แคลเซียม เป็นสารอาหารหลักจำพวกแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อร่างกาย เพราะแคลเซียมจะช่วยในการสร้างกระดูกและฟัน อีกทั้งแคลเซียมยังมีหน้าที่สำคัญที่ช่วยในการหดและการขยายตัวของหลอดเลือด พร้อมทั้งยังทำหน้าที่ในการส่งเสริมการทำงานของกล้ามเนื้อ และอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ถือได้ว่าเป็นสารอาหารหลักที่ร่างกายขาดไม่ได้ ซึ่งในความเป็นจริงร่างกายของคนเราต้องการแคลเซียมประมาณวันละ 800-1,200 มิลลิกรัม ในทางกลับกันเราได้รับแคลเซียมจากการทานอาหารแต่ละวันเพียง 400 มิลลิกรัม เท่านั้นเอง ซึ่งนั่นก็ทำให้เรารู้ว่ามันไม่เพียงพอต่อร่างกาย ทั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่ได้รับแคลเซียมในแต่ละวันน้อยเกินไป ดังนั้น เราควรมาทำความรู้จักกับอาหารที่ให้แคลเซียมสูง และเช็คปริมาณแคลเซียมที่ได้รับจาการทานอาหารพวกนี้กันไปพร้อม ๆ กันค่ะ

1. นม : นมและผลิตภัณฑ์นมทุกชนิดมีส่วนประกอบของโปรตีนสูงและมีสารอาหารแร่ธาตุเกลือแร่อยู่ด้วย โดยนมเป็นแหล่งของแคลเซียมที่มากถึง 300 มิลลิกรัม ต่อนม 1 กล่องปริมาณ 250 มิลลิลิตร
2. ปลาเล็กปลาน้อย : ปลาเล็กปลาน้อยเป็นแหล่งของแคลเซียมชั้นดี โดยปริมาณที่ 2 ช้อนโต๊ะนั้นมีปริมาณแคลเซียมถึง 226 มิลลิกรัม
3. กุ้งแห้ง : กุ้งแห้งสีส้ม ๆ แดง ๆ ที่เราพบในอาหารเช่น ส้มตำ ผัดไท เป็นแหล่งแคลเซียมอีกหนึ่งที่ ที่ถ้าใส่ในปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จะให้แคลเซียมถึง 140 มิลลิกรัมเลยทีเดียว
4. เต้าหู้อ่อน : สุดยอดอาหารที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารเพื่อสุขภาพ ในปริมาณ 5 ช้อนโต๊ะ มีแคลเซียม 150 มิลลิกรัม
5. งาดำ : งาดำ 1 ช้อนโต๊ะ จะมีแคลเซียมอยู่ 132 มิลลิกรัม
6. ผักคะน้า : นอกจากจะให้วิตามินแล้วยังตามมาด้วยแร่ธาตุหลักอย่างแคลเซียม โดยผัดผักคะน้า 1 ทัพพี ให้แคลเซียมสูงถึง 71 มิลลิกรัม
7. หอยนางรม : หอยนางรมไม่เพียงแต่มีแร่ธาตุมากมายให้สรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพแล้วหนึ่งในแร่ธาตุที่หอยนางรมนั่นก็คือ แคลเซียม ซึ่งถ้าเรารับประทานหอยนางรม 6 ตัว ก็จะได้รับแคลเซียมถึง 300 มิลลิกรัม
8. กะปิ : กะปิไม่ได้เป็นแค่อาหารรสเด็ดแต่ยังให้แคลเซียมถึง 1,565 มิลลิกรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
9. บล็อกโคลี่ : เป็นผักสีเขียมเข้มที่มีแคลเซียมสูง ซึ่งบล็อคโคลี่ ⅔ ถ้วย ให้แคลเซียมถึง 88 มิลลิกรัม
10. เมล็ดอัลมอนด์ : เป็นอาหารว่างทานเล่นเพื่อสุขภาพ ที่มีแคลเซียมอยู่ถึง 75 มิลลิกรัม ต่อปริมาณอัลมอนด์ 29 เมล็ด
11. ถั่วแร่ต้ม : ถั่วแระต้มจำนวน 100 กรัม ให้ปริมาณแคลเซียมถึง 194 มิลลิกรัม
12. ถั่วขาว : ถั่วขาวถือเป็นโปรตีนจากพืชที่อุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ มากมาย รวมถึงแคลเซียม ซึ่งประมาณ 112 มิลลิกรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
13. ชีส : เมนูโปรดของใครหลาย ๆ คน ซึ่งมีแคลเซียมมากถึง 721 มิลลิกรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม

อย่างไรก็ตาม ปริมาณแคลเซียมในอาหารข้างต้นที่เรากล่าวถึงก็ยังคงไม่เพียงพอต่อร่างกายที่ควรได้รับ ดังนั้น เราควรมองหาอาหารเสริมแคลเซียม ที่สามารถเพิ่มเติมหรือทดแทนปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายขาดไปในแต่ละวันด้วย แคลเซียม แอลเทรเนต(แอล-ทรีโอเนต) เพราะเป็นแคลเซียมชนิดเดียวที่สามารถละลายน้ำได้ดีมากและถูกซึมเข้าร่างกายได้เกือบ 100% เนื่องจากผลิตมาจากข้าวโพด จึงปลอดภัยและไม่มีสารตกตะกอนที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ่วในไต


ซึ่งผลิตภัณฑ์ Cal-T ใน 1 แคปซูล จะอัดแน่นไปด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ คือ Calcium L-Theronate ถึง 500 มิลลิกรัม พร้อมวิตามินรวม และแร่ธาตุรวม เพียงทานครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง คุณก็จะได้รับประโยชน์เหล่านี้

1. ลดภาวะความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน แคลเซียมช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก และแอลเทรเนต (แอล – ทรีโอเนต) จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในกระดูก
2. ลดภาวะความเสี่ยงโรคข้อเสื่อม ช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจนในกระดุก และกระดูกอ่อน รวมทั้งสร้างน้ำไขข้อ ทำให้กระดูกและข้อแข็งแรง
3. ถูกดูดซึมเข้าร่างกายได้เกือบ 100% เป็น Passive Transport ซึมผ่านระหว่างเซลล์ได้โดยไม่ต้องอาศัยวิตามินดี ซึ่งแคลเซียมชนิดอื่น ๆ ต้องใช้วิตามินดี เพื่อช่วยในการดูดซึม
4. ไม่ทำให้แน่นท้อง ท้องอืด และท้องผูก เนื่องจากแตกตัวละลายได้ดีในน้ำ จึงไม่หลงเหลือให้ตกตะกอนในลำไส้
5. แคลเซียมแอลเทรเนต (แอล – ทรีโอเนต) ผลิตมาจากข้าวโพด ทำให้เหมาะกับผู้ที่ทานมังสวิรัติที่ต้องการเสริมแคลเซียมใน
กระดูก ซึ่งแคลเซียมแอลเทรเนต (แอล – ทรีโอเนต) เพียงชนิดเดียวที่ได้รับสิทธิบัตรรับรองจาก USA ว่าสามารถป้องกัน และลดอาการอันเกิดจากกระดูกพรุนและข้อเสื่อมได้

สามารถติดตามความรู้เรื่องแคลเซียมกับเราได้ที่ http://www.cal-t.com/สรรพคุณ-แคลเซียม-แอล-ทรี/