~ช่วยแนะนำทีค่ะ Slim up-Bodyshape-Marie France ที่ไหนลดจริง คุ้มค่าเงินคะ~

[Peek-a-boo]

After giving birth to my son, i've been speding time trying to lose weight at Slim Up. I paid only 50,000 Bt at first, but now added up to 300,000 Bt!! They always find new approaches to ask for more money claiming that the new products will help expedite the weight-loss process. I'm such a fool that i fall for that!!!

Anyway, here's the info
Before treatment; 65 Kg
Now 58 Kg

I think i should have lost more considering that i paid as high as thatCd

[silly-billy]

ลดเองดีกว่า ค่อยๆลดไม่ต้องรีบ
ออกกำลังกาย+เลือกกินให้เป็น

แล้วเอาเงินมาซื้อกระเป่าดีกว่า

[preeyanan]

เคยใช้บริการของ Marie france ลดได้จริง ๆ ค่ะ เราต้องการลดเฉพาะเอว ตอนนั้นลดได้ 2 นิ้ว หน้าท้องหายไปเยอะ ใส่กระโปรงที่มีอยู่เกือบไม่ได้ เป็นไปตามข้อตกลงก่อนทำ เพราะน้องนิคแจ้งว่าโปรแกรมที่เราจะทำแค่ 1 เดือน จะสามารถลดเอวได้ 2 นิ้ว ก็ลดได้จริง ๆ ถ้ารีบ ๆ ต้องการลดด่วน ๆ ไปทำก็ได้ผลนะ แต่สำหรับเรา เราว่าแพง

แต่บอกตรง ๆ นะ ทำไปเสียดายตังค์ไปด้วย เสียดายมาก ๆ เสียดายเพราะ กินเยอะ กินเก่ง แล้วต้องเสียตังค์มาทำให้หน้าท้องหายไปอีก ทำตัวเองทั้งนั้น ถ้าเลิกนิสัยกินของหวาน ออกกำลังกายบ่อย ๆ คิดว่าดีกว่าไปทำโปรแกรมแบบนี้ค่ะ สร้างวินัยในการกิน และ ออกกำลังกาย ดีที่สุดแล้ว ร่างกายก็แข็งแรงด้วย

เคยทำ PT ที่ ฟิตเนสเหมือนกัน เหนื่อยมาก ๆๆๆๆ แต่ลดมากเหมือนกัน ลดเฉพาะส่วนที่ต้องการ มีเพื่อนผู้ชายคนนึงเค้าลดได้ 25 กก. ภายใน 3 เดือน

ปล. แต่อย่าถามนะ ว่าตอนนี้ยังคงสัดส่วนเดิมอยู่หรือเปล่า

[novice]

เคยทำที่ marie france ก่อนแต่งงานค่ะ น้ำหนักลงไปนิดเดียว แต่สัดส่วนลงเยอะ จัดว่าหุ่นดีสุดในชีวิตตอนแต่งงาน 55

แต่แล้วก็ท้องมาสองท้องอ่ะค่ะ ตอนนี้เกินจากน้ำหนักตอนแต่งงาน อีก 6 กก. แต่ไม่กลับไปทำคอร์สเพราะหนาวมากๆค่ะ พันเย็นนี่ยอมแพ้เลย ตอนนั้นเงินจ่ายไปแล้วก็ต้องทน

อ๋อๆๆ ลืมไป อีกประการคือเราไปนวดสลายไขมันที่ตามสปาอ่ะค่ะ คือไม่รู้ว่ายังไงนะ แต่สุดท้ายก็มีแต่คนทักว่าผอมตอนแต่งงาน อิอิ

หลังๆนี่ได้ยินว่าน้ำยานวดตัวของคลาแร็งส์ ผอมจริง แต่ต้องจ้างคนมานวดค่ะ เรายังไม่ได้ลอง แต่เห็นคนอื่นผอมดีนะ

[nimnim]

อืม... จากประสบการณ์เท่าที่เจอจากคนไข้ที่เคยไปเข้าคอร์ส

กับสถาบันพวกนี้มานะคะ ส่วนมากจะเสียค่าใช้จ่าย 100,000 up ค่ะ


ซึ่งกรรมวิธีของแต่ละที่ก็จะคล้ายๆกัน แตกต่างกันไปในรายละเอียดและเครื่องมือที่ใช้ แต่ที่สำคัญ ที่

เราคิดว่าทำให้คนที่ลงคอร์ส นน. ลดได้จริง เป็นเพราะเค้าจะมีการควบคุมในเรื่องโภชนาการน่ะค่ะ



ซึ่งอันนี้เราว่าเป็นเหตุผลหลักเลยล่ะ ที่ทำให้นน.ลดลงได้จริง เพราะหากคุณทำแค่คอร์สของเค้า แต่ไม่

ควบคุมอาหาร หมดไป 200,000 นน.ก็ลงไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ


ความเห็นส่วนตัวนะคะ ( เนื่องจากไม่คิดจะเข้าคอร์สพวกนี้ค่ะ เพราะสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ และไม่ใช่

เป็นการลดนน.ที่ถูกวิธี )


ในเรืื่่่องการลดนน. กำลังใจและความตั้งใจที่มุ่งมั่น สำคัญที่สุดค่ะ ตัวเราเองเป็นหมอ ให้คำปรึกษากับ

คนไข้ที่นน.เยอะต้องการลดนน.มาหลายคนมากๆ แต่ปล่อยตัวเองในช่วงที่เริ่มทำงานจนทุกวันนี้เป็น

เวลา 2 ปี นน.เพิ่มขึ้นมา 6 กก.:evil:


ตอนนั้นอยากลดนน.มากๆเลย รับตัวเองไม่ได้ แต่ความมุ่งมั่นยังไม่มากพอค่ะ มีข้ออ้างให้ตัวเองตลอด

ไม่ชอบออกกำลังกายบ้างล่ะ งานเหนื่อย เลิกงานแล้วก็ไม่ไหว หมดแรง ออกกำลังกายเหรอ ผลัดไว้

ก่อนวันหลัง เป็นอย่างนี้ตลอด สรรหาสูตรลด นน. ที่ปรับการกินแบบสูตร 3,5,7 ,13 วัน

ลองทำมาหมดแล้ว ลดได้ แต่แค่ชั่วคราวค่ะ กลับมากินเหมือนเดิม นน.ก็กลับมา


ตอนนั้นแบบว่าไม่ไหวแล้ว ต้องใส่ชุดหลวมๆพรางหุ่น คนไข้เห็นทักอีก ว่ากำลังจะมีน้องเหรอคะ ฮือๆๆๆ แซดมากค่ะ T_T

แ ฟนก็คงเพลียใจ เพราะบอกก็แล้วให้ออกกำลังกายไม่ออก เรียกว่าอืด ว่า

อ้วนก็แล้ว ไม่ได้สะเทือน 555 จนคุณแฟนเลิกบ่นไปแล้ว


จนสุดท้าย เมื่อปลายปีที่แล้ว เดือน พย. เรารู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้โดยไม่ตั้งใจลด

อย่างจริงจัง ต่อไปยิ่งอายุมากขึ้น จะยิ่งลดยาก


คราวนี้ มุ่งมั่นมากค่ะ ซึ่งเกิดจากความตั้งใจเราเอง ไม่ใช่จากใครเลย ไอ้ที่เคยผลัดวันประกันพรุ่ง เลิก

ค่ะ ! ไอ้ที่เคยบอกตัวเองว่าเกลียดจริงๆการวิ่งเนี่ย ไม่สร้างสรรค์ ไม่สนุก เลิกค่ะ! ไอ้ที่เคยกับตัวเองว่า

เพิ่งเลิกงาน เหนื่อยจัง ขอพักก่อน เลิกค่ะ !


จากนั้น 1 เดือนก่อนปีใหม่ หลังเลิกงาน พอกลับถึงที่พัก เปลี่ยนเสื้อผ้า พักนิดหน่อยให้พอหายเหนื่อย

แต่ไม่พักนานนะ เดี๋ยวจะพาลขึ้เกียจ


เราก็ใช้เดินบนลู่วิ่งค่ะ เดินเร็วๆค่อยๆปรับระดับความเร็ว วันแรก เหนื่อยมากกกก เดินได้ 10 นาทีเอง

ไม่ทันได้ออกวิ่งด้วยซ้ำ มันเหนื่อยอ่ะ ก็เลยหยุดก่อน - -"


วันต่อมา เอาใหม่ วอร์มร่างกายก่อน ค่อยเป็นค่อยไป เราทำแบบนี้มาเรื่อยๆ จนในที่สุด วิ่งได้ 30

นาทีต่อวันค่ะ


แล้วเรื่องอาหารการกิน ช่วงนั้น เราควบคุมอาหารด้วยนะคะ ลดพวกแป้ง ไขมัน น้ำตาล ทานวันละไม่

เกิน 1000 kcal


ผลปรากฎว่า ในเวลา 1 เดือน นน. เราลงมา 6 กก. ทันปีใหม่พอดีค่ะ


ตอนนี้เราก็ยังคงนน.เท่าเดิม ไม่เพิ่มมากขึ้น ยังออกกำลังกายอยู่ แต่ไม่เคร่งครัดมาก เช่นอาจจะวิ่งบน

ลู่วิ่งสัปดาห์ละ 3 หน วันเว้นวัน วิ่งก็ไม่นานแค่ 20 นาที พอให้เกิดกระบวนการ burn แล้วเราเล่นโยคะ

ต่ออีกประมาณ 1 ชม. เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อค่ะ


การกิน ตอนนี้ก็กินปกติ ครบ 3 มื้อ บางวันไปงานเลี้ยง กินเยอะ วันต่อมาก็จะลดทอนการกินของตัว

เองลงค่ะ


จากที่เล่ามายืดยาวทั้งหมด ประเด็นที่เราอยากจะบอกคือ การลดนน. จิตใจที่มุ่งมั่น

สำคัญที่สุดค่ะ อย่าท้อถอย คิดว่าเราต้องทำได้ แล้วจะประสบความสำเร็จค่ะ

เอาใจช่วยนะคะ[COLOR]

[rocky_cb]

อายุปีนี้ 50 ปีแล้วค่ะ ผ่านการลดน้ำหนักมาเยอะ ทำเองทั้งนั้น เคยเสียเงินกับสถานลดนน.แบบปลายเหตุพวกนี้มาแล้วทั้งนั้น สิ่งที่ดีที่สุดและเป็นการลดแบบไม่โทรม แข็งแรง ไม่เจ็บไข้ ไม่วูบ ไม่เหี่ยวและกระชับด้วยคือ

1. คุมอาหารการกิน เริ่มด้วยการกินนี้ล่ะค่ะ กินตามจำนวนแคลอรี่ที่ควรได้รับในแต่ละวัน อันนี้จะทราบยังไง ก็ต้องอาศัยนักโภชนากรคำนวนให้จากBMI ของแต่ละคนค่ะ และจดว่าในแต่ละวันแต่ละเวลาเรากินอะไรเข้าไปมั่ง คือกินแบบรู้ตัวและใช้สมอง

2. ออกกำลังกาย (พี่ว่ายน้ำสด.ละ2-3ครั้งๆละครึ่งชม.ไม่หยุด และเสริมด้วยเดินเร็วบนสายพานวันละครึ่งชม.2ครั้งต่อสด. ) เพื่อกระชับสัดส่วนตลอดเวลาที่เราคุมอาหารก็จะไม่เหี่ยว ฟิต และไม่วูบค่ะ

พี่เพิ่งลดนน.จาก66กิโล สูง165 มาเป็น58 ใช้เวลา3-4เดือนค่ะ มีความสุขที่สุด ใครอยากทราบรายละเอียดPmถามมาได้ พี่ไม่ได้เป็นไดเร็คเซลนะคะ พี่ทำงานรัฐวิสาหกิจและส่วนตัวที่ไม่ใช่ขายของค่ะ ถามกันได้ไม่คิดอะไร เพราะความสุขและภูมิใจในตัวเองหลังการหย่า เลยคิดจะบอกให้ทราบๆกันค่ะ

[KhunNooMoD]

ขอบคุณเพื่อนๆทุกๆความเห็นเลยค่ะ อ่านทุกประโยคทุกความเห็นแล้วตัดสินใจได้ว่า
เก็บตังไว้ซื้อเป๋าดีกว่า แหะแหะ จะลดน้ำหนักด้วยตัวเอง แบบตั้งใจดูอีกครั้งค่ะ
ถ้าลดได้เป็นผลสำเร็จจะมาให้เพื่อนๆช่วยร่วมดีใจกะมดนะคะ >_<

[natraps]

จะมาตอบเหมือนเพื่อนๆ ด้านบนค่ะว่าต้องควบคุมอาหาร ไม่ได้อดนะค่ะ ก็กิน 3 มื้อปกติ แต่ลดพวกแป้งหรือไขมันค่ะ โดยเฉพาะมื้อเย็นค่ะ
อีกอย่างคือออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย อย่างน้อยสัก 3 ครั้งต่อสัปดาห์นะค่ะ

ของเราก่อนหน้าจะแต่งงานก็แทบไม่เคยไปออกกำลังกายเลยค่ะ แต่หุ่นเราสาวไซส์ M นะค่ะ ไม่ได้อ้วนแต่ตอนนั้นรู้สึกว่าเริ่มมีไขมันสะสมตามจุดต่างๆ
พอดีประจวบกับจะแต่งงานตอนปีใหม่ค่ะ เราเลยเริ่มไปออกกำลังกาย ออกประมาณ 2 ครั้งค่ะ ปั่นจักรยาน วันแรกนี่ได้ 10 นาทีก็แฮ่กแล้ว
ปั่นติดต่อกันไปเรื่อยได้ถึงประมาณ 30 นาทีค่ะ แล้วเราก็มาเล่นโยคะต่ออีก 45 นาทีคล้ายๆ ของคุณ nimnim เลย...

น้ำหนักไม่ได้ลงเยอะมากนะค่ะ ประมาณ 2-3 กก. แต่รู้สึกว่าพวกไขมันมันหายไปเยอะ หน้าท้องแบนเลย.. ดีใจ ตอนนี้แต่งมาแล้วประมาณปีกว่า น้ำหนักเราคงที่ค่ะ
ตอนนี้ส่วนใหญ่จะเล่นโยคะประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ลองไปเข้าคอร์สแบบโยคะร้อนก็ได้ค่ะ
แล้วก็ซื้อเสื่อมาเล่นเองที่บ้าน ถ้าไม่อยากเดินทาง รถติดนะค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ปล. ออกกำลังกายแล้วอาบน้ำเสร็จนี่อย่างสดชื่นเลยค่ะ หายเพลียไปเลย เหงื่อออกเยอะรู้สึกไม่อึดอัดดี เลยดูนะค่า

[Hui Hui]

ว่ายน้ำเถอะค่ะ หุ่นจะดีมาก ๆ ลดได้ทุกส่วน เน้น ทุกส่วนจริง ๆ ค่ะ ปอดก็สะอาดและแข็งแรงค่ะ
ทุกวันนี้ว่ายน้ำทุกวัน วันละ 30-40 รอบชอบมาก ๆ หุ่นมาเองเลย เอวสะโพก Curve ต่าง ๆ มาเองเลยค่ะ แต่ตอนนี้ แอบว่ายเยอะไปนิด บ่าเริ่มใหญ่ แต่ก็ชอบนะ เพราะว่ามันดูเป็นนักกีฬาดีค่ะ
อย่าไปเสียเงินแพง ๆ เร้ยยยย ลดได้ปํบกลับมากินอีก ก็มาอีก
เสียดายตังค์ เอาตังต์มาซื้อ Speedy Rose ดีกว่า

[mally]

มาแชร์ด้วยคนคะ เคยใช้บริการที่ มารี ฟรานซ์ แล้วก็ตาม คลินิคความงามต่าง ๆ ค่ะ ลดตอนแรก แล้วก็กลับมาเหมือนเดิม เช่นกัน หมดเงินไปเยอะค่ะ รวมทั้งยาลดความอ้วนต่าง ๆ ด้วย

ตอนนี้ค้นพบแล้วค่ะ และกำลังสนุกกับการเล่นโยคะ แล้วก็ Kickfit ทุ่มเงินจ้างเทรนเนอร์ค่ะ ขอบอกว่ามันส์ และสนุกมากมาก รูปร่างดี ตัวเล็กลงแบบไม่รู้ตัว แล้วก็กระฉับกระเฉงมาก แฮปปี้สุด ๆ ค่ะ ที่สำคัญเราเป็นคนหลับยากมาก ตอนนี้หลับสบายเพราะหมดแรง แล้วก็จัดสรรเวลาออกกำลังกายค่ะ อย่าบอกว่าไม่มีเวลา แค่วันละ 1-1.30 ชม. ทำให้สุขภาพแข็งแรงยืดอายุไปอีกนาน ค่ะ