Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 1 of 2 1 2 LastLast
Results 1 to 10 of 12

Thread: แนะนำร้าน Organic Chlorella by Febico Thailand Fanclub ร้านลูกของเรา ที่จะเน้นให้ข้อมูลสินค้าอาหารเสริม Organic Chlorella by Febico

  1. #1
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5

    ORGANIC CHLORELLA by Febico - Thailand Fanclub


    ชุมชนคนรักสุขภาพ ด้วย Organic Chlorella จาก Febico จากมุมมองของผู้รับประทานจริงต่อเนื่องเป็นประจำ ในประเทศไทย





    ดังนั้น เราจึงตัดสินใจเปิดร้านนี้ขึ้นมา เพื่อให้ข้อมูล และแนะนำสินค้าให้ได้ละเอียดมากขึ้น
    แต่ยังสามารถสั่งซื้อ หรือ ติดต่อสอบถามสินค้าได้จากร้าน The Good ได้เหมือนเดิม

    FACEBOOK : www.facebook.com/organic.chlorella.thai
    LINE : wuttichai115504
    EMAIL : organchlorellathaifc@gmail.com

    TEL : ศูนย์ 8 หก 856 หก 670 (ป๊อปครับ)

    ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ
    (ป๊อป)

    Last edited by iDnOuSe4; 02-05-2016 at 01:05 PM.

  2. #2
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    แต่เดิมเป็นคนที่ปฏิเสธการกินอาหาร "เสริม " อย่างแรง เพราะ มีความเชื่อว่ากินอาหารให้ครบตามปกติก็พอ และถ้ายังกินอาหารให้ครบปกติไม่ได้ ออกกำลังกายไม่ได้ พักผ่อนเพียงพอไม่ได้ ไม่รู้ว่าต้องกินอาหารเสริมเท่าไหร่จึงจะพอ เพราะ ผมต้องการแค่ให้ร่ายกายปกติ ไม่ได้มีความจำเป็นต้องแข็งแรงเว่อร์อะไร



    จนกระทั่งได้ศึกษา อ่านงานวิจัย เกี่ยวกับสาหร่ายคลอเรลล่า เพื่อหาว่าทำไมสาหร่ายคลอเรลล่าจึงได้รับการยอมรับ จนขึ้นชื่อว่าเป็น “Super Food” อย่างแพร่หลายทั่วโลก

    หลังศึกษาข้อมูลมาอย่างเข้มข้นสูงมาก ต้องยอมรับ สาหร่ายคลอเรลล่าตัวนี้จริงๆ เนื่องจาก ต้นกำเนิดและวิวัฒนาการที่ต้องใช้คำว่า “มหัศจรรย์ธรรมชาติ” ของมัน ทำให้มันได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถ “ล้างพิษ” ตามธรรมชาติได้ดีที่สุดในโลก โดยปริยาย

    และด้วยความพิเศษนี้เอง เมื่อบริษัทชั้นนำเรื่องการวิจัยและพัฒนาอย่าง Febico นำมาเลี้ยงในสายน้ำแร่ธรรมชาติ ที่มีสิ่งแวดล้อมที่บริสุทธิ์ และมีเทคโนโลยีทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารจากสาหร่ายคลอเรลล่าได้สูงมาก ก่อนบรรจุเป็นสาหร่ายคลอเรลล่าอัดเม็ดที่ยังคงคุณค่าไว้ 100% เต็ม ทำให้ผมเลือกให้มันเป็นอาหารเสริมตัวแรก

    ทำไมหน่ะหรือ ก็เพราะว่า การ "ล้างพิษ" นี้ จะทำให้ผมได้สิ่งที่ต้องการ นั่นคือ “ร่างกายที่ปกติ” (ยกเว้นอุบัติเหตุและเชื้อโรคที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้) เพราะ ร่างกายที่ปกติคือร่ายกายที่ไม่มีสิ่งไม่ปกติ และ ผมยอมรับว่าผมบังคับให้ใช้ชีวิตแบบหลีกเลี่ยงสิ่งไม่ปกติไม่ได้ ดังที่กล่าวไว้แล้วในตอนต้น ดังนั้น จากการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากๆ แล้ว ประกอบกับการศึกษา และอ่านวิจัยข้างต้น จึงได้เห็นผลการศึกษาร่ายกายที่สะสมพิษไว้มากแล้ว นำมาเปรียบเทียบกับร่ายกายตนเอง
    จึงสรุปได้ว่า ยังไงอาหารเสริมตัวนี้ ก็ได้คำตอบเดียวว่า “ต้องกิน”

    นอกเหนือจากนั้นแล้ว การกินอาหารเสริมของผมเองมีอุปสรรคเรื่องการจ่ายเงินเพิ่ม ที่ผ่านมาแม้ว่าสนใจอาหารเสริมบำรุงร่ายกายอยู่หลายตัว แต่ก็ไม่สามารถตัดใจซื้อได้ อันเนื่องมาจากกว่า “กลัวไม่คุ้ม” เพราะยังดูแลร่ายกายตัวเองให้ “ปกติ” ไม่ได้เลย จนกระทั่งได้เจอสาหร่ายคลอเรลล่าที่ทำให้ร่ายกาย “ปกติ” ได้ก่อน การจ่ายเงินเพื่อซื้อจึงจะคุ้ม อีกอย่างเมื่อนำราคาของอาหารเสริมตัวนี้มาหารต่อวันดูแล้ว เหลือราคา 30 กว่าบาทต่อวัน ซึ่งราคานี้เป็นราคาสำหรับอาหาร 1 มื้อ (อาหารบางมื้อ และกาแฟสดยังแพงกว่าเลย) จึงเป็นราคาที่ควรบริหารเงินให้จ่ายไหว

    จากการศึกษาข้อมูลและงานวิจัย จนมีผลที่ได้รับกับตัวเองจนตระหนักว่าต้องกินอาหารเสริมตัวนี้ให้ได้ทุกวันแล้ว ยังได้ศึกษาอาการเจ็บป่วย และโรคร้าย ที่เกิดขึ้น จึงทำให้ระลึกได้ถึงช่วงเวลาตอนเด็กที่คอยดูแลให้คุณตากินยา และไปเฝ้าคุณตาที่โรคพยาบาล ได้ว่าเมื่อตอนแก่ ไม่ต้องการนำเงินที่หามาได้ทั้งชีวิตของตนเอง (หรือคนที่เรารัก) ไปจ่ายให้ค่ายา และค่ารักษาตัวเอง อย่างไม่มีทางเลือก ดังนั้น จึงเลือกจ่ายเงินเพื่อซื้ออาหารเสริมที่ทำให้ร่ายกายเราปกติตอนนี้ ดีกว่า

    เมื่อได้ข้อสรุปแบบไม่มีข้อสงสัยใดๆแล้ว จึงได้เริ่มกินสาหร่ายคลอเรลล่านี้ และเฝ้าสังเกตุอาการของร่ายกายว่าเป็นไปตามสรรพคุณตามข้อมูลที่ได้ศึกษาหรือเปล่า ผ่านไปประมาณ 1 เดือน พบว่าร่ายกายค่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมาก สำหรับตนเองแล้วสามารถแบ่งเป็นสองระยะ ได้แก่ระยะ ร่ายกายกำลังล้างพิษ และ ร่ายกายเริ่มปราศจากสารพิษ

    โดยสำหรับร่ายกายผมแล้วช่วงร่ายกายกำลังล้างพิษ ช่วงแรกจะมีอาหารหิวน้ำมากกว่าเดิม ปัสสาวะบ่อยกว่าเดิม ผ่านไปได้สักอาทิตย์จะสังเกตุเห็นว่าการอุจจาระสม่ำเสมอ และรู้สึกโล่งท้องมากๆ จนเมื่อเริ่มรู้สึกว่าตื่นเช้าได้ไม่ง่วง เหงา หาว นอน ไม่เพลีย และกระฉับกระเฉงกว่าแต่ก่อนเยอะมาก และร่ายกายไวต่อสารพิษ เช่น ผงชูรส หรือ อาหารที่ปนเปื้อน จึงได้รู้ว่าตอนนี้เป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มปราศจากสารพิษแล้ว แม้ว่าร่ายกายดีขึ้นมากแล้วแต่ สารพิษใกล้ตัวมาก และพร้อมที่จะเข้าสู่ร่ายกายได้ตลอดเวลา จึงต้องทานเป็นประจำทุกวัน เพราะ นอกจากฟังชั่นล้างพิษแล้ว สาหร่ายคลอเรลล่า ยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยซ่อมแซม และบำรุงร่างกายอีกเยอะมากด้วย ไม่ว่าจะเป็น กรดอะมิโน 20 กว่าชนิด รวมถึงวิตามินที่สำคัญๆ มากมายอีกด้วย
    Last edited by iDnOuSe4; 02-05-2016 at 01:06 PM.

  3. #3
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    ที่ผ่านมาหลายคน รู้และเข้าใจโทษของการได้รับสารพิษเข้าสู่ร่ายกายอย่างดี เป็นจำนวนมาก จึงเลือกหลีกเลี่ยง และป้องกันร่ายกายของตนเอง ด้วยการไม่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงอันตรายจากมลพิษทางอากาศ ป้องกันการดูดซึ่มสารพิษทางผิวหนัง และเลือกไม่รับประทานอาหารที่อาจปนเปื้อนสารพิษ อย่างไรก็ตามมีพิษอีกอย่างหนึ่งที่ใกล้ตัวมาก และยากเหลือเกินที่วัยทำงานอย่างเรา จะหลีกเลี่ยงมันได้ นั้นคือ พิษจากคาร์บอนไดออกไซด์ อันเป็นผลมาจากความเครียด เป็นอย่างไร ตามอ่านจากบทความนี้ได้เลยครับ


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://p3.isanook.com/ho/0/ud/0/3317/b_02653_002.jpg)

    วัยทำงานอย่างพวกเราๆ รู้ดีว่า ความเครียดจากการทำงาน เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
    นั้น เพราะ ในช่วงชีวิตการทำงาน ย่อมมีบางงานที่ยาก แต่ต้องทำให้สำเร็จให้ได้ ในระยะเวลาจำกัด อยู่เสมอ และหากเราตัดสินใจจะทำให้ได้ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพาร่างกายเราเข้าสู่อาการอันเกิดจากความเครียดนั้นเอง

    อาการของร่างกาย เมื่อร่างกายเราเข้าสู่ภาวะเครียด เชื่อว่าทุกท่านที่ผ่านช่วงนั้นมา คงพอสังเกตุอาการของตนเองและจำได้ นั้นคือ อาการอ่อนเพลีย หมดแรง ง่วง หาว เป็นต้น อาการเหล่านี้เป็นผลลัพธ์ของพฤติกรรมของร่างกายในขณะที่เราเครียดอยู่ ซึ่งเราไม่ค่อยจะสังเกตุได้ทัน (หากได้อ่านบทความนี้แล้ว ลองไปสังเกตุอาการดู) นั้นคือ เราจะหายใจสั้น และถี่ ถอนหายใจบ่อยมาก ไม่หิวน้ำ ไม่ปวดปัจสาวะ ไม่ปวดอุจจาระ หัวใจเต้นเร็ว พฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นจากการที่กลไกของร่างกายทำงานหนักเพื่อส่งทรัพยากรไปให้อวัยวะส่วนต่างๆ ที่ต้องใช้ทำงาน โดยเฉพาะสมองและตา ให้ทันต่อความต้องการใช้งาน


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.yellowpages.co.th/yellowl.../Sleepy/01.jpg)

    ซึ่งหากอวัยวะทุกส่วนที่ทำงาน ไม่มีความผิดปกติ ผลที่สามารถสังเกตุได้ของร่างกายขณะนั้น ของกลไกนี้คือ ร่ายกายได้รับออกซิเจนน้อยลง ปล่อยก๊าซอื่นๆ ที่ร่ายกายไม่ต้องการ (คาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจน อื่นๆ) ได้น้อยลง อันเกิดจากการหายใจสั้นและถี่ ร่างกายเราจึงสร้างกลไก การถอนหายใจ ให้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ หากเราร่างกายเราเกิดภาวะนี้ (หากสังเกตุการถอนหายใจ เราจะสูดหายใจลึกมากก่อน 1 ครั้งก่อนถอนออก)

    ร่ายกายมนุษย์มีเซลล์ประสาทอยู่รอบๆ ลำใส้ถึง 70% ของร่ายกาย และสามารถส่งสัญญาณไปหากันและกันได้โดยตรง อย่างไรก็ตามมนุษย์สามารถใช้ใจข่มสัญญาณเหล่านั้นได้ เช่น การอดอาหาร อั้นปัจสาวะ อั้นอุจจาระ เป็นต้น กลไลอย่างเดียวกันนี้เอง หากลำไส้ส่งสัญญาณมาในช่วงเวลาที่เกิดอาการเครียดอยู่ อาจส่งผลให้เราไม่หิวน้ำ ไม่ปวดปัจสาวะ ไม่ปวดอุจจาระ เป็นต้น นอกเหนือจากการอาการที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอาการอื่นๆ สำหรับบางคน เช่น การให้ร่ายกายอยู่ในท่าเดิมๆ เป็นเวลานานๆ ด้วยเช่นกัน

    ช่วงเวลาที่ร่ายกายทนต่อภาวะเครียดนี้ได้ ขึ้นกับความแข็งแรงของร่ายกายของแต่ละคน เมื่อร่ายกายทนต่อไม่ไหว ร่ายกายจะส่งสัญญาณบางอย่างให้เรารับรู้ เพื่อสั่งให้เราหยุดและไปพักผ่อน เติมพลัง เช่น อาการปวดหัว อันเกิดจากเลือดข้นหนืด อาการอ่อนเพลีย หมดแรง ง่วงและหาว ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเป็นประจำหลังจากอาการเครียด ซึ่งจากข้างต้น เราได้รู้ว่าภาวะเครียดส่งผลให้เกิดการสะสมของก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ในร่ายกายได้


    (ขอบคุณรูปภาพจาก https://fonnichakoon.files.wordpress...1012010_01.jpg)

    สารพิษ คือ สารให้โทษแก่ร่าย ดังนั้น ร่ายกายไม่ควรมีอยู่ หากมีอยู่ต้องขจัดออกให้เร็วที่สุด
    ร่ายกายมนุษย์มีความมหัศจรรย์สูงมาก หนึ่งในความมหัศจรรย์นั้นคือ กลไกจากกำจัดสารพิษออกจากร่ายกาย เพราะ ร่ายกายมนุษย์เป็นเสมือนภาชนะที่ที่สารไหลเข้าไหลออกอยู่ตลอดเวลา และมนุษย์ไม่สามารถคัดเลือกรับเฉพาะสารที่เป็นประโยชน์ในสิ่งแวดล้อมที่อาศัยอยุ่ ให้แก่ร่ายกายได้เลย ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ การหายใจ เพราะ ในอากาศมีทั้งสารที่ให้โทษแก่ร่ายกาย และสารที่เป็นประโยชน์ การสูดอากาศเพื่อหายใจ เราสูดเอาอากาศขณะนั้นเข้าไปในร่ายการก่อน ร่ายกายมนุษย์จึงวิวัฒน์การให้มีอวัยวะในการกำจัด และขจัด จากให้โทษเหล่านั้นออกมาจากร่ายกายให้ได้ปริมาณต่อเวลาหนึ่งที่เพียงพอให้ร่ายกายปกติอยุ่ได้ด้วย

    สำหรับกรณีนี้ การถอนหายใจ คือกระบวนการกำจัด และขจัดสารพิษออกจากร่ายกายตามธรรมชาติ ดังนั้น หากเราต้องถอนหายใจ แสดงว่าร่ายกายเรากำลังป้องกันการได้รับพิษจากการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อันเนื่องจากการการได้รับออกซิเจนน้อยจากการหายใจแบบสั้นและถี่นั้นเอง

    การสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไชด์นี้ หากมองเผินๆ จะเห็นว่าเป็นโทษแก่ร่ายกายได้น้อย เพราะ ผลของมันอาจเป็นแค่ การปวดหัว วิงเวียนศรีษะ หรือ กรณีสะสมปริมาณมากและรวดเร็ว อาจเกิดการหมดสติได้ แต่ที่เป็นโทษต่อร่ายกายที่แท้จริง นั้นร้ายแรงกว่าที่คิดเยอะ นั้นเพราะ ตำแหน่งที่มันสะสมคือกระแสเลือด

    กระแสเลือด คือ ของไหลที่บรรจุทั้งสารที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ ไหลไปทั่วร่ายกายเป็นรอบๆ ผ่านการให้แรงดันจากการเต้นของหัวใจ การสะสมของก๊าชคาร์บอนไดออกไชด์จะสะสมอยุ่ที่เส้นเลือดดำในรูป เส้นเลือดดำซึ่งเป็นตำแหน่งที่ส่วนใหญ่บรรจุสารที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่ายกายไม่ว่าจะเป็นสารพิษอื่นๆ เพื่อเตรียมลำเลียงไปที่ตับเพื่อกำจัดและปล่อยออกจากร่ายกาย นั้นคือ หากมีการสะสมมากเท่าใด ยิ่งทำให้การลำเลียงสารพิษอื่นๆ ไปกำจัดและปล่อยช้าขึ้นเท่านั้น


    ซึ่งการลำเลียงสารพิษไปกำจัดและปล่อยได้ช้านี้เอง คือ โทษที่แท้จริง ซึ่งรุนแรงมาก แต่อาจถูกมองข้ามไปได้อย่างง่ายได้ เพราะ กลไกการกำจัดสารพิษของร่างกายออกแบบให้กำจัดและปล่อยสารพิษ ได้ในอัตราส่วนคงที และ/หรือ ปริมาณคงที่ ต่อเวลา ขึ้นกับชนิดของสารพิษนั้นๆ ดังนั้น การกำจัดและปล่อยสารพิษสามารถทำได้เป็นรอบๆ ถ้ากำจัดและปล่อยไม่หมด จะถูกปล่อยเข้าสู่ร่ายกายอีกรอบ เพื่อเตรียมลำเลียงมากำจัดและปล่อยอีกครั้งในรอบถัดไป หากไม่สามารถลำเลียงไปกำจัดได้ สารพิษจะไปสะสมตามอวัยวะต่างๆ

    สารพิษที่เก็บอยุ่ในรูปสารละลาย ที่ละลายน้ำได้ เช่น ไอนิโคติน หรือสารเคมีอื่นๆ จะมีส่งผลต่อ ข้อต่อ เลือด เนื้อเยื้อ และ กล้ามเนื้อ
    สารพิษที่เก็บอยุ่ในรูปสารละลาย ที่ละลายในน้ำมัน เช่น อนุภาค โฮร์โมน โลหะหนัก จะมีผลต่อ เซลล์ไขมัน ไขกระดูก ตับ และ ระบบประสาทส่วนกลาง


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://detoxknowhow.com/sites/defaul...tal_source.jpg)

    เมื่อร่ายกาย ไม่สามารถกำจัดสารพิษออกได้หมดในระยะเวลาๆ หนึ่งๆ จะส่งผลให้เกิดภาวะสารพิษตกค้างในร่ายกาย จนถึงสารพิษตกค้างสะสมในร่างกาย (ขึ้นกับปัจจัยการรับประทานอาหารและใช้ชีวิตของแต่ละคน) จะส่งผลข้างเคียง และ สัญญาณของ ภาวะดังกล่าว ได้ จากอาการผิดปกติ และอาจเป็นเหตุให้เกิดโรคดังต่อไปนี้

    arthritis/joint pain ไขข้อ
    autoimmune disorders โรคภูมิทำลายตัวเอง
    cardiovascular disease โรคหัวใจและหลอดเลือด
    chronic fatigue อ่อนเพลียเรื้อรัง
    constipation อาการท้องผูก
    diabetes โรคเบาหวาน
    diarrhea โรคท้องร่วง
    fibromyalgia (a chronic disorder characterized by widespread musculoskeletal pain, fatigue, and tenderness in localized areas.)
    headaches ปวดหัว
    homone imbalance สมดุลฮอร์โมนผิดปกติ
    inflammatory disorder ความผิดปกติของการอักเสบ
    IBS (Irritable bowel syndrome (IBS)) ลำใส้แปรปรวน
    neurolagic disorders ความผิดปกติของระบบประสาท
    obesity/overweight โรคอ้วน / น้ำหนักตัวมากเกิน

    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.atlasdrugandnutrition.com...oxic-body.png)

    ที่ร้ายกว่านั้นคือ เมื่อร่ายกายส่งสัญญาณมาแล้ว หลายคนแก้ด้วยวิธีกินยาระงับอาการ แต่ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุด้วย ซึ่งปรากฏการ์ณเหล่านี้ เกิดขึ้นได้ไม่ยากเลย ยกตัวอย่างเช่น เครียดจากทีทำงาน แล้วดูดบุหรี ตกเย็นดื่มเหล้า หรือ เครียดจากที่ทำงาน ตกเย็นกินปิ้งย่าง หรือของหวานต่างๆ เป็นต้น หรือแม้แต่ เครียดในขณะนั่งรถประจำทาง ขับรถ เดิน ข้างถนนในเมืองใหญ่ ทั้งหมดนี้อาจก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในร่ายกายได้ จนก่อให้เกิดโรคตามอาการเหล่านั้นได้ทั้งสิ้น

    ดังนั้น พิษ และ สารพิษ ใกล้ตัวกว่าที่เราคิดกันเยอะมาก แม้ว่าหลายคนพยายามป้องกันต้นเองด้วยวิธีต่างๆ นานา แต่หากเราเผลอ เราพลาด หรือ จำเป็นต้องเครียดจริงๆ พิษและสารพิษเหล่านั้น ก็เตรียมทำงานอยุ่ทุกเวลาด้วยเช่นกัน
    Last edited by iDnOuSe4; 02-05-2016 at 01:06 PM.

  4. #4
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    จากบทความเรื่อง แน่ใจหรือ? เพราะสารพิษรุนแรงและใกล้ตัวกว่าที่คุณคิดไว้เยอะมาก ทำให้เราเข้าใจว่าพิษรุนแรงและใกล้ตัวมากแค่ไหน จนเกิดคำถามที่ว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เราจะดูแลร่ายกายให้ปราศจากพิษได้อย่างไร จึงเป็นที่มาของการเขียนบทความนี้ ซึ่งก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกระบวนการของความเป็นพิษในร่ายกายเสียก่อน ดังต่อไปนี้

    เราดูแลร่ายกายให้ปราศจากพิษได้อย่างไร
    มนุษย์ไม่สามารถทำให้สิ่งแวดล้อมบริสุทธ์ 100% ก่อนเข้าไปอาศัยอยู่ได้ ร่ายกายมนุษย์จึงมีพัฒนาการอวัยวะต่างๆ ที่ทำงานร่วมกันจนได้ ระบบป้องกันสารพิษ และกำจัดสารพิษ ร่างกายเราเป็นเสมือนภาชนะที่มีสารไหลเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การที่ร่ายกายจะปราศจากพิษได้นั้นคือ อัตราการปล่อยสารพิษเข้าสู่ร่ายกาย ต้องเท่ากับอัตราการดูดซึมสารพิษเข้าสู่ร่ายกายนั้นเอง

    เมื่อพิษเข้าสู่ร่ายกายผ่านกระบวนการดูดซึมสารพิษ กระจายสารพิษ และกำจัดสารพิษ ตามลำดับ แต่ละขบวนการขึ้นกับอัตราความเร็วและปริมาณ หากเราต้องการดูแลร่ายกายให้ปราศจากพิษได้ จึงจำเป็นต้องปรับให้ 3 ขบวนการนี้ ทำงานเพื่อลดปริมาณการได้รับสารพิษ และนำพิษออกจากร่างกายได้มาก
    (อ้างอิงจาก บทความ พิษจลนศาสตร์และพิษพลศาสตร์ ของคณะแพทย์ศาตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล)

    1. ลด การดูดซึมสารพิษ ร่ายกายสามารถดูดซึมสารพิษได้ 2 ทาง คือ ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ และ การฉีดสารพิษเข้ากล้าม ฉีดสารพิษใต้ผิวหนัง รับประทาน เหน็บทวารหนัก หรือซึมผ่านผิวหนัง การฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ พิษจะทำงานได้เต็มปริมาณทันที เราไม่สามารถแก้ไข อะไรได้ หนทางเดียวที่จะป้องกันได้คือ ไม่ฉีดพิษเข้าทางหลอดเลือดดำ แต่การลดการดูดซึมสารพิษที่เราต้องโฟกัสให้มาก นั้นคือการดูดซึมที่ค่อยๆ ซึม ผ่านเข้าไป นั้นเพราะว่า สารพิษอาจปนเปื้อนมากับอาหาร การสูดอากาศที่ปนเปื้อนมลพิษ หรือแม้แต่การได้รับสารพิษจากการทาครีมบำรุงผิว ที่ถูกดูดซึมทางผิวหนัง ด้วย วิธีการลดการดูดซึม สารพิษประเภทนี้ จึงต้องตรวจสอบอาหารที่เรารับประทานให้ไม่มีพิษก่อนรับประทานเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกินผลิตภัณฑ์แบบออแกนิค ที่ไม่ใช้สารเคมี ในกระบวนการ การนำอาหารมาล้างให้สะอาด แช่ในน้ำด่างเพื่อลดความเป็นพิษ ก่อนนำไปปรุงอาหาร การใช้หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันมลพิษทางอากาศ และการดูแลตรวจสอบ
    ร่างกายตนเอง และครีมบำรุงผิว ไม่ให้สารพิษเข้าสู่ร่ายกายได้ ทั้งหมดนี้จะช่วยป้องกันร่ายกายจากการได้รับสารพิษ ด้วยวิธีการลดการดูดซึมสารพิษ

    2.ลด การกระจายสารพิษ เพื่อป้องกันกระจายสารพิษไปตกค้างในอวัยวะต่างๆ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติทางเคมีของสารพิษและปริมาณเลือด ที่ไหลเวียนไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย ปัจจัยสำคัญที่บ่งถึงการกระจายสารพิษคือ protein binding (โปรตีนที่สามารถจับตัวกับสารพิษได้) ดังนั้น การลดกระจายของสารพิษ คือต้องดูแลร่ายกาย ให้มีปริมาณ protein binding ในปริมาณที่เพียงพอ

    3.เพิ่ม การกำจัดสารพิษ ขึ้นอยู่กับความ เข้มข้นของสารพิษในเลือด ร่ายกายสามารถกำจัดสารพิษได้ 2 รูปแบบ คือ
    กำจัดได้ในอัตราส่วนคงที่ และ กำจัดได้ในปริมาณคงที่ นี้ขึ้นกับประเภทของสารพิษนั้นๆอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญในการ กำจัดสารพิษได้แก่ ตับและไต สารพิษบางตัวจะถูกกำจัดออกโดยตับหรือไตอย่างหนึ่งอย่างใด แต่ส่วนใหญ่สารพิษจะถูกกำจัดออกมาทั้งสองทาง
    ดังนั้น การเพิ่มการกำจัดสารพิษ ต้องลดความเข้มข้นของสารพิษในเลือด และบำรุงตับและไตให้สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

    จึงสามารถสรุปได้ว่าเราดูแลร่ายกายให้ปราศจากพิษได้ จากปัจจัยการใช้ชีวิต และ ปัจจัยการรับประทานอาหาร ลดความเสี่ยงต่อการดูดซึมสารพิษ จากการหลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศ การเลือกรับประทานอาหารที่ไม่มีการปนเปื้อนสารพิษ เพิ่มการดูแลร่ายกาย จากการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

    ซึ่ง โภชนาการเพื่อดูสุขภาพ สำหรับการดูแลร่ายกายให้ปราศจากพิษ
    อาหารที่ดีต่อการดูแลร่ายกายให้ปราศจากพิษ คือ อาหารที่ไม่ปนเปื้อนสารพิษ ที่ช่วยขจัดสารพิษอื่นๆ ที่อาจปนเปื้อนและตกค้างในทางเดินอาหาร และมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงอวัยวะในการกำจัดสารพิษ การพักผ่อนให้เพียงพอ และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ร่ายกายแข็งแรง


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.dmc.tv/images/OtherBB/hea8.jpg)


    ด้วยเหตุนี้เอง การดูแลร่างกายให้ปราศจากพิษจึงสำคัญกว่าที่เคย เนื่องจากเราหลีกเลี่ยงให้พิษเข้าสู่ร่างกายได้ยากกว่าเดิม มีสารพิษปนเปื้อนที่สิ่งแวดล้อม มากกว่าเดิม และอาการของร่ายกายหลังได้รับพิษเป็นอาการที่เราอาจมองข้ามได้ง่าย ซึ่งยาระงับอาการเหล่านั้นก็หาซื้อได้ง่าย อีกทั้งอวัยวะหลักที่ใช้กำจัด และปล่อยสารพิษ มีความทนทานต่อการเสียหาย เช่น เซลล์ตับสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้หลังจากได้รับพิษจากแอลกอฮอล์ และ เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่าง ปกติแม้ว่าไตถูกทำลายไปแล้วกว่า 70% เป็นต้น
    Last edited by iDnOuSe4; 02-05-2016 at 01:07 PM.

  5. #5
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.massattack.com.au/img/women_coffee_cup.jpg)

    หากคุณตื่นตอนเช้าด้วยการลากตัวเองออกจากเตียงพร้อมโหยหากาแฟอย่างด่วน หรือหากไม่ได้กาแฟ จะทำงานเหม่อลอย ไม่กระฉับกระเฉง ง่วง หาว อยู่ตลอดเวลา
    เราคิดว่าคุณควรอ่านบทความนี้ เพราะร่ายกายของคุณกำลังส่งสัญญาญเตือนบางอย่าง ให้ล้างพิษออกจากร่ายกายเสียบ้าง ดังต่อไปนี้


    (ขอบคุณรูปภาพจาก https://s-media-cache-ak0.pinimg.com...de95c8f263.jpg)
    1. อยากน้ำตาลบ่อยๆ
    คุณพบว่าตนเองอยากขนมหวานอยู่บ่อย นั้นหมายความว่าร่างกายคุณไม่ได้ผลิตพลังงาน (metabolism) อย่างเพียงพอที่ควรจะเป็น


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://thebiostation.com/wp-content/...gy-400x210.jpg)
    2. อ่อนเพลียต่อเนื่อง
    คุณพบว่า ทำงานเท่าเดิมต่อเหนื่อยเร็วกว่าคนอื่นๆ เป็นสัญญาณว่าร่ายกายต้องการล้างขยะที่สะสมอยู่ออกไปบ้าง


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://media3.s-nbcnews.com/j/stream...inline-med.jpg)
    3. ท้องอืด และมีลมในกระเพาะ
    คุณพบว่าท้องอืด มีแก็สในกระเพาะเยอะ ทั้งๆที่ไม่ได้เปลี่ยนวิถีการกิน นั้นเพราะแบคทีเรียที่ไม่แข็งแรงทำให้เกิดการท้องอืดหรือก๊าซเจริญเติบโต ในร่ายกายที่เป็นพิษ


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2014/...nce_Person.jpg)
    4. อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด หรือวิตกกังวล
    เมื่อร่ายกายเป็นพิษ การผลิตสารสื่อประสาทความรู้สึกที่ดี(serotonin) ของเรา จะลดลง สารพิษอื่นๆ เช่นแอมโมเนียที่สร้างขึ้นจากปรสิต
    ก่อให้เกิดความกังวลและปัญหาทางอารมณ์อื่นๆ เช่นภาวะซึมเศร้า


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://i173.photobucket.com/albums/w...l/IMG_0830.jpg)
    5. บวมน้ำ
    ร่ายกายอาจพยายามที่จะเจือจางสารพิษ ให้อันตรายลดลง ทำให้เกิดการบวมน้ำ


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://img.webmd.com/dtmcms/live/web...a_migraine.jpg)
    6. ไมเกรน
    สารพิษจำนวนมากเก็บไว้ในร่างกายที่มีการระคายเคืองต่อระบบประสาทส่วนกลาง หากไม่กำจัดสารพิษออก จะเกิดอาการปวดหัวและพัฒนาไปจนถึงไมเกรนได้


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://i3.mirror.co.uk/incoming/arti...-Addiction.jpg)
    7. เสพติดคาเฟอีน
    คุณไม่สามารถผ่านวันๆ หนึ่งไปได้ หากร่ายกายไม่ได้รับคาเฟอีน ใช่หรือไม่ คาเฟอีน มีฤทธิ์กระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็ว ดังนั้นความดันเลือดจะสูงขึ้น ทำให้เลือด ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้มากขึ้น แต่แลกด้วยการไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วร่ายกายเราส่ง สัญญาณให้พักผ่อนเพื่อซ่อมแซมอะไรบางอย่างอยู่ หรือที่ร้ายกว่านั้น หากเลือดเต็มไปด้วยพิษ พิษจะยิ่งกระจายตัวเร็วขึ้นอีกด้วย

    หากคุณมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ควรตรวจสอบร่ายกายได้แล้วว่า คุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเผชิญหน้ากับพิษโดยที่ไม่รู้ตัวอยู่หรือไม่ จากบทความนี้ แน่ใจหรือ? เพราะสารพิษรุนแรงและใกล้ตัวกว่าที่คุณคิดไว้เยอะมาก

    อ้างอิงจากบทความเรื่อง 7 Signs of a Toxic Body จากเว็บไชร์ http://www.atlasdrugandnutrition.com/about-us/
    (ที่มา http://www.atlasdrugandnutrition.com/reasons-cleanse/)[/FONT]
    Last edited by iDnOuSe4; 02-05-2016 at 01:08 PM.

  6. #6
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    สารพิษใกล้ตัวจริง จากสถิติ และบทความ จากนักวิจัย ที่น่าเชื่อถือ ดังต่อไปนี้


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.thaipan.org/sites/default...ntitled-72.PNG)

    เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thailand Pesticide Alert Network: Thai-PAN) แถลงผลการเฝ้าระวังการตรวจสารเคมีกำจัดศัตรูพืชปนเปื้อนในผักที่คนไทยนิยมบริโภคมากที่สุด 10 ชนิด ประกอบไปด้วยคะน้า ผักกาดขาว กะหล่ำปลี แตงกวา ถั่วฝักยาว มะเขือเปราะพริกแดงกะเพรา กวางตุ้ง และผักบุ้งจีน โดยเก็บตัวอย่างผักจากโมเดิร์นเทรด ซึ่งประกอบไปด้วยห้างเทสโก บิ๊กซี แมคโคร และผักที่มีตราเครื่องหมาย Q รับรอง และจากตลาดสดจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ตลาดไท ปากคลองตลาด สี่มุมเมือง และตลาดบางใหญ่ ปรากฏว่าพบโดยภาพรวมมีผักที่มีสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐาน (ค่าเอ็มอาร์แอล) ของกระทรวงสาธารณสุขสูงถึง 22.5%

    จากการตรวจสอบพบว่า ผักที่พบการปนเปื้อนมากที่สุดคือกะเพรา พบว่าสารพิษเกินมาตรฐานถึง 62.5% ถั่วฝักยาวและคะน้าพบ 32.5% ผักบุ้งจีน กวางตุ้ง และมะเขือเปราะพบตกค้าง 25% แตงกวาและพริกแดงพบค่อนข้างน้อยคือ 12.5% ส่วนผักกาดขาวปลี และกะหล่ำปลีไม่พบการตกค้างเลย

    จากบทความเรื่อง ไทยแพนพบสารพิษตกค้างในผักเกินมาตรฐานถึง 22.5% กะเพราเจอหนักสุด 62.5%


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.thaipan.org/sites/default...?itok=ePg3mA3S)

    ศ.สมพนธ์ วรรณวิมลรักษ์และคณะ มหาวิทยาลัยมหิดล สำรวจผักคะน้า 117 ตัวอย่างใน 12 ตลาดที่จังหวัดนครปฐม พบว่ามีสารพิษตกค้างเกินมาตรฐาน 29.1% ในบรรดาสารพิษที่พบเกินมาตรฐานมากที่สุด 6 อันดับแรก มีคาร์โบฟูราน ซึ่งเป็นสารพิษร้ายแรงที่ไม่มีการอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนรวมอยู่ด้วย

    นักวิชาการคณะนี้ยังได้ทำการทดลองการล้างผักคะน้าด้วยวิธีการต่างๆ โดยพบว่าแต่ละวิธีการให้ผลในการล้างสารแต่ละชนิดได้ไม่เท่ากัน ตัวอย่างเช่นในสารโพรฟีโนฟอส การล้างด้วยด่างทับทิม น้ำส้มสายชู และโซเดียมไบคาร์บอเนตได้ผลน้อยมาก (ล้างออกได้ 20-40%) แต่ล้างด้วยน้ำไหล จะล้างออกได้ครึ่งหนึ่ง ในขณะที่สารไซเปอร์เมทริน สามารถล้างออกครึ่งหนึ่งด้วยน้ำส้มสายชู แต่ล้างไม่ออก(ล้างออกได้เพียง 10-20%)ด้วยด่างทับทิม โซเดียมไบคาร์บอเนต และน้ำไหล

    จากบทความเรื่อง 29.1% ผักคะน้ามีสารพิษตกค้างเกินมาตราฐานการล้างออกด้วยวิธีการที่เหมาะสมที่สุดยังล้างออกได้เพียงครึ่งเดียว
    Last edited by iDnOuSe4; 02-05-2016 at 01:09 PM.

  7. #7
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5


    การกำจัดสารพิษ (elimination) การกำจัดสารพิษของร่างกายมี 2 แบบ

    1. สารพิษส่วนใหญ่จะถูก กำจัดแบบ first order คือ "อัตราการกำจัดสารพิษขึ้นอยู่กับความ เข้มข้นของสารพิษในเลือด" หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ สารพิษออกจากร่างกายเป็น "สัดส่วน คงที่" ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้ป่วยได้รับสารพิษเข้าไป 1000 หน่วยร่างกายสามารถกำจัดสารพิษได้ชั่วโมงละ 10% จำนวนสารพิษที่เหลืออยู่แต่ละ ชั่วโมงจะเท่ากับ 1000,900,810...

    2. ส่วนการกำจัดสารพิษแบบ zero order นั้นคือ "อัตราส่วนการกำจัดสารพิษไม่ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสารพิษ" แต่สารพิษถูกกำจัดออกไปด้วย"ปริมาณคงที่" ในตัวอย่างเดียวกันสารพิษจะถูกกำจัดชั่วโมงละ 10 หน่วย สารพิษที่เหลืออยู่จะเท่ากับ 1000,990,980... สารพิษที่ถูกกำจัดแบบ zero order มีไม่มากนักได้แก่ alcohol, aspirin และ phenytoin สาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะสารพิษในร่างกายมีมากเกินกว่าที่เอ็นไซม์ของตับจะ ทำลายสารพิษได้จึงเกิดภาวะ saturation ของเอ็นไซม์นั้น


    (ขอบคุณรูปภาพจาก http://tmedweb.tulane.edu/pharmwiki/...tch.php/pk.png)

    ในร่างกายนั้นอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญในการ กำจัดสารพิษได้แก่ ตับและไต สารพิษบางตัวจะถูกกำจัดออกโดยตับหรือไตอย่างหนึ่งอย่างใด แต่ส่วนใหญ่สารพิษจะถูกกำจัดออกมาทั้งสองทาง ตับจะเปลี่ยนสารพิษด้วยขบวนการแรกคือ redox reaction หลังจากนั้นจึงจะ conjugate ออกมาเป็นสาร polar ซึ่งถูกขับออกมาได้ง่าย ความสามารถของตับ ในทางกำจัดสารพิษขึ้นอยู่กับความสามารถของเอ็นไซม์ที่ทำลายสารพิษและปริมาณเลือดที่นำสารพิษสู่ตับ


    (ขอบคุณรูปภาพจาก https://s3.amazonaws.com/AFD/are-you...ned-out-wi.jpg)

    ส่วนสารพิษที่ถูกขับออกทางไตนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ คือ glomerular filtration rate สารพิษที่ถูกกรองออกมาจะต้องไม่จับกับ protein สารพิษที่ถูกดูดซึมกลับ (tubular reabsorption) เข้าไปในร่างกายนั้นจะต้องอยู่ในรูปไม่แตกตัว (unionized) ภาวะนี้จะขึ้นอยู่กับความเป็นกรดด่าง ของปัสสาวะและ pK ของยานั้นๆ นอกจากนี้ไตยังมีกลไก active transport ที่จะขับยาออกมาหรือดูดซึม ยากลับไปในไตได้ tubular secretion ในกลุ่มสารพิษที่เป็นกรดเหมือนกันหรือด่างเหมือนกันจะใช้ระบบ กำจัดสารพิษที่ tubule แบบเดียวกัน (organic acids or bases transport) ดังนั้นถ้ามีสารพิษที่เป็น กรดหรือด่างเหมือนกันสองชนิด อาจทำให้การขับสารพิษตัวหนึ่งตัวใดถูกรบกวนได้ half-life ของการกำจัดสารพิษเป็นตัวบ่งอัตราความเร็วในการกำจัดสารพิษคือ ระยะเวลาที่ปริมาณ สารพิษถูกขับถ่ายหรือทำลายไปครึ่งหนึ่ง ในทำนองเดียวกันกว่าที่ร่างกายจะกำจัดสารพิษได้หมด จะต้องใช้เวลา 3-5 half-lives ของการกำจัด สารพิษนั้น ส่วนปริมาณการกำจัดสารพิษขึ้นกับค่า clearance ซึ่งมีหน่วยเป็นปริมาตร ของเลือดต่อเวลาเช่น ลิตรต่อชั่วโมงเป็นต้น ค่า clearance มีความสำคัญในการบ่งถึงปริมาณการกำจัดสารพิษนั้นๆ ออกจากร่างกาย

    ขอบคุณบทความจาก พิษจลนศาสตร์และพิษพลศาสตร์
    ข้อมูลอ้างอิง ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี Ramathibodi Poison Center คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

  8. #8
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    ทำไม กลไก ความสามารถในการกำจัดสารพิษ ของคอเรลล่า ที่ สมบูรณ์ และเหนือว่า "สิ่ง/สาร จาก ธรรมชาติ ใดใด จะทำเสมอเหมือนได้ ในยุคปัจจุบันนี้" และ คอเรลล่า ที่ได้ดีที่สุด

    (ขอบคุณรูปภาพ จาก http://cdn.shopify.com/s/files/1/025..._large.jpg?922)

    คอเรลล่ากำเนิดในยุดกำเนิดโลกที่สิ่งแวดล้อม เป็นมลพิษสูงจากฝุ่งละอองโลหะหนัก จึงต้องวิวัฒนาการให้อยู่รอด
    โดยพัฒนาความสามารถให้ตัวเองป้องกันสารพิษ และ มีความสามารถกำจัดสารพิษด้วย

    ผนังเซลล์คอเรลล่ามีโปรตีนชนิดพิเศษ ที่มีฟังก์ชั่นจับสารพิษโดยเฉพาะ นั้นคือ สปอโรโพเลนิน (Sporopollenin)
    เปรียบเสมือนกาวที่ใช้ดักจับสารพิษรอบๆ ตัวมัน ทำให้รอบๆ ตัวมันมีสารพิษน้อยลง

    "Sporopollenin, a substance found on the chlorella's cell walls and a key player in toxin removal.
    Sporopollenin binds heavy metals, solvents, pesticides, and reliably prevents a retoxification in the intestine."
    ขอบคุณ ข้อความจากบทความ http://bit.ly/1gpZuqT

    และภายในคอเรลล่า ยังมี เมทัลโลไทโอนิน (Metalothionin) หรือกรดอะมิโมที่มีซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบ ที่มีความสามารถจับสารพิษ
    ประเภทโลหะหนักได้ตามธรรมชาติ

    "Metallothionein has been documented to bind a wide range of metals including cadmium,[8] zinc, mercury, copper, arsenic, silver, etc. Metallation of MT was previously reported to occur cooperatively but recent reports have provided strong evidence that metal-binding occurs via a sequential, noncooperative mechanism.[9] The observation of partially metallated MT
    (that is, having some free metal binding capacity) suggest that these species are biologically important."
    ขอบคุณ ข้อความจากบทความ Metallothionein http://bit.ly/1Lxdyrt

    ด้วย 2 กลไก ตามธรรมชาติ ที่ได้จากการวิวัฒนาการให้อยู่รอดให้ได้ ในยุดกำเนิดโลกนี้เอง ทำให้คอเรลล่า เป็นสิ่ง/สาร จากธรรมชาติ
    ที่มีความสามารถในการกำจัดสารพิษ ได้ดีที่สุด สมบูรณ์เหนือกว่า สิ่ง/สาร จากธรรมชาติ ใดๆ จะทำเสมอเหมือนได้ในยุดปัจจุบัน

    ความเชื่อมโยง ของกลไก ความสามารถในการกำจัดสารพิษของคอเรลล่า กับ กลไก ความสามารถในการกำจัดสารพิษออกจากร่ายกายของมนุษย์

    จากกระทู้ข้างต้น เรื่อง กลไกการกำจัดสารพิษ (elimination) ตามธรรมชาติของร่ายกายมนุษย์ พบว่า ความสามารถในการกำจัดสารพิษออกจากร่ายกาย ขึ้นกับ "ปริมาณสารพิษในร่ายกายและความสามารถในการทำลายสารพิษในร่ายกาย"

    หากรับประทานคอเรลล่า เข้าไปในร่ายกาย จะช่วยลดปริมาณสารพิษในร่ายกาย จากสปอโรโพเลนิน (Sporopollenin)
    และเพิ่มความสามารถในการทำลายสารพิษในร่ายกาย ด้วยการเพิ่ม เมทัลโลไทโอนิน (Metalothionin) ให้กับร่ายกายนั้นเอง


    (ขอบคุณที่มาจาก http://www.wildspring.com.au/uploads...07246_orig.jpg)

    ทำให้คอเรลล่าเป็นอาหารยอดนิยม ที่ทั่วโลกยอมรับ ไว้รับประทานเพื่อล้างสารพิษ เป็นประจำทุกวัน แต่ คอเรลล่าที่ไหนหล่ะ ถึงจะดีที่สุด??

    1.เลี้ยงในสิ่งแวดล้อมที่ไร้มลพิษ
    เนื่องภายในตัว คอเรลล่า สามารถดูดซับสารพิษไว้ในตัว จึงมีบางประเทศเลี้ยงคอเรลล่าบางสายพันธุ์ไว้ เพื่อบำบัดน้ำเสีย ดังนั้น หากเลี้ยงในสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษ นอกจากจะไม่ได้รับฟังก์ชั่นล้างพิษแล้ว ยังอาจจะได้รับสารพิษที่อยู่ในตัวคอเรลล่าเองด้วย

    2.เลี้ยงในน้ำแร่ธรรมชาติ
    เนื่องจากคอเรลล่าเกิดขึ้นในยุคที่สิ่งมีชีวิตต้องเอาตัวรอดในยุดกำเนิดโลก จึงมีความสามารถกับเก็บสารอาหารไว้กับตัวเองสูง ดังนั้นหากเลี้ยงในสิ่งแวดล้อมที่มีสารอาหารมาก เช่น น้ำแร่ จะทำให้คุณภาพคอเรลล่าสูงขึ้นด้วย

    3.เลี้ยงกลางแจ้ง
    คอเรลล่าสร้างสารทุติยภูมิที่มีฟังก์ชั่นล้างพิษ (คอเรลแลน/คอเรลลิน) จากสารอาหาร โดยจำเป็นต้องผ่านกระบวนการสังเคราะด้วยแสง ดั้งนั้น หากเลี้ยงในที่แจ้ง จะทำให้ได้คุณภาพคอเรลล่าที่สูงขึ้น

    3.มีปริมาณ CGF ที่สูง
    คอเรลล่า มีสาร CGF หนึ่งเดียว สารอาหารคุณภาพสูง ที่สกัดได้จากสาหร่ายคอเรลล่า หากที่ใดมีปริมาณ CFG ต่อหน่วยมากกว่า คุณภาพจะดีกว่า

    4.ผิวเซลล์ต้องแตก เพื่อให้ร่ายกายดูุดซึมได้มากขึ้น
    คอเรลล่ามีผนังเซลล์หนาถึง 3 ชั้น เพื่อป้องกันสารพิษ ในยุคกำเนิดโลก ดังนั้น ผลิตภัณฑ์จากคอเรลล่าที่ดี ต้องมีเทคโนโลยีที่ทำให้ผนังเซลล์ ของคอเรลล่าแตก เพื่อช่วยให้ร่ายกายเข้าไปดูดซึมสารอาหารได้มากขึ้น

    รักษาสุขภาพ เริ่มต้น ด้วยการ "ล้าง" ก่อน จึงค่อย "เสริม"
    ถ้าต้องการติดตามข้อมูลข่าวสาร ด้านสุขภาพ และ สาหร่ายชนิดนี้เพิ่ม สามารถกดติดตามได้ที่ เพจ O K I T E C ได้เลยครับ

  9. #9
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5


    ORGANIC CHLORELLA by FEBICO คือ สาหร่ายคลอเรลลล่าอัดเม็ดที่คงคุณสมบัติของสาหร่ายคลอเรลล่าไว้ได้ 100% โดยบริษัท FEBICO ที่ใช้กระบวนการผลิตที่บริสุทธ์ สะอาด ได้รับมาตราฐานจาก USDA จึงมั่นใจได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100%

    ✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿

    ในประเทศไทย นำเข้าโดยบริษัท SuperShe Coorporation จำกัด สามารถสั่งซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายในเครือ

    ✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿

    หรือ สั่งซื้อได้เลยที่นี้
    พิเศษ 1000 ขวดแรก ลดราคาจากราคาเต็ม 1260 บาท เหลือ 847 บาท

    ✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿

    สอบถามเพิ่มเติม
    Line Id: wuttichai115504
    Emailrganchlorellathaifc@gmail.com
    โทร : 0868566670
    https://www.facebook.com/organic.chlorella.thai/

    ✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿

    ✔บทความเพิ่มเติม✔

    ★ => ทำไมผมเลือกให้ Organic Chlorella จาก Febico ให้เป็นอาหารเสริมตัวแรก (http://goo.gl/z4OmGt)

    ★ => หน้าแก่ หน้าเหี่ยว ร่างกายเสื่อมโทรม ไม่มีแรง แก่ก่อนวัย อันควร สาเหตุหลักหนึ่งมาจาก การขาดโปรตีนระดับเซลล์ การรับประทานคลอเรลล่าช่วยป้องกันการขาดโปรตีนระดับเซลล์ได้อย่างยอดเยียม (http://goo.gl/iiPXaf)

    ★ => อาการของร่างกายหลังรับประทาน organic chlorella จาก febico (http://goo.gl/UxI50H)

    ★ => 7 สัญญาณ ที่บ่งบอกว่า ร่างกายเราได้รับสารพิษมามากเกินพอ (http://goo.gl/R4LYnP)

    ★ => แน่ใจหรือ? เพราะสารพิษรุนแรงและใกล้ตัวกว่าที่คุณคิดไว้เยอะมาก (http://goo.gl/5lv71A)

    ★ => รู้หรือไม่ .... ประโยชน์ของครอเรลล่า สุดยอดพืชจากธรรมชาติ ที่ รู้แล้วคุณต้องอึ้ง!!!
    (http://goo.gl/iIeGHx)

    ★ => [โหดจริง] 2 สาเหตุหลัก ที่ทำให้คุณ แก่เกินวัย อย่างรวดเร็ว แบบฉุดไม่อยู่ ที่คุณอาจจะยังไม่รู้ตัว !!!!! (http://goo.gl/TyWhJL)

    ★ => ทำไมเราจึงเลือก คลอเรลล่า จาก febico?? (http://goo.gl/RvFKn0)

    ★ => "ความงามที่แท้จริง เริ่มต้นจากเซลล์ที่สมบูรณ์" คุณจะดูอ่อนกว่าวัย ผิวพรรณเต่งตึงสดใส รูปร่างกระชับไม่มีไขมันส่วนเกิน ได้นั้น ต้องมาจากเซลล์ที่สมบูรณ์ ด้วย Organic Chlorella Tablet จาก FEBICO (http://goo.gl/Z4M3yC)

    ★ => Organic Chlorella Superfood ของ Febico สุดยอดอาหารเสริมที่เอส เสาะหาและรอคอย การได้รับ อนุญาต จาก อ.ย. ให้ขายได้ ในประเทศมานานปี (http://goo.gl/Z05Eij)

    ★ => ทำไม "เคี้ยวก่อนทาน" จึงช่วยให้ร่างกายเรา ได้รับสุดยอดสารอาหาร ออร์กานิกส์ 100% จาก คลอเรลล่า ระดับพรีเมี่ยมที่สุดในโลก จาก FEBICO (http://goo.gl/h2osxU)

    ★ => สุดยอดอาหารเสริม สารอาหาร Single Cell Protein ระดับพรีเมี่ยมที่สุดในโลก ที่จะ ช่วยหยุด "การเสื่อมเกินธรรมชาติ" ของร่างกายคุณ แบบตัวเดียวจบ (http://goo.gl/lFNKJr)

    ★ => ทำไม ไม่รู้จัก คลอเรลล่า ให้เร็วกว่านี้ ?? T T (http://goo.gl/RKOkxy)

    ★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
    Last edited by iDnOuSe4; 02-02-2016 at 03:05 PM.

  10. #10
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5


    ORGANIC CHLORELLA by FEBICO

    ดีเพราะเป็นสารจากธรรมชาติแท้ที่มีคุณสมบัติช่วยล้างพิษสะสมในลำใส้ และช่วยร่ายกายให้ล้างพิษที่สะสมตกค้างในร่ายได้มากขึ้น

    ดีเพราะ เป็นสารธรรมชาติที่มีสารอาหารระดับเซลล์ (กรดอะมิโน) ที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่ายกายได้อย่างครบถ้วน

    ดีเพราะ ง่ายและสะดวกที่สุดในการล้างพิษให้กับร่ายกาย เพียงรับประทานก่อนอาหารเช้าวันละ 6 เม็ดเป็นประจำต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือน

    ✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿

    ในประเทศไทย นำเข้าโดยบริษัท SuperShe Coorporation จำกัด สามารถสั่งซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายในเครือ

    ✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿

    หรือ สั่งซื้อได้เลยที่นี้
    พิเศษ 1000 ขวดแรก ลดราคาจากราคาเต็ม 1260 บาท เหลือ 847 บาท

    ✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿

    สอบถามเพิ่มเติม
    Line Id: wuttichai115504
    Emailrganchlorellathaifc@gmail.com
    โทร : 0868566670
    https://www.facebook.com/organic.chlorella.thai/

    ✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿

    ✔บทความเพิ่มเติม✔

    ★ => ทำไมผมเลือกให้ Organic Chlorella จาก Febico ให้เป็นอาหารเสริมตัวแรก (http://goo.gl/z4OmGt)

    ★ => หน้าแก่ หน้าเหี่ยว ร่างกายเสื่อมโทรม ไม่มีแรง แก่ก่อนวัย อันควร สาเหตุหลักหนึ่งมาจาก การขาดโปรตีนระดับเซลล์ การรับประทานคลอเรลล่าช่วยป้องกันการขาดโปรตีนระดับเซลล์ได้อย่างยอดเยียม (http://goo.gl/iiPXaf)

    ★ => อาการของร่างกายหลังรับประทาน organic chlorella จาก febico (http://goo.gl/UxI50H)

    ★ => 7 สัญญาณ ที่บ่งบอกว่า ร่างกายเราได้รับสารพิษมามากเกินพอ (http://goo.gl/R4LYnP)

    ★ => แน่ใจหรือ? เพราะสารพิษรุนแรงและใกล้ตัวกว่าที่คุณคิดไว้เยอะมาก (http://goo.gl/5lv71A)

    ★ => รู้หรือไม่ .... ประโยชน์ของครอเรลล่า สุดยอดพืชจากธรรมชาติ ที่ รู้แล้วคุณต้องอึ้ง!!!
    (http://goo.gl/iIeGHx)

    ★ => [โหดจริง] 2 สาเหตุหลัก ที่ทำให้คุณ แก่เกินวัย อย่างรวดเร็ว แบบฉุดไม่อยู่ ที่คุณอาจจะยังไม่รู้ตัว !!!!! (http://goo.gl/TyWhJL)

    ★ => ทำไมเราจึงเลือก คลอเรลล่า จาก febico?? (http://goo.gl/RvFKn0)

    ★ => "ความงามที่แท้จริง เริ่มต้นจากเซลล์ที่สมบูรณ์" คุณจะดูอ่อนกว่าวัย ผิวพรรณเต่งตึงสดใส รูปร่างกระชับไม่มีไขมันส่วนเกิน ได้นั้น ต้องมาจากเซลล์ที่สมบูรณ์ ด้วย Organic Chlorella Tablet จาก FEBICO (http://goo.gl/Z4M3yC)

    ★ => Organic Chlorella Superfood ของ Febico สุดยอดอาหารเสริมที่เอส เสาะหาและรอคอย การได้รับ อนุญาต จาก อ.ย. ให้ขายได้ ในประเทศมานานปี (http://goo.gl/Z05Eij)

    ★ => ทำไม "เคี้ยวก่อนทาน" จึงช่วยให้ร่างกายเรา ได้รับสุดยอดสารอาหาร ออร์กานิกส์ 100% จาก คลอเรลล่า ระดับพรีเมี่ยมที่สุดในโลก จาก FEBICO (http://goo.gl/h2osxU)

    ★ => สุดยอดอาหารเสริม สารอาหาร Single Cell Protein ระดับพรีเมี่ยมที่สุดในโลก ที่จะ ช่วยหยุด "การเสื่อมเกินธรรมชาติ" ของร่างกายคุณ แบบตัวเดียวจบ (http://goo.gl/lFNKJr)

    ★ => ทำไม ไม่รู้จัก คลอเรลล่า ให้เร็วกว่านี้ ?? T T (http://goo.gl/RKOkxy)

    ★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
    Last edited by iDnOuSe4; 02-02-2016 at 03:10 PM.

Page 1 of 2 1 2 LastLast

Comments from Facebook

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •