สวัสดีครับ วันนี้ผมมีแนวคิดเล็กๆน้อยๆ แต่มีความสำคัญมากสำหรับนักลงทุน ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วงการ หรือ การลงทุนทำธุรกิจจริง โดยมีนักธุรกิจชื่อดังของประเทศไทย ที่หลายๆคนคงรู้จักกันดี ในนามว่าคุณ ธนินท์ เจียรวนนท์ หรือ เจ้าสัวแห่งบริษัท cp มาแชร์แนวคิดนี้ให้เราได้ทราบถึงความเสี่ยงในการทำธุรกิจว่ามันมีความหมายว่าอย่างไร จากนี้เป็นต้นไปเรามาเริ่มทำความรู้จักกับความเสี่ยงนี้ไปพร้อมกันเลยครับ

ทำธุรกิจต้องรู้วิธีเลี่ยง – บริหารความเสี่ยงที่ไม่อยากเจอ

วิสัยทัศน์ของคุณธนินท์ เจียรวนนท์ สะท้อนให้เราได้ตระหนักว่าแม้จะยิ่งใหญ่และดูมั่นคงเพียงใดก็ยังไม่อาจหลีกหนีพ้นความผันผวนไม่แน่นอนของเศรษฐกิจได้ถึงธุรกิจจะยิ่งใหญ่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เสี่ยงแต่กลับกันยิ่งใหญ่เพียงใดยิ่งต้องเผชิญปัญหาและความเสี่ยงในทางธุรกิจมากขึ้นเท่านั้นการบริหารความเสี่ยงเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการนักบริหารและผู้นำองค์กรธุรกิจต้องเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมเอาไว้เพราะความไม่แน่นอนทางธุรกิจที่เหมือนดาบสองคมนี้สามารถเกิดและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาและความไม่แน่นอนนี่เองก็มักจะนำความเสี่ยงมาด้วยเสมอเรามาดูกันว่าเราจะบริหารความเสี่ยงในทางธุรกิจได้อย่างไรกันบ้าง

ธุรกิจต้องมีความชัดเจนจึงจะบริหารความเสี่ยงได้ง่าย



ถ้าคุณไม่ต้องการให้ธุรกิจของคุณต้องเข้าไปเสี่ยงกับสภาวะต่าง ๆ โดยไม่จำเป็นล่ะก็ทางเบี่ยงเพื่อหลีกเลี่ยงที่ดีที่สุดประการแรกก็คือ “กำหนดจุดประสงค์ของธุรกิจให้ชัดเจน” ผู้ประกอบการและนักบริหารต้องมั่นใจว่าจุดประสงค์ที่ต้องการนั้นสอดคล้องกับเป้าหมายที่ตั้งไว้แม้ว่าเป้าหมายที่วางเอาไว้แต่แรกมาแล้วอาจจะมีความเสี่ยงก็ตามแต่ความเสี่ยงนี้ต้องสามารถใช้หลักการบริหารและการจัดการเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นความเสี่ยงที่ยอมรับได้ไม่ใช่หนักหนาจนทำให้ธุรกิจมีโอกาสพังกากำหนดจุดประสงค์ในธุรกิจต้องมีความชัดเจนว่าต้องการอะไรและต้องทำอย่างไรถึงจะไปถึงเป้าหมายโดยเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรไว้กำหนดเป็นสัดส่วนจากนั้นค่อยมาดูเรื่องของกลยุทธ์ต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าเป็นกลยุทธ์เกี่ยวกับอะไรและกลยุทธ์นั้นจะนำไปสู่เป้าหมายจุดไหนบ้าง

ในส่วนของการปฏิบัติงานต้องปฏิบัติงานอะไรบ้างและต้องการประสิทธิภาพในการทำงานระดับไหนและผลของการปฏิบัติงานควรเป็นอย่างไรสามารถที่จะสร้างผลกำไรให้แก่องค์กรได้มากน้อยแค่ไหนมุ่งเน้นการดำเนินแผนกลยุทธ์ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับพันธกิจและแผนธุรกิจขององค์กรให้ได้ซึ่งคุณจะต้องใส่ความชัดเจนลงไปในงานทุกขั้นตอนแม้กระทั่งขั้นตอนการรายงานต้องชัดเจนไปเลยว่ารายงานนั้นเป็นรายงายเกี่ยวกับอะไรและที่สำคัญเรื่องของกฎระเบียบขององค์กรหรือบริษัทต้องชัดเจนที่สุดอะไรที่ทำได้อะไรที่ทำไม่ได้และถ้าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะมีบทลงโทษอย่างไรบ้างเพราะความชัดเจนนี่เองจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้การทำงานของทุกฝ่ายในบริษัทเป็นไปได้อย่างราบรื่นโปร่งใสและมีระบบระเบียบตรวจสอบได้พนักงานจะเข้าใจบริษัทได้ไม่ยากว่าบริษัทและผู้บริหารต้องการอะไรสิ่งนี้นับเป็นขั้นตอนแรกในการบริหารความเสี่ยงอย่างได้ผลที่สุด

เปรียบเทียบง่าย ๆ ให้เข้าใจมากขึ้นก็ขอยกเรื่องของกีฬาการต่อสู้อย่างการชกมวยไทยนักมวยทั้งสองฝ่ายก่อนจะขึ้นชกกันนั้นต้องเตรียมตัวฝึกซ้อมในการฝึกซ้อมเทรนด์เนอร์ก็จะคอยสอนเทคนิคการชกที่ถูกต้องเสมอว่าต้องชกอย่างไรที่จะเข้าเป้าชัดเจนชกอย่างไรไม่ให้ผิดกติกาคือนักมวยจะมีความเข้าใจที่ชัดเจนก่อนชกแล้วพอมีความเข้าใจเรื่องกฎกติกาทุกอย่างชัดเจนเทรนด์เนอร์ก็ถึงจะวางกลยุทธ์วางกลมวยแก้ทางคู่ต่อสู้แบบว่าถ้าเอาเตะมาแบบนี้จะแก้อย่างไรหากอีกฝั่งสามารถกำหนดกลวิธีที่เหนือกว่านั่นก็เท่ากับว่าฝ่ายเราเป็นฝ่ายที่ต้องเผชิญความเสี่ยงแล้วนั่นเอง

อ้างอิง https://www.passiongen.com/2017/07/d...business-plan/

ที่นี้เราก็รู้จักกันแล้วใช่ไหมครับ กับหน้าตาและความหมายของความเสี่ยง จากนี้เราก็ไม่ต้องกลัวมันอีกต่อไปแล้ว ขอแค่มีกระบวนการในการจัดการกับความเสี่ยงได้ดีก็สามารถผ่านปัญหาต่างๆไปได้อย่างสวยงาม ส่วนใครที่ต้องทราบวิธีการจัดการกับเสี่ยงก็สามารถเข้าไปดุเพิ่มเติมได้ตามลิงค์ที่ผมทิ้งไว้ให้ข้างบนนี้เลยครับ ในนั้นมีกระบวนการการจัดการที่ครบถ้วน รู้อย่างนี้แล้วเราก็ขึ้นไปลุยบนสังเวียนเล๊ย!