ดื่มน้ำให้ถูกวิธีป้องกันภาวะขาดน้ำ ฉบับคนรักการออกกำลังกาย



การออกกำลังกายกับการดื่มน้ำสำคัญอย่างไร ?

การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญต่อระบบร่างกายของเรา โดยปกติร่างกายจะสูญเสียน้ำประมาณวันละ 2,300 มิลลิลิตร โดยจะถูกขับออกทางปัสสาวะ 1,400 มิลลิลิตร อุจจาระ 100 มิลลิลิตร ระเหยออกทางเหงื่อและทางลมหายใจ 800 มิลลิลิตร โดยประมาณ ร่างกายของเราจึงจำเป็นที่จะต้องได้รับน้ำ จากภายนอกประมาณ 2000 มิลลิลิตร เพื่อให้เกิดความสมดุลภายในร่างกายนั่นเอง

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อการสูญเสียน้ำ ก็เป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งเลยค่ะ เพราะ ระหว่างการออกกำลังกายจะมีการสูญเสียน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากการระเหยของเหงื่อเพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย แล้วแบบนี้เราจะมีวิธีการดื่มน้ำอย่างไรเพื่อให้เหมาะสมกับการออกกำลังกาย ?

วิธีการดื่มน้ำให้เหมาะสมกับการออกกำลังกาย ควรดื่มทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการออกกำลังกาย เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ที่จะส่งผลต่อสมรรถภาพของร่างกาย มีวิธีการง่ายๆ ดังนี้เลยค่ะ

ก่อนออกกำลังกาย
ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เราควรดื่มน้ำประมาณ 500 – 600 มิลลิลิตร และดื่มเพิ่มอีก 200 – 300 มิลลิลิตร ประมาณ 10 – 20 นาที ก่อนการออกกำลังกาย

ระหว่างออกกำลังกาย
ทุก 10 – 20 นาที ควรดื่มน้ำประมาณ 200 – 300 มิลลิลิตร หรือคิดเป็นชั่วโมง ประมาณ 600 – 1,200 มิลลิลิตร

หลังออกกำลังกาย
เมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้ว ควรดื่มน้ำประมาณ 1,200 – 1,400 มิลลิลิตร ต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลที่หายไปภายใน 2 ชั่วโมง หลังออกกำลังกายเสร็จ



สำหรับการเลือกน้ำดื่ม ให้เหมาะสมกับการออกกำลังกาย

คนทั่วไปที่ออกกำลังกาย 1-2 ชั่วโมง แค่น้ำเปล่าสะอาด ก็เพียงพอแล้ว สำหรับคนที่ออกกำลังกายหนัก ๆ เป็นเวลา 3-5 ชั่วโมง หรือนักกีฬา ควรดื่มน้ำที่ผสมเกลือแร่ เพื่อชดเชยพลังงานที่เสียไป

น้ำดื่มที่ได้คุณภาพ นอกจากจะต้องสะอาด ได้มาตรฐานแล้ว ยังต้องมีคุณสมบัติอื่น ๆ ยกตัวอย่าง น้ำดื่มสิงห์ ที่มีแร่ธาตุที่สำคัญหลายชนิด เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม และฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายของเราต้องการเป็นประจำทุกวันค่ะ
หากเราดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ และพอดี ไม่มาก หรือน้อยเกินไป ก็สามารถช่วยให้เราออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

น้ำดื่มสะอาด มีประโยชน์อย่างไรกับเรา ไปหาคำตอบกันได้เลยค่ะที่ http://www.ignitethailand.com/น้ำดื่ม/