ขอแสดงความยินดีกับคนเก่งค่า เลือกในสิ่งที่ชอบนะคะจะได้มีความสุขในการเรียนค่ะ ^^
ขอแสดงความยินดีกับคนเก่งค่า เลือกในสิ่งที่ชอบนะคะจะได้มีความสุขในการเรียนค่ะ ^^
*.:。✿*゚‘゚・✿.。.:**.:。✿*゚‘゚・✿.。.:* *.:。✿*゚’゚・✿.。.:*
(✿◡‿◡) When U smile... (◡‿◡✿)
[SIGPIC][/SIGPIC]
(✿◕‿◕) The whole world smiles with U... (◕‿◕✿)
*.:。✿*゚‘゚・✿.。.:**.:。✿*゚‘゚・✿.。.:* *.:。✿*゚’゚・✿.。.:*
ลองถามใจตัวเองดีสุดค่า
แต่ถ้าเป็นเราเราเลือกหมอนะ
หมอฟัน แบบวันๆนั่งจ้องแต่ฟันอ่ะค่ะ
อ่านละแอบเศร้าเล็กน้อย
ไม่จริงหรอก สมัยวิลาไปใช้ทุน(รับราชการ)
ไม่มีแพทย์ท่านไหน(ยกเว้น ผอ.)กล้าสั่งข้าพเจ้าเลย
ก็ลองสั่งดูสิครับ คงได้มีมวย
วิลาว่า " มั น อ ยู่ ที่ ก า ร ว า ง ตั ว "
ถ้าเราวางตัวดี เชื่อว่าแพทย์รุ่นใหม่ ๆ ก็ให้เกียรติเราดีนะ
ถ้าพูดถึงจำนวนคนไข้ต่อเวลาที่เท่ากัน
แน่นอนหมอ ตรวจได้มากกว่า
เพราะ nature ของงานไม่เหมือนกัน
แต่ถ้าพูดถึง income วิลาก็ว่ามันขึ้นอยู่กับสายงาน/ความถนัด
แพทย์ specialist บางสาขาก็อาจทำรายได้ถล่มทลายกว่าหมอฟันมากมาย
และหมอฟัน specialist บางสาขาก็ทำรายได้มากกว่าแพทย์บางท่านมากมาย
และแม้แต่หมอ/หมอฟัน ในสาขาเดียวกันเทียบกันเอง
ฝีมือ/จน.คนไข้ /income ก็ต่างกัน
ถ้าเถียงกันเรื่องนี้จะเหมือน " ไก่กับไข่อะไรจะเกิดก่อนกัน " เสียเวลาเปล่าจ้า
จะรู้ก็แต่ไข่ เอ้ย...หมอฟันที่คลินิกวิลาทำอยู่
เอาแบบรุ่นน้องจบใหม่ๆ ฝีมือก๊องแก๊ง ก๊อกก๋อย
ทำรายได้กันต่ำสุดก็ 5ปลาย-6 หลัก/เดือน ขึ้นกับฝีมือ
ปรมจารย์เก๋า ๆ หน่อยก็ 7 หลัก/เดือน
ไม่ได้แนะนำให้มากอบโกยนะ ทุกอย่างอยู่ภายใต้มาตรฐานวิชาชีพ + จริยธรรมจ้า
ถ้าตัวเลขข้างบนโอเคสำหรับชีวิตน้องละ คิดว่าตัวเองสามารถอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียงได้
น้องจขกท.ก็ไม่ต้องเสียใจ หรือลังเลอยากย้อนเวลากลับไปทำคะแนน ent ให้ติดหมออีกแล้ว
พี่เห็นเพื่อนหลายคนเรียนทันตะปี 2 แล้วซิ่วออกไปเรียนแพทย์ซะงั้น(เสียดายแทน)
จริงอยู่แพทย์หลายท่าน อาจทำได้มากกว่ามาก
แต่ความเครียด + ความรับผิดชอบก็คงสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว (น้องจะเอาแบบนั้นรือ???)
ดูพี่สิ ชีวิตไร้สาระได้อีก sbn 3 เวลาหลังอาหาร....และก่อนนอน 555+
หมอฟัน ดีกว่าค่ะ ไม่น่าจะเครียดกว่า แถมน่ารักดีด้วย
หมอคน เครียดน่าดูค่ะ
Email :: phacharamon.p19@gmail.com
หมอโดนฟ้องมากกว่าหมอฟันเยอะเดี๋ยวนี้อะไรๆก็ฟ้องแหลก
ซึ่งโอกาสผิดพลาดมีทุกคน พอมีเรื่องฟ้องร้องขึ้นมากว่าจะตัดสิน
ได้ว่าไม่ผิด ชื่อเสียงก็เสียไปก่อนแล้วกู้กลับมาลำบาก
หมอบางคนต้องเปลี่ยนอาชีพไปเลยก็มี เห็นด้วยกะคุณหมอจอยค่ะ
ว่าหมอฟันมีเวลาเป็นของตัวเองมากกว่าโดยเฉพาะผู้หญิงนะ
ต้องมีเวลาสวยงามมั่ง เครียดมากแก่เร็ว มีลูกก็ต้องรบกะลูกอีก
แล้วถ้ารับราชการนะเงินเดือนไม่พอซื้อกระเป๋านะค่ะต้องมาทำพิเศษ
ข้างนอก อยู่เวร รพ.แล้วยังต้องมาอยู่เวรข้างนอกอีก
เรื่องรายได้เทียบยากค่ะ เรียนมาเหมือนกันแต่่ทำได้ไม่เหมือน
กันเค้าถึงเรียกประกอบโรคศิลปไงค่ะ
แต่ทั้งหมดนี่สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจเอาเองดูๆจากข้อมูล
ที่หลายๆคนให้นะค่ะ แต่เชื่อว่าไม่ว่าหนูจะเลือกอะไร
หนูก็จะทำได้ดีค่ะดีใจด้วยกับทั้งหนูและคุณพ่อคุณแม่ค่ะ
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็คงเลือกเรียนทันตะค่ะ เพราะว่าลักษณะงานของแพทย์กว้างมาก ต้องอัพเดทตัวเองตลอด ถ้าไม่อ่านหนังสือก็กลายเป็นหมอรุ่นเก่า แถมยังมีความรับผิดชอบที่มากเป็นเงาตามตัว พออายุมากขึ้น มีครอบครัว น้องก็จะรู้ว่าอุดมการณ์กับครอบครัวบางทีมันไปด้วยกันยาก
แต่ยังไงก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวเองเป็นหลักค่ะ สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ โชคดีนะคะ
ต้องลองคุยกับคนมีประสบการณ์ เป็นหมอ หรือหมอฟันจริงๆอ่ะ ค่ะ เพื่อเราเคยเรียนหมอฟันปีแรกเค้าก็ค้นพบว่าไม่ชอบเท่าไร จึงเรียนหมอแทน (เอนใหม่)
หมอฟันมีข้อดีคือไม่ต้องอยู่เวร ถ้าเป็นผู้หญิงเปิดคลินิคเองเลี้ยงลูกทำงานไปด้วยสบายมากๆ ในความคิดเราน่ะ แต่ก็ต้องรักในการดูฟันคนไข้ แงะๆขูดๆถอนๆ ซึงก็เป็นศิลปะอย่างนึงน่ะค่ะ
เป็นคุณหมอ ก็จะทางเลือกเยอะหน่อย ตอนต่อแพทย์เฉพาะทางน่ะค่ะ เบาหน่อยก็หมอผิวหนัง อะไรประมาณนี้ค่ะ
เก่งมาก เก่งสุดๆ เลย ดีใจด้วยนะครับ เลือกอะไรก็ได้ที่เราชอบ ไม่มีคำว่าผิดพลาดแน่นอนเมื่อเราตัดสินใจไปแล้วตั้งใจทำให้ดีที่สุดนะครับ (คุณพ่อ คุณแม่คงปลื้มน้ำตาไหลเลยนะครับเนี่ย มีลูกเก่งๆแบบนี้)
เช้าฟาดผัดฟัก เย็นฟาดฟักผัด
อนาคตของเราเอง เลือกสิ่งที่เราอยากเป็นน๊า...