กระดูกเป็นอวัยวะที่สำคัญกับร่างกายเรามาก เพราะเป็นส่วนประกอบหลักที่มีอยู่ทั่วร่างกายทำหน้าที่หลักในการประคองให้ร่างกายทรงตัว ในการยืน นั่ง นอน ได้ ช่วยให้เราดำเนินชีวิตได้ตามปกติ รวมถึงการเคลื่อนไหว เดิน วิ่ง ได้อย่างคล่องตัว



โรคกระดูกพรุน คือ โรคกระดูกชนิดหนึ่งที่กระดูกเริ่มเสื่อมและบางลงเนื่องจากการสูญเสียแคลเซียมที่สะสมในกระดูก โรคนี้จะไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดนอกจากกระดูกแตกหรือหัก พบได้บ่อยบริเวณกระดูกสันหลัง สะโพก หรือข้อมือ รวมทั้งยังสามารถเกิดได้กับกระดูกส่วนอื่นๆ ของร่างกายอีกด้วย
โรคกระดูกพรุนป้องกันได้ 100 %

ปัจจุบันนี้ มีอีกโรคที่ติดอันดับหนึ่งในสิบที่ทำให้เสียชีวิตในผู้สูงอายุ คือโรคกระดูกพรุน ซึ่งฟังดูแล้ว เหมือนเป็นโรคที่ไกลตัวและไม่น่ากลัว จึงไม่มีใครตระหนักสักเท่าไร แต่จะรู้ไหมว่าโรคนี้ใกล้ตัวเรามาก และเป็นขึ้นมาแล้วทำให้ร่างกายพิการ กระดูกสันหลัง ยุบ ทรุด คด และเสียชีวิตเร็วขึ้น โรคกระดูกพรุนนี้อาจเปลี่ยนชีวิตของคุณไปตลอดทั้งชีวิต เราสามารถป้องกันกระดูกพรุนได้ด้วยการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี เช่น กินอาหารที่มีแคลเซียมสูง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับแสงแดดอ่อนๆ เป็นประจำ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุราจัด เป็นต้น พฤติกรรมเหล่านี้ ควรเริ่มตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยหนุ่มสาว ปกติร่างกายของคนเราจะต้องการแคลเซียมในแต่ละวันไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ แล้วแต่ละวัยต้องทานแคลเซียมเท่าไหร่ ถึงจะพอดี ? มาดูกันเลยค่ะ

-วัยเด็ก ต้องการปริมาณแคลเซียมสุทธิวันละ 800 มิลลิกรัม
-วัยรุ่น ต้องการปริมาณแคลเซียมสุทธิวันละ 1,000 มิลลิกรัม
-วัยผู้ใหญ่ ต้องการปริมาณแคลเซียมสุทธิวันละ 1,000 มิลลิกรัม
-ผู้สูงอายุ ต้องการปริมาณแคลเซียมสุทธิวันละ 1,200 มิลลิกรัม

ในแต่ละวัยควรรับประทานแคลเซียมให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย อย่าทานมากไป หรือน้อยไป เพื่อสุขภาพที่ดีของกระดูก โรคกระดูกพรุนอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิดควรดูแลกระดูกให้แข็งแรงกันตั้งแต่เนิ่นๆ หากไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุนตอนแก่ ต้องเสริมด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมกระดูก แคล-ที เพื่อบำรุงและเสริมสร้างมวลกระดูกทั่วร่างกาย และสร้างกระดูกอ่อนในข้อกระดูก ช่วยยับยั้งการสลายตัวของกระดูก และช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ด้วยค่ะ




แคลเซียมที่ดีนอกจากจะช่วยในการเสริมสร้างกระดูก เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายแล้ว ยังต้องไม่ก่อสารตกค้างให้กับร่างกายอีกด้วย ชนิดของแคลเซียมที่ดีนั้น ควรจะละลายน้ำได้ดีมาก และควรได้มาจากธรรมชาติ (ข้าวโพด) “ แคลเซียมแอลเทรเนต ” เป็นชนิดของแคลเซียมที่สามารถละลายน้ำได้เกือบ 100 % ยิ่งมีการละลายน้ำแตกตัวของแคลเซียมได้ดีมากขึ้นเท่าไร การดูดซึมแคลเซียมสุทธิเข้าสู่ร่างกายก็ยิ่งดีตามไปด้วย เมื่อร่างกายดูดซึมแคลเซียมจนหมดจะไม่เหลือสารที่ทำให้ตกตะกอนได้ เท่านี้ก็หมดห่วงเรื่อง แน่นท้อง ท้องอืด ท้องผูก หรือการเกิดนิ่วในไต นอกจากแคลเซียมแล้ว คอลลาเจน ก็มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง หากร่างกายไม่สามารถสร้างคอลลาเจนได้ ก็ไม่สามารถสร้างกระดูกที่แข็งแรงได้ เนื่องจากคอลลาเจนเป็นตัวช่วยในการสร้างกระดูกอ่อนนั่นเอง

สามารถติดตามความรู้เรื่องแคลเซียมกับเราได้ที่ http://www.cal-t.com/กระดูกพรุนป้องกันได้/