เปรียบเทียบการศัลยกรรมในสมัยก่อนกับสมัยใหม่

ต้องบอกว่าเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอนทีเดียวครับที่ว่าเมื่อเทคโนโลยีทันสมัยขึ้นก็ทำให้มนายชาติมีความสะดวกสบายมากขึ้นเพราะถ้าหากเราพูดถึงเรื่องของการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอกแล้วในสมัยก่อนนั้นเป็นอะไรที่ลบำบากยากเย็นมากครับโดยเริ่มตั้งแต่การตรวจสอบร่างกายว่าร่างกายนั้นพร้อมที่จะเข้ารับการศัลยกรรมเสริมหน้าอกหรือไม่โดยจะต้องใช้เวลาในการประเมิณอย่างน้อย 3 เดือนจึงจะรู้ผลจากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการผ่าตัดโดยการผ่าตัดเพื่อเสริมหน้าอกนั้นจะต้องใช้หมอศัลยกรรม หมอผู้ช่วยและนางพยาบาลมายืนรุมล้อมกันมากมายเหมือนอย่างที่เราเห็นกันในหนัง มีการฉีดยาสลบ มีการใช้มีดผ่าตัดแหวก ยัดซีลีโคนเข้าไปและเย็บติดโดยในขั้นตอนเหล่านี้นั้นใช้เวลาไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมงและเมื่อผ่าตัดเสร็จตัวของคนไข้หรือผู้รับการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอกต้องนอนพักที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการและผลข้างเพียงพร้อมกับยพักฟื้นเพื่อให้แผลติดสนิทกันอีกไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือนแถมที่ๆ แน่ๆ ก็คือยังได้รับแผลเป็นจากการผ่าตัดอีกด้วยนี่แหละครับการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอกสมัยก่อนที่นอกจากจะใช้เวลานานมากมายแล้วยังมี “ตำหนิ” หรือ “แผลเป็น” โผล่ให้เห็นอีกด้วย

แต่ในปัจจุบันนี้เมื่อเทคโนโลยีและความก้าวหน้าทางการแพทย์มีมากขึ้น ทุกท่านเชื่อไหมครับว่าการผ่าตัดเพื่อศัลยกรรมเสริมหน้าอกนั้นตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงจบขั้นตอนสมบูรณ์ใช้เวลาอย่างมากสุดไม่เกิน 15 วันรวมระยะเวลาพักฟื้นแล้วแต่โดยมากแล้วจะอยู่ที่เพียงแค่ 7 วันเท่านั้นครับแถมที่เด็ดที่สุดก็คือแผลเป็นจากการผ่าตัดเสริมหน้าอกนั้นมีให้เห็นน้อยมากและในบางรายที่ศัลยแพทย์ผ่าตัดเป็นศัลยแพทย์มือดีและมีประสบการณ์นั้นแผลเป็นแทบจะไม่เห็นเลยทีเดียวเชียวครับ นี่แหละครับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ช่วยวงการแพทย์ได้มากเลยทีเดียว

แต่ทว่าเทคดนโลยีนั้นบางครั้งก็ต้องแลกมาด้วยปัจจัยที่ไม่น้อยเลยทีเดียวนะครับ!

การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยวิธีการอันทันสมัยและมีแผลเป็นน้อยนั้นเกิดจากการใช้เทคโนโลบยีที่ทันสมัยดังนั้นมันจึงมีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดที่มากกว่าการผ่าตัดแบบสมัยก่อนอยู่พอสมควรแต่ทว่าเมื่อคำนึงถึงอาการ ผลข้างเคียงและระยะเวลาที่ใช้ในการพักฟื้นและรอยแผลเป็นอันน้อยนิดแล้วก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนกันที่สมเหตุสมผลครับอีกทั้งสาเหตุที่การผ่าตัดประเภทนี้มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข่างสูงก็เนื่องมาจากว่าอุปกรณ์บางตัวเป็นของใหม่จึงต้องมีการนำเข้าและมีความต้องการที่จะใช้งานทั่วโลกสูงจึงทำให้ราคาของมันยังแพงอยู่แต่ถ้าหากปล่อยไว้อีกประมาณ 2-3 ปี ตอนนั้นเจ้าอุปกรณ์เหล่านี้มีการนำเข้ามาใช้กันทั่วราคาค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดก็จะลดลงครับ