Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 4 of 4

Thread: ด่วน! สถิติชี้ กรุงเทพฯและปริมณฑลมีปริมาณมลพิษสูงมาก สอดคล้องกับ เปอร์เซ็นต์ผู้ป่วยมะเร็งทั้ง ทั้ง 10 อันดับแรกของอันดับจำนวนผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทย (ต้องอ่าน)

  1. #1
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5

    ด่วน! สถิติชี้ กรุงเทพฯและปริมณฑลมีปริมาณมลพิษสูงมาก สอดคล้องกับ เปอร์เซ็นต์ผู้ป่วยมะเร็งทั้ง ทั้ง 10 อันดับแรกของอันดับจำนวนผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทย (ต้องอ่าน)

    สถาบันมะเร็งแห่งชาติ จัดทำทะเบียนระดับโรงพยาบาลตั้งแต่ พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบัน การจัดเก็บข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งมีการตรวจสอบคุณภาพด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี แสดงถึงจำนวนผู้ป่วยมะเร็งที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต










    จากรายงานทะเบียนมะเร็งระดับโรงพยายบาล (Hospitl-based Cancer Registry) พ.ศ. 2555 ฉบับที่ 28 ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็ง 10 อันดับแรก ตรวจพบในกรุงเทพฯและปริมณฑล มากกว่า ต่างจังหวัด สูงมาก

    ขอบคุณข้อมูลจาก สถาบันมะเร็งแห่งชาติ
    ดูข้อมูลทั้งหมดได้จาก http://www.nci.go.th/th/File_downloa...12%20Total.pdf
    เว็บไซต์ http://www.nci.go.th/

    ซึ่งเป็นผลมาจาก มลพิษ ทั้งทางน้ำ ทางบก ตามสถิติที่ได้จาก รายงานสถานการณ์ มลพิษ ของประเทศไทย ปี 2257 กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม






    ขอบคุณข้อมูลจาก กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
    ดูข้อมูลทั้งหมดได้จาก http://infofile.pcd.go.th/mgt/pcdrep...TOKEN=33110865
    เว็บไซต์ http://www.pcd.go.th/

    อีกทั้ง ข้อมูลจาก

    "น.ส.ปรกชล อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือ Thai PAN ยอมรับว่า ปัจจุบันสถานการณ์การปนเปื้อนของสารเคมีตกค้างในร่างกายยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการบริโภคผัก ผลไม้ของประชาชนที่ยังคงละเลยความเสี่ยงได้รับสารเคมีประเภทยาฆ่าแมลงปนเปื้อนในร่างกาย สิ่งที่สะท้อนอย่างชัดเจนคือผลการตรวจยาฆ่าแมลงในเลือดที่ดำเนินการตรวจให้ประชาชนที่มาร่วมงานมหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไทย เมื่อปีที่แล้ว โดยเจาะเลือดประชาชนที่มาตรวจ 963 คน เกินกว่าครึ่ง หรือร้อยละ 53.37 เสี่ยงจากสารเคมีตกค้าง, ร้อยละ 13.81 มีสารตกค้างในระดับที่ไม่ปลอดภัย, ร้อยละ 31.67 มีสารเคมีตกค้างระดับที่ปลอดภัย และมีเพียงร้อยละ 1.14 เท่านั้นที่พบว่าปกติ"

    ที่มา http://www.thaihealth.or.th/Content/...%E0%B8%99.html

    Last edited by iDnOuSe4; 02-09-2016 at 01:06 PM.
    ชวนเพื่อนใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ในลายเซ็นเพื่อแนะนำเพื่อนๆ ในการใช้เครื่องมือของชุมชนให้มีทักษะเท่ากัน

  2. #2
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5

    Re: ด่วน! สถิติชี้ กรุงเทพฯและปริมณฑลมีปริมาณมลพิษสูงมาก สอดคล้องกับ เปอร์เซ็นต์ผู้ป่วยมะเร็งทั้ง ทั้ง 10 อันดับแรกของอันดับจำนวนผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทย (ต้องอ่าน)

    พิษจากคาร์บอนไดออกไซด์ ใกล้ตัว และยากจะหลีกเลี่ยงได้ อันเนื่องมาจากความเครียดจากการทำงาน


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://p3.isanook.com/ho/0/ud/0/3317/b_02653_002.jpg)

    อาการของร่างกาย เมื่อร่างกายเราเข้าสู่ภาวะเครียด เชื่อว่าทุกท่านที่ผ่านช่วงนั้นมา คงพอสังเกตุอาการของตนเองและจำได้ นั้นคือ อาการอ่อนเพลีย หมดแรง ง่วง หาว เป็นต้น อาการเหล่านี้เป็นผลลัพธ์ของพฤติกรรมของร่างกายในขณะที่เราเครียดอยู่ ซึ่งเราไม่ค่อยจะสังเกตุได้ทัน (หากได้อ่านบทความนี้แล้ว ลองไปสังเกตุอาการดู) นั้นคือ เราจะหายใจสั้น และถี่ ถอนหายใจบ่อยมาก ไม่หิวน้ำ ไม่ปวดปัจสาวะ ไม่ปวดอุจจาระ หัวใจเต้นเร็ว พฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นจากการที่กลไกของร่างกายทำงานหนักเพื่อส่งทรัพยากรไปให้อวัยวะส่วนต่างๆ ที่ต้องใช้ทำงาน โดยเฉพาะสมองและตา ให้ทันต่อความต้องการใช้งาน


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.yellowpages.co.th/yellowl.../Sleepy/01.jpg)

    ซึ่งหากอวัยวะทุกส่วนที่ทำงาน ไม่มีความผิดปกติ ผลที่สามารถสังเกตุได้ของร่างกายขณะนั้น ของกลไกนี้คือ ร่ายกายได้รับออกซิเจนน้อยลง ปล่อยก๊าซอื่นๆ ที่ร่ายกายไม่ต้องการ (คาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจน อื่นๆ) ได้น้อยลง อันเกิดจากการหายใจสั้นและถี่ ร่างกายเราจึงสร้างกลไก การถอนหายใจ ให้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ หากเราร่างกายเราเกิดภาวะนี้ (หากสังเกตุการถอนหายใจ เราจะสูดหายใจลึกมากก่อน 1 ครั้งก่อนถอนออก)

    หากลำไส้ส่งสัญญาณมาในช่วงเวลาที่เกิดอาการเครียดอยู่ อาจส่งผลให้เราไม่หิวน้ำ ไม่ปวดปัจสาวะ ไม่ปวดอุจจาระ เป็นต้น นอกเหนือจากการอาการที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอาการอื่นๆ สำหรับบางคน เช่น การให้ร่ายกายอยู่ในท่าเดิมๆ เป็นเวลานานๆ ด้วยเช่นกัน


    (ขอบคุณรูปภาพจาก https://fonnichakoon.files.wordpress...1012010_01.jpg)

    สารพิษ คือ สารให้โทษแก่ร่าย ดังนั้น ร่ายกายไม่ควรมีอยู่ หากมีอยู่ต้องขจัดออกให้เร็วที่สุด
    สำหรับกรณีนี้ การถอนหายใจ คือกระบวนการกำจัด และขจัดสารพิษออกจากร่ายกายตามธรรมชาติ ดังนั้น หากเราต้องถอนหายใจ แสดงว่าร่ายกายเรากำลังป้องกันการได้รับพิษจากการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อันเนื่องจากการการได้รับออกซิเจนน้อยจากการหายใจแบบสั้นและถี่นั้นเอง

    การสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไชด์นี้ หากมองเผินๆ จะเห็นว่าเป็นโทษแก่ร่ายกายได้น้อย เพราะ ผลของมันอาจเป็นแค่ การปวดหัว วิงเวียนศรีษะ หรือ กรณีสะสมปริมาณมากและรวดเร็ว อาจเกิดการหมดสติได้ แต่ที่เป็นโทษต่อร่ายกายที่แท้จริง นั้นร้ายแรงกว่าที่คิดเยอะ นั้นเพราะ ตำแหน่งที่มันสะสมคือกระแสเลือด

    กระแสเลือด คือ ของไหลที่บรรจุทั้งสารที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ ไหลไปทั่วร่ายกายเป็นรอบๆ ผ่านการให้แรงดันจากการเต้นของหัวใจ การสะสมของก๊าชคาร์บอนไดออกไชด์จะสะสมอยุ่ที่เส้นเลือดดำในรูป เส้นเลือดดำซึ่งเป็นตำแหน่งที่ส่วนใหญ่บรรจุสารที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่ายกายไม่ว่าจะเป็นสารพิษอื่นๆ เพื่อเตรียมลำเลียงไปที่ตับเพื่อกำจัดและปล่อยออกจากร่ายกาย นั้นคือ หากมีการสะสมมากเท่าใด ยิ่งทำให้การลำเลียงสารพิษอื่นๆ ไปกำจัดและปล่อยช้าขึ้นเท่านั้น


    ซึ่งการลำเลียงสารพิษไปกำจัดและปล่อยได้ช้านี้เอง คือ โทษที่แท้จริง ซึ่งรุนแรงมาก แต่อาจถูกมองข้ามไปได้อย่างง่ายได้ เพราะ กลไกการกำจัดสารพิษของร่างกายออกแบบให้กำจัดและปล่อยสารพิษ ได้ในอัตราส่วนคงที และ/หรือ ปริมาณคงที่ ต่อเวลา ขึ้นกับชนิดของสารพิษนั้นๆ ดังนั้น การกำจัดและปล่อยสารพิษสามารถทำได้เป็นรอบๆ ถ้ากำจัดและปล่อยไม่หมด จะถูกปล่อยเข้าสู่ร่ายกายอีกรอบ เพื่อเตรียมลำเลียงมากำจัดและปล่อยอีกครั้งในรอบถัดไป หากไม่สามารถลำเลียงไปกำจัดได้ สารพิษจะไปสะสมตามอวัยวะต่างๆ

    สารพิษที่เก็บอยุ่ในรูปสารละลาย ที่ละลายน้ำได้ เช่น ไอนิโคติน หรือสารเคมีอื่นๆ จะมีส่งผลต่อ ข้อต่อ เลือด เนื้อเยื้อ และ กล้ามเนื้อ
    สารพิษที่เก็บอยุ่ในรูปสารละลาย ที่ละลายในน้ำมัน เช่น อนุภาค โฮร์โมน โลหะหนัก จะมีผลต่อ เซลล์ไขมัน ไขกระดูก ตับ และ ระบบประสาทส่วนกลาง


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://detoxknowhow.com/sites/defaul...tal_source.jpg)

    เมื่อร่ายกาย ไม่สามารถกำจัดสารพิษออกได้หมดในระยะเวลาๆ หนึ่งๆ จะส่งผลให้เกิดภาวะสารพิษตกค้างในร่ายกาย จนถึงสารพิษตกค้างสะสมในร่างกาย (ขึ้นกับปัจจัยการรับประทานอาหารและใช้ชีวิตของแต่ละคน) จะส่งผลข้างเคียง และ สัญญาณของ ภาวะดังกล่าว ได้ จากอาการผิดปกติ และอาจเป็นเหตุให้เกิดโรคดังต่อไปนี้

    arthritis/joint pain ไขข้อ
    autoimmune disorders โรคภูมิทำลายตัวเอง
    cardiovascular disease โรคหัวใจและหลอดเลือด
    chronic fatigue อ่อนเพลียเรื้อรัง
    constipation อาการท้องผูก
    diabetes โรคเบาหวาน
    diarrhea โรคท้องร่วง
    fibromyalgia (a chronic disorder characterized by widespread musculoskeletal pain, fatigue, and tenderness in localized areas.)
    headaches ปวดหัว
    homone imbalance สมดุลฮอร์โมนผิดปกติ
    inflammatory disorder ความผิดปกติของการอักเสบ
    IBS (Irritable bowel syndrome (IBS)) ลำใส้แปรปรวน
    neurolagic disorders ความผิดปกติของระบบประสาท
    obesity/overweight โรคอ้วน / น้ำหนักตัวมากเกิน

    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.atlasdrugandnutrition.com...oxic-body.png)

    ที่ร้ายกว่านั้นคือ เมื่อร่ายกายส่งสัญญาณมาแล้ว หลายคนแก้ด้วยวิธีกินยาระงับอาการ แต่ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุด้วย ซึ่งปรากฏการ์ณเหล่านี้ เกิดขึ้นได้ไม่ยากเลย ยกตัวอย่างเช่น เครียดจากทีทำงาน แล้วดูดบุหรี ตกเย็นดื่มเหล้า หรือ เครียดจากที่ทำงาน ตกเย็นกินปิ้งย่าง หรือของหวานต่างๆ เป็นต้น หรือแม้แต่ เครียดในขณะนั่งรถประจำทาง ขับรถ เดิน ข้างถนนในเมืองใหญ่ ทั้งหมดนี้อาจก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในร่ายกายได้ จนก่อให้เกิดโรคตามอาการเหล่านั้นได้ทั้งสิ้น

    ดังนั้น พิษ และ สารพิษ ใกล้ตัวกว่าที่เราคิดกันเยอะมาก แม้ว่าหลายคนพยายามป้องกันต้นเองด้วยวิธีต่างๆ นานา แต่หากเราเผลอ เราพลาด หรือ จำเป็นต้องเครียดจริงๆ พิษและสารพิษเหล่านั้น ก็เตรียมทำงานอยุ่ทุกเวลาด้วยเช่นกัน
    ชวนเพื่อนใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ในลายเซ็นเพื่อแนะนำเพื่อนๆ ในการใช้เครื่องมือของชุมชนให้มีทักษะเท่ากัน

  3. #3
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5

    Re: ด่วน! สถิติชี้ กรุงเทพฯและปริมณฑลมีปริมาณมลพิษสูงมาก สอดคล้องกับ เปอร์เซ็นต์ผู้ป่วยมะเร็งทั้ง ทั้ง 10 อันดับแรกของอันดับจำนวนผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทย (ต้องอ่าน)

    สารพิษใกล้ตัวจริง จากสถิติ และบทความ จากนักวิจัย ที่น่าเชื่อถือ ดังต่อไปนี้


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.thaipan.org/sites/default...ntitled-72.PNG)

    เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thailand Pesticide Alert Network: Thai-PAN) แถลงผลการเฝ้าระวังการตรวจสารเคมีกำจัดศัตรูพืชปนเปื้อนในผักที่คนไทยนิยมบริโภคมากที่สุด 10 ชนิด ประกอบไปด้วยคะน้า ผักกาดขาว กะหล่ำปลี แตงกวา ถั่วฝักยาว มะเขือเปราะพริกแดงกะเพรา กวางตุ้ง และผักบุ้งจีน โดยเก็บตัวอย่างผักจากโมเดิร์นเทรด ซึ่งประกอบไปด้วยห้างเทสโก บิ๊กซี แมคโคร และผักที่มีตราเครื่องหมาย Q รับรอง และจากตลาดสดจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ตลาดไท ปากคลองตลาด สี่มุมเมือง และตลาดบางใหญ่ ปรากฏว่าพบโดยภาพรวมมีผักที่มีสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐาน (ค่าเอ็มอาร์แอล) ของกระทรวงสาธารณสุขสูงถึง 22.5%

    จากการตรวจสอบพบว่า ผักที่พบการปนเปื้อนมากที่สุดคือกะเพรา พบว่าสารพิษเกินมาตรฐานถึง 62.5% ถั่วฝักยาวและคะน้าพบ 32.5% ผักบุ้งจีน กวางตุ้ง และมะเขือเปราะพบตกค้าง 25% แตงกวาและพริกแดงพบค่อนข้างน้อยคือ 12.5% ส่วนผักกาดขาวปลี และกะหล่ำปลีไม่พบการตกค้างเลย

    จากบทความเรื่อง ไทยแพนพบสารพิษตกค้างในผักเกินมาตรฐานถึง 22.5% กะเพราเจอหนักสุด 62.5%


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.thaipan.org/sites/default...?itok=ePg3mA3S)

    ศ.สมพนธ์ วรรณวิมลรักษ์และคณะ มหาวิทยาลัยมหิดล สำรวจผักคะน้า 117 ตัวอย่างใน 12 ตลาดที่จังหวัดนครปฐม พบว่ามีสารพิษตกค้างเกินมาตรฐาน 29.1% ในบรรดาสารพิษที่พบเกินมาตรฐานมากที่สุด 6 อันดับแรก มีคาร์โบฟูราน ซึ่งเป็นสารพิษร้ายแรงที่ไม่มีการอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนรวมอยู่ด้วย

    นักวิชาการคณะนี้ยังได้ทำการทดลองการล้างผักคะน้าด้วยวิธีการต่างๆ โดยพบว่าแต่ละวิธีการให้ผลในการล้างสารแต่ละชนิดได้ไม่เท่ากัน ตัวอย่างเช่นในสารโพรฟีโนฟอส การล้างด้วยด่างทับทิม น้ำส้มสายชู และโซเดียมไบคาร์บอเนตได้ผลน้อยมาก (ล้างออกได้ 20-40%) แต่ล้างด้วยน้ำไหล จะล้างออกได้ครึ่งหนึ่ง ในขณะที่สารไซเปอร์เมทริน สามารถล้างออกครึ่งหนึ่งด้วยน้ำส้มสายชู แต่ล้างไม่ออก(ล้างออกได้เพียง 10-20%)ด้วยด่างทับทิม โซเดียมไบคาร์บอเนต และน้ำไหล

    จากบทความเรื่อง 29.1% ผักคะน้ามีสารพิษตกค้างเกินมาตราฐานการล้างออกด้วยวิธีการที่เหมาะสมที่สุดยังล้างออกได้เพียงครึ่งเดียว
    ชวนเพื่อนใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ในลายเซ็นเพื่อแนะนำเพื่อนๆ ในการใช้เครื่องมือของชุมชนให้มีทักษะเท่ากัน

  4. #4
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5

    Re: ด่วน! สถิติชี้ กรุงเทพฯและปริมณฑลมีปริมาณมลพิษสูงมาก สอดคล้องกับ เปอร์เซ็นต์ผู้ป่วยมะเร็งทั้ง ทั้ง 10 อันดับแรกของอันดับจำนวนผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทย (ต้องอ่าน)

    ตรวจสอบตัวเองว่า มีสารพิษสะสมมากเกินพอแล้วหรือยัง ได้จากอาการของร่างกายดังต่อไปนี้




    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.massattack.com.au/img/women_coffee_cup.jpg)

    หากคุณตื่นตอนเช้าด้วยการลากตัวเองออกจากเตียงพร้อมโหยหากาแฟอย่างด่วน หรือหากไม่ได้กาแฟ จะทำงานเหม่อลอย ไม่กระฉับกระเฉง ง่วง หาว อยู่ตลอดเวลา
    เราคิดว่าคุณควรอ่านบทความนี้ เพราะร่ายกายของคุณกำลังส่งสัญญาญเตือนบางอย่าง ให้ล้างพิษออกจากร่ายกายเสียบ้าง ดังต่อไปนี้


    (ขอบคุณรูปภาพจาก https://s-media-cache-ak0.pinimg.com...de95c8f263.jpg)
    1. อยากน้ำตาลบ่อยๆ
    คุณพบว่าตนเองอยากขนมหวานอยู่บ่อย นั้นหมายความว่าร่างกายคุณไม่ได้ผลิตพลังงาน (metabolism) อย่างเพียงพอที่ควรจะเป็น


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://thebiostation.com/wp-content/...gy-400x210.jpg)
    2. อ่อนเพลียต่อเนื่อง
    คุณพบว่า ทำงานเท่าเดิมต่อเหนื่อยเร็วกว่าคนอื่นๆ เป็นสัญญาณว่าร่ายกายต้องการล้างขยะที่สะสมอยู่ออกไปบ้าง


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://media3.s-nbcnews.com/j/stream...inline-med.jpg)
    3. ท้องอืด และมีลมในกระเพาะ
    คุณพบว่าท้องอืด มีแก็สในกระเพาะเยอะ ทั้งๆที่ไม่ได้เปลี่ยนวิถีการกิน นั้นเพราะแบคทีเรียที่ไม่แข็งแรงทำให้เกิดการท้องอืดหรือก๊าซเจริญเติบโต ในร่ายกายที่เป็นพิษ


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2014/...nce_Person.jpg)
    4. อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด หรือวิตกกังวล
    เมื่อร่ายกายเป็นพิษ การผลิตสารสื่อประสาทความรู้สึกที่ดี(serotonin) ของเรา จะลดลง สารพิษอื่นๆ เช่นแอมโมเนียที่สร้างขึ้นจากปรสิต
    ก่อให้เกิดความกังวลและปัญหาทางอารมณ์อื่นๆ เช่นภาวะซึมเศร้า


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://i173.photobucket.com/albums/w...l/IMG_0830.jpg)
    5. บวมน้ำ
    ร่ายกายอาจพยายามที่จะเจือจางสารพิษ ให้อันตรายลดลง ทำให้เกิดการบวมน้ำ


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://img.webmd.com/dtmcms/live/web...a_migraine.jpg)
    6. ไมเกรน
    สารพิษจำนวนมากเก็บไว้ในร่างกายที่มีการระคายเคืองต่อระบบประสาทส่วนกลาง หากไม่กำจัดสารพิษออก จะเกิดอาการปวดหัวและพัฒนาไปจนถึงไมเกรนได้


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://i3.mirror.co.uk/incoming/arti...-Addiction.jpg)
    7. เสพติดคาเฟอีน
    คุณไม่สามารถผ่านวันๆ หนึ่งไปได้ หากร่ายกายไม่ได้รับคาเฟอีน ใช่หรือไม่ คาเฟอีน มีฤทธิ์กระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็ว ดังนั้นความดันเลือดจะสูงขึ้น ทำให้เลือด ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้มากขึ้น แต่แลกด้วยการไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วร่ายกายเราส่ง สัญญาณให้พักผ่อนเพื่อซ่อมแซมอะไรบางอย่างอยู่ หรือที่ร้ายกว่านั้น หากเลือดเต็มไปด้วยพิษ พิษจะยิ่งกระจายตัวเร็วขึ้นอีกด้วย

    หากคุณมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ควรตรวจสอบร่ายกายได้แล้วว่า คุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเผชิญหน้ากับพิษโดยที่ไม่รู้ตัวอยู่หรือไม่ จากบทความนี้ แน่ใจหรือ? เพราะสารพิษรุนแรงและใกล้ตัวกว่าที่คุณคิดไว้เยอะมาก

    อ้างอิงจากบทความเรื่อง 7 Signs of a Toxic Body จากเว็บไชร์ http://www.atlasdrugandnutrition.com/about-us/
    (ที่มา http://www.atlasdrugandnutrition.com/reasons-cleanse/)[/FONT]
    ชวนเพื่อนใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ในลายเซ็นเพื่อแนะนำเพื่อนๆ ในการใช้เครื่องมือของชุมชนให้มีทักษะเท่ากัน

Comments from Facebook

Similar Threads

  1. Replies: 51
    Last Post: 05-09-2021, 03:15 PM
  2. ด่วน!!รับ order Chanel ทั้งน้ำหอมและเครื่องสำอางค์ค่ะ
    By jukjee in forum เครื่องสำอางและอุปกรณ์เสริมความงาม
    Replies: 0
    Last Post: 10-03-2015, 04:40 PM
  3. Replies: 0
    Last Post: 02-11-2015, 11:26 AM
  4. Replies: 0
    Last Post: 02-10-2015, 01:56 PM
  5. Replies: 0
    Last Post: 02-09-2015, 07:06 PM

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •