ขอร่วมแจมหน่อยนะคับ

DermaRoller เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องหลุมสิว สีผิวไม่สม่ำเสมอ (ช่วยได้ไม่มาก)
ต้องทำอย่างน้อย 3 -5 ครั้ง ถึงจะได้ผลดี
ผลที่ได้นอกจากหลุมสิวที่ตื้นขึ้น ก้อยังช่วยเรื่องสีผิวที่กระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วย
ลูกกลิ้ง ตามร้านที่ขายกันคอร์สละสิบครั้ง ผมไม่แนะนำนะครับ
เพราะเข็มที่ลูกกลิ้งใช้ได้มากสุดห้าครั้งก้อทื่อแล้ว
คนที่มีปัญหาด้านนี้ไม่มาก ผมแนะนำคอร์สนี้ครับ ลงคอร์สสองคอร์สก้อสวยเด้งสมใจแล้ว

ส่วน Fraxel ส่วนตัวนะครับ ถ้าสภาพผิวไม่เยิ๊นจริงๆ ผมไม่ค่อยแนะนำ
เพราะ Fraxel เป็นเทคโนโลยีด้านเลเซอร์ชั้นสูง เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหา (มาก)
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านริ้วรอย หลุมบนหน้า ฝ้า สีผิวไม่สม่ำเสมอ ฯลฯ
คนวัยสี่สิบอัพใน ตปท นิยมคอร์สนี้กันมาก
ผลที่ได้ดีมากครับ ซึ่งมาพร้อมกับราคามหาโหดเหมือนกัน
สถาบันที่ผมทำอยู่ คิดครั้งละสี่ห้าหมื่น
หลังทำหน้าจะแดง (บางหลายอาจดูช้ำๆ) ไปนานเป็นอาทิตย์
หลังทำยังงัยก้อต้องหลบแดดครับ ไม่ใช่เฉพาะ fraxel นะครับ
คอร์สหน้าทุกชนิด จำไว้เลยครับว่า หลังทำต้องหลบแดด
แดดกับความงามเป็นศัตรูกันเสมอครับ

เบากว่า Fraxel มีมั้ย? มีครับ Fraxel fine เป็นตัวที่เบากว่า
ราคาก้อย่อมเยาว์กว่า เหมาะกับคนที่ปัญหาไม่เยอะมาก
และต้องการเห็นผลขาดทันตา
ราคาไม่น่าเกลียดมากครับ ครั้งละหมื่นโดยประมาณ ซื้อช่วงโปรฯ ก้อลดลงไปเหลือห้าหกพันต่อครั้ง

เลือกได้เลยครับ ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านความงามไปไกลมากแล้ว
สำคัญตรงที่เลือกคอร์สให้เหมาะกับปัญหาผิวหน้าของเรา/ ผลลัพธ์ที่เราต้องการ
อีกอย่างที่สำคัญคือคุณหมอครับ เครื่องมือดี หมอไม่เก่ง ก้อไม่เวิร์คนะครับ
เวลาเลือกหมอที่จะมาดูแลเรา รบกวนเหลือบไปมองผิวหน้าของคุณหมอนิดนึงนะครับ
ถ้าหน้าเค้ายังดูแลได้ไม่ดีพอ ก้ออย่าให้เค้ามาดูแลหน้าเราเลยครับ

ส่วนเรื่องราคาของแต่ละที่ ผมโนคอมเม้นต์นะครับ

ส่วนเรื่องความเจ็บ ผมฝากไว้ละกันครับว่า
"ความงาม ย่อมแลกมาด้วยเงินตรา เวลา ความอดทน และความเจ็บปวดเสมอ"
ยิ่งจะเอาให้หน้าสวยเป๊ะ สวยทน สวยนานแค่หนัย
เตรียมใจไว้ได้เลย โดยเฉพาะเรื่องเงิน และ ความเจ็บ ครับ...