun Body Daily Protect WhiteningSun Serum SPF50 PA+++ กับ Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Intensive WhiteSPF50+ PA+++ มาดูกันว่าครีมกันแดดทาตัวยี่ห้อไหนดี เราจะมาขอทดสอบให้ดูกันว่าตัวไหนช่วยกันแดดได้ดีที่สุดไปทดสอบกันเลยดีกว่าจ้า


BioreUV Anti-Pollution Body Care Serum Intensive White SPF50+ PA+++ : ปกป้องผิวจากความหมองคล้ำจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ SPF50+/PA+++ผิวไม่แห้งเสียช่วยคงความแข็งแรงและยืดหยุ่นให้กับผิวชั้นนอกด้วย Anti-Pollution Shield เกราะปกป้องผิวจากมลภาวะ ฝุ่น ควันและสิ่งสกปรก ช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ปริมาณ180 มิลลิลิตร ราคา 290 บาท

Biore :เนื้อครีมค่อนข้างมีความข้น ๆ เหนียว ทำให้เกลี่ยค่อนข้างยากต้องใช้เวลาในการเกลี่ยให้เนื้อครีมซึมลงผิวให้หมดซักประมาณ 30 วินาทีเมื่อครีมซึมแล้วยังคงหลังเหลือความมันวาวอยู่บนผิวอยู่บ้างรู้สึกได้ถึงความหนึบ ๆ ที่ผิว

NIVEASun Body Daily Protect Whitening Sun Serum SPF50 PA+++ : ปกป้องแดดที่ทำร้ายผิวลึกถึงระดับคอลลาเจนทั้งจากรังสี UVAUVB เนื้อบางเบา สบายผิวเหมาะสำหรับใช้ทุกวัน มีส่วนผสมจากสารสกัดจากวิตามินซีเข้มข้น 50 เท่าและสารสกัดจาก Acerola Cherryและยังทำหน้าที่เปรียบเสมือนเกราะปกป้องจากมลภาวะและยังปราศจากสารเคมีที่ทำให้ผิวไวต่อแดด ปริมาณ 150 มิลลิลิตรราคา 290 บาท

NIVEA: ส่วนนีเวียนั้นเนื้อครีมค่อนข้างเหลวกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเกลี่ยแล้งจึงทำให้ซึมลงไปในผิวได้ค่อนข้างเร็วกว่าประมาณ 20 วินาทีและเมื่อครีมซึมลงผิวไปแล้วนั้น ไม่ค่อยหลงเหลือความมันที่ผิวมากเท่าไหร่นักให้ความรู้สึกสบายผิวหลังจากทาเสร็จ


ในเรื่องของประสิทธิภาพในการกันแดดของทั้งสองผลิตภัณฑ์เมื่อเวลาผ่านไป 1 ชม. นั้นยังไม่มีความแตกต่างเท่าไหร่นัก ทั้งสองแบรนด์ทำผลงานได้ดีพอ ๆ กัน แต่เมื่อผ่านไปสองถึงสาม ชม.แขนข้างที่ทากันแดดของบีโอเรนั้นเริ่มมีอาการแดงเล็ก ๆ จากความร้อนของแดดแต่ข้างของนีเวียยังปกป้องได้ดีอยู่เหมือนกันกับตอนที่เพิ่งทาเสร็จ

โดยสรุปแล้วครีมกันแดดทั้งสองแบรนด์จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปในส่วนของกันแดดบีโอเรนั้นประสิทธิภาพในการกันแดดค่อนข้างดีในระดับนึงแต่อาจจะต้องแลกกับเนื้อครีมที่ค่อนข้างหนัก เกลี่ยค่อนข้างยากและพอเวลาเกลี่ยครีมลงผิวไปแล้วยังหลงเหลือความมันอยู่บนผิวค่อนข้างมากอยู่ในระดับนึงเลยทีเดียวและอีกประเด็นคือกลิ่นที่ไม่ถูกใจมากนัก เพราะเราไม่ค่อยชอบกลิ่นนี้ซักเท่าไหร่แต่คนอื่นอาจจะชอบก็ได้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลจ้า แต่ในส่วนของนีเวียนั้นข้อดีของตัวนี้เลยคือเนื้อครีมค่อนข้างเหลว จึงทำให้เกลี่ยลงผิวได้ง่ายไม่ค่อยหลงเหลือความมันบนผิว จึงทำให้ไม่เหนอะหนะ สบายผิว และยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จึงทำให้มีความรู้สึกที่จะอยากหยิบมาใช้เป็นประจำทุก ๆ วันและยังกันได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

เป็นยังไงกันบ้างค่ะ หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ ทุกคนเริ่มตัดสินใจซื้อครีมกันแดดทาตัวได้ง่ายขึ้นนะคะ ส่วนใครที่เคยใช้แล้ว มีข้อแนะนำอะไรเพิ่มเติมสามารถมาแชร์กันได้นะคะ ครั้งต่อไปจะมีรีวิวอะไรมาฝากกันอีก รอติดตามได้เลย เร็ว ๆ นี้แน่นอน

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : https://www.vanilla.in.th/bbs.cgi?ty...sno=1526984311