HoneyMoon in Japan Episode 1

[wannit]

อิอิ ออกตัวก่อนนะคะว่าถ่ายรูปไม่สวยอย่างแรง....

หลังจากสละโสด ก็นั่งคิดกับคุณแฟนว่า อยากไปเที่ยวกัน 2 คน เลยมานั่งลิสต์รายชื่อประเทศที่อยากจะไปกัน ตัดไปตัดมาเหลืออยู่แค่ 2 ประเทศ ก็คือ ญี่ปุ่น กับ อังกฤษ แฟนอยากไปญี่ปุ่นมาก เพราะอยากไปเหล่สาวสวย ส่วนโอ๋อยากไปอังกฤษ ด้วยแรงยั่วยุจากเรทเงินปอนด์ที่ชวนน่าไป

เถียงไปมา เลยสรุปที่ญี่ปุ่น

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของโอ๋กับแฟนที่ไปญี่ปุ่น ก็หาข้อมูลกันเยอะพอสมควร แต่พอไปถึง ข้อมูลที่มีก็ช่วยไม่ค่อยได้เยอะ ต้องมั่วจริงๆ แล้วก็ใช้ถามเอาตลอด แต่คนญี่ปุ่นเค้าไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษกันเท่าไร เลยต้องพึ่งภาษาใบ้


ช่วงวันที่โอ๋ไป คือ 24 มีนาคม - 31 มีนาคม ด้วยราคาค่าตั๋วรวมภาษีแล้ว 15000 บาท ดีใจที่ได้ตั๋วถูกมาก แต่ก็ยังมีน้องอีกคนนึงที่รู้จักกันในเวบ ซื้อตั๋วแค่ 14000 บาท สายการบินเดียวกันก็คือ คาเธ่ย์ แอบอิจฉานะ

บินคาเธ่ย์ ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง อันนี้ชอบมากจะได้เดินดูกุชชี อิอิ

เริ่มดูรูปเลยเนอะ วันนี้งานเยอะ สมองไม่ค่อยแล่นเลย อยากเขียนบรรยายให้อ่านสนุก แต่สมองล้าจริงๆ ค่า

สนามบินสุวรรณภูมิ




ถ่ายรูปเล่นกันจนโดนพนักงาน king power ว่าเลยยยย
ขอลบรูปค่า
ไปถึงญี่ปุ่นก็ต่อรถไฟไปที่พัก รถไฟที่นั่นเค้าสะอาดมาก ขึ้นไป คนน้อยจริงๆ อยากจะเล่าด้วยว่า จ่ายค่ารถไฟไปประมาณ 900 กว่าเยน แต่ดันไปนั่งรถไฟที่มันราคาแพงกว่าที่จ่ายไปอ่ะ แล้วพนักงานตรวจตั๋วเค้าเดินมาตรวจ บอกว่าเรา 2 คนหน่ะ ขึ้นมาผิดขบวน อายมากๆ เลย รถที่นั่งผิดไป มันเป็นรถไฟด่วนอ่ะ แต่พนักงานเค้าก็ไม่ว่าอะไร บอกว่าไม่เป็นไร แล้วก็ไม่เก็บเงินเพิ่มด้วย...ใจดีจัง


มืดค่ำแล้ว ไม่ได้ถ่ายรูปมาก เพราะว่าต้องลากกระเป๋าจากรถไฟฟ้าใต้ดิน จนถึงโรงแรม ลากซะปวดแขนเลย หลงทางอีกต่างหาก แต่เจอหนุ่มญี่ปุ่นใจดี พาเดินไปส่งถึงโรงแรมที่พักเลย

โรงแรมที่มาพัก มีลักษณะเป็นแมนชั่น โอ๋จองทั้งหมด 7 คืน จะได้ราคาถูกกว่าจอง 3-4 คืน ตกแล้ว 7 คืน ราคา ประมาณ 64350 เยน

ด้านหน้าแมนชั่นชื่อ Weekly mansion สาขา Asakusa (รูปถ่ายตอนเช้าของอีกวันค่า)





ของที่ทางแมนชั่นมีไว้ให้ เรียกว่าครบทุกอย่างจริงๆ รวมถึง กระติกน้ำร้อน ไมโครเวบ เตาไฟฟ้า ประทับใจ

โคเซ่เลยนะเนี่ย ทั้งแชมพูและสบู่ ขาดแต่ครีมนวด ไม่มีให้..




ขอเสียของที่นี่ก็คือ ห้องเล็กมากๆ เพดานห้องน้ำก็เตี้ย ใครที่ตัวสูงมากๆ หมดสิทธิ์อาบน้ำเลยค่า




ประตูห้องน้ำ

[jam]

เข้ามารอชมคุณโอ๋รีวิวค่ะ (เคยพักที่ weekly mansion เหมือนกันเลยค่า ไม่แพง แถมดีอีกต่างหาก)

[momojijang]

ว้าว เข้ามายินดี แล้วก็แวะชมด้วยค่ะ รอภาคต่ออีกนะค่ะ

[wannit]

วันที่สอง วางแผนว่าต้องไปที่วัด อาซากุสะก่อน เพราะว่าอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก เลยลงมาถามพนักงานของแมนชั่นว่าจะไปยังไง ใช้เวลาเดินจากที่พักไปวัด ก็ราว ๆ 20 นาที

สัญลักษณ์ของวัดนี้ คือ โคมแดงยักษ์หน้าประตูทางเข้า วัดนี้ทัวร์ไทยต้องพาไปแน่ๆ ตอนไปเจอคนไทยเพียบ


พอผ่านประตูเข้าวัดไปก็จะเจอร้านค้าขายของเต็ม 2 ข้างทาง แต่โอ๋ไม่ได้ซื้ออะไรเลย เพราะฝนตกและหนาว จะยิ้มก็ยากแล้วววววว
ขอลบรูปค่า

ขนมอะไรไม่รู้ อย่าไปซื้อกินนะ ไม่อร่อย แล้วก็แข็ง แต่คนซื้อเยอะจริงๆ


ภายในวัด.... อากาศเย็นจริงๆ ก่อนไป ก็ดูพยากรณ์อากาศแล้วนะ แต่พลาดค่ะ คิดว่าไม่หนาว เอาเสื้อหนาวตัวใหญ่ไปแค่ตัวเดียว ยังดีที่ติดแจ็คเก็ตไปอีกตัว และยังมีผ้าพันคออีก 2 ผืน เลยพอไหว อิอิ 8 วัน มีแต่รูปใส่เสื้อหนาวตัวเดิม อายจัง
ขอลบรูปค่า

เสร็จจากไหว้พระเสร็จ ก็เดินกลับมาตรงทางเข้าวัด มองไปเห็น 7 eleven ก็แวะไปซื้อข้าวปั้นกินรองท้อง เพื่อที่จะเดินทางไปต่อ




ที่ต่อไปที่ตั้งใจก็คือสวน ueno เพื่อจะไปดูดอกซากุระบาน วันที่ไปครั้งแรก ยังบานไม่เท่าไร แต่วันที่ไปก่อนกลับ บานเยอะเลย

วันแรกที่ไปที่สวนอุเอโนะนะคะ


ขอลบรูปค่า


ส่วนข้างล่างนี้ คือวันที่ไปก่อนเดินทางกลับ

[noo_pizza]

ปาดดดดดด

.......จะตามไป
อยู่ในลิสต์จะแบคแพคมาหลายทีแระ...
ได้แต่ไปกะบริษัท

เด๋วจะไปแล้วจะไปขอแพลน....
ตั๋วฟรีก็มีแต้มแลกแระ...
ขาดแต่ไม่มีเวลาเลยยยย


ตัว.....ห้องน้ำน่ากลุ้มใจแทนคุณแฟนเราจัง

[Lady Geordie]

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับคุณโอ๋ด้วยนะคะ
ชอบดูรีวิวไปเที่ยวของเพื่อนๆมากเลยค่ะ เผื่อดำเนินรอยตาม อิอิ... รอดู Episode 2 อยู่นะคะ ^^

[wannit]

พอชมสวนสวีตกันแล้ว ก็เดินอีกแล้ว .....ไปที่ตลาด Ameyoko อยู่ไม่ไกลจากสวน ueno มาก ยังเดินไหวอยู่

ที่ตลาดนี้ ที่โอ๋เห็นส่วนใหญ่ เค้าจะขายของสดๆ เช่น ปลา กุ้ง ปลาหมึก อะไรประมาณนั้น แล้วก็มีร้านขายเสื้อผ้า กีฬา ราคาไม่แพงเลย สวยด้วย เช่น ไนกี้ อาดิดาส เยอะแยะ แล้วคนก็เยอะมากจริงๆ







พอเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอร้านเกมส์ เดินเข้าไปเล่นตู้คีบตุ๊กตา หยอดเหรียญเยอะมาก แต่คีบไม่ได้ซักกะตัว ตุ๊กตาแต่ละตู้ ดึงดูดสุดๆ เลือกเล่นไม่ถูกเลย เอารูปมาฝากบางตู้น้า







พอเริ่มรู้สึกตัวเองว่าหยอดตู้ไปเยอะ ก็เลยออกดีกว่า ดวงไม่ดีแล้ว เดี๋ยวจะหมดตัวอยู่ที่นี่ ก็เลยเดินอ้อมไปอีกด้านนึง ไปเจอเข้ากับร้านขายของเล่นทั้งตึกเลย รีบเดินเข้าไปดุ ชอบมาก อยากซื้อทุกอย่าง แต่่ต้องทำใจ เพราะเดี๋ยวกระเป๋าเดินทางน้ำหนักจะเกิน ฮือออออออ อดอีกตามเคย เดินดูได้อย่างเดียว

ถ้าจำไม่ผิด ตึกนี้ จะมีทั้ง
หมดประมาณ 7 ชั้น แต่จำชื่อตึกไม่ได้อ่ะ ใครรู้ช่วยทีนะจ๊ะ



น้องบลายก็มีเหมือนกัน มีเยอะมาก แต่เค้าแกะโชว์หมด มีขายอยู่รุ่นเดียวก็คือ Frosty frog (มั้ง) ชุดเหลืองๆ

รูปข้างล่างนี้ ถ่ายมาจากที่เค้าโชว์ไว้ค่า

[sprintky]

ชอบๆๆ อยากได้ของเล่นจังเลย น่ารักมากๆๆเลยอ่าค่ะ คุณโอ๋ ผ่านมาได้ยังไง ( ขออนุญาติเรียกแบบนี้นะค่ะ )

ปูเสื่อรอชมต่อ ค่ะ ^^

[wannit]

วันที่ 3 วันนี้เป็นวันที่รอคอย ไป DisneyLand.........

ทางเข้าจ้า
ขอลบรูปค่า

เดินไปเรื่อยๆ เจอร้านขายของที่ระลึก อิอิ เสร็จเรา




เดินเล็งอยู่นาน จะซื้อไรดีว้าาาาาา
ขอลบรูปค่า



เจอแล้ว หมวกมิ๊กกี้เมาส์

ซื้อใส่กระชากวัยทันที
ขอลบรูปค่า




ซื้อเสร็จก็เดินต่อ อยากจะบอกว่า ต่อแถวซื้อบัตรผ่านประตูเกือบ 1 ชั่วโมง คนเยอะมากๆ ไม่รู้มาจากไหนกัน ยืนจนขาสั่น



สวนด้านหน้าที่ผ่านประตูเข้าไปแล้ว


ด้านใน เหมือนเมืองการ์ตูนเลย ชอบบรรยากาศมากๆ




พอแค่นี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวว่างๆ มาต่อใหม่ รูปมันเยอะมากกกกกกกกกกกกกก

ขอบคุณ sbn และผู้อ่านทุกคนค่า

[princess]

อยากดูต่อ อิอิ