แฟนไม่ชอบพาไปกินอาหารร้านสวยๆข้างนอกเหมือนแฟนคนอื่นบ้างเบื่อจริงๆทำยังไงดีคะ

[Lukkai]

^
^
^
ขอเสนอในอีกมุมนะคะ ในฐานะที่เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาเช่นกัน

เคยเจอปัญหาเดียวกันค่ะ เลยมานั่งมองว่า เป็นปัญหาเล็กหรือปัญหาใหญ่
เป็นปัญหาว่า เค้าเป็นคนง่ายๆ แล้วเราเป็นคนเรื่องมาก หรือเป็นปัญหาอื่น
ถ้าแค่ว่าเราปรับลงมานิด แล้วเค้าปรับขึ้นมาหน่อย โก้ว่าโก้โอเคค่ะ
ใครมันจะไปจ่ายค่าข้าวมื้อละหลายๆ พันได้ทุกมื้อใช่มั้ยคะ แล้วร้านเหลาแอร์กี่ข้างถนน แพงๆ กว่าร้านขึ้นห้างติดแอร์ก็เยอะไป

แต่สำหรับโก้ สรุปคือ life style เข้ากันไม่ได้อย่างแรงค่ะ ชอบไม่เหมือนกันมากๆ
และเป็นปัญหาปวดหัวกวนใจอยู่ตลอดเวลา เพราะไม่ได้เป็นแต่การทานข้าว
การเลือกที่พัก ขนาดการฟังเพลง การดูหนัง หรือการอ่านหนังสือ การพูดจา การเล่นมุก การคบคน การเลือกเข้าสังคมต่างๆ ต่างกันมากค่ะ
สำหรับการจะมีคู่ชีวิต โก้มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ค่ะ เพราะพื้นฐานสังคมต่างกันมาก และการใช้ชีวิตก็ต่างกันมากเช่นกัน
เรื่องนี้ เงินไม่ใช่ประเด็นค่ะ

เพราะว่ามันไม่ใช่แค่ว่า ใครเรื่องมากกว่าใคร หรือใครใช้เงินเปลืองกว่าใคร
แต่เป็นปัญหาพื้นฐานว่า เค้าไม่อยากก้าวมาในสังคมเรา พอๆ กับเราไม่อยากออกไปอยู่สังคมแบบเค้าค่ะ
เคยลองมองผ่านแล้ว เปลี่ยนตัวเองแล้ว พบว่า เค้าชอบที่เราเปลี่ยน มากกว่าชอบที่จะช่วยกันเปลี่ยนค่ะ
โก้ไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ตลอด เพราะรู้สึกไม่ชอบตัวเองที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง และเค้าก็ไม่สามารถเปลี่ยนได้เลย...


สุดท้ายเลิกไปแล้วค่ะ

ยังงัย ลองมองดีๆ หลายๆ ด้านดูนะคะ ว่าเรื่องนี้เป็นแค่เรื่องเล็ก หรือเรื่องใหญ่สำหรับคุณ เพราะมีแต่คุณที่จะทราบดีค่ะ


ปล. อีกตัวอย่างนึง รุ่นพี่ หย่ากับสามี เพราะเรื่องสามีไม่ยอมปิดที่รองนั่งโถชักโครกหลังใช้
ดูเรื่องเล็กสำหรับเราๆ ท่านๆ ใช่มั้ยคะ แต่สำหรับรุ่นพี่ นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย
เพราะที่มาก่อนหน้านั้นคือ คุณสามี ไม่เคยโอนอ่อนหรือคิดเผื่อภรรยาเลย
ปลายเหตุไม่สำคัญเท่าที่มาหรอกค่ะ ประเด็นอยู่ที่ว่า ใจความสำคัญที่คุณไม่พอใจ คืออะไร

หาคำตอบให้ได้นะคะ สู้ๆ ค่ะ

เห็นด้วยกับคุณโก้ค่ะ

[newsguy]

อย่าคิดมากค่ะ
ลองทำแบบที่คุณBalenciagaบอกซิคะ
เค้าไม่พาเราไป เราก็พาเค้าไปแทน
แล้วก็บอกไปเลย ว่านานๆที ก้อยากมาร้านแบบนี้บ้าง
บอกให้เค้าหาโอกาศพาเรามาบ้าง
แนะนำให้พูดไปตรงๆเลยค่ะ
เพราะถ้าเราไม่พุดไปตรงๆ ผู้ชายส่วนใหญ่ก็จะไม่เข้าใจหรอกค่ะ ว่าเราต้องการอะไร

เรื่อง life styleต่างกันเนี่ย ถ้าไม่ต่างฝายปรับตัวเข้าหากันเนี่ย
คงไปกันได้ยากอ่ะค่ะ
อย่างของนิวเนี่ย ต่างกันคนละขั้วเลย
นิวชอบเดินห้าง แอร์เย็นๆ สามีชอบ เดินป่า รับอากาศธรรมชาติ
นิวชอบแต่งตัว สามีไม่สนใจเรื่องการแต่งตัวเลย มีอะไรก็ใส่ๆไป
นิวเกลียดควันบุหรี่ สามีบอกชีวิตนี่ผมขาดบุหรี่ไม่ได้
นิวชอบรถเก๋งคันเล็กๆ สามีบอกต้องโฟร์วีลคันใหญ่ๆเท่านั้น
นิวชอบดูหนังรักเบาสมอง สามีชอบดูหนังสงคราม
นิวเป็นคนทำอะไรเร็วๆ สามีเชื่องช้าสุดชีวิต แบบว่าเรื่อยๆ ไม่รีบ
นิวไม่ชอบแขวนพระหรือวัตถุมงคลต่างๆ ไม่เคยมีในครอบครองซักชิ้น
สามีชอบมาก สะสมได้เป็นเรื่องเป็นราว เกจิไหนดัง อาจาร์ไหนดี มีเกือบหมด
และยังมีเรื่องอื่นๆที่ต่างกันอีกมาก แต่ก็ปรับตัวเข้าหากันได้ค่ะ อยู่ด้วยกันมาจนลูกจะ3ขวบแล้วค่ะ

[เมจิ]

แต่สำหรับโก้ สรุปคือ life style เข้ากันไม่ได้อย่างแรงค่ะ ชอบไม่เหมือนกันมากๆ
และเป็นปัญหาปวดหัวกวนใจอยู่ตลอดเวลา เพราะไม่ได้เป็นแต่การทานข้าว
การเลือกที่พัก ขนาดการฟังเพลง การดูหนัง หรือการอ่านหนังสือ การพูดจา การเล่นมุก การคบคน การเลือกเข้าสังคมต่างๆ ต่างกันมากค่ะ
สำหรับการจะมีคู่ชีวิต โก้มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ค่ะ เพราะพื้นฐานสังคมต่างกันมาก และการใช้ชีวิตก็ต่างกันมากเช่นกัน
เรื่องนี้ เงินไม่ใช่ประเด็นค่ะ



^^^
^^
^


ประเด็นนี้ที่คุณโก้เขียนนี้ เราว่าน่าสนใจนะคะ คุณจขกทน่าลองเอาไปพิจารณาดู

เพราะการไม่ชอบ เพียงอย่างเดียว มันอาจจะบ่งบอกถึงอะไรอีกหลายๆอย่างที่ไม่ตรงกัน

สิ่งที่ไม่ตรงกันภายนอก ในชั้นที่มองเห็นได้ด้วยตา ส่วนมากไม่ใช่ปัญหา แต่ต้นตอที่อยู่ข้างใน ซึ่งก็คือทัศนคติ จิตใจ ที่จริงๆแล้วต่างกันหรือไม่ ทัศนคติในการดำเนินชีวิต และจิตใจที่ต่างกันมากมายนี้เอง ที่ทำให้หลายคู่เลิกกันเมื่อเวลาผ่านไป



ดังนั้นหากต้องพิจารณา ก็คงต้องดูว่า ทัศนคติต่อการมองโลกของเค้า ที่ทำให้เค้าเลือกใช้ชีวิตไม่เหมือนคุณ คืออะไร

แล้วทัศนคตินั้น สอดคล้องกับคุณหรือไม่ ถ้าไม่สอดคล้องแล้วมันจะกระทบต่อวิถีชีวิตอะไรอย่างอื่นของคุณอีกหรือไม่


เพราะแค่ความคิด ความ เชื่อ ทัศนคติไม่ตรงกันเพียงหนึ่งข้อ มันจะส่งผลเป็นพฤติกรรมอะไรออกมาอีกมากมายหลายอย่าง

ดังนั้น หากทัศนคติในการเลือกใช้ชีวิตแบบนี้ของเค้า แท้ที่จริงแล้วก็ไม่ได้แตกต่างจากทัศนคติของคุณเท่าไหร่ แต่ผลมันดูต่างกัน กรณีก็คงเป็นเพราะเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่คุณกับเค้าสัมผัสมานั้นไม่เหมือนกัน

ถ้าเพียงแค่นี้จริงๆ ก็แก้ปัญหาได้ด้วยการสื่อสาร อย่างที่เพื่อนๆหลายคนอธิบายไว้ได้ดีมากแล้ว


แต่หากรากของปัญหา อย่างทัศนคติ ที่เรียกได้ว่า แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เช่น การเป็นคนเสียสละเป็นสิ่งที่น่าเคารพ กับ ชั้นมีมากกว่าแต่ชั้นไม่อยากแบ่งใครเพราะชั้นหามาเองทำไมต้องเสียสละให้คนอื่น

ถ้าทัศนคติอยู่ที่ขั้วตรงข้ามกันแบบนี้ จะส่งผลให้ ปัญหาที่จะมีออกมาให้เห็นแบบชั้นรูปธรรม จะมีตามมาอีกมากมาย เพราะมันไม่ใช่ต่างที่ชั้นการกระทำ แต่มันต่างกันตั้งแต่ระดับจิตใจและทัศนคติ


ดังนั้นแล้วลองพิจารณาลงไปให้ลึกถึงต้นตอ ที่คุณบอกว่า เค้ากับคุณต่างกัน...

ถ้าทัศนคติที่เป็นรากแห่งความต่างนั้น แท้จริงแล้ว แทบไม่ต่าง แต่แค่เห็นกันคนละด้าน
กรณีนี้ เราว่าคอมเม้นของเพื่อนที่ตอบๆกันมาแล้ว ล้วนแต่เป็นมุมมองและทางออกที่ดีของปัญหาเลยล่ะค่ะ